ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 134 วิธีปกป้องในแบบของเขา
บทที่ 134 วิธีปกป้องในแบบของเขา
เห็นหลานซือเฉินอุ้มเจียงนวลนวลเตรียมจะเดินจากไป เจียงสื้อสื้อเดินเข้ามาขวางทาง เธอปรายตามองเจียงนวลนวลที่อยู่ในอ้อมกอดของหลานซือเฉิน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “กล้าเปิดกล้องวงจรปิดไหมล่ะ ว่าตกลงฉันเป็นคนผลักหรือเปล่า? ฉันไม่ได้แตะตัวหล่อนตัวซ้ำ”
คนตระกูลเจียงเป็นฝ่ายหาเรื่องเธอหลายต่อหลายครั้ง ครั้งนี้เจียงนวลนวลใส่ร้ายเธอ เจียงสื้อสื้อจะไม่ทนอีกต่อไป
ท่ามกลางสายตาคนมากมายขนาดนี้ เธอจะต้องทวงคืนความบริสุทธิ์ของตัวเอง
สายตาของหลานซือเฉินลุ่มลึกอย่างถึงที่สุด “เจียงสื้อสื้อ ยังจะเล่นลิ้นอีกหรอ คนที่นี้มีใครไม่เห็นบ้างว่าเธอเป็นคนผลักนวลนวล นวลนวลก็แค่จะเข้าไปดึงแขนโน้มน้าวให้เธอขอโทษพ่อ ต้องทำกันขนาดนี้หรอ?”
“ฉันถามว่ากล้าดูกล้องวงจรปิดหรือเปล่า?”
เมื่อกี้ตอนที่เจียงนวลนวลเข้ามาแตะตัวเธอ เธอก็รีบหลบทันที เธอไม่ได้แม้แต่จะแตะต้องยัยนั่นด้วยซ้ำ จะไปผลักได้ยังไง
เจียงนวลนวลเห็นเจียงสื้อสื้อมีท่าทีเอาจริง เธอก็เกิดไม่มั่นใจขึ้นมา เดิมทีตั้งใจจะทำให้เจียงสื้อสื้อขายหน้าท่ามกลางผู้คน ตอนนี้ก็เป็นไปตามที่เธอต้องการแล้ว ก็ควรจะออกจากตรงนี้สักที
แต่ใครจะคิด เจียงสื้อสื้อที่ฝืนทนกล้ำกลืนมาตลอด จู่ๆวันนี้เกิดอยากจะให้เปิดกล้องวงจรปิด เจียงนวลนวลที่รู้ความจริงอยู่แก่ใจ ถ้าเปิดกล้องวงจรปิดออกมา เธอก็พอจะจินตนาการสายตาของทุกคนที่จะมองมาทางเธอได้
ไม่ จะให้เปิดกล้องวงจรปิดไม่ได้เด็ดขาด
เจียงนวลนวลทำท่ากุมท้องพร้อมกับพูดและทำสายตาอ่อนแอ “พี่ซือเฉิน เรารีบไปโรงพยาบาลดูลูกกันก่อนเถอะ?”
เจียงสื้อสื้อยกยิ้มเย็นชาที่มุมปาก เธอมองแผนของเจียงนวลนวลออกจนหมด ขึงพูดเสียงนิ่งๆ “ทำไม? แค่กล้องวงจรปิดยังไม่กล้าเปิดดู หรือกลัวอะไรกันแน่?”
เจียงนวลนวลหน้าชา ในดวงตาเผยความกังวลชัดเจน
เสิ่นซูหลันเห็นดังนั้น จึงเดินขึ้นมาผลักเจียงสื้อสื้อ ก็จะอ้าปากโดยวาย “เจียงสื้อสื้อ จิตใจเธอมันทำด้วยอะไร? ไม่เห็นหรือไงว่าน้องสาวตัวเองเจ็บปวดขนาดไหน คืนนี้แกจะให้น้องตัวเองแท้งให้ได้เลยใช่ไหมถึงจะพอใจ?”
คืนนี้เจียงสื้อสื้อใส่รองเท้าส้นสูง พอถูกเสิ่นซูหลันผลักโดยไม่ทันตั้งตัว ร่างทั้งร่างเสียการทรงตัว เธอเซไปด้านหลัง สั่นคลอนไปทั้งร่าง…
และที่ด้านหลงเธอ เป็นโต๊ะตั้งหอแชมเปญ ที่มีแก้วนับร้อยวางเรียงอยู่…
เสียงกรี๊ดร้องดังมาจากทั่วบริเวณ เธอล้มลงในสถานการณ์แบบนี้ ก็พอจะเดาได้ว่าจะต้องถูกเศษแก้วบาดไปทั้งตัว เจ็บแสบเกินกว่าใครจะจินตนาการได้
ในสายตาของเจียงนวลนวลเต็มไปด้วยความสะใจ เธอเบิกตามองภาพตรงหน้า
เจียงสื้อสื้อตกใจถึงขีดสุด เธอพยายามจะจับอะไรไว้เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยว แต่ก็ไม่ทัน…
ขณะที่คนรอบข้างกำลังกรี๊ดร้องเสียงดัง เสี้ยววินาทีจุดเปลี่ยนสำคัญ เจียงสื้อสื้อคิดว่าตัวเองจบเห่แล้ว แต่วินาทีนี้เอง เธอรู้สึกได้ถึงแรงจากมือใหญ่ดึงตัวของเธอเข้าไปในอ้อมกอด เธอถึงได้ปลอดภัยในทันใด
ร่างของเธอแนบชิดกับอ้อมอกแข็งแรง จมูกสูดดมกลิ่นที่คุ้นเคย เจียงสื้อสื้อรู้สึกโล่งใจขึ้นมา
ไม่ต้องสงสัย คนที่ช่วยเธอไว้ ก็คือจิ้มเฟิงเฉิน
เจียงสื้อสื้อยังอยู่ในสภาวะตกใจขวัญไม่เข้าที่ โชคดีที่เธอไม่ได้รับบาดเจ็บ
จิ้นเฟิงเฉินมีสีหน้าไม่ดีนัก ร่างชายหนุ่มแผ่ซ่านไปด้วยรังศีทะมึน เขาโอบเจียงสื้อสื้อ ก่อนที่เสียงทุ้มต่ำจะเอ่ยขึ้น “ไม่เป็นไรนะ?”
เจียงสื้อสื้อส่ายหน้า ในใจของเธอสับสนเป็นอย่างมาก จากตอนแรกที่ตั้งใจว่าเจอเย่เจี่ยนหยางแล้วจะขอตัวกลับ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
ทุกครั้งที่เธอคิดว่าตัวเองกำลังจะจบเห่แน่นอนแล้ว ก็เป็นเขาที่ปรากฏตัวขึ้นทุกที เจียงสื้อสื้อก้มหน้าหลับตา เสียงของจิ้นเฟิงเฉินดังขึ้นอีกครั้ง
”วางใจเถอะ ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง”
“อือ” เจียงสื้อสื้อพยักหน้า
พูดจบ จิ้นเฟิงเฉินก็ลากสายตาไปยังตระกูลเจียงอีกทั้งหลานซือเฉิน เสียงก้องกังวานดังขึ้น “เก่งนักเรื่องใช้กำลังข่มเหงคนอื่น!”
ไม่มีใครคาดคิดว่าจิ้นเฟิงเฉินจะโผล่มาที่นี่ คนของตระกูลเจียงและตระกูลหลานหน้าซีดทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะเจียงนวลนวล ตอนแรกคิดว่าจะได้เห็นเจียงสื้อสื้อบาดเจ็บ แต่คิดไม่ถึงว่าเจิ้นเฟิงเฉินจะโผล่มาดึงเธอไว้ในวินาทีสำคัญ
เจียงนวลนวลกำมือแน่น ยัยเจียงสื้อสื้อโดนทิ้งไปแล้วไม่ใช่หรือไงกัน? ทำไมจิ้นเฟิงเฉินยังต้องออกโรงช่วยมันอีก?
เสิ่นซูหลันเองก็เสียอาการอย่างมาก เพราะเธอเป็นคนผลัก แต่เธอก็ยังเดินขึ้นหน้าพูดจาพลิกลิ้นต่อ “ฉันไม่ได้ตั้งใจ ถ้าเธอไม่ขวางซือเฉินพานวลนวลไปโรงพยาบาล ฉันก็คงไม่หุนหันพลันแล่นเดินเข้าไปผลักเธอหรอก”
เธอพูดจาเข้าข้างตัวเอง อย่างไรซะเมื่อกี้ทุกคนก็เห็นว่าเจียงสื้อสื้อกลั่นแกล้งคนท้อง พอถึงตอนนี้ ทุกคนก็ไม่รู้ว่าควรจะเข้าข้างใครดี
จิ้นเฟิงเฉินแค่นหัวเราะ เสียงยังคงทุ้มต่ำไม่เปลี่ยน
“ไม่ได้ตั้งใจ ทุกคนคงเห็นกันอยู่แล้วนะ หรือต้องให้ผมไปเปิดกล้องวงจรปิด?”
เมื่อไม่กี่นาทีก่อน จิ้นเฟิงเฉินกำลังคุยกับออร์แกไนซ์เซอร์อานเชิ่ง ตอนนั้นอานเชิ่งยังถามเขาอยู่ “ดูออกสิ ชิงหยิงชอบนายออกจะตาย! เฟิงเฉิน นายปฏิเสธที่จะแต่งงานกับเธอ หรือว่ามีใครอยู่ในใจแล้ว?”
ได้ยินแบบนั้น จิ้นเฟิงเฉินก็คิดถึงเจียงสื้อสื้อโดยไม่รู้ตัว เขาเองก็ไม่ได้คิดจะปิดบัง จึงพยักหน้าเรียบๆ
อานเชิ่งยิ้ม “จริงหรอเนี่ย! ว่าแต่เป็นสาวจากตระกูลไหนที่ทำให้นายชอบเธอได้ อย่าลืมพามาให้ฉันดูด้วยล่ะ”
“ครับลุงอาน”
ขณะกำลังพูดคุย หางตาของจิ้นเฟิงเฉินก็เหลือบไปเห็นเงาของร่างที่คุ้นเคย เป็นเจียงสื้อสื้อ
เขาอึ้งไปเล็กๆ ก่อนจะหันไปมองตระกูลเจียงกับหลานซือเฉินที่ยืนอยู่ล้อมรอบ คนพวกนั้นราวกับกำลังมีเรื่องทะเลาะกัน แววตาของจิ้นเฟิงเฉินก็ลุ่มลึกในทันใด
“ลุงอานครับ ตรงนั้นมีเรื่องนิดหน่อย ผมจะเข้าไปดู”
พูดจบ จิ้นเฟิงเฉินก็รีบสาวขายาวเดินออกไป
เขาไม่กล้าจินตนาการเลยจริงๆ ถ้าตัวเองมาช้าไปอีกก้าวเดียว จะเกิดอะไรขึ้นกับเจียงสื้อสื้อ
จิ้นเฟิงเฉินจะเปิดกล้องวงจรปิด เจียงนวลนวลสัมผัสได้ถึงสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจ จึงรีบกุมท้องพร้อมกับทำท่าแสร้งว่าปวดท้องอย่างหนัก
ไม่ว่าจะยังไงหลานซือเฉินย่อมกังวลลูกในท้องของเจียงนวลนวล เขาอุ้มเจียงนวลนวล แล้วหันไปมองจิ้นเฟิงเฉิน “คุณจิ้น แม่ผมผิดที่ผลักเธอ แต่นั่นเป็นเพราะแม่ผมเป็นห่วงนวลนวล ตอนนี้นวลนวลกำลังปวดท้อง เรื่องนี้เราค่อยคุยกันทีหลังได้ไหม?”
ได้ยินดังนั้น จิ้งเฟิงเฉินจึงตอบกลับไม่คิด “ไม่ได้”
ถ้าปล่อยให้คนพวกนี้หนีไปตอนนี้ จะไปตามคิดบัญชีทีหลังยังไง? จิ้นเฟิงเฉินไม่มีทางปล่อยให้คนจากตระกูลนี้ออกไปได้ เขาตะโกนเรียกผู้ช่วย แล้วเอ่ยคำสั่ง “ห้ามใครออกไปจากที่นี่ทั้งนั้น รีบเอากล้องวงจรปิดมาเปิดเดี๋ยวนี้”
พูดจบ เขาก็ปรายหางตาเย็นชาไปยังเจียงนวลนวล ก่อนจะพูดขึ้นอีก “ปวดท้องใช่ไหม? เรียกหมอมา”
เจียงนวลนวลหน้าซีดในทันใด จิ้นเฟิงเฉินดึงดันจะทวงคืนความยุติธรรมให้กับเจียงสื้อสื้อเอาจนได้ คราวนี้จะทำยังไงดี?
หลานซือเฉินค่อยๆขมวดคิ้ว เขาเดินขึ้นหน้าแล้วเอ่ย “คุณจิ้น ทำแบบนี้มันจะรังแกกันเกินไปหน่อยมั้ง?”
ได้ยินแบบนั้น จิ้นเฟิงเฉินก็เผยยิ้มเย็นยะเยียบขึ้นที่มุมปาก เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงอำมหิต “ตอนที่พวกคุณรังแกเธอ ทำไมไม่คิดว่าทำกันเกินไปหน่อยบ้างล่ะ?”