ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1288 ไม่ยอมให้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น
- Home
- ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!
- บทที่ 1288 ไม่ยอมให้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น
กู้เนี่ยนลุกยืนขึ้นมาทันที “คุณไปไม่ได้!”
“ทำไม”เจียงสื้อสื้อเงยหน้ามองเขา “กลัวว่าฉันจะได้รับบาดเจ็บเหรอ”
“ใช่”
ไม่ว่าจะเป็นการแย่งชิงคนมาโดยตรง หรือว่าทำลายพิธีแต่งงาน ถึงเวลาทั้งสองฝ่ายจะต้องมีการกระทบกระทั่งกัน เขากังวลว่าจะปกป้องคุณหญิงได้ไม่ดี
ดังนั้นเธออย่าไปเลยจะดีที่สุด
เจียงสื้อสื้อก้มหน้า “เกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณไม่ต้องเป็นห่วง ฉันไม่เป็นอะไรหรอก”
“คุณรับประกันได้เหรอ”กู้เนี่ยนถาม
“ฉัน……”
“คุณรับประกันไม่ได้ ใช่มั้ย ดังนั้นคุณห้ามไปเด็ดขาด ผมรับประกันกับคุณ ผมจะพาตัวคุณชายกลับมาแน่นอน”
เจียงสื้อสื้อเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง มองท่าทางเขาที่จริงจังทั้งยังดุดัน ก็เม้มปากยิ้ม “เฟิงเฉินมีลูกน้องอย่างคุณ เป็นโชคดีของเขาจริงๆ และก็เป็นโชคดีของฉันด้วย”
“ดังนั้น คุณหญิงคุณ……”กู้เนี่ยนหยั่งเชิงอย่างระมัดระวัง
เขากลัวมากว่าเธอจะใจแข็งจะตามไปให้ได้ อย่างนั้นก็ยิ่งยุ่งยากไปกันใหญ่
“นายวางใจเถอะ ฉันจะปกป้องดูแลตัวเองให้ดี ไม่สร้างความยุ่งยากให้พวกนายเด็ดขาด”
ได้ยินดังนั้น ไหล่ทรุดอย่างท้อแท้ อยากร้องไห้แบบไม่มีน้ำตา “คุณหญิง ทำไมคุณถึงไม่เข้าใจสิ่งที่ผมพูดเลย”
เจียงสื้อสื้อมองไปรอบๆ จู่ๆ ก็พูดขึ้นมาว่า “ห้องนี้ของนายไม่เลวเลยนะ”
การเปลี่ยนหัวข้อสนทนานี้ช่างรวดเร็วมาก กู้เนี่ยนตั้งตัวไม่ทันเล็กน้อย
ได้แต่ฟังเธอพูดต่อไปว่า “แต่ว่าเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง””อะไรครับ”กู้เนี่ยนโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว
วินาทีต่อมา เขาก็ด่าตัวเองในใจ บ้าเอ้ย! ทำไมถูกเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปได้
“ก็คือ……”เจียงสื้อสื้อคิดอย่างจริงจัง ดวงตาเปล่งประกาย “ฉันรู้แล้วว่าอะไร ก็คือขาดนายหญิงไปไง ขาดกลิ่นไอความเป็นบ้านไปเล็กน้อย”
พูดมาถึงตรงนี้ เธอพูดอย่างอดไม่ได้ว่า “นายควรจะหาแฟนได้แล้ว ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะคิดว่าเฟิงเฉินสั่งห้ามนายไว้ ไม่ให้นายมีความรักนะ”
มีความรักเหรอ
กู้เนี่ยนสมเพชตัวเอง “คนอย่างผมนี้ จะมีคนชอบเหรอครับ”
“มีแน่นอน นายดีขนาดนี้ หน้าตาก็ไม่เลว ทำไมจะไม่มีคนชอบล่ะ”
“จริงเหรอครับ”
น้ำเสียงเขาฟังดูท้อแท้เล็กน้อย เจียงสื้อสื้อจึงพบว่าสีหน้าท่าทางเขาหดหู่ท้อแท้อยู่บ้างนิดหน่อย
เวลานี้เอง เธอก็นึกถึงเรื่องเหลียงซินเวยกับพี่ชายของเธอขึ้นมาได้
กู้เนี่ยนชอบเวยเวย
แต่เวยเวยเลือกพี่ชาย
ดังนั้นเขาถึงได้คิดอย่างนั้นเหรอ
เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดเล็กน้อย เรื่องที่ไม่ควรจะพูดก็พูดขึ้นมา
“กู้เนี่ยน อย่าท้อแท้ นายต้องได้พบกับพรหมลิขิตของตนเอง”เจียงสื้อสื้อคิดพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยปลอบใจเขาประโยคหนึ่งอย่างระมัดระวัง
กู้เนี่ยนเข้าใจความหมายของเธอ ยิ้มอย่างไม่แยแส “หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”
เพราะเวยเวย เขาคงไม่มีทางไปชอบคนอื่นได้ในช่วงนี้
“ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน”เจียงสื้อสื้อพูดให้กำลังใจ
“ขอบคุณครับคุณหญิง”
ทั้งสองคนพูดคุยกันอีกสองสามประโยค เจียงสื้อสื้อก็ลุกขึ้นแล้วจากไป
ออกจากคอนโดมิเนียม เจียงสื้อสื้อมองดูรถราที่ขับอย่างรวดเร็วบนท้องถนน สูดหายใจเข้าลึกๆ ตอนนี้ก็รอให้ถึงวันแต่งงานวันนั้น
……
จิ้นเฟิงเฉินมองดูปฏิทิน เกิดความวิตกกังวลขึ้นมาในใจ
เขารู้ดีว่าตัวเองกำลังกังวลเรื่องอะไร
ไม่มีอะไรมากไปกว่าอดีตของเขา
แม้เขาจะพูดแล้วว่า เขาจะแต่งงานกับซ่างกวนหยวน เพราะนี่คือคำสัญญาที่เขาให้ไว้กับซ่างกวนหยวน
แต่ความจริงแล้ว ภายในใจลึกๆ นั้นมีการปฏิเสธอยู่เล็กน้อย
ช่วงเวลานี้ เขาถามตัวเองมาตลอด
เขารักซ่างกวนหยวนจริงหรือ
หรือว่า……แค่เพราะรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณ
เห็นชัดว่าเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องที่น่าดีใจมีความสุขมาก แต่เขากลับไม่มีความสุข ไม่ดีใจเลยสักนิดเดียว
ในทางกลับกันยังรู้สึกกังวล……ทั้งยังรู้สึกผิดด้วย
ยิ่งใกล้ถึงเวลามากขึ้น ความวิตกกังวลและความรู้สึกผิดก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับขุมนรกขุมหนึ่ง ที่ค่อยๆ กลืนกินเขาเข้าไป
ซ่างกวนหยวนผลักประตูเปิด เดินเข้ามาในห้อง สายตามองไปที่จิ้นเฟิงเฉินที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างหันหลังให้กับตนเองอยู่ สองมือที่อยู่ข้างลำตัวค่อยๆ กำเข้ามา
เธอไม่ใช่ว่าไม่รู้สึก
หลายวันนี้อารมณ์ของจิ้นเฟิงเฉินแปลกๆ ไป เธอรู้สึกได้ แต่คิดว่าเพราะใกล้ถึงวันแต่งงาน ก็เลยตื่นเต้น
แต่ตอนนี้ดูแล้ว ไม่ใช่ตื่นเต้นแน่นอน
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก้าวเท้าเบาๆ เดินไปหาเขา
จิ้นเฟิงเฉินมองไปนอกหน้าต่าง มองอย่างตั้งใจ ไม่รู้เลยว่ามีคนเข้ามาในห้องแล้ว
จนกระทั่งเสียงซ่างกวนหยวนดังขึ้นมาข้างๆ หู จึงตกใจได้สติขึ้นมา
“เฟิงเฉิน”
นัยน์ตาของจิ้นฟิงเฉินมีอารมณ์ที่ไม่ได้สังเกตเห็นได้ง่ายฉายวาบขึ้น หันหน้าไป มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ “คุณทำธุระเสร็จแล้วเหรอ”
“อืม”สายตาซ่างกวนหยวนจับจ้องที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา เอ่ยถามเบาๆ ว่า “คุณมีเรื่องอะไรในใจหรือเปล่า”
จิ้นเฟิงเฉินเก็บอาการ ส่ายหน้า “ไม่มี”
“เฟิงเฉิน พวกเราจะแต่งงานกันแล้ว ต่อไปฉันคือภรรยาของคุณ มีเรื่องอะไรคุณบอกฉันได้นะ ฉันยินดีที่จะแบ่งปันร่วมกับคุณ”
“ผมไม่มีอะไรจริงๆ “จิ้นเฟิงเฉินจูงมือเธอ กระตุกยิ้ม “คุณวางใจเถอะ ถ้าผมมีเรื่องอะไรผมจะบอกคุณ”
ในใจซ่างกวนหยวนผิดหวังเล็กน้อย
เห็นชัดว่าเขามีเรื่องอะไรในใจ แต่เขาไม่ยอมบอกเธอ
เธอกุมมือเขาเอาไว้ มองเขาอย่างสงสัย “เฟิงเฉิน คุณบอกฉันตามความจริง ว่าคุณอยากแต่งงานกับฉันด้วยความจริงใจหรือเปล่า”
ถามเสร็จแล้ว มือของเธอก็จับแน่นขึ้น ใจก็สั่นไหวตามไปด้วย
เธอกลัวได้ยินคำตอบที่เป็นการปฏิเสธ
จิ้นเฟิงเฉินยิ้ม “เป็นความจริงใจแน่นอน”
คำตอบนี้ไม่มีความลังเลแต่อย่างใด
แต่เชื่อถือได้หรือไม่
ถ้าเขาจริงใจจริงๆ อย่างนั้นทำไมช่วงนี้เขาถึงดูแปลกๆ บางครั้งก็เหม่อลอยอยู่คนเดียว ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร
จิ้นเฟิงเฉินรู้ว่าเธออาจจะจับสังเกตอะไรได้แล้ว ก็เลยเสริมขึ้นมาว่า “หยวนหยวน อย่าคิดมากเลย”
เขาพูดขนาดนี้แล้ว ซ่างกวนหยวนก็ไม่ได้สงสัยอะไรอีก ได้แต่ยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันเชื่อคุณค่ะ”
จิ้นเฟิงเฉินกุมมือเธอกลับ “รอวันงานแต่งมาถึงอย่างสบายใจเถอะ”
ความประทับใจพลุ่งพล่านขึ้นมาในหัวใจ
ซ่างกวนหยวนรู้สึกผิดเล็กน้อย ที่เมื่อครู่สงสัยในความจริงใจของเขา
“ค่ะ ฉันจะเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด”เธอพูด
จิ้นเฟิงเฉินยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรอีก
ซ่างกวนหยวนทำท่าเหมือนกำลังขบคิดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อว่า “ก่อนแต่งงาน พวกเราไปเยี่ยมคุณย่าอีกสักครั้งเถอะนะคะ”
“ได้ เชื่อฟังคุณทุกอย่าง”จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ปฏิเสธ
“งั้น……ตอนนี้เลยดีมั้ย”ซ่างกวนหยวนถาม
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า “ได้แน่นอน”
“งั้นพวกเราไปกันเถอะค่ะ”
ซ่างกวนหยวนลากเขาออกจากห้อง ทั้งสองคนลงมาชั้นล่าง ขับรถมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาล
ซ่างกวนหยวนหันข้างมามองชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนที่นั่งข้างคนขับ มือที่จับพวงมาลัยรถกำแน่นขึ้นมาทันที
ทำไมจู่ๆ เธอก็พาเขาไปเยี่ยมคุณย่า
เพื่อทำให้เขาตัดสินใจที่จะแต่งงานกับเธออย่างหนักแน่นมั่นคงยิ่งขึ้น
ในเมื่อ ยังไม่ถึงวินาทีนั้นที่พิธีแต่งงานได้สำเร็จเสร็จสิ้น ทุกอย่างอาจมีการเปลี่ยนแปลง
แต่เธอจะไม่ยอมให้การแต่งงานของเธอมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น!