ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1354 เธอน่าจะบ้าไปแล้ว
ตลอดทางไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกเขาไปถึงสนามบินอย่างราบรื่น มันราบรื่นจนเจียงสื้อสื้อรู้สึกแปลกใจ
หลังจากผ่านจุดตรวจรักษาความปลอดภัย ความตึงเครียดของเธอก็ผ่อนคลายลง เธอหันไปมองที่ล็อบบี้ขนาดใหญ่ของสนามบิน
“มองอะไรอยู่?” จิ้นเฟิงเฉินที่อยู่ข้างกายเธอมองตามเธอไป ก่อนจะถามด้วยความสงสัย
เจียงสื้อสื้อรีบเก็บสายตา ก่อนจะยิ้มให้กับเขา “ไม่มีอะไร พวกเราไปกันเถอะ”
พวกเขาเดินเข้าไปทางช่องทางวีไอพี ก่อนจะขึ้นเครื่องบิน
“คุณชายใหญ่ครับ ตั๋วชั้นหนึ่งมีแค่คนของพวกเรา นอกจากคนของเราและแอร์โฮสเตสแล้ว คนอื่นๆ ไม่สามารถเข้ามาได้ ที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นชั้นธุรกิจหรือชั้นประหยัด ผมก็ได้จัดเตรียมคนเอาไว้แล้ว ถ้ามีอะไรที่ดูแปลกออกไป ผมจะรู้ได้ทันที”
หลังจากที่จิ้นเฟิงเฉันนั่งลง อิ้งเทียนก็เดินมา ก่อนจะรายงานสิ่งที่ตัวเขาได้จัดเตรียมไว้ทั้งหมด
“อืม ไปพักผ่อนเถอะ ตลอดการเดินทางนี้ก็คงต้องลำบากนายแย่เลย” จิ้นเฟิงเฉิงพูด
“ไม่ลำบากครับ”
อิ้งเทียนตอบรับ ก่อนจะหันไปนั่งในตำแหน่งที่นั่งตัวเอง
แต่มันก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้ เพราะตลอดการเดินทางไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย
เครื่องบินลงจอดอย่างราบรื่นที่สนามบินนานาชาติเมืองจิ่น จิ้นเฟิงเฉินเดินออกมาพร้อมกับผู้คนมากมาย เมื่อออกมาเขาก็เห็นจิ้นเฟิงเหราที่มารับพวกเขาทันที
“พี่ครับ”
เมื่อเห็นพวกเขาเดินออกมา จิ้นเฟิงเหราก็รีบวิ่งไปหาทันที
“ทำไมถึงเป็นนายที่มารับพวกพี่?” เจียงสื้อสื้อถามด้วยความสงสัย
“ตอนนี้มันเป็นเหตุสุดวิสัย ถ้าให้คนอื่นมาผมไม่วางใจ” จิ้นเฟิงเหราตอบ
จากนั้น เขาก็มองไปทางอิ้งเทียน “ครั้งนี้ทำได้ดีมาก”
อิ้งเทียนพยักหน้า แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“คุณลุง” เสี่ยวเป่าและเถียนเถียนพูดออกมาพร้อมกัน
เมื่อได้ยินเสียง จิ้นเฟิงเฉินก็ก้มลงไปมองพวกเขา รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็กว้างมากกว่าเดิม “คุณปู่กับคุณย่าคิดถึงพวกหนูมากๆ เลยนะ”
“พวกผมก็คิดถึงคุณปู่กับคุณย่า”เสี่ยวเป่าพูด
“งั้นพวกเรารีบกลับบ้านกันเถอะ” จิ้นเฟิงเหราเงยหน้าขึ้น มองไปทางจิ้นเฟิงเฉินและเจียงสื้อสื้อ ก่อนจะพูดว่า “รีบขึ้นรถเถอะ คุณพ่อกับคุณแม่รอพวกพี่อยู่”
ในขณะที่รถวิ่งอยู่บนถนนอย่างราบรื่น เจียงสื้อสื้อก็หันไปมองถนนที่คุ้นเคยจากทางหน้าต่างรถ ก่อนที่เธอจะถอนหายใจเบาๆ
ตอนแรกเธออยากจะพาจิ้นเฟิงเฉินไปเที่ยวที่ฝรั่งเศส เพื่อไปพักผ่อนให้สบายใจ เพราะบางทีอาจจะสามารถช่วยทำให้เขารื้อฟื้นความทรงจำได้บางส่วน
เธอไม่เคยคิดเลย ว่าแผนการทั้งหมดจะถูกทำลายด้วยวิธีนี้
ถ้าเรื่องราวทั้งหมดซ่างกวนหยวนเป็นคนทำจริงๆ เธอคิดว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะบ้าไปแล้วจริงๆ
แค่ต้องการเฟิงเฉิน เธอสามารถทำได้ทุกอย่างจริงๆ แล้วเธอก็ไม่กลัวกรรมตามสนองด้วย
จิ้นเฟิงเฉินเห็นว่าเธอนั่งมองนอกหน้าต่างอยู่เงียบๆ เขาไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ก็เลยถามออกไปด้วยเสียงเบาๆ “คิดอะไรอยู่”
เจียงสื้อสื้อเก็บความคิดทั้งหมดไว้ ก่อนจะหันไปมองเขา และตอบตามความจริง “ฉันกำลังคิดเรื่องของซ่างกวนหยวน”
“จะคิดถึงเธอทำไม?” เมื่อพูดถึงซ่างกวนหยวน จิ้นเฟิงเฉินก็ขมวดคิ้วทันที สีหน้าก็ดูเยือกเย็น
“ฉันคิดว่าเธอบ้ามากจริงๆ เธอไม่เหมือนกับซ่างกวนหยวนคนที่ฉันรู้จักในตอนแรกเลย”
ในตอนนั้น เธอเห็นว่าซ่างกวนหยวนเป็นเพื่อนคนหนึ่งจริงๆ แต่เธอแค่คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายแล้วความจริงใจของเธอจะโดนเหยียบย่ำ
ถ้าเธอรู้ว่าหลังจากนี้จะเกิดเรื่องราวมากมายขนาดมีขึ้น เธอยอมที่จะไม่รู้จักกับซ่างกวนหยวนเลย
“มันผ่านไปแล้ว ไม่ต้องคิดแล้ว” จิ้นเฟิงเฉินกอดไหล่เธอไว้ เจียงสื้อสื้อเอียงหัวซบลงตรงไหล่ของเขา “อืม มันผ่านไปแล้ว”
รถจอดอยู่ตรงสนาม พ่อจิ้นแม่จิ้นและส้งหวั่นชีงรออยู่หน้าบ้านนานแล้ว เมื่อเห็นว่าพวกเขากลับมาอย่างปลอดภัย ทุกคนต่างก็รู้สึกดีใจ
“คุณปู่ คุณย่า”
เสี่ยวเป่าและเถียนเถียนรถจากรถไปก่อน จากนั้นก็วิ่งไปหาพวกเขา “หลานรัก ในที่สุดพวกหนูก็กลับมา คุณย่าคิดถึงพวกหนูมากๆ เลย” แม่จิ้นคุกเข่าลงและกอดพวกเขาไว้ เธอมีความสุขมาก
“พ่อครับ แม่ครับ พวกเรากลับมาแล้วครับ”
เจียงสื้อสื้อและจิ้นเฟิงเฉินเดินไปตรงหน้าพ่อจิ้นแม่จิ้นพร้อมกัน
“กลับมาก็ดีแล้ว” พ่อจิ้นมองดูพวกเขาด้วยความอบอุ่น
“พวกแกไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม” แม่จิ้นเดินเข้ามาสำรวจพวกเขา และถามด้วยความเป็นห่วง
เจียงสื้อสื้อส่ายหน้า “ไม่เป็นอะไรค่ะ”
แม่จิ้นรู้สึกโล่งอก “เฟิงเหราเล่าเรื่องที่พวกแกเจอเรื่องอันตรายที่ฝรั่งเศสให้พวกเราฟังแล้ว แม่ตกใจหมดเลย”
เฟิงเฉินเล่าเรื่องทั้งหมดนี้ให้คุณพ่อคุณแม่ฟังเหรอ?
เจียงสื้อสื้อมองไปทางจิ้นเฟิงเหรา เฟิงเหราจับไปที่จมูกของตัวเอง ก่อนจะยิ้มด้วยเขินอาย “แค่หลุดปากน่ะครับ”
ที่จริงเขาก็ไม่อยากจะบอกกับคุณพ่อคุณแม่ เพียงแต่ว่าตอนที่เขากำลังพูดกับหวั่นชีงอยู่ คุณแม่บังเอิญมาได้ยินเข้า
เมื่อแม่จิ้นได้ยินคำพูดนี้ ก็เลยรู้สึกแปลกๆ “สื้อสื้อ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าแม่บังเอิญได้ยินเข้า พวกหนูตั้งใจที่จะปิดบังแม่เหรอ?”
เจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉินมองหน้ากัน ก่อนจะตอบว่า “คุณพ่อ คุณแม่ ผมก็แค่ไม่อยากจะให้คุณพ่อคุณแม่เป็นห่วง”
“แม่รู้ว่าพวกแกไม่อยากจะให้พวกเราเป็นห่วง แต่ว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ควรจะมีเรื่องปิดบังกันถึงจะถูก” แม่จิ้นถอนหายใจออก
“คุณแม่ อย่าโมโหไปเลยค่ะ หลังจากนี้พวกเราจะไม่ปิดบังคุณแม่กับคุณพ่อแล้ว” เจียงสื้อสื้อเดินไปข้างหน้า และกุมมือเธอไว้
แม่จิ้นตบไปบนมือของเธอเบาๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “แม่ไม่โกรธหรอก แม่ก็แค่เป็นห่วงพวกหนู ไม่อยากจะให้พวกหนูแบกรับอะไรมากมายขนาดนั้น”
เจียงสื้อสื้อรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก ดวงตาเธอแดงก่ำ เธอกางแขนออกก่อนจะกอดแม่จิ้นไว้ “คุณแม่ เราขอโทษ หนูไม่แน่ปิดบังคุณพ่อคุณแม่เลย”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร” แม่จิ้นตบไหล่เธอเบาๆ
ส้งหวั่นชีงที่อยู่ข้างๆ ก็หันหน้าไปเช็ดน้ำตา ก่อนจะหัวเราะออกมาและพูดว่า “พอแล้วค่ะ พวกเราอย่ายืนตากลมอยู่ข้างนอกเลย มีเรื่องอะไรเข้าไปคุยกันในบ้านนะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เจียงสื้อสื้อก็ปล่อยแม่จิ้นออก ก่อนจะฉีกยิ้ม “หวั่นชีงพูดถูกค่ะ พวกเราเข้าไปกันเถอะ”
คนในครอบครัวต่างก็ทยอยเข้าไปในบ้าน หวั่นชีงได้พาเสี่ยวเป่าและเถียนเถียนขึ้นไปดูน้องชายด้านบน ส่วนคนอื่นๆ ก็นั่งอยู่ในห้องรับแขก
แม่จิ้นดึงเจียงสื้อสื้อให้มานั่งข้างๆ ตัวเอง ก่อนจะกุมมือเธอไว้ และหันไปพูดกับจิ้นเฟิงเฉิน “ก่อนที่จะตรวจสอบเรื่องราวทั้งหมดให้ชัดเจน พวกแกห้ามไปไหนอีกเด็ดขาด เข้าใจไหม?”
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า “ครับ”
การกลับประเทศครั้งนี้ เขาตั้งใจแต่แรกว่าจะอยู่ในประเทศจนกว่าจะตรวจสอบเรื่องทั้งหมดให้ชัดเจน
“รู้ไหมว่าใครเป็นคนทำ?” พ่อจิ้นถาม
“ยังไม่รู้ครับ” คนที่ตอบก็คือจิ้นเฟิงเหรา “อิ้งเทียนยังตรวจสอบอยู่ครับ สถานการณ์ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งอื่น ฝ่ายตรงข้ามหลบอยู่ในที่มืด และพวกเขาก็ใช้เงินจ้างทหารรับจ้าง ที่สำคัญเป้าหมายของพวกมันก็คือพี่สะใภ้ มันไม่สามารถจะตรวจสอบให้ชัดเจนได้รวดเร็วขนาดนั้นครับ”
“คงไม่ใช่ซ่างกวนหยวนใช่ไหม?” แม่จิ้นครุ่นคิด สุดท้ายเธอก็นึกถึงแค่ซ่างกวนหยวน
เพราะอย่างไรก็ตาม เธอไม่เคยตายใจกับเฟิงเฉินเลย
“คุณแม่ หนูก็เดาว่าเป็นเธอ” เจียงสื้อสื้อมองไปที่คนอื่นๆ ก่อนจะพูดต่อว่า “ตอนนี้นอกจากซ่างกวนหยวนแล้ว หนูก็ไม่สามารถนึกถึงคนอื่นได้เลยค่ะ”
เบอร์เกนมีคนเป็นของตัวเอง เขาไม่จำเป็นต้องไปเสียเงินเพื่อจ้างคนอื่น
นอกจากซ่างกวนหยวนแล้ว ก็ไม่มีคนอื่นแล้วจริงๆ
พ่อจิ้นมีสีหน้าเคร่งขรึม เขาคุณคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะพูดออกมาว่า “เฟิงเหรา พรุ่งนี้เราไปทีเมืองหลวงกัน”
“หา?” จิ้นเฟิงเฉินชะงักไป เขาไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่คุณพ่อต้องการจะสื่อ
จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว “คุณพ่อ พ่อจะไปที่ตระกูลซ่างกวนเหรอ?”
เมื่อเขาถามออกไป แม่จิ้นและเจียงสื้อสื้อก็หันไปมองพ่อจิ้น
ได้ยินฟังพ่อจิ้นพูดว่า “พ่อจะไปที่ตระกูลซ่างกวนจริงๆ พ่อรู้สึกว่ายังไงก็ต้องพูดกับนายท่านหญิงซ่างกวนให้รู้เรื่อง ไม่อย่างงั้นพวกเขาจะคิดว่าตระกูลจิ้นนั้นรังแกได้ง่าย”
“ใช่ แม่เห็นด้วยกับพ่อ” แม่จิ้นรีบพูดเห็นด้วยทันที “ครั้งก่อนที่ซ่างกวนหยวนมาโวยวายถึงที่บ้าน พวกเราไม่น่าจะปล่อยไปเฉยๆ เลย”
“ซ่างกวนหยวนมาที่บ้านเหรอ?” เจียงสื้อสื้อไม่คิดว่าซ่างกวนหยวนจะกล้าได้ขนาดนี้ นี่กล้าเข้ามาโวยวายในบ้านเลยเหรอ
“อืม” แม่จิ้มพยักหน้า “แม่ไม่เคยเจอคนที่หน้าด้านได้ขนาดนั้นเลย เธอเอาตัวเฟิงเฉินไปซ่อนไว้ และก็ยังวางยาเฟิงเฉินด้วย พวกเรายังไม่ทันคิดบัญชีเก่ากับเธอเลย แต่เธอกล้ามาก กล้าเข้ามาโวยวายถึงในบ้าน และบอกให้พวกเราเอาตัวเฟิงเฉินคืนให้เธอ
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว “เธอน่าจะบ้าไปแล้วจริงๆ”
น้ำเสียงของเธอมีความไม่พอใจอยู่บ้าง
“เธอคงจะบ้าไปแล้วจริงๆ และน่าจะทำเรื่องที่น่ากลัวอีกมากมาย พวกหนูก็อยู่บ้านกันดีๆ เนี่ยแหละ ในนี้ปลอดภัย” แม่จิ้นรู้สึกกลัว
เจียงสื้อสื้อยิ้มออกมา “คุณแม่ วางใจเถอะค่ะ หนูกับเฟิงเฉินจะไม่ไปที่ไหนเลยค่ะ จะอยู่บ้านเป็นเด็กดี แต่คุณแม่อย่าเบื่อพวกหนูก่อนนะ”
แม่จิ้นมองไปที่เธอด้วยความน้อยใจ “แม่จะเบื่อพวกหนูได้ยังไงกัน แม่ดีใจจะตาย”
หลังจากที่เธอได้พูดคำพูดนี้ออกมา ทุกคนต่างก็พากันยิ้ม