ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1352 คงต้องให้สิ่งตอบแทนกันบ้าง
ใบหน้าของซ่างกวนหยวนเผยให้เห็นถึงความภาคภูมิใจ “เฟิงเฉินเป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบเจอมา และก็มีเพียงเขาเท่านั้นที่คู่ควรกับฉัน”
“ผมก็ไม่ได้แย่นี่ ลองพิจารณาผมไหมล่ะ?” เจี่ยงฉือพูดด้วยท่าทีที่ดูกึ่งล้อเล่นและดูกึ่งตั้งใจ
“เมื่อก่อนตอนที่คุณจีบฉัน ฉันยังไม่ตอบตกลงเลย ยิ่งเป็นตอนนี้ก็ยิ่งไม่มีทาง”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เจี่ยงฉือพยายามปกปิดความผิดหวังภายในแววตาไว้ ก่อนจะใช้มือจับไปที่หน้าอก และแสดงท่าทีเจ็บปวดออกมา เขาพูดว่า “ทำไมคุณถึงได้ใจร้ายแบบนี้ คุณปฏิเสธผมอีกครั้งแล้ว”
“พอได้แล้ว เลิกเล่นเถอะ ฉันไม่มีอารมณ์มาล้อเล่นกับคุณหรอกนะ” ซ่างกวนหยวนดูไม่ค่อยชอบใจนัก
เจี่ยงฉือทำหน้าจริงจัง “คุณวางใจได้เลย เรื่องที่ผมเคยรับปากคุณไว้ ผมจะต้องทำได้แน่นอน”
ซ่างกวนหยวนหรี่ตาลง “เจียงสื้อสื้อคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าจับตัวเธอมาได้ เดี๋ยวจิ้นเฟิงเฉินก็จะตามมาเอง”
“งั้นก็ต้องรอตอนที่เธออยู่คนเดียว ถึงจะจับตัวเธอได้” ถ้ามีจิ้นเฟิงเฉินอยู่ข้างๆ เธอ พวกเราคงจะลงมือได้ยาก”
เมื่อนึกถึงทักษะที่รวดเร็วและแม่นยำของจิ้นเฟิงเฉิน แววตาของเจี่ยงฉือก็ดูเย็นชาขึ้น เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะได้มาพบเจอกับคู่ต่อสู้ที่มีฝีมือขนาดนี้
“งั้นก็คิดหาวิธีทำให้เธออยู่คนเดียว”
ซ่างกวนหยวนพูดได้อย่างสบายๆ ทำเหมือนว่ามันเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่ายมากๆ
ทันใดนั้นเจี่ยงฉือก็ลุกขึ้น ก่อนจะเข้าไปใกล้เธอ
“คุณจะทำอะไร?” ร่างกายของซ่างกวนหยวนถอยไปด้านหลังเรื่อยๆ
“หยวนหยวน” มือของเจี่ยงฉือแนบไปที่หูของเธอ และอีกมือก็เฉยคางเธอขึ้น ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปาก “การที่คุณให้ผมช่วยคุณทำเรื่องพวกนี้ คุณก็ควรจะให้อะไรตอบแทนบ้าง?”
ในขณะที่พูด เขาก็ก้มหน้าลงไปจูบเธอ
ซ่างกวนหยวนหันหน้าหลบทันที เธอพยายามกดความรู้สึกรังเกียจไว้ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “มันยังไม่สำเร็จเลย คุณจะรีบทำไมกัน”
เจี่ยงฉือมองดูสีหน้าของเธอที่ปฏิเสธสิ่งนี้ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้น ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดัง “คุณพูดถูก ผมจะรีบทำไมกัน แต่ผมก็รู้สึกว่าผมควรจะได้อะไรตอบแทนบ้าง ไม่งั้นก็เหมือนทำงานไปเสียเปล่า”
ซ่างกวนหยวนรับรู้ถึงคำพูดข่มขู่ของเขา แววตาของเธอดูหม่นหมอง ก่อนที่เธอจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณวางใจเถอะ แค่คุณช่วยฉัน สิ่งที่ฉันตอบแทนให้คุณมันจะไม่มีทางทำให้คุณรู้สึกผิดหวังแน่นอน”
“งั้นเหรอ?” เจี่ยงฉือมองสำรวจไปที่เธอ “คุณคิดที่จะยกตัวคุณให้กับผมเหรอ”
ซ่างกวนหยวนลุกขึ้น ก่อนจะเงยหน้าขึ้น “ฉันซ่างกวนหยวนพูดคำไหนคำนั้นมาโดยตลอด”
เจี่ยงฉือพยักหน้า “ดี ผมเชื่อคุณ”
ซ่างกวนหยวนกำมือทั้งสองข้างอย่างแน่น ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกรังเกียจมากแค่ไหน แต่ว่าทุกอย่างยังไม่สำเร็จ เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
……
หลังจากที่จิ้นเฟิงเหราได้รับสายของจิ้นเฟิงเฉิน เขาก็รู้สึกไม่สบายใจตลอดเวลา
เขารีบจัดหาสถานที่พักใหม่ให้กับพวกเขาทันที ซึ่งก็คฤหาสน์ของตระกูลจิ้นในฝรั่งเศส
แต่เรื่องที่จะส่งใครไปดูแลพวกเขาดี มันกลับกลายเป็นปัญหาใหญ่
ไม่ว่าเขาจะส่งใครไป เขาก็ไม่วางใจนัก ถ้าไม่ใช่เพราะจิ้นกรุ๊ปยังต้องการให้เขาดูแล เขาอยากไปด้วยตัวเองด้วยซ้ำ
หลังจากไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว เขาก็เรียกอิ้งเทียนที่อยู่ข้างกายเข้าตลอดให้เข้ามา
“อิ้งเทียน นายรู้ไหมว่าที่ฉันเรียกนายมาที่นี่เพื่ออะไร?”
อิ้งเทียนส่ายหัว
จิ้นเฟิงเหราเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ พูดว่า “พี่ชายและพี่สะใภ้ของฉันพบเจอปัญหาที่ฝรั่งเศส ฉันอยากจะส่งนายให้ไปดูแลพวกเขา”
แค่ได้ยินว่าเป็นเรื่องของจิ้นเฟิงเฉิน อิ้งเทียนก็ก้มหน้าลง “ครับ”
ไม่เห็นว่าเขาตอบรับอย่างรวดเร็ว จิ้นเฟิงเหราก็หัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่ได้ “จะได้กลับไปอยู่ข้างกายพี่ชายของฉันแล้ว นายคงจะตื่นเต้นมากใช่ไหม”
อิ้งเทียนและกู้เนี่ยนต่างก็คือคนที่พี่ชายเขาฝึกอบรบมากับมือ ในตอนที่เขารับช่วงต่อจากจิ้นกรุ๊ป พี่ชายของเขาก็ให้อิ้งเทียนมาอยู่ข้างกายเขาคอยช่วยเหลือเขา
“ไม่ขนาดนั้นครับ” อิ้งเทียนรู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้าง แต่สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ คุณชายใหญ่กำลังตกอยู่ในอันตราย เขาอยากที่จะไปอยู่ข้างกายเขาและปกป้องเขาทันที
“งั้นนายก็พายามมืดไปด้วยสักคนสองคน และรีบออกเดินไปทางไปฝรั่งเศสทันที” จิ้นเฟิงเหราพูด
“ครับ”
อิ้งเทียนรับคำสั่งและออกไปทันที
ในขณะเดียวกันทางฝั่งฝรั่งเศส จิ้นเฟิงเฉินก็ได้พาเจียงสื้อสื้อและเด็กน้อยทั้งสองคน ไปที่คฤหาสน์ของตระกูลจิ้น
คนในคฤหาสน์หลังจากที่ได้เห็นพวกเขาต่างก็รู้สึกดีใจกันมาก และรีบวิ่งเข้ามาต้อนรับพวกเขาให้เข้าไปทันที
“คุณชายใหญ่ครับ คุณกับคุณนายหญิงมาถึงฝรั่งเศสตอนไหนกันครับ ทำไมถึงไม่ได้บอกผมให้ส่งคนไปรับที่สนามบินครับ” พ่อบ้านถามด้วยความสงสัย
“มาพักหนึ่งแล้วน่ะ” จิ้นเฟิงเฉินตอบ
“พักหนึ่ง?” พ่อบ้านขมวดคิ้ว “แล้วทำไมพวกคุณถึงไม่มาพักที่คฤหาสน์ครับ?”
“ตอนแรกคิดว่าจะอยู่แค่ระยะสั้น แล้วก็ไปประเทศอื่นต่อ แต่ก็เกิดเรื่องกะทันหันขึ้นก่อนน่ะ”
เมื่อพ่อบ้านได้ยิน ก็เป็นกังวลทันที “ไปเจอเรื่องอันตรายมาหรือเปล่าครับ”
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า แต่ก็ไม่ได้เล่ารายละเอียดให้ฟัง ก่อนที่เขาจะถามอย่างตรงไปตรงมา “ที่นี่ปลอดภัยหรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินว่าเขาถามแบบนี้ พ่อบ้านก็รีบพูดขึ้นทันทีว่า “ที่นี่ปลอดภัยแน่นอนครับ”
“ดี”
จิ้นเฟิงเฉินหันไปมองเจียงสื้อสื้อ ก่อนจะพูดว่า “พวกเราพักกันที่นี่ก่อนชั่วคราวนะ และหาเวลากลับประเทศกัน”
“กลับประเทศ?” เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว
“อืม สำหรับตอนนี้ในประเทศคือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด”
เจียงสื้อสื้อครุ่นคิดอย่างตั้งใจ ก่อนจะพูดอย่างเห็นด้วย “อืม ในเมืองจิ่น ฉันคิดว่าคงไม่มีใครที่ไม่เกรงกลัวต่อตระกูลจิ้น”
นอกเสียจากซ่างกวนหยวนจะไม่สนใจชื่อเสียงของตระกูลซ่างกวนจริงๆ ยังไงเธอก็ไม่กล้าทำอะไรแน่นอน
“ดังนั้น พวกเราหาวิธีกลับประเทศกัน” จิ้นเฟิงเฉินพูด
เจียงสื้อสื้อยิ้มออกมา “อืม ฟังคุณทุกอย่างเลย”
วันถัดมา อิ้งเทียนก็มาถึงที่ประเทศฝรั่งเศส
การมาของเขา ทำให้เจียงสื้อสื้อรู้สึกวางใจมากขึ้น
“เฟิงเหราเป็นคนให้นายมาที่นี่เหรอ?” เจียงสื้อสื้อถาม
อิ้งเทียนพยักหน้า “ครับ คุณชายรองส่งผมมาดูแลพวกคุณครับ”
“เขาคือ?” จิ้นเฟิงเฉินมองไปทางอิ้งเทียน ก่อนจะมองไปทางเจียงสื้อสื้อด้วยสายตาที่สงสัย
เจียงสื้อสื้อพูดแนะนำ “เขาเป็นผู้ช่วยของคุณเหมือนกัน เพียงแค่ว่าเขาถูกคุณส่งตัวให้ไปช่วยเหลือเฟิงเหราน่ะ”
“ตอนนี้คุณชายใหญ่เป็นยังไงบ้างครับ?” อิ้งเทียนถามด้วยความกังวล
“นอกจากที่เขาจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ อย่างอื่นก็ปกติดีทุกอย่าง”
อิ้งเทียนขมวดคิ้ว “แม้แต่พวกหานยู่ก็ไม่มีวิธีใช่ไหมครับ?”
“มี พวกเขากำลังวิจัยเรื่องยาที่ช่วยรื้อฟื้นความทรงจำอยู่ แต่เพราะว่าอีกฝ่ายใช้ยาจำนวนมากกับเฟิงเฉิน ก็เลยทำให้ไม่สามารถรื้อฟื้นความทรงจำได้ง่ายขนาดนั้น”
อิ้งเทียนกลัวว่าเธอจะเสียใจ เลยพูดปลอบโยน “คุณนายหญิงครับ คุณวางใจเถอะครับ ยังไงคุณชายใหญ่ก็จะจำทุกอย่างได้ครับ”
เจียงสื้อสื้อยิ้มออกมา “อืม”
เธอกับจิ้นเฟิงเฉินมองหน้ากัน ก่อนจะพูดว่า “อิ้งเทียน นายไปตรวจสอบสิว่าคนที่ต้องการจะจับตัวฉันในวันนั้นคือใคร”
“ครับ ผมจะไปตรวจสอบตอนนี้เลย”
อิ้งเทียนรับคำสั่งก่อนจะหันตัวเดินออกไป
หลังจากที่มองดูเขาเดินออกไป จิ้นเฟิงเฉินเลยถามขึ้นมา “ความสามารถของเขาเป็นยังไงบ้าง?”
เจียงสื้อสื้อหันไปมองเขา ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย “คนที่คุณฝึกอบรมมากับมือ แล้วคุณคิดว่าความสามารถเขาจะแย่ไหมล่ะ?”
“ถ้าอย่างนั้น ต้องมีฝีมือที่ไม่เลวแน่เลย” เขาพูดอย่างมั่นใจ
เจียงสื้อสื้อยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้ “แน่นอนอยู่แล้ว”
……
อิ้งเทียนไม่ทำให้พวกเขาผิดหวังจริงๆ ด้วย เขาตรวจสอบอย่างรวดเร็วก่อนจะได้ผลสรุปออกมา
“อีกฝ่ายคือกลุ่มทหารรับจ้างเทียนหลังที่มีชื่อเสียงอยู่บ้างในต่างประเทศครับ และเคยได้รับการฝึกอบรมเฉพาะทางมาก่อน”