ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 127 ค่าละเมิดสัญญา50ล้าน
บทที่ 127 ค่าละเมิดสัญญา50ล้าน
ดูหน้าตกใจของเจียงสื้อสื้อ จิ้นเฟิงเฉินเปิดเอกสาร พูดอย่างไม่เร่งรีบ “เมื่อกี้ผมเตือนคุณแล้วนะ คุณไม่ดู นี่มันหนังสือสัญญาการแต่งงาน เริ่มมีผลตั้งแต่คุณเซ็นชื่อ เพราะฉะนั้น ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป คุณคือภรรยาผมตามกฎหมาย ทะเบียนสมรสผมจะรีบให้คนไปทำให้เร็วที่สุด”
ระหว่างพูด สายตาจิ้นเฟิงเฉินเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ดูออกว่าเขาอารมณ์ดี
สัญญาฉบับนี้เขาเตรียมเมื่อวาน เขารู้ว่ามางานมหาลัยวันนี้ต้องเจอเจียงสื้อสื้อแน่นอน
เขาชอบเธอ คิดและตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่กับเธอตลอดชีวิต แต่จิ้นเฟิงเฉินรู้ว่าเจียงสื้อสื้อไม่ยอมตกลงแน่นอน แต่เขาก็จะลองดู
จิ้นเฟิงเฉินคิดกิจกรรมไว้มากมายเพื่อให้เจียงสื้อสื้อเซ็นเอกสารฉบับนี้ แต่ใครจะไปรู้ ว่าผู้หญิงคนนี้จะประมาทขนาดนี้ เซ็นทั้งที่ไม่ได้ดูเนื้อหาเลย
แต่แบบนี้ก็เขาก็พอใจอย่างยิ่ง
เจียงสื้อสื้อตกตะลึงตาค้างพูดอะไรไม่ออก และโกรธมาก
“ทำไมคุณไม่พูดเมื่อกี้?”
เธอแย่งสัญญามาดู ใช่สัญญาการแต่งงานจริง จิ้นเฟิงเฉินเซ็นชื่อไว้ก่อนแล้ว เจียงสื้อสื้อดูอย่างละเอียดหลายรอบ ก็ไม่อยากเชื่อ
นี่มันวิธีบ้าอะไรกันเนี่ย……
เมื่อตั้งสติได้เจียงสื้อสื้อพูด “คุณบอกว่าจะตัดขาดอย่างสิ้นเชิงไม่ใช่เหรอ? ให้ฉันคืนทุกอย่างที่ติดค้างคุณ จิ้นเฟิงเฉิน คุณหลอกฉัน”
ได้ยินแล้ว จิ้นเฟิงเฉินแม้มปากพูด “ใช่ ตัดขาดทุกอย่างในอดีต แล้วเราเริ่มต้นใหม่กัน เจียงสื้อสื้อ นี่ก็คือสิ่งที่คุณติดค้างผม”
เจียงสื้อสื้อ ยอมแพ้แล้ว ผู้ชายคนนี้ช่างกล้าพูด เธอไม่รู้อะไรเลย ก็แต่งงานกับเขาแบบนี้
“ไม่ได้ สัญญานี้ฉันไม่รับ ฉันไม่รู้อะไรเลย นี่มันไม่มีผลทางกฎหมาย”
“ผมไม่ได้บังคับคุณเซ็นชื่อ คุณไม่ดูรายละเอียดเอง”
ได้ยินแบบนี้ เจียงสื้อสื้อ อยากกระอักเลือด เธอจะคิดได้ยังไงว่ามันคือหนังสือสัญญาการแต่งงาน
จิ้นเฟิงเฉินยิ้ม พูดต่อ “คุณเสียใจจะยกเลิกสัญญาก็ได้ แต่ต้องจ่ายค่าละเมิดสัญญา”
เจียงสื้อสื้อดูสัญญาอีกครั้ง ค่าละเมิดสัญญาห้าสิบล้าน เธอโมโหจนอยากกระอักเลือด
“จิ้นเฟิงเฉิน คุณนี่มันหลอกลวง”
ตอนนี้ใจเจียงสื้อสื้อสับสนไปหมด วินาทีก่อนยังคิดว่าจะออกจากชีวิตเขาได้ จะไม่ไปมาหาสู่กันอีก แต่ตอนนี้กลับต้องเป็นสามีภรรยาถูกต้องตามกฎหมายกับเขา
ดูสีหน้าเจียงสื้อสื้อ จิ้นเฟิงเฉินเข้าใกล้ น้ำเสียงเคร่งขรึม “แต่งงานกับผม ลำบากใจขนาดนี้เลยเหรอ?”
ในโลกนี้ มีผู้หญิงคนไหนบ้างไม่อยากแต่งงานกับจิ้นเฟิงเฉิน ถ้าเป็นคนอื่น คงดีใจตายแล้ว คงมีแต่เจียงสื้อสื้อ หน้าตาบึ้งตึง
“นี่มันไม่ใช่เรื่องลำบากใจ จิ้นเฟิงเฉิน คุณคิดว่าในตัวฉัน มีอะไรที่คู่ควรกับคุณ?”
เจียงสื้อสื้อไม่เข้าใจ จิ้นเฟิงเฉินชอบอะไรในตัวเธอ? เขาไม่รู้สึกเลยหรือว่าเขากับเธอไม่เหมาะสมกันเลย
ได้ยินแล้ว จิ้นเฟิงเฉินตอบแบบไม่ลังเลเลย “คู่ควรทุกอย่าง”
เขาชอบเธอ ไม่ต้องการเหตุผล
เจียงสื้อสื้อรู้สึกหดหู่ ไม่รู้จะพูดอะไร
จิ้นเฟิงเฉินเห็นแล้ว พูดว่า “ก็ได้ ผมไม่บังคับคุณ แต่เจียงสื้อสื้อผมอยากให้คุณให้โอกาสผมสักครั้ง ชีวิตนี้ผมไม่เคยรู้สึกกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน บางเรื่อง ผมอาจทำได้ไม่ถูกใจคุณ แต่ผมหวังด้วยความจริงใจอยากให้คุณอยู่กับผม”
เสียงแหบอันมีแรงดึงดูดพูดอยู่ข้างหู เจียงสื้อสื้อ หน้าแดงทันที
นี่ถือว่าสารภาพรักหรือเปล่า? แบบนี้ยังบอกว่าทำได้ไม่ดี?
นี่จะจีบให้ตายเลยใช่ไหม?
สัญญาก็เซ็นไปแล้ว เจียงสื้อสื้อรู้จะพูดโน้มน้าวจิ้นเฟิงเฉินก็คงไม่ง่าย สุดท้ายก็ได้แต่พูดว่า “ฉันต้องการเวลาคิดดูก่อน”
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้าตอบ “เจียงสื้อสื้อ คุณจะคิดนานเท่าไหร่ก็ไม่เป็นไร แต่ห้ามหลบหน้าผม และห้ามพูดเรื่องตัดขาดกับผมอีก มิฉะนั้นผมจะเอาเรื่องแต่งงานบอกให้ทุกคนรู้”
ได้ยินแล้ว เจียงสื้อสื้อตกใจมือสั่น บอกทุกคน???
“จิ้นเฟิงเฉิน อย่าล้อเล่นนะ”
“คุณก็ลองดู”
จิ้นเฟิงเฉินก็แค่แกล้งเธอ เขาหวังแค่ว่าเจียงสื้อสื้อ อย่าหลบหน้าเขา
“……”
เจียงสื้อสื้อหนีปัญหาอีก จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว เป็นเพราะอะไร? เธอไม่ยอมบอกเหตุผลเขา
สุดท้าย จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ถามอีก ส่งเจียงสื้อสื้อ กลับบ้าน
มองดูเจียงสื้อสื้อเดินขึ้นห้อง จิ้นเฟิงเฉินกลับบริษัท เพิ่งถึงออฟฟิศไม่นาน จิ้นเฟิงเหราก็ถามอย่างอยากรู้อยากเห็น “พี่ เป็นไงบ้าง? เจอพี่สะใภ้รึยัง? พี่สองคนคืนดีกันรึยัง?”
รู้ว่าซูชิงหยิงกับลู่เจิงก็ไปงานมหาลัยวันนี้ ไม่รู้ว่าสี่คนนี้มีเรื่องอะไรรึเปล่า? จะมีเรื่องชกต่อยกันไหม จิ้นเฟิงเหราคิดบทไปเลยเถิด
จิ้นเฟิงเฉินตอบ “ไม่มีอะไร”
ก็แค่แต่งงาน
“หา?” ได้ยินแล้ว จิ้นเฟิงเหรารู้สึกผิดหวัง “ทำไม? พี่สะใภ้ยังหลบหน้าพี่อยู่เหรอ?”
“อืม” จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า
“พี่ พี่รู้สึกไหมว่าช่วงนี้พี่สะใภ้แปลกๆ เขาหลบหน้าพี่ไม่ใช่เพราะเรื่องในอดีตนี่ เท่าที่ดูแล้ว พี่สะใภ้ก็ชอบพี่ ผมสงสัยว่ามันเกิดเรื่องอะไรรึเปล่า? ถึงเป็นแบบนี้”
จิ้นเฟิงเหรายังสังเกตเห็นเลย จิ้นเฟิงเฉินก็สังเกตเห็นนานแล้ว เจียงสื้อสื้อเปลี่ยนไปโดยไร้เหตุแบบนี้ ต้องมีสาเหตุแน่นอน
คิดไป จิ้นเฟิงเหราก็ให้ความคิดเห็น “พี่ ผมว่าพี่ไปตรวจสอบดู ตรวจสอบดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ พวกเราจะได้หาวิธีแก้ได้”
จิ้นเฟิงเฉินก้มหน้าครุ่นคิด เรียกเลขาเข้ามา แล้วสั่ง “ไปตรวจสอบดูว่าช่วงนี้เจียงสื้อสื้อไปไหนบ้าง ดูว่าเธอไปเจอใครเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง”
เลขารับคำสั่งแล้วออกไป
รอเลขาออกไปแล้ว จิ้นเฟิงเหราพูดขึ้น “ใช่แล้ว พี่ คืนนี้มีงานเลี้ยงที่บ้านระหว่างตระกูลจิ้นกับตระกูลซู พี่ต้องเตรียมใจไว้นะ ผมมีธุระไปไม่ได้ พี่ก็ช่วยตัวเองละกันนะ”
ถึงแม้จะเป็นแค่งานเลี้ยงกินข้าว แต่ก็รู้กันว่า ผู้ใหญ่สองตระกูลนี้จะใช้โอกาสนี้เพื่อคุยเรื่องแต่งงานของพี่ชายกับซูชิงหยิง
จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว ไม่ได้พูดอะไร ก้มหน้าทำงานต่อ สีหน้าไม่ใส่ใจ
จิ้นเฟิงเหรารู้สึกว่าตัวเองเป็นห่วงไปเอง พี่ชายเขาแกร่งขนาดนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะถูกบังคับแต่งงาน
……
ตกเย็นวันนั้น ถึงเวลางานเลี้ยงมื้อเย็นแล้ว ซูชิงหยิงก็มาถึงออฟฟิศ
“เฟิงเฉิน เวลาใกล้ถึงแล้ว ไปร้านอาหารกันเถอะ พ่อแม่ฉันกับคุณลุงคุณป้ารออยู่ค่ะ”
ตอนเช้าถูกจิ้นเฟิงเฉินทิ้งไว้ที่ร้านอาหารคนเดียว ตอนนี้ซูชิงหยิงก็กลัวว่าเขาจะไม่ไปร่วมงาน ถ้าเขาไม่ไป เธอไปคนเดียว จะมีความหมายอะไร