ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 124 รักสามเส้า
บทที่ 124 รักสามเส้า
จิ้นเฟิงเฉินยืนอยู่บนเวที พูดง่ายๆเพียงไม่กี่คำ พูดจบเสียงปรบมือก็ดังก้องห้องประชุม
กิจกรรมในห้องประชุม เป็นอันเสร็จสิ้น
ผู้คนแยกย้ายออกไป เป็นเวลาพักเที่ยงพอดี ผู้อำนวยการเดินมา ใบหน้ายิ้มแย้ม พูดขึ้นอย่างเกรงใจ “ประธานจิ้น ประธานลู่ แถวนี่มีร้านอาหารอยู่ไม่ไกล ไม่ทราบว่ามีเวลากินข้าวด้วยกันไหมครับ?”
สมัยเรียนลู่เจิงก็ได้รับทุนการศึกษาจากโรงเรียน เมื่อเรียนจบ ก็สร้างบริษัทด้วยตัวเอง บริษัทLGประสบความสำเร็จจนทุกวันนี้ บริษัทLGก็ให้ทุนการศึกษาช่วยเหลือโรงเรียนประจำ
เพราะว่าเขาสนิทกับผู้อำนวยการ ฉะนั้นลู่เจิงไม่ได้ปฏิเสธไปกินข้าว เจียงสื้อสื้อมางานพร้อมเขา ก็เลยไปกินข้าวด้วยกัน
ตอนแรกจิ้นเฟิงเฉินไม่อยากไป แต่เห็นเจียงสื้อสื้อไปด้วย จึงไม่ได้ปฏิเสธเหมือนกัน
ทุกคนมาถึงห้องอาหาร คนเยอะ ก็สนุกสนาน
หลายคนเข้าไปทักทายจิ้นเฟิงเฉิน แบบมีมารยาท
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้าทักทาย เมื่อทักทายแล้ว ก็มองซูชิงหยิงที่อยู่ข้างเขา ระหว่างนั้นก็มีคนถามขึ้น “ท่านนี้เป็นแฟนคุณชายจิ้นเหรอคะ? คุณชายจิ้นกับแฟนเหมาะสมกันมาก เหมือนคู่สร้างคู่สมเลย”
คนรอบข้างก็ช่วยกันพูด
เพราะว่าซูชิงหยิงแต่งตัวเลิศหรู บุคลิกสง่า ยืนอยู่ข้างจิ้นเฟิงเฉินตลอด ฉะนั้นทุกคนก็เลยนึกว่าเธอเป็นแฟนของจิ้นเฟิงเฉิน
ได้ยินแบบนี้ ซูชิงหยิงถึงกับหน้าแดง ก้มหน้าไม่ได้พูด
เจียงสื้อสื้อ กะพริบตา ใช่ เขาสองคนเหมาะสมกันมาก คนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกยังรู้สึกแบบนี้
ในเวลาเดียวกัน ได้ยินเสียงจิ้นเฟิงเฉินแม้มปากพูดขึ้น “ไม่ใช่ คุณเข้าใจผิดแล้วครับ เราเป็นแค่เพื่อนธรรมดาครับ นี่คือลูกสาวคนโตตระกูลซู ซูชิงหยิง”
พูดจบ ทุกคนก็รู้สึกตะขิดตะขวง
โดยเฉพาะซูชิงหยิง ถึงแม้ยังมีรอยยิ้มบนหน้า แต่ก็ดูฝืน จิ้นเฟิงเฉินปฏิเสธว่าตัวเองเป็นแฟนก็ไม่เป็นไร แต่บอกว่าเป็นแค่เพื่อนธรรมดา……
เธอในสายตาเขา มันไม่มีคุณค่าเลยเหรอ?
“เอิ่ม……ที่แท้เป็นลูกสาวคนโตตระกูลซูนี่เอง ได้ยินชื่อเสียงมานาน ผมกับปู่คุณก็เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน”
ซูชิงหยิงยิ้มและคุยกับทุกคน ทักทายถามถ่ายไปกันสักพัก ผู้อำนวยการ ก็พูดขึ้น “ประธานจิ้น มา เชิญทางนี้ครับ”
ผู้อำนวยการ ชี้ไปที่ตำแหน่งที่นั่งประธานในห้องอาหาร จิ้นเฟิงเฉินเดินไป ซูชิงหยิงสงบอารมณ์แล้ว ก็เดินไปนั่งข้างจิ้นเฟิงเฉิน
สำหรับที่นั่งเจียงสื้อสื้อไม่ได้ใส่ใจ เดินตามลู่เจิง แค่อยากหาที่นั่งไกล ๆจากจิ้นเฟิงเฉิน
เธอเพิ่งจะก้าวขาออก เวลาเดียวกัน คิดไม่ถึงว่าจิ้นเฟิงเฉิน ดึงมือเธอไว้ ให้เจียงสื้อสื้อนั่งอีกด้านของเขา
ทันใดนั้น สายตาทุกคนก็มองแบบแปลกๆ
ทุกคนคิดว่าซูชิงหยิงกับจิ้นเฟิงเฉินเป็นคู่กัน และเจียงสื้อสื้อกับลู่เจิงเป็นคู่กัน แต่ตอนนี้……
ซูชิงหยิงกับจิ้นเฟิงเฉินเป็นแค่เพื่อนธรรมดา หรือว่า คนที่มากับลู่เจิงเป็นคนที่จิ้นเฟิงเฉินชอบ ทุกคนก็ไม่ได้โง่ ใครก็คิดได้ว่าคนที่ลู่เจิงขอบคือเจียงสื้อสื้อ ทุกคนก็รู้สึกประหลาดใจ แต่ก็ไม่มีคนกล้าถาม
เจียงสื้อสื้อไม่ทันตั้งตัว เธออยากเปลี่ยนที่นั่ง แต่กลัวผู้ชายคนนี้เกิดทำอะไรขึ้นมา และเห็นสายตาแปลกๆของคนรอบข้าง เธอจึงนั่งลง แกล้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำเหมือนเธอกับจิ้นเฟิงเฉินไม่สนิทกันเลย
ลู่เจิงขมวดคิ้ว ที่นั่งข้างเจียงสื้อสื้อมีคนนั่งแล้ว เขาจึงต้องหาที่นั่งอื่นนั่งลง แต่สายตาก็คอยมองเจียงสื้อสื้อตลอด
แล้วมองจิ้นเฟิงเฉินที่นั่งข้างๆ เวลานี้ ลู่เจิงก็รู้สึกสงสัย หรือว่าจิ้นเฟิงเฉินชอบเจียงสื้อสื้อจริง? สองคนนี้เป็นอะไรกัน……
สีหน้าซูชิงหยิงไม่ค่อยดี มีข้างหนึ่งกำไว้แน่น เล็บจิกที่ฝ่ามืออย่างแรง
จิ้นเฟิงเฉินปฏิเสธความสัมพันธ์กับเธอก็แล้วไป แต่ตอนนี้กลับให้เจียงสื้อสื้อนั่งข้างเขา คือตั้งใจจะไม่ไว้หน้าเธอใช่ไหม? ซูชิงหยิงรู้สึกเสียใจ ยิ่งรู้สึกอิจฉาเจียงสื้อสื้อ
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอมา ตัวเธอเองก็คงไม่ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ จิ้นเฟิงเฉินก็ตกลงหมั้นกับตัวเองแล้ว
ซูชิงหยิงสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรักษากิริยาของตัวเองไว้
ทุกคนต่างหาที่นั่งลง บรรยากาศเริ่มดีขึ้น อาหารเสิร์ฟเรียบร้อย ผู้อำนวยการยกแก้วขึ้น พูดว่า “ประธานจิ้น ขอบพระคุณมากสำหรับการบริจาคเงินให้กับมหาลัยJตลอดหลายปีมา ถ้าไม่มีคุณ ทางมหาลัยก็ไม่มีนักเรียนมีความสามารถมากมาย และไม่ประสบความสำเร็จเหมือนวันนี้”
“ไม่เป็นไรครับ” จิ้นเฟิงเฉินตอบ
จากนั้นก็มีคนชนแก้วจิ้นเฟิงเฉินอีกหลายคน
จากการสนทนาของคนในงาน เจียงสื้อสื้อถึงรู้ว่าหลายปีมานี้จิ้นเฟิงเฉินก็ทำบุญตลอด บริจาคเงินให้มหาลัยJร้อยล้านต่อปี
คิดไป เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกนับถือในตัวเขา ก็ไม่แปลก ผู้ชายที่มีฐานะหน้าที่การงานสูงขนาดนี้ ผอ.ถึงเชิญเขามากล่าวจบงาน ก็เป็นเรื่องปกติ
แน่นอนเจียงสื้อสื้อก็ดูออก จิ้นเฟิงเฉินมาเป็นแขกรับเชิญกล่าวปิดงาน ไม่ได้มาเพราะจะมาเป็นเพื่อนซูชิงหยิง
คิดแบบนี้แล้ว ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เจียงสื้อสื้อรู้สึกในใจสดชื่นขึ้นบ้าง แต่เมื่อคิดถึงงานเลี้ยงคืนนี้ของตระกูลจิ้นกับตระกูลซูแล้ว……
สีหน้าเธอก็หดหู่ไปอีกครั้ง
เจียงสื้อสื้อสูดลมหายใจเข้า บอกตัวเองในใจว่า เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวกับเขา
จากวันนี้ไป เธอต้องห่างจิ้นเฟิงเฉินไว้……
ทุกคนพูดเรื่องในโรงเรียนต่อ ในงาน ต่างคนต่างดื่มเหล้า ทุกคนยกแก้วยินดีกับการจัดงานของมหาลัยJเสร็จสิ้นอย่างราบรื่น
เจียงสื้อสื้อก็เช่นกัน แต่ตอนเธอยกแก้วขึ้นมา ก็โดนจิ้นเฟิงเฉินห้ามไว้ เสียงต่ำของชายหนุ่มก็พูดขึ้น
“คุณดื่มไม่เก่ง ช่างเถอะ ไม่ต้องดื่ม”
สายตาคนรอบข้างมองด้วยความสงสัยอีกครั้ง ต่างก็ดูออกว่า จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกกับเจียงสื้อสื้อไม่ธรรมดา เขาจะดื่มหรือไม่ดื่มยังห่วงใย……
แล้วดูสายตาลู่เจิง ดูแล้วเหมือนรักสามเส้า
สายตาที่ทุกคนมองเจียงสื้อสื้อก็ไม่เหมือนเดิม ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา ทำให้ลู่เจิงกับจิ้นเฟิงเฉินชอบพร้อมกันได้
เมื่อเห็นสายตาของทุกคน เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกตะขิดตะขวงอยากหาหลุมมุดลงไป เธอกระเอมแล้วพูด “ขอบคุณประธานจิ้นค่ะ ไม่เป็นรับค่ะ ดื่มนิดเดียวไม่เมาหรอกค่ะ”
น้ำเสียงจางๆ ฟังเหมือนคนแปลกหน้า เจียงสื้อสื้อพยายามเคลียร์ความสัมพันธ์ของเธอกับจิ้นเฟิงเฉิน ทำเหมือนเธอกับเขาไม่สนิทกันเลย