ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1268 ฉันก็แค่หึง
เหลียงซินเวยหันไปมองเขาปราดหนึ่ง แล้วก้มหน้าลงพลางพูดเสียงแผ่วเบาว่า “ฉันก็คิดไม่ถึงเหมือนกันค่ะ”
ก่อนที่จะยืนยันความสัมพันธ์กับฟางยู่เชิน เธอไม่กล้าคิดเลยจริงๆ ว่าวันหนึ่งเธอจะได้คบหากับผู้ชายที่เพอร์เฟคมากอย่างฟางยู่เชิน
บางครั้งก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฝัน
มือที่กุมพวงมาลัยกำแน่น กู้เนี่ยนพยายามห้ามความปวดร้าวภายในใจเอาไว้ และฝืนยิ้มออกมา พลางพูดติดตลกว่า “ฉันนึกว่าเธอจะไม่มีทางมีความรักแล้วจริงๆ ซะอีก”
เมื่อได้ยินดังนั้น เหลียงซินเวยก็นึกถึงคำพูดที่ตัวเองเคยพูดไว้เมื่อก่อนหน้านี้ขึ้นมาได้ เธอรู้สึกผิดขึ้นมาอย่างน่าประหลาด จึงรีบพูดอธิบายว่า “อันที่จริงตอนนั้นฉันคิดว่าทั้งชีวิตนี้คงจะใช้ชีวิตอยู่แบบนี้ตลอดไปแล้ว แต่ว่า……”
เมื่อได้ยินตื่นตระหนกในน้ำเสียงของเธอ กู้เนี่ยนก็หัวเราะออกมาเบาๆ “ฉันไม่ได้จะกล่าวโทษอะไรเธอนะ ฉันแค่คิดว่าพวกเราไม่มีโชคชะตาต่อกัน”
เหลียงซินเวยกัดริมฝีปาก “พี่จะต้องได้พบเจอคนที่ดีกว่าฉันแน่นอน”
“หวังว่านะ”
กู้เนี่ยนมองไปยังถนนเบื้องหน้า ในดวงตาปรากฏความกังวลขึ้นมาอย่างช้าๆ ในสายตาของเขา เธอดีที่สุด ไม่มีใครที่จะดีไปกว่าเธออีกแล้ว
รถหยุดลงที่หน้าประตูชุมชน เหลียงซินเวยปลดเข็มขัดนิรภัย กล่าว “ขอบคุณ” แล้วเปิดประตูลงจากรถ
เมื่อมองแผ่นหลังเรียวบางของเธอที่ค่อยๆ ห่างออกไปผ่านหน้าต่างรถ ความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะอธิบายก็ผุดขึ้นในใจ
กู้เนี่ยนปลดเข็มขัดนิรภัย ลงจากรถ แล้ววิ่งไปทางเหลียงซินเวย
“เวยเวย”
เมื่อได้ยินเสียงเหลียงซินเวยก็ชะงักฝีเท้าแล้วหันตัวกลับมา
ทันใดนั้น มือของเธอก็ถูกคว้าไว้แน่น ก่อนจะดึงตัวเธอเข้าไปในอ้อมแขนของกู้เนี่ยน
ดวงตาของเธอเบิกกว้างและเริ่มจะดิ้นรนขัดขืน “พี่กู้ ปล่อยฉันเถอะค่ะ”
กู้เนี่ยนไม่ปล่อย แต่กลับกอดรัดตัวเธอไว้แน่นยิ่งกว่าเดิม
“เวยเวย ให้ฉันกอดแบบนี้สักพักนะ แค่แป๊ปเดียว”
น้ำเสียงของเขาสั่นเครือ ปะปนด้วยความอ้อนวอน
เหลียงซินเวยใจอ่อน เธอหยุดดิ้นรนขืนตัว และปล่อยให้เขาโอบกอดเธอไว้เงียบๆ
ไม่รู้ว่านานแค่ไหน กว่ากู้เนี่ยนจะเอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าของเขาว่า “เวยเวย เธอต้องมีความสุขนะ”
เธอสามารถรู้สึกได้ถึงความรู้สึกของเขาที่มีต่อตัวเองได้ เหลียงซินเวยอดปวดร้าวในใจขึ้นมาไม่ได้
“ขอบคุณนะคะ พี่กู้”
นอกจากคำขอบคุณ เธอก็ไม่รู้แล้วว่าตัวเองยังสามารถทำอะไรได้อีก
“พวกเธอกำลังทำอะไร?”
น้ำเสียงที่คุ้นเคยปะปนไปด้วยความโกรธดังขึ้นอย่างกะทันหัน
สีหน้าของเหลียงซินเวยเปลี่ยน ก่อนจะผละออกจากอ้อมกอดของกู้เนี่ยนโดยไม่รู้ตัว แล้วหันไปมองทางต้นเสียง
ฟางยู่เชินเดินเข้ามา ใบหน้าหล่อเหลานั้นปกคลุมไปด้วยความมืดมนอึมครึม สายตาจ้องเขม็งไปที่กู้เนี่ยนอย่างเยือกเย็น
“ยู่เชิน มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ……”
เหลียงซินเวยอยากจะอธิบาย แต่กลับเห็นฟางยู่เชินยกมือขึ้นห้ามเธอไม่ให้พูดอะไรต่อ
เธอจึงทำได้เพียงหุบปาก และมองเขาอย่างไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร
“คุณชายยู่เชิน คุณคิดว่าพวกเรากำลังทำอะไร?”
เมื่อเทียบกับความตื่นตระหนกของเหลียงซินเวยแล้ว กู้เนี่ยนดูนิ่งสงบกว่ามาก เขามองฟางยู่เชินด้วยใบหน้าที่เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม
“เธอเป็นแฟนฉัน”
เพื่อประกาศอำนาจสิทธิของตัวเอง ฟางยู่เชินดึงเหลียงซินเวยเข้าไปกอดไว้ในอ้อมแขนของเขา
กู้เนี่ยนหัวเราะลั่น “คุณชายยู่เชิน คิดไม่ถึงเลยว่าพอคุณมีความรักแล้ว จะไร้เดียงสาขนาดนี้”
ไร้เดียงสา?
กล้าพูดว่าเขาทำตัวเป็นเด็ก คิดว่าเขาอารมณ์ดีมากหรือยังไง?
ในขณะที่ฟางยู่เชินกำลังจะระเบิดความโกรธออกมา กู้เนี่ยนก็พูดขึ้นว่า “คุณชายยู่เชิน ดูแลเวยเวยให้ดี เธอดีมากนะ”
ฟางยู่เชินตกตะลึงไป
“ผมไปล่ะ”
กู้เนี่ยนโบกมือให้เหลียงซินเวย แล้วหันหลังเดินไปที่รถของเขา
เมื่อเดินไปถึงที่รถ ขณะที่กำลังยื่นมือไปเปิดประตู เขาหันกลับไปมองร่างเรียวบางที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล มุมปากกระตุกเป็นเส้นโค้งขึ้นมาเล็กน้อย
เธอต้องมีความสุขแน่นอน
……
“ยู่เชิน ที่จริง……”
เหลียงซินเวยพยายามจะอธิบาย แต่ยังถูกขัดจังหวะก่อนที่จะพูดจบ
“กลับบ้านแล้วค่อยว่ากัน”
ฟางยู่เชินหันหลังเดินเข้าไปในชุมชนก่อน
เขายังโกรธอยู่
เหลียงซินเวยสูดหายใจเข้าลึกๆ และรีบเร่งฝีเท้าเดินตามไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อกลับถึงบ้าน เหลียงซินเวยเข้าไปรินน้ำในห้องครัว ก่อนจะนำมาวางบนโต๊ะกาแฟตรงหน้าของฟางยู่เชิน พลางฉีกยิ้มออกมา “ดื่มน้ำก่อน”
ฟางยู่เชินยกน้ำขึ้นจิบ พลางเหล่ตามองเหลียงซินเวยที่ยืนอยู่ด้านข้าง
เมื่อเห็นมือที่สอดประสานกันแน่นอย่างไม่สบายใจ มุมปากเหมือนกับถูกเกี่ยวลงเล็กน้อยนั้นแล้ว เขาจึงวางแก้วลง เงยหน้าขึ้นมอง แววตาของเขาจับจ้องอยู่บนใบหน้าเรียวเล็กที่มีแต่คำว่าไม่สบายใจเขียนติดอยู่เต็มใบหน้า ริมฝีปากบางเริ่มขยับเล็กน้อย “เธอมีอะไรอยากจะพูด?”
ทันทีที่เขาเอ่ยปาก เหลียงซินเวยก็โล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย “มี ฉันมีเรื่องจะพูด”
“ถ้าอย่างนั้นก็ว่ามาเถอะ”
ฟางยู่เชินถอนสายตากลับ แล้วพูดออกมานิ่งๆ
ท่าทีของเขาดูเย็นชาเล็กน้อย เหลียงซินเวยอดรู้สึกผิดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ “ฉันกับพี่กู้เป็นแค่เพื่อนกัน มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ฉันเองก็คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ เขาจะกอดฉัน……”
“เธอรู้ไหมว่าเขาชอบเธอ?” ฟางยู่เชินหันกลับมามอง
เหลียงซินเวยพยักหน้า “รู้”
“แล้วเธอก็ยังให้เขากอดเธอ?”
เมื่อนึกถึงภาพฉากที่ตัวเองเห็น ก็รู้สึกจุกอยู่ในลำคอ มันอึดอัดเอามากๆ
เหลียงซินเวยขยับริมฝีปาก อยากจะอธิบาย แต่สุดท้ายคำที่ออกจากปากไปก็มีเพียงแค่ “ฉันขอโทษ”
เธอก้มหน้าก้มตา ความรู้สึกผิดผุดขึ้นมาในใจ ขอบตาเริ่มแดงก่ำ
มันไม่ใช่อย่างที่เขาคิดแท้ๆ ทำไมเขาถึงไม่เชื่อในตัวเธอเลย?
ฟางยู่เชินดื่มน้ำเข้าไปอีกอึก หันไปมองอยากจะพูดอะไร แต่กลับบังเอิญเห็นน้ำตาของเธอหยดลงมาพอดี
ใบหน้าหล่อเหลาดูดีขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น “ร้องไห้เหรอ?”
ทันทีที่เขาถามออกมาแบบนี้ อารมณ์ของเหลียงซินเวยก็พลุ่งพล่านขึ้นมาทันที เธอเงยหน้าขึ้น ร้องไห้ไปด้วยพูดไปด้วยว่า “ฉันอธิบายแล้ว คุณก็ยังไม่เชื่อฉัน แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ?”
เธอร้องไห้เหมือนเด็ก
ฟางยู่เชินทั้งรู้สึกขำทั้งปวดใจ เขากระแอมเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขน
“ฉันไม่ได้ไม่เชื่อเธอนะ”
เหลียงซินเวยซุกใบหน้าฝังไว้ในอ้อมแขนของเขา พลางโต้กลับด้วยเสียงอู้อี้ “คุณทำ!”
เสียงหัวเราะเบาๆ หลุดออกมาจากริมฝีปาก ฟางยู่เชินผละตัวเธอออก จับไหล่ทั้งสองข้างของเธอไว้ พลางก้มหน้าลงต่ำ มองเข้าไปในดวงตาสดใสแวววาวของเธอ ก่อนจะกระตุกมุมปากยิ้ม
“ฉันก็แค่หึง เธอเป็นแฟนฉัน ฉันย่อมไม่อนุญาตให้ผู้ชายคนอื่นกอดเธอ”
เหลียงซินเวยฟังเขาพูดอย่างเงียบๆ น้ำตาค่อยๆ หยุดไหล ความหอมหวานผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
“ดังนั้นคุณไม่ได้เข้าใจผิด?” เพราะเพิ่งจะผ่านการร้องไห้มา น้ำเสียงของเธอจึงแหบพร่าเล็กน้อย
“เปล่า ฉันเชื่อเธอ” ฟางยู่เชินจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง ในดวงตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
เหลียงซินเวยยิ้มออกมาทั้งน้ำตา
เมื่อเห็นรอยยิ้มสดใสของใสของเธอ ฟางยู่เชินหัวใจเต้นแรง ก้มหน้าลงต่ำ ก่อนจะประกบลงบนริมฝีปากแดงบางเฉียบของเธอ
เหลียงซินเวยเบิกตากว้างทันที
เมื่อเห็นดังนั้น ฟางยู่เชินหัวเราะออกมาเบาๆ ขยับแนบเข้าไปใกล้ริมฝีปากของเธอ “หลับตา”
เมื่อได้ยินดังนั้น เหลียงซินเวยก็หลับตาลงอย่างเชื่อฟัง
เป็นจูบที่เอ้อระเหยเนิ่นนาน
เหลียงซินเวยรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเหยียบอยู่บนปุยเมฆนุ่มละมุน ขาทั้งสองข้างอ่อนแรง
ขณะที่เธอกำลังคิดว่าตัวเองกำลังจะขาดอากาศหายใจ ฟางยู่เชินก็ละริมฝีปากออกไปอย่างอาลัยอาวรณ์ ดวงตาหรี่ลงต่ำ สายตาจ้องมองไปที่ริมฝีปากแดงสวยที่ตัวเองเพิ่งจะจุมพิตอย่างดูดดื่มไปเมื่อครู่นี้
ดวงตาของเขาเคร่งขรึมลงเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นเบาๆ ว่า “เธอเป็นแฟนของฉัน ต่อจากนี้ไปอยู่ให้ห่างจากผู้ชายคนอื่นเอาให้มาก โดยเฉพาะกู้เนี่ยน”
เมื่อได้ยินการแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของในคำพูดเหล่านั้นของเขา เหลียงซินเวยรู้สึกหอมหวานอบอุ่นในใจ เธอพยักหน้าตอบรับ “อืม”