ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1342 นายแน่มาก
เย่เสี่ยวอี้มองเห็นข่าวการยกเลิกสัญญาแต่งงาน ก็ได้โมโหจนปัดของจากโต๊ะแต่งหน้าลงพื้นทั้งหมด
คนใช้ที่กำลังเก็บกวาดก็ได้ตกใจจนหยุดนิ่ง ก้มหน้า ไม่กล้าที่จะหายใจดังๆ
“ฟางยู่เชิน นายแน่มาก!” เย่เสี่ยวอี้ก็ได้โมโหจนตาแดง กัดฟันพูดประโยคนี้ออกมา
เธอก็ได้ลุกขึ้นอย่างแรง ก้าวออกไปข้างนอก
เธอจะไปหาฟางยู่เชินถามให้เข้าใจซึ่งๆ หน้า เขาเอาตระกูลเย่ไว้ที่ไหนกันแน่? เอาเธอเย่เสี่ยวอี้ไว้ที่ไหนกันแน่?!
รีบลงไป ก็ได้ยินคุณแม่คุยโทรศัพท์พอดี
“อะหยิง คราวนี้ยู่เชินทำเกินไปแล้วนะ! ถึงแม้ว่าตระกูลเย่ของพวกเราเทียบตระกูลฟางของพวกเธอไม่ได้ แต่ว่าไม่มีใครรังแกพวกเราเหมือนที่พวกเธอทำแบบนี้!
ฉันไม่สน ถ้าเกิดพวกเธอไม่ให้เหตุผลที่น่าพอใจกับพวกเรา พวกเราตระกูลเย่ไม่ปล่อยไปง่ายๆ แน่!”
พูดจบ แม่เย่ก็ได้วางสายด้วยความโมโห หางตาก็ได้มองเห็นเย่เสี่ยวอี้ที่ยืนในที่ไม่ไกล ก็ได้รีบเดินเข้าไป
“เสี่ยวอี้ ลูกวางใจเถอะ พ่อแม่ต้องให้ตระกูลฟางอธิบายกับพวกเราให้ชัดเจนแน่!”
เย่เสี่ยวอี้หัวเราะไป “แม่ค่ะ แม่คิดว่าฟางยู่เชินจะให้เหตุผลที่น่าพอใจกับพวกเราเหรอ?”
“เขาไม่ให้ไม่ได้!” แม่เย่หรี่ตา พูดอย่างโมโหว่า “ถ้าเขาไม่ให้ พวกเราไม่ปล่อยตระกูลฟางไปแน่!”
ไหนๆ ฟางยู่เชินกล้าที่จะปล่อยข่าวแบบนี้ออกมา งั้นก็หมายความว่าไม่ได้มองตระกูลเย่ไว้ในสายตาเลยสักนิด จะไปกลัวพวกเขาที่ไหน
คิดถึงตรงนี้ ไฟโกรธของเย่เสี่ยวอี้ก็ได้หนักขึ้น
“แม่ค่ะ หนูไปถามเขาให้เข้าใจ”
“เสี่ยวอี้!”
แม่เย่ห้ามเธอไม่ทัน ก็ได้มองเธอออกไปทั้งแบบนี้
“เห้อ!” แม่เย่ก็ได้ถอนหายใจหนักๆ “ยู่เชินมันอยากจะทำอะไรกันแน่? ทำเกินไปแล้วจริงๆ!”
ฟางยู่เชินสัมภาษณ์เสร็จ พึ่งออกจากห้องประชุมกับนักข่าว ก็เห็นเย่เสี่ยวอี้ออกมาจากลิฟต์ด้วยความโมโห
นักข่าวเห็นเย่เสี่ยวอี้ ตาก็ได้เป็นประกายทันที
ข่าวพิเศษ!
ข่าวใหญ่พิเศษ!
แต่ว่าเธอไม่ทันที่จะดีใจ ก็ได้ยินเสียงที่เย็นชาของส้งหยาวดังข้างหูว่า “นอกจากประธานของพวกเขาที่ได้ตกลงสัมภาษณ์แล้ว ถ้าคุณกล้าที่จะเขียนข่าวอื่น ก็รอจดหมายทนายจากฟางซื่อกรุ๊ปได้เลยครับ”
พูดเตือนออกไป นักข่าวก็ทำได้แค่เก็บความคิดในใจไว้ รีบก้มหน้าแล้วก็เดินไปทางลิฟต์
“ท่านประธานครับ ต้องการให้ผมไล่เธอไปไหม?” ส้งหยาวถาม
มองเย่เสี่ยวอี้มาด้วยท่าทางที่โมโหแบบนั้น ท่านประธานต้องเจอกับความยุ่งยากไม่น้อยแน่
“ไม่ต้องแล้ว” ฟางยู่เชินก็ได้หันตัวเดินไปทางห้องทำงาน ก็เหมือนว่าไม่เห็นเย่เสี่ยวอี้อย่างงั้น
“ฟางยู่เชิน!”
เย่เสี่ยวอี้ก็ได้พุ่งมาขวางหน้าเขา ถามเสียงแหลมว่า “นายหมายความว่ายังไงกันแน่?”
ฟางยู่เชินไม่มองเธอเลยแม้แต่นิด น้ำเสียงเย็นชา “ข่าวมันหมายความว่ายังไง ฉันก็หมายความว่าแบบนั้น”
“ฟางยู่เชิน!” เสียงของเย่เสี่ยวอี้ก็ได้แหลมขึ้นกว่าเดิม แหลมจนทำให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นแทบจะอุดหู
สีหน้าของฟางยู่เชินไม่เปลี่ยน เย็นชาเอามากๆ “ส้งหยาว ส่งแขก”
พูดจบ ก็ได้อ้อมเย่เสี่ยวอี้ แล้วก็ตรงเข้าห้องทำงาน
เย่เสี่ยวอี้หันตัวตามไป การกระทำของส้งหยาวเร็วกว่า ก็ได้ขวางประตูไว้ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พูดอย่างเกรงใจว่า “คุณหนูเย่ ประธานฟางยุ่งมากนะครับ เชิญกลับไปเถอะ”
“หลีกไป!” เย่เสี่ยวอี้ก็ได้จ้องเขาแน่น
ส้งหยาวก็ได้เก็บรอยยิ้มไป น้ำเสียงไม่ได้เกรงใจเหมือนเดิม “คุณหนูเย่ อย่างน้อยคุณก็เป็นคุณหนูตระกูลดังนะครับ ถ้าเกิดให้รปภ.มาลากคุณไป นั่นต้องไม่น่าดูแน่ๆ!”
เหมือนว่าเย่เสี่ยวอี้ไม่ได้ยินที่เขาพูดแบบนั้น “หลีกไป!”
ส้งหยาวไม่ขยับ
“ฉันบอกให้หลีกไป!” เย่เสี่ยวอี้ก็เหมือนบ้าไปแล้วแบบนั้น ก็ได้ตะโกนเสียงดัง ใช้ศอกกระทุ้งไปที่ท้องของส้งหยาวอย่างแรง
ส้งหยาวก็ได้เจ็บจนก้มตัว
เย่เสี่ยวอี้ก็ได้อาศัยโอกาสนี้มาเปิดประตู ชนเขาออก พุ่งเข้าไป
ส้งหยาวไม่ได้ตั้งตัวชั่วขณะ ก็ได้ล้มลงไปอย่างไม่เป็นท่า
เห็นแบบนั้น ฟางยู่เชินขมวดคิ้ว
ส้งหยาวก็ได้รีบลุกขึ้น ไม่มีเวลาสนใจความเจ็บจะไปขวางเย่เสี่ยวอี้
เวลานี้ ฟางยู่เชินพูด “ส้งหยาว นายออกไป”
ได้ยินแบบนั้น ส้งหยาวก็ได้รีบหยุดเดิน มองเย่เสี่ยวอี้อย่างไม่วางใจ “ท่านประธาน……”
“ออกไป!”
ส้งหยาวทำได้แค่ออกไปอย่างว่าง่าย ตอนปิดประตูนั้น มองฟางยู่เชินอย่างเป็นห่วงสักพัก ถึงได้ปิดประตูลง
มองเย่เสี่ยวอี้ที่บ้าคลั่งแบบนั้น เขานั้นกลัวว่าท่านประธานจะเป็นอันตราย
เพราะงั้น เขาก็ได้ยืนอยู่ที่หน้าประตู ค่อยระวังเหตุการณ์ข้างในอยู่ตลอด
“เย่เสี่ยวอี้ เธอก็รู้ตั้งแต่แรกว่าฉันไม่ชอบเธอ ก็เข้าใจดีว่าฉันไม่มีทางแต่งงานกับเธอ” ไม่รอให้เย่เสี่ยวอี้เปิดปากถาม ฟางยู่เชินก็ได้พูดออกไปก่อน
“ไม่ต้องพูดอะไรน่าฟังขนาดนี้ ทุกคนต่างก็รู้ว่านายทำเพื่อเหลียงซินเวยนังแพศยานั้น!”
พูดถึงเหลียงซินเวย ใบหน้าของเย่เสี่ยวอี้ก็ยากที่จะปิดบังความเกลียดไว้ได้
ถ้าเกิดเหลียงซินเวยอยู่ต่อหน้าเธอ เธอต้องเข้าไปฉีกตัวหล่อนให้ขาดไปแน่
กล้าที่จะแย่งฟางยู่เชินกับเธอ หล่อนไม่อยากที่จะมีชีวิตแล้ว!
ฟางยู่เชินขมวดคิ้ว “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเวยเวยเลยสักนิด ไม่มีเขา ฉันก็ไม่มีทางแต่งงานกับเธอ! แล้วก็ เอาหมาออกจากปากด้วย!”
“ฉันไม่! เหลียงซินเวยเป็นนังแพศยา เหลียงซินเวยเป็นนังแพศยา เหลียงซินเวยเป็นนังแพศยา!”
เย่เสี่ยวอี้จงใจพูดไปหลายครั้ง มองเขาที่มีสีหน้าไม่น่าดู ในใจก็ได้มีความรู้สึกสะใจขึ้น
“โมโหแล้วเหรอ? งั้นก็ถูกแล้ว นายโมโหขนาดไหน ตอนนี้ฉันก็โมโหขนาดนั้น”
มองเย่เสี่ยวอี้ที่มีท่าทางไร้เหตุผลแบบนี้ ฟางยู่เชินรู้สึกว่าถ้ายังยืดเยื้อกับเธอต่อไป ไม่มีประโยชน์เลยสักนิด ก็ได้พูดออกไปตรงๆ ว่า “ฉันรู้ยกเลิกสัญญาแต่งงานก็มีผลกระทบต่อเย่ซื่อกรุ๊ป ต่อไปถ้ายังมีการร่วมงานกับเย่ซื่อกรุ๊ป ฟางซื่อกรุ๊ปสามารถที่จะหลีกผลประโยชน์ให้ร้อยละสอง”
“นายคิดว่าเย่ซื่อกรุ๊ปต้องการบุญที่นายให้เล็กน้อยนี้เหรอ?” เย่เสี่ยวอี้ก็ได้โมโหจนหัวเราะ “นายไม่เคารพตระกูลเย่ และก็ไม่เคารพฉัน!”
ฟางยู่เชินหัวเราะ ถามกลับ “ขอถามหน่อยฉันยังต้องเคารพเธอยังไง เคารพตระกูลเย่ยังไง?”
“เรื่องสัญญาแต่งงานสองตระกูลนั้น นับอะไรนายจะแถลงข่าวยกเลิกก็ยกเลิก? นายได้ถามฉันถามตระกูลเย่หรือยัง?”
ฟางยู่เชินไม่ตอบ
เย่เสี่ยวอี้ก็ได้โมโหกว่าเดิม “นายพูดสิ! นายนับฉันกับตระกูลเย่เป็นอะไร?”
“ความหมายของฉันได้สื่อไปชัดเจนแล้ว เรื่องการแต่งงานมันเป็นไปไม่ได้แล้ว!”
ได้ยินฟางยู่เชินพูดแบบนี้ เย่เสี่ยวอี้ก็ได้กำหมัดแน่น กัดฟันแล้วพูดว่า “ฟางยู่เชิน นายใจร้ายมาก! ฉันบอกนายไว้เลยนะ ฉันไม่มีทางหยุดแน่!”
พูดประโยชน์นี้จบ เย่เสี่ยวอี้ก็ได้หันตัวเดินออกไป
ตอนที่เปิดประตูนั้น ส้งหยาวที่ยืนอยู่ข้างนอกก็ได้ตกใจ มองเธออึ้งๆ
“ดูอะไร! หลีกไป!”
ส้งหยาวก็ได้รีบหลีกทาง มองเธอออกไป ถึงได้หันไปเดินเข้าห้องทำงาน ก็ได้เจอกับนัยน์ตาที่ดำสนิทของฟางยู่เชินพอดี
“ท่านประธานครับ คุณมีอะไรจะสั่งไหมครับ?”
“ช่วยฉันหาคน คนที่ต่อสู้เก่ง มีสมอง”
ส้งหยาวก็ได้อึ้งไปสักพัก ถาม “คุณอยากที่จะหาบอดี้การ์ดเหรอครับ?”
“ใช่มั้ง”
สายตาฟางยู่เชินได้เข้มลง สั่งไปว่า “หาเสร็จแล้ว ให้พวกเขาไปปกป้องพวกเวยเวย”
ส้งหยาวเข้าใจเลยทันที
ท่านประธานกำลังกลัวว่าตระกูลเย่กับเย่เสี่ยวอี้โมโหจัดแล้วก็ไปทำอันตรายกับว่าที่คุณนายประธานเข้า
เขาก็ได้รีบรับปาก “ครับ” แล้วก็รีบไปจัดการ