ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1351 วางแผนให้ดีๆ
“กลับบ้านกัน?” เถียนเถียนทำหน้าบึ้ง “พวกเราจะไปที่ประเทศYไม่ใช่เหรอคะ?”
“ไฟล์บินถูกยกเลิกน่ะ พวกเราต้องไปซื้อไฟล์บินเวลาอื่น” จิ้นเฟิงเฉินหาเหตุผลทั่วไปมาพูด
เถียนเถียนไม่มีข้อสงสัยใดๆ ทั้งนั้น เธอมีใบหน้าที่ผิดหวัง “อืม ก็ได้”
“พวกเราจะไปที่ประเทศYแน่นอน ก็แค่เปลี่ยนวันที่ไปน่ะ” เจียงสื้อสื้อรับประกัน
เถียนเถียนพยักหน้า แสดงให้รู้ว่าตัวเองเข้าใจแล้ว
หลังจากที่จิ้นเฟิงเฉินได้กล่าวขอบคุณพนักงานของทางห้างสรรพสินค้า พวกเขาทั้งครอบครัวก็ออกจากห้างสรรพสินค้า และกลับไปที่บ้านโดยตรง
เมื่อกลับถึงบ้าน จิ้นเฟิงเฉินก็ให้เด็กทั้งสองคนขึ้นไปเล่นบนบ้าน “คุณไปนั่งรอผมที่ห้องรับแขกนะ” หลังจากที่รอให้เด็กทั้งสองขึ้นไปแล้ว จิ้นเฟิงเฉินก็หันมาพูดกับเจียงสื้อสื้อ
เจียงสื้อสื้อเข้าไปนั่งรอในห้องรับแขก และเธอก็เห็นว่าเขาเดินเข้ามาพร้อมกับกล่องยา
เขากุมมือของเธอไว้ ก่อนจะตรวจเช็คบาดแผลตรงฝ่ามือและแขน เมื่อเขาเห็นคราบเลือดที่แห้งแล้ว เขาก็ขมวดคิ้วทันที นัยน์ตาของเขามีแต่ความเจ็บปวด
“เจ็บมากใช่ไหม” จิ้งเฟิงเฉินเงยหน้าสบตาเธอ
เธอส่ายหน้าเบาๆ “ไม่เจ็บแล้ว”
ตอนที่เพิ่งจะเป็นแผลถลอก มันเจ็บมากจริงๆ แต่ว่าตอนนี้ ไม่มีความรู้สึกอะไรแล้ว
“อวดดี”
จิ้นเฟิงเฉินพูดเบาๆ ก่อนจะเปิดกล่องยา หยิบไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์และสำลีทางการแพทย์ออกมา
“อาจจะเจ็บอยู่บ้าง อดทนไว้นะ” จิ้นเฟิงเฉินมองไปที่เธอ
เจียงสื้อสื้อยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น”
ถึงแม้ว่าตัวเธอจะเป็นคนพูดเอง แต่ภายในใจของจิ้นเฟิงเฉินแล้ว เธอสมควรที่จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย
“โอ้ย!”
เพิ่งจะพูดว่าตัวเองไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น ใครจะไปคิดว่าเธอจะเสียหน้าเร็วขนาดนี้
เวลาที่สำลีชุบไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์สัมผัสกับแผล มันเจ็บมากจริงๆ
“ผมจะทำเบาๆ นะ” จิ้งเฟิงเฉินพูด
“ไม่เจ็บ” เจียงสื้อสื้อฉีกยิ้ม แต่ในวินาทีต่อมาเธอก็ขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด
จิ้นเฟิงเฉินเห็น และก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ หลังจากทายาแล้ว เขาก็พูดว่า “ช่วงนี้ก็อยู่บ้านพักผ่อนเยอะๆ ส่วนเรื่องไป ประเทศYก็พับแผนไปก่อนชั่วคราว”
“เถียนเถียน…”
เจียงสื้อสื้อกังวลว่าเถียนเถียนจะเสียใจ
“ผมจัดการเอง” จิ้นเฟิงเฉินพูด
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “ค่ะ”
หลังจากที่เก็บกล่องยาแล้ว จิ้นเฟิงเฉินเงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะถามว่า “คนที่เจอในวันนี้คุณรู้จักหรือเปล่า”
“ไม่รู้จัก”
เขาได้พูดถึงเรื่องที่เกือบจะโดนลักพาตัวไปในวันนี้ เจียงสื้อสื้อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดอย่างไม่แน่ใจ “ฉันคิดว่าบางทีอาจจะเป็นคนของซ่างกวนหยวน”
เมื่อได้ยินชื่อของซ่างกวนหยวน แววตาของจิ้นเฟิงเฉินก็ดูเยือกเย็น
ผู้หญิงคนนั้นเป็นแบบที่เขาคิดไว้ไม่มีผิดเลย เป็นคนที่ไม่ยอมจบเรื่องง่ายๆ
“ถ้าเป็นคนของซ่างกวนหยวนจริงๆ เราอยู่กันที่นี่ก็คงไม่ปลอดภัย” จิ้นเฟิงเฉินพูด
“แล้วจะทำยังไง”
เจียงสื้อสื้อมองไปที่เขาด้วยความสงสัย
เขาเก็บกล่องยา ก่อนจะพูดด้วยท่าทีที่ไม่รีบร้อน “ผมจัดการเอง คุณขึ้นไปพักผ่อนก่อนเถอะ”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “ค่ะ”
เธอที่ตกใจเพราะเรื่องราวในวันนี้ แค่ลงไปนอนบนเตียงเธอก็หลับไปเลยทันที
จิ้นเฟิงเฉินห่มผ้าให้เธอ หลังจากที่เธอหลับไป เขาถึงได้เดินออกมา
เขาไปที่ห้องหนังสือ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมา และโทรไปหาจิ้นเฟิงเหรา
ในสายโทรศัพท์ มีเสียงหยอกล้อของจิ้นเฟิงเหราดังขึ้นอย่างรวดเร็ว
“นี่พี่ พี่ควรจะไปสวีทกับพี่สะใภ้ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมีเวลาโทรมาหาผม?”
“เฟิงเหรา ตอนนี้ที่ที่พี่อยู่ไม่ปลอดภัย พี่ต้องเปลี่ยนบ้านที่อยู่”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ จิ้นเฟิงเฉินรีบลุกขึ้นนั่งตัวตรง และก็จริงจังขึ้นทันที “ทำไม เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า”
จิ้นเฟิงเฉินเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้เขาฟัง
“พี่สะใภ้ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม”
“ได้รับบาดเจ็บน่ะ แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินก็ดูเยือกเย็นมาก
“รู้ไหมว่าฝ่ายตรงข้ามคือใคร”
“คิดว่าเป็นคนของซ่างกวนหยวน80เปอร์เช็นต์”
“เป็นเธออีกแล้วเหรอ!” จิ้นเฟิงเหราโมโหมากๆ “ทำไมเธอถึงได้ไม่จบไม่สิ้นสักที เพราะเธอคิดว่าตระกูลจิ้นของพวกเรารังแกได้ง่ายใช่ไหม”
“ไม่ใช่แค่จะต้องเปลี่ยนที่อยู่ ถ้าเป็นไปได้ นายช่วยส่งคนมาปกป้องพวกพี่ด้วย พี่เป็นห่วงสื้อสื้อและเด็กทั้งสองคน”
“ได้ครับ พี่ ผมจะรีบจัดการเลย”
“ขอบใจมาก”
เป็นเรื่องยากมากที่จะได้ยินคำว่า “ขอบใจ” จากปากของพี่ชาย จิ้นเฟิงเหราจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “พี่ ที่จริงแล้วที่พี่เป็นอยู่ในตอนนี้ก็ไม่เลวเลยนะ อย่างน้อยก็เริ่มเหมือนคนขึ้นมาบ้างแล้ว”
จิ้งเฟิงเฉินทำเสียงขรึม “นายจะหมายความว่าเมื่อก่อนพี่ไม่เหมือนคนเหรอ?”
“ไม่…ไม่ใช่แบบนั้นครับ” จิ้นเฟิงเหรารีบอธิบายทันที “ผมแค่รู้สึกว่าตอนนี้พี่เริ่มมีมนุษยธรรมมากกว่าเมื่อก่อนแล้ว”
“เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว เรื่องที่พี่บอกไปนายจะต้องจัดการให้ดีล่ะ”
เมื่อเขาพูดแบบนี้ ความคิดของจิ้นเฟิงเหราเมื่อครู่นี้ก็หายไปทันที
ถึงแม้ว่าจะความจำเสื่อม แต่เขาก็ยังเป็นจิ้นเฟิงเฉินคนเดิม
ทัศนคติของเขาที่ไม่เปลี่ยนไปเลยก็คือจะไม่ยอมให้คนอื่นพูดแทรก
“พี่วางใจเถอะ ผมจะจัดการให้เป็นอย่างดีเลย”
จิ้นเฟิงเฉินวางสาย ก่อนที่ดวงตาของเขาจะหรี่ลงช้าๆ เผยให้เห็นถึงความเย็นชาที่เป็นอันตราย
ถ้าซ่างกวนหยวนกล้ามาทำให้สื้อสื้อได้รับบาดเจ็บแม้แต่นิดเดียว เขาจะไม่มีทางปล่อยคนในตระกูลซ่างกวนไปแน่นอน
ในขณะเดียวกัน ซ่างกวนหยวนเดินไปเดินมาด้วยความกังวล และคอยมองไปที่โถงทางเดินเรื่อยๆ
อีกไม่นาน เธอก็จะได้เจอกับเฟิงเฉินแล้ว และที่สำคัญเขาจะต้องกลับมาอยู่ข้างกายเธอ
เจี่ยงฉือกลับไปที่บ้านพัก ซ่างกวนหยวนรีบเดินเข้ามาต้อนรับด้วยความดีใจ
เจี่ยงฉือรู้อยู่แก่ใจว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอนั้นไม่ใช่ของเขา แต่เป็นของจิ้นเฟิงเฉิน
“แล้วเขาล่ะ?” ซ่างกวนหยวนยื่นหน้าไปมอง เมื่อมองไปที่ด้านหลังของเขา เธอก็ไม่เห็นคนที่เธออยากจะเจอ
“จับตัวมาไม่ได้”
ตอนแรกเขาตั้งใจว่าจะใช้เจียงสื้อสื้อเป็นตัวหลอกล่อจิ้นเฟิงเฉิน และพาทั้งสองคนมาพร้อมกัน
ใครจะไปคิดว่า มันจะไม่เป็นไปตามแผนแบบนี้
จิ้นเฟิงเฉิน รับมือได้ยากกว่าที่เขาคิดเอาไว้
“นอกจากคุณจะจับตัวคนเอาไว้ไม่ได้ แม้แต่เฟิงเฉินคุณก็ไม่สามารถเอาตัวกลับมาได้?” ซ่างกวนหยวนหรี่ตาลง และถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เมื่อเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันทีของเธอ ถึงแม้เขาจะสามารถคาดเดาได้ตั้งแต่แรก แต่เจี่ยงฉือก็ยังคงรู้สึกอึดอัดอยู่ในใจเล็กน้อย
เจี่ยงฉือเดินผ่านตัวเธอไป เขาเดินไปทางห้องรับแขกและพูดว่า “คุณไม่ได้บอกผมนี่ว่าจิ้นเฟิงเฉินจะมีความสามารถขนาดนี้ พวกเราต่างก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”
“นี่คุณกำลังโทษฉันอยู่เหรอ?” ซ่างหวนหยวนหันตัวกลับ มองไปที่เขาด้วยสายตาไม่พอใจ
“อย่างที่พูดไป รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” เจี่ยงฉือพูด
ซ่างกวนหยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แต่ฉันรู้สึกว่าก็เพราะคุณมันเป็นคนไร้ความสามารถ!”
เธอเดินไปเดินมา ก่อนจะนั่งลงตรงหน้าเขา ใบหน้าของเธอดูไม่พอใจมาก “ฉันไม่เชื่อว่าพวกคุณมีคนเยอะขนาดนี้แล้วจะยังไม่สามารถจัดการเขาได้”
“ก็จัดการไม่ได้จริงๆ” เจี่ยงฉือเอนตัวลงบนโซฟา ก่อนจะยกมือขึ้นพิง ด้วยท่าทีเบื่อหน่าย
เขารู้ว่าจิ้นเฟิงเฉินเป็นบุคคลที่น่ากลัวด้านธุรกิจ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีความสามารถขนาดนี้
นี่เป็นเพราะเขาประมาทเกินไป
“ฉันไม่สน คุณรับปากฉันไว้แล้ว ว่าคุณจะช่วยฉัน” ตอนนี้ซ่างกวนหยวนต้องพึ่งพาเขา แบบนี้ถึงจะมีโอกาสทำให้จิ้นเฟิงเฉินกลับมาอยู่ข้างกายเธอ
“ช่วยอยู่แล้ว ผมช่วยอยู่แล้ว แต่เรื่องแบบนี้จำเป็นต้องวางแผนให้ดีๆ ไม่สามารถจะลงมือได้ทันที” เจี่ยงฉือพูดอย่างระมัดระวัง
“แล้วคุณคิดว่าจะทำยังไง?” หลังจากที่ซ่างกวนหยวนถามออกไป แววตาของเธอก็ปรากฏให้เห็นถึงความโหดร้าย “แต่ไม่ว่าคุณจะทำวิธีอะไร ยังไงคุณก็จะต้องทำให้จิ้นเฟิงเฉินและยัยบ้าสื้อสื้อแยกจากกันให้ได้!”
เจี่ยงฉือก้มหน้าลง ก่อนจะเงียบไปพักใหญ่ จากนั้นเขาก็เงยหน้ามองเธอ “ทำไมคุณถึงชอบจิ้นเฟิงเฉิน เป็นเพราะอำนาจของตระกูลจิ้นหรือเป็นเพราะตัวเขาเอง?”
ซ่างกวนหยวนหัวเราะออกมา “แม้ว่าตระกูลซ่างกวนอาจจะไม่สู้ตระกูลจิ้นไม่ได้ แต่ฉันไม่ใช่คนประเภทที่โลภในอำนาจ”
“นั่นก็เป็นเพราะตัวเขาเอง” เจียงเฉิงรับรู้ทันที