ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1233 ผมไม่มีทางรับปาก
เขามีใจให้เธอเหรอ
เหลียงซินเวยอึ้งตะลึง ที่เขาบอกคือมีใจแบบไหนกันนะ
ท่าทางอึ้งของเธอน่ารักมาก
ฟางยู่เชินอดยิ้มออกมาไม่ได้ “คุณรู้มั้ยว่าทำไมต้องให้คุณมาเป็นคู่เดทของผมด้วย”
เหลียงซินเวยส่ายหน้า
“พ่อแม่ผมมีความคิดที่จะให้ผมแต่งานกับเย่เสี่ยวอี้จริงๆ แต่ผมไม่ได้ชอบเย่เสี่ยวอี้ คนที่ผมชอบคือ……”
“เวยเวย!”
เย่เฉินหยุนวิ่งมา ตัดบทฟางยู่เชิน
“พี่เย่ คุณมาได้ยังไงคะ” เหลียงซินเวยมองเย่เฉินหยุนอย่างแปลกใจ
“ผมอธิบายให้พ่อแม่ผมเข้าใจดีแล้ว พวกเรารีบไปเถอะ”
พูดพลาง เขาก็เตรียมจะไปจูงมือของเธอ
เห็นอย่างนั้น ฟางยู่เชินสาวเท้าเข้ามา ขวางไว้ข้างหน้าเหลียงซินเวย มองเขาอย่างเยือกเย็น “คุณพาเธอไปไม่ได้”
เย่เฉินหยุนยิ้ม “ทำไมผมจะพาเธอไปไม่ได้ครับ เธอเป็นแฟนผมนะ”
คิ้วเรียวขมวดมุ่น ฟางยู่เชินหันหน้าไป เหล่มองเหลียงซินเวย ถามว่า “คุณเป็นแฟนเขาเหรอ”
เหลียงซินเวยมองเย่เฉินหยุน สองมือกำแน่น พยักหน้า “อืม”
เธอยังจะพยักหน้าอีก!
ฟางยู่เชินยิ้มอย่างโกรธๆ “พวกคุณคิดว่าหลอกผมได้เหรอ”
เหลียงซินเวยถลึงตาใส่เขาอย่างประหลาดใจ เขารู้แล้วหรือ
“ยู่เชิน คุณลุงฟางมาถึงแล้วนะ” จู่ๆเย่เฉินหยุนก็เอ่ยขึ้นมา
“แล้วยังไง” ฟางยู่เชินขมวดคิ้วแน่น ลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่างพุ่งขึ้นมาในใจ
“เขากำลังหารือกับพ่อแม่ของผมเรื่องการแต่งงานของคุณกับน้องสาวผม ดูท่าจะคุยกันถูกคอดีมากเลย”
เห็นท่าทางเย่เฉินหยุนไม่เหมือนกำลังพูดโกหก ฟางยู่เชินก็รีบพูดกับเหลียงซินเวยว่า “คุณวางใจเถอะ ผมไม่มีทางยอมรับการหมั้นหมายครั้งนี้”
จากนั้น รีบเดินเข้าไปในโถงที่จัดงานเลี้ยง
ที่ระเบียงเหลือเพียงเหลียงซินเวยและเย่เฉินหยุน
คำพูดของฟางยู่เชินดูเหมือนจะยังดังก้องอยู่ข้างหู เหลียงซินเวยหัวเราะเยาะตนเอง
ไม่ใช่ว่าเธอไม่เชื่อเขา แต่ไม่กล้าที่จะเชื่อ อย่างไรเสียการแต่งงานของทั้งสองครอบครัวตระกูลฟางและตระกูลเย่ก็เป็นเรื่องใหญ่ เกี่ยวข้องกับหน้าตาของทั้งสองตระกูล ไม่ใช่ว่าเขาไม่ยอมรับแล้วจะยกเลิกได้
สายตาของเย่เฉินหยุนมองเธออย่างลึกซึ้ง มองเห็นความโดดเดี่ยวอ้างว้างลบใบหน้าเธอ เขาเอ่ยถามเบาๆว่า “คุณชอบเขาเหรอ”
เหลียงซินเวยเงยหน้า สบตาเข้ากับดวงตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของเขา ยิ้ม ยอมรับอย่างเปิดเผย “อืม ฉันชอบเขา”
เย่เฉินหยุนนิ่งเงียบอยู่สักพัก ถามว่า “งั้นเขาชอบคุณมั้ย”
พอเขาถามคำถามนี้ เหลียงซินเวยก็นึกถึงประโยคเมื่อครู่ที่ฟางยู่เชินยังพูดไม่จบ
“ผมไม่ได้ชอบเย่เสี่ยวอี้ คนที่ผมชอบคือ……”
คือเธอเหรอ
เหลียงซินเวยไม่กล้าคิด แต่กลับอดที่จะคาดหวังไม่ได้
“เขาไม่ได้พูด ใช่มั้ย” เย่เฉินหยุนถามอีก
เหลียงซินเวยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “อืม เขาไม่ได้พูด แต่นี่มันเกี่ยวอะไรกับที่ฉันชอบเขาด้วย”
“ความสัมพันธ์คือความสุขของทั้งสองฝ่าย ชอบเขาข้างเดียวถ้าไม่ได้รับรักตอบ อย่างนั้นตัวคุณเองก็ต้องเจ็บปวด” เย่เฉินหยุนแนะนำอย่างจริงใจ
“คุณเคยมีประสบการณ์เหรอ”
สัมผัสได้ว่าเขาใช้น้ำเสียงเหมือนคนที่เคยมีประสบการณ์มาก่อนตักเตือนเธอ
เย่เฉินหยุนยิ้ม “ไม่ว่าผมจะเคยมีประสบการณ์มาก่อนหรือไม่ คำพูดของผมก็มีเหตุผลมาก”
เหลียงซินเวยครุ่นคิด พูดว่า “พี่เย่ ฉันอาจจะไม่สามารถช่วยเหลือคุณได้แล้ว”
“ทำไม” เย่เฉินหยุนขมวดคิ้ว
“โกหกหลอกลวงผู้ใหญ่มันไม่ดีนะคะ ดังนั้นคุณไปหาแฟนตัวจริงของคุณมาเถอะค่ะ”
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือเธอมองออกว่าฟางยู่เชินโกรธมาก เพราะเธอแกล้งทำเป็นแฟนของเย่เฉินหยุน
เย่เฉินหยุนจนปัญญาอย่างมาก “ไม่ใช่ เวยเวย ถ้าผมหาแฟนตัวจริงได้ ก็ไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากคุณหรอก”
“นั่นเพราะคุณไม่อยากหามากกว่า” เหลียงซินเวยยิ้ม “ด้วยคุณสมบัติอย่างคุณ ต้องมีผู้หญิงมาตามจีบคุณมากมายแน่นอน”
“เป็นแบบนั้นแล้วยังไง” เย่เฉินหยุนฉีกยิ้มมุมปากหัวเราะเยาะตนเอง “ผมคิดว่าชีวิตนี้ผมคงไม่สามารถรักใครคนไหนได้อีกแล้ว”
ได้ยินดังนั้น เหลียงซินเวยรู้สึกแปลกใจมาก “ทำไมถึงพูดแบบนี้คะ”
“เวยเวย” เย่เฉินหยุนจ้องมองเธออย่างเอาจริงเอาจัง “ผมต้องการความช่วยเหลือของคุณจริงๆ”
“แต่ว่า……”
เหลียงซินเวยยังคิดจะปฏิเสธ สองมือของเย่เฉินหยุนวางบนบ่าเธอ ก้มหน้ามองเข้ามาในดวงตาของเธอ “เวยเวย คุณต้องช่วยผมแค่คืนวันนี้ก็พอแล้ว ผมจะหาโอกาสพูดให้พ่อแม่เข้าใจ”
เขาพูดมาขนาดนี้แล้ว ถ้าเธอยังปฏิเสธที่จะช่วยเหลืออีก ก็ดูเหมือนจะฟังไม่ขึ้น
เหลียงซินเวยถอนหายใจอีก “ก็ได้”
สุดท้ายเธอก็รับปากแล้ว
เย่เฉินหยุนถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก ยิ้มพลางเอ่ยว่า “งั้นตอนนี้คุณก็ไปพบพ่อแม่ผมกันเถอะ”
คิ้วเรียวขมวดมุ่น เหลียงซินเวยลังเลแล้ว “ฉันไม่ไปพบพวกเขาได้มั้ยคะ”
“ถ้าคุณไม่ไปพบพวกเขา แล้วผมให้คุณแกล้งทำเป็นแฟนผมเพื่ออะไรกัน”
เย่เฉินหยุนรู้ว่าเธอประหม่า จึงตบที่ไหล่เธอ ปลอบว่า “มีผมอยู่ คุณไม่ต้องกลัว คุณก็แค่ยิ้มเอาไว้ก็พอ อย่างอื่นผมจัดการเอง”
เหลียงซินเวยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยักหน้า “ค่ะ”
……
ฟางเถิงและพ่อเย่แม่เย่ยืนอยู่ด้วยกัน ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน ทั้งสองฝ่ายต่างหัวเราะออกมา
“พ่อครับ” ฟางยู่เชินรีบเดินไป
เห็นเขาเดินมาฟางเถิงรีบพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ยู่เชิน”
“พ่อ” ฟางยู่เชินทักทายเสร็จ ก็หันไปก้มศีรษะให้พ่อเย่แม่เย่ หันไปพูดกับพ่อว่า “พ่อ พวกเราไปที่ด้านข้างหน่อย ผมมีเรื่องจะคุยกับพ่อครับ”
“ลูกมีอะไรอยากพูดก็พูดตรงนี้แหละ ที่นี่ก็ไม่ได้มีคนนอกเสียหน่อย”
ไม่มีคนนอกเหรอ
ฟางยู่เชินมองพ่อเย่แม่เย่และเย่เสี่ยวอี้ แล้วก็คิ้วขมวด ความหมายที่เขาพูดก็คือพวกเขาพูดคุยเรื่องการหมั้นหมายเรียบร้อยแล้วเหรอ
“ใช่แล้ว ยู่เชิน ต่อไปพวกเราก็คือครอบครัวเดียวกันแล้ว” แม่เย่ยิ้มจนหุบปากไม่ลง
“ยู่เชิน” เย่เสี่ยวอี้เดินมา กอดแขนเขาเอาไว้ พูดเสียงออดอ้อนว่า “พ่อแม่ฉันแล้วก็คุณลุงฟางพูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว เลือกวันที่มีฤกษ์ดีให้พวกเราหมั้นกันแล้ว”
“หมั้นเหรอ!” ฟางยู่เชินดึงมือเธอออก ถลึงตาใส่ฟางเถิงด้วยความโกรธ “พ่อ ทำไมถึงตอบตกลงหมั้นหมายครั้งนี้โดยไม่ถามความคิดเห็นของผมได้ยังไงครับ”
ฟางเถิงไม่ได้เห็นความโกรธเขาอยู่ในสายตา ยังคงยิ้มร่าพูดว่า “เรื่องใหญ่อย่างเรื่องแต่งงาน เป็นคำสั่งของพ่อแม่ก็เป็นเรื่องปกติมากไม่ใช่เหรอ”
“พ่อ ผมไม่เห็นด้วยกับการหมั้นหมายครั้งนี้!” ฟางยู่เชินแสดงความคิดของตนเองอย่างตรงไปตรงมา
เมื่อพูดประโยคนี้ออกมา ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
ฟางฟางเถิงขมวดคิ้ว พูดเสียงดุว่า “ยู่เชิน ลูกรู้หรือเปล่าว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่”
ฟางยู่เชินเหลือบมองเย่เสี่ยวอี้ พูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “ผมไม่ชอบเย่เสี่ยวอี้”
ได้ยินประโยคนี้ เย่เสี่ยวอี้ไม่พอใจทันที ร้องถามว่า “ยู่เชิน คุณหมายความว่าอะไร ฉันมีตรงไหนไม่ดีเหรอ”
“ไม่ใช่ คุณดีมาก แต่ผมไม่ชอบ”
น้ำเสียงเขาเฉยชา ทำให้คนฟังรู้สึกไม่สบายอย่างมาก
“ฟางยู่เชิน!” เย่เสี่ยวอี้โกรธจนร้องไห้แล้ว
เขาไมรู้เลยหรือว่าเธอชอบเขามากแค่ไหน ทำไมถึงทำร้ายความรู้สึกของเธออย่างนี้
พ่อเย่แม่เย่มองเห็นลูกสาวตนเองร้องไห้ สีหน้าของทั้งสองคนดูแย่มาก
“ยู่เชิน เสี่ยวอี้เธอชอบนายมากเลยนะ ทั้งหัวใจมีแค่นายคนเดียว นายทำแบบนี้ไม่เกินไปหน่อยเหรอ” พ่อเย่ถลึงตาใส่เขาอย่างไม่พอใจ
ฟางยู่เชินย้อนถามเสียงเบาๆว่า “เธอชอบผม ผมก็ต้องชอบเธอเหรอครับ”