ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1349 หม่ามี๊ถูกคนจับตัวไปแล้ว!
วางแผนเดินทางเสร็จแล้ว เจียงสื้อสื้อก็ได้เริ่มเก็บกระเป๋าเดินทาง ต้องใช้กระเป๋าเดินทางสี่ใบจึงจะพอดี
“ออกบ้านครั้งหนึ่ง ไม่ง่ายเลยจริงๆ” เจียงสื้อสื้อก็ได้บ่นออกมาคำอย่างอดไม่ได้
จิ้นเฟิงเฉินหัวเราะเบาๆ เอากระเป๋าเดินทางวางข้างกำแพง ถึงได้กอดเจียงสื้อสื้อเข้ามาในอ้อมกอด จูบหน้าผากเธอ “ลำบากเธอแล้ว”
“ลำบากอะไรกันคะ ฉันก็แค่บ่นไปงั้นๆ” เจียงสื้อสื้อเงยหน้า เป็นไปอย่างที่คิดก็ได้เจอกับสายตาที่อ่อนโยนของเขา
วิต่อมา ริมฝีปากก็ได้จูบมาอย่างอ่อนโยน กอดกันทั้งคืน
พอได้ปรึกษากับเสี่ยวเป่าเถียนเถียนแล้วว่าไปที่อังกฤษก่อน แล้วค่อยไปที่เดนมาร์กแล้วนั้น จิ้นเฟิงเฉินก็ไปจองตั๋วให้เสร็จเรียบร้อย
วันที่ออกเดินทาง สี่คนทั้งครอบครัวก็ได้ตื่นนอน ทานมื้อเช้าเสร็จ ก็ได้ตรงไปที่สนามบิน
พอได้ตั๋วขึ้นเครื่องแล้วนั้น ตัวแสบสองคนนี้จะไปยอมรอที่ห้องรอขึ้นเครื่องดีๆ ที่ไหน เถียนเถียนก็ได้โวยวายอยากจะกินของหวานห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ นี้
เจียงสื้อสื้อเห็นว่าเวลายังเช้าอยู่ ก็ได้ตกลง
ไปที่ห้างสรรพสินค้า เถียนเถียนก็ได้วิ่งก้าวขาเล็กๆ เข้าไปในร้างของหวานด้วยความดีใจ จิ้นเฟิงเฉินเป็นห่วงว่าเธอจะหลงทาง ก็ได้ตามเข้าไป
เจียงสื้อสื้อจูงเสี่ยวเป่า ก็ได้ค่อยๆ เดินอยู่ข้างหลังพวกเขา
“หม่ามี๊ นั่นสไปเดอร์แมนครับ!” เสี่ยวเป่าก็ได้ยื่นมือไปชี้ที่หนึ่ง พูดออกมาด้วยความเซอร์ไพรส์
เจียงสื้อสื้อก็ได้มองไปตามที่เขาชี้ ก็ได้เห็นหุ่นสไปเดอร์แมนที่ได้มีท่าปีนป่ายอยู่ในที่ไม่ไกลนัก
ตาของเสี่ยวเป่าก็ได้เป็นประกาย เห็นได้ชัดว่าเป็นสายตาที่ได้เห็นของที่ชอบ
“เดี๋ยวถ้าเห็นร้านขายเลโก้ พวกเราก็ซื้อเลโก้สไปเดอร์แมนไปต่อ ดีไหมคะ?” เจียงสื้อสื้อถาม
พอเสี่ยวเป่า ก็ได้ดีใจเลยทันที “ดีครับ!”
“ไปกันเถอะค่ะ พวกเราไปหาแด๊ดดี้กับน้องก่อน”
พูดจบ เจียงสื้อสื้อก็ได้จูงมือเขาเข้าไปที่ร้านขายของหวาน ต่อที่ถึงทางเลี้ยวนั้น ประตูของบันไดหนีไฟข้างๆ อยู่ๆ ก็เปิดออก
มีมือหนึ่งยื่นออกมา คว้าแขนของเจียงสื้อสื้ออย่างแรง หมายที่จะลากเธอเข้าไป!
เธออึ้งไปเลย ยังไม่เห็นเลยว่าอีกฝ่ายหน้าเป็นยังไง แต่ก็แป๊บเดียว ก็ได้ตั้งตัวได้ พยายามออกแรงดิ้น “นายเป็นใคร? ปล่อยฉัน……”
พูดยังไม่ทันจบ ปากก็ได้ถูกอุดไว้ เธอพูดอะไรออกมาไม่ได้แม้แต่คำเดียว
“คนไม่ดี แกปล่อยหม่ามี๊ของฉันนะ!” เสี่ยวเป่าก็ได้พุ่งเข้าไปออกแรงผลักผู้ชาย
ผู้ชายก็ได้ยกขาขึ้น แล้วก็ถีบเสี่ยวเป่าออก
เห็นว่าเสี่ยวเป่าได้ล้มลงไปอย่างแรง เจ็บจนกุมท้อง เจียงสื้อสื้อปวดใจจนร้องไห้ออกมา ก็ได้ออกแรงทั้งหมดที่มีดิ้นให้หลุด
ช่วยไม่ได้เรี่ยวแรงมีน้อย ก็ได้ถูกเขาลากเข้าไปบันไดหนีไฟแบบนั้น
ห้างสรรพสินค้าในเวลานี้ คนน้อยมาก ทางเลี้ยวก็ยิ่งไม่มีใครอยู่เลย ไม่มีคนช่วยเธอได้
คิดถึงตรงนี้ เจียงสื้อสื้อก็ได้กลัวกว่าเดิม
แต่สิ่งเดียวที่ทำให้รู้สึกโชคดีก็คือ อีกฝ่าย……มาหาเธอ ไม่ได้คิดที่จะพาเสี่ยวเป่าไปด้วย
ตอนที่ประตูบันไดไฟหนีไฟปิดไปนั้น เธอก็ได้หลับตา ในใจก็ได้เรียกชื่อจิ้นเฟิงเฉินเงียบๆ
……
จิ้นเฟิงเฉินซื้อของหวานเสร็จ ก็ได้เดินออกจากร้าน มองไม่เห็นเจียงสื้อสื้อกับเสี่ยวเป่า ก็ได้เป็นห่วงอย่างช่วยไม่ได้
“แด๊ดดี้ หม่ามี๊กับพี่ชายทำไมยังไม่มาคะ?”
จิ้นเฟิงเฉินก็ได้ลูบหัวของเถียนเถียน “อาจจะไปเดินเที่ยวร้านอื่นก็ได้ครับ พวกเราลองโทรไปถามหม่ามี๊ว่าอยู่ที่ไหน”
เขาเอาโทรศัพท์ออกมา โทรออกไป สายพึ่งติดก็ได้ถูกตัดสายไป
เขาก็ได้ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ โทรไปอีกครั้ง
คราวนี้ ก็ได้ปิดเครื่องไป
ไม่ใช่!
ต้องเกิดเรื่องอะไรแล้วแน่ๆ
ในใจของจิ้นเฟิงเฉินก็ได้มีลางที่ไม่ดีขึ้นมา
เขาก็ได้อุ้มเถียนเถียนรีบวิ่งไปที่ฝ่ายบริการของห้างสรรพสินค้า ส่งเถียนเถียนให้พนักงานห้างสรรพสินค้า ให้พวกเขาช่วยดูแลสักพัก
“เถียนเถียน เด็กดี แด๊ดดี้ไปหาหม่ามี๊กับพี่ชาย หนูก็รออยู่ที่นี่ดีๆ ไม่ต้องวิ่งเล่น ดีไหมครับ?”
“ค่ะ” เถียนเถียนพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ขนาดนี้ จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ไปที่อื่น แต่เป็นการกลับไปที่ร้านที่ซื้อของหวานอีกครั้ง
ตอนเดินไปครึ่งทางนั้น ก็ได้เจอกับเสี่ยวเป่าก็ได้เตรียมให้พนักงานประกาศหาเขากับเถียนเถียน
เสี่ยวเป่าเห็นเขา ก็ได้วิ่งตรงเข้าไป ตาก็ได้แดง แต่ก็ยังอดทนไม่ร้องไห้ออกมาตลอด “แด๊ดดี้! หม่ามี๊ถูกคนจับตัวไปแล้วครับ!”
“ถูกจับตัวไปตรงไหนครับ?” จิ้นเฟิงเฉินก็ได้จับไหล่สองข้างของเขา ก็ได้กดความร้อนรนในใจ ถามออกไปอย่างอ่อนโยน
เสี่ยวเป่าก็ได้ชี้ไปที่ทางบันไดหนีไฟ “ข้างหน้าทางเลี้ยวบันไดหนีไฟครับ”
จิ้นเฟิงเฉินก็ได้มองไปทางที่เขาชี้ สายตาก็ได้นิ่ง
“เสี่ยวเป่า ไปหาน้องที่ฝ่ายบริการ รอตรงนั้นดีๆ จนการแด๊ดดี้จะกลับมา” จิ้นเฟิงเฉินชี้ไปที่ฝ่ายบริการ
เสี่ยวเป่าเม้มปากแน่น ก็ได้พยักหน้าย่างจริงจัง น้ำตาถึงได้ไหลออกมา เสียงก็ได้สะอึก “แด๊ดดี้ แด๊ดดี้ต้องช่วยหม่ามี๊กลับมาให้ได้นะครับ……”
“ครับ แด๊ดดี้รับปากกับผม” จิ้นเฟิงเฉินก็ได้ลูบหัวของเขา หันตัวแล้วก็วิ่งไปทางบันไดหนีไฟ
เจียงสื้อสื้อถูกคนจับที่บันไดหนีไฟไปที่ลานจอดรถใต้ดิน
พอถึงลานจอดรถ อีกฝ่ายก็ได้ใช้ผ้ามาปิดตาของเธอ มองเห็นแต่ความมืด ความกลัวในใจยิ่งอยู่ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
“อืม จับตัวคนได้แล้ว ได้ ฉันพาไปหาเธอ”
ได้ยินแบบนั้น สองมือเธอก็ได้กำหมัด
ใคร?
ใครกันแน่ที่อยากจะจับเธอ?
“เอาเธอขึ้นรถ”
จากนั้นก็ได้ก็ได้มีคำสั่งของผู้ชายคนหนึ่ง ฝีเท้าได้รีบก้าวเข้ามา พาเธอไปยังทางทางหนึ่ง
ในใจของเจียงสื้อสื้อเข้าใจดี พอตัวเองถูกลากขึ้นรถ ก็หมดกันแล้วจริงๆ
ในหัวก็ได้รีบคิด เธออยากที่จะดิ้น ก้มหน้ากัดมือที่ได้จับมือของตน
อีกฝ่ายเจ็บจนปล่อย
โอกาสมาแล้ว!
เธออาศัยสัญชาตญาณ ก็ได้ยกขาแล้วก็ถีบไปข้างๆ ก็ได้ถีบเข้ากับคนคนหนึ่งพอดี
อีกฝ่ายก็ได้เจ็บจนร้องออกมา ด่าออกมาว่า “นังนี่” ออกแรงจับมือของเธอแล้วก็บิด
เจียงสื้อสื้อเจ็บจนร้องออกมา พยายามให้ตัวเองสงบ ถามอย่างน่ากลัวว่า “พวกนายเป็นใคร? อยากจะทำอะไรกันแน่?”
“คุณเจียง พวกเราเป็นใครไม่สำคัญ ที่สำคัญคือมีคนอยากจะเจอกับคุณ”
“ใคร?” เจียงสื้อสื้อก็ได้เหมือนจะเดาได้แล้วว่าเป็นใคร
“คุณไปเจอก็รู้แล้ว”
พูดจบ อีกฝ่ายก็ได้ลากเธอเดินไปข้างหน้า
“เดี๋ยวก่อน ฉันอยากเข้าห้องน้ำ” เจียงสื้อสื้อก็ได้รีบพูด
“คุณเจียง อย่าคิดเล่นตุกติก ที่นี่คุณหนีไปพ้นหรอก”
“ใครอยากจะเล่นตุกติก ฉันอยากจะเข้าห้องน้ำจริงๆ” สองมือของเจียงสื้อสื้อก็ได้กำแน่น ใจดวงนี้ไม่สงบเลย
รอบด้านก็ได้เงียบไป
ไปสักพัก ผู้ชายที่ได้จับเธอคนนั้น ก็ได้สั่ง “พาเธอไป จำเป็นต้องจับตามองเธออย่างดี”
“ครับ”
ได้ยินแบบนั้น เจียงสื้อสื้อก็ได้ถอนหายใจเบาๆ เป็นแบบนั้น เธอก็สามารถหาโอกาสหนีแล้ว