ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1356 ฉันจะไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่นอน
เมื่อได้ยินซ่างกวนเชียนพูดแบบนั้น แม่จิ้นก็รู้สึกโล่งอก
เธอไม่อยากให้เฟิงเฉินกับซ่างกวนเชียนไปพูดคุยกันสองต่อสอง เพราะกลัวว่าซ่างกวนเชียนทำอะไรเฟิงเฉิน
ตอนนี้ เธอก็วางใจแล้ว
“คุณย่าของฉันอยากเจอนาย” ซ่างกวนเขียนพูดอย่างตรงไปตรงมา
จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตาลง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ไร้ความรู้สึก “แต่ฉันไม่อยากเจอนายท่านหญิง”
“คุณย่าของฉันให้ฉันถามนายว่า ลืมสัญญาที่เคยให้กับเธอไว้ใช่ไหม”
จิ้นเฟิงเฉินเงียบไป
“ไม่ว่าจะเป็นสัญญาอะไรก็ตาม ถือว่าไม่นับ!” แม่จิ้นโมโห “พวกแกฉวยโอกาสตอนที่เฟิงเฉินความจำเสื่อม และก็ทำให้เขารับปากเรื่องบางเรื่อง แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร?”
“คุณป้า ไม่ว่าจะนับหรือไม่นับ แต่มันก็เป็นคำพูดที่ออกมาจากปากของจิ้นเฟิงเฉิน” ซ่างกวนเชียนมองไปทางจิ้นเฟิงเฉิน “ประธานจิ้น นายว่าใช่ไหม?”
“เหอะ ตอนนี้พวกแกถึงกับต้องใช้คำว่าสัญญามาบังคับลูกชายฉันแล้วเหรอ?” แม่จิ้นหัวเราะด้วยความโมโห
พ่อจิ้นตบไปที่มือของเธอเบาๆ และพูดปลอบโยนว่า “ไม่ต้องรีบร้อน เรื่องนี้ให้เฟิงเฉินจัดการด้วยตัวเอง”
“อะไรที่ว่าให้เฟิงเฉินจัดการด้วยตัวเอง?” แม่จิ้นโกรธมากกว่าเดิม คนในตระกูลซ่านกวน หน้าด้านกันจริงๆ
พ่อจิ้นมองไปทางจิ้นเฟิงเฉิน ก่อนจะพูดว่า “ความหมายของฉันก็คือ เฟิงเฉินรู้ว่าตัวเองควรจะทำอย่างไร”
ในตอนนั้น จิ้นเฟิงเฉินพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม “ถ้านายท่านหญิงจะใช้เหตุผลที่ว่าซ่างกวนหยวนเคยช่วยชีวิตของฉันไว้ เพื่อมาขอร้องให้ฉันกลับไปในตระกูลซ่างกวน งั้นก็รบกวนนายช่วยบอกกับนายท่านหญิงแทนฉันด้วย ให้เธอลบความคิดนี้ออกไปซะ ฉันสามารถตอบแทนได้ด้วยวิธีอื่น แต่ถ้าจะให้ฉันทิ้งลูกทิ้งภรรยาไป ไม่มีทาง”
ในขณะที่พูด เขาหยุดชะงักไปเล็กน้อย น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นก็ราวกับน้ำแข็ง “ใช่สิ แล้วก็รบกวนนายบอกกับซ่างกวนหยวนด้วย ถ้าเธอยังกล้ามาทำร้ายภรรยาและลูกของฉันอีก ฉันจะไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่นอน”
ซ่างกวนเชียนตกใจ และก็รู้ดีว่าเขาไม่ได้พูดเล่นๆ แน่นอน
“งั้น…ฉันเข้าใจแล้ว วันนี้ก็คงเข้ามารบกวนไม่มากก็น้อย ต้องขออภัยด้วย งั้นฉันขอลาไปก่อน” ซ่างกวนเชียนรู้ว่าถ้าเขายังดื้อด้านต่อไป นอกจากทำให้ตระกูลจิ้นโมโหแล้ว มันก็ไม่มีเรื่องดีเรื่องอื่นเลย
หลังจากพูดจบ เขาก็หันเดินออกไป
แม่จิ้นยังโมโหอยู่ “เขาจะมาอีกไหม”
เธอไม่อยากจะมองเห็นคนในตระกูลซ่างกวนอีกแม้แต่คนเดียว
“คุณแม่ วางใจเถอะ ผมไม่กลับไปที่ตระกูลซ่างกวนหรอก” จิ้นเฟิงเฉินพูด
เขารู้ว่าแม่จิ้นกำลังกังวลอะไรอยู่ เขาก็เลยพูดอย่างชัดเจน เพื่อที่จะไม่ให้เธอเอาแต่กังวลกับเรื่องนี้
……
ตอนที่จิ้นเฟิงเฉินกลับไปในห้อง เจียงสื้อสื้อก็เพิ่งตื่นจากการนอนกลางวัน และเธอก็สามารถรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่เย็นชาของเขาจากการแสดงออก เธอเดินไปยืนอยู่ข้างเขา “เป็นอะไรไป?”
“ทำไมอยู่ๆ ถึงถามแบบนี้?”
จิ้นเฟิงเฉินยิ้นออกมาอย่างห้ามไม่ได้
เจียงสื้อสื้อเอียงหน้าไป ก่อนจะมองสำรวจสีหน้าของเขาอีกครั้ง ก่อนจะพูดพึมพำว่า “รู้สึกว่าคุณมีเรื่องอะไรปิดบังฉันอยู่”
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มก่อนจะกุมมือเธอไว้ จากนั้นก็ดึงเธอไปนั่งอยู่บนเตียง
“เมื่อกี้ซ่างกวนเชียนมาที่บ้าน”
เมื่อเจียงสื้อสื้อได้ยิน เธอก็รีบลุกขึ้นทันที “คุณว่าอะไรนะ?”
จิ้นเฟิงเฉินดึงเธอไว้ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “คุณไม่ต้องกังวล เขาไปแล้ว”
“ไม่ใช่ แล้วเขามาทำอะไร?” เจียงสื้อสื้อนั่งลง เธอครุ่นคิด ก่อนจะพูดออกมาว่า “เขาคงไม่ได้อยากจะมาพาคุณกลับไปที่ตระกูลซ่างกวนใช่ไหม?”
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า
จากนั้นความโมโหก็เพิ่มขึ้นทันที เจียงสื้อสื้อพูดอย่างอดไม่ไหว “เขาเอาหน้ามาจากไหนที่ว่าจะพาคุณกลับไปยังตระกูลซ่างกวน? ซ่านกวนหยวนบ้าไปแล้ว หรือว่าเขาไม่สามารถการแยกแยะเหรอ?”
“ตอนนี้คนในตระกูลซ่างกวนคงจะมีแค่ซ่างกวนเชียนที่มีสติอยู่คนเดียว”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เจียงสื้อสื้อก็สงบลง “คุณพูดถูกแล้ว มีแค่ซ่างกวนเชียนที่ยังมีสติอยู่ ไม่อย่างนั้นในตอนั้นเขาก็คงไม่ได้ช่วยฉันไว้”
ตอนนั้นถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือจากซ่างกวนเชียน เธอก็คงไม่มีทางได้กลายไปเป็นคนใช้ในตระกูลซ่างกวน แล้วก็ไม่มีทางเข้าใกล้เฟิงเฉินได้
หลังจากนั้นก็มีการทำลายงานแต่งงาน ก็เป็นเขาที่ให้ความช่วยเหลือไว้เช่นกัน
แต่ว่าตอนนี้ซ่างกวนหยวนก็ไม่ฟังเหตุผลอะไรแล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าซ่างกวนเชียนจะทำตามที่เธอต้องการ หรือจะหยุดเธอ
“แต่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นคนของตระกูลซ่างกวน”
คำพูดแค่ประโยคเดียวของจิ้นเฟิงเฉินก็สามารถอธิบายทุกอย่างได้
ต่อให้น้องสาวของตัวเองจะทำผิดอย่างไรก็ตาม ยังไงซ่างกวนเชียนก็ช่วยซ่างกวนหยวนอยู่ดี
อย่างเช่นวันนี้
……
ระยะทางไปกลับจากเมืองจิ่น ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวัน
ซ่างกวนเชียนลงจากรถ มันจะยืนอยู่หน้าวิลล่าของตระกูลซ่างกวน เขารู้สึกปวดหัวมาก
ครั้งนี้เขาไม่สามารถพาคนคนนั้นกลับมาได้ หยวนหยวนคงจะอาละวาดแน่ๆ
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน
เมื่อเห็นว่าเขากลับมา พ่อบ้านก็พูดด้วยเสียงเบาๆ “คุณชายครับ นายท่านหญิงกับคุณหนูอยู่ชั้นบนครับ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ซ่างกวนหยวนก็เงยหน้ามองขึ้นไปตรงชั้นสอง อะไรที่ต้องเผชิญหน้าด้วยมันก็คงหนีไม่พ้น
เขาเดินขึ้นไปชั้นบน และเดินไปทางห้องของนายท่านหญิง
ซ่างกวนหยวนก็อยู่ด้วย
เมื่อเห็นเขา ซ่างกวนหยวนก็ดูดีใจมาก เธอรีบถามทันที “แล้วเฟิงเฉินล่ะ?”
ซ่างกวนเชียนมองไปทางเธอ แล้วก็ไม่ได้ตอบอะไรเธอ แต่เขากลับเดินไปอยู่ตรงหน้านายท่านหญิง “คุณย่า ประธานจิ้นไม่ยอมกลับมากับผม”
เมื่อได้ยินแบบนั้น สีหน้าของซ่างกวนหยวนก็ดูขรึมขึ้นทันที เธอถามออกไป “ดังนั้นนายก็เลยกลับมาคนเดียวเนี่ยนะ?”
ซ่างกวนเชียนมองไปที่เธอ เขาไม่ตอบแต่ถามกลับไป “แล้วไม่งั้นจะให้ทำยังไง?”
“ถ้าเขาไม่ยอม ทำไมนายถึงไม่ลักพาตัวเข้ามา?”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ซ่างกวนเชียนก็พยักหน้าด้วยความโมโห ก่อนจะถามกลับไปอีกว่า “นั่นคือตระกูลจิ้น เธอคิดว่าถ้าฉันทำแบบนั้น ฉันจะยังมีชีวิตรอดออกมาจากตระกูลจิ้นอยู่ไหม?”
“ฉันไม่สนใจหรอกว่านายจะมีชีวิตรอดออกมาจากตระกูลจิ้นไหม ฉันต้องการแค่จิ้นเฟิงเฉิน!”
ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเธอนั้นไม่ได้สนใจความเป็นความตายของเขาเลย แต่พอมาได้ยินเข้าจริงๆ เขาก็ยังรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างห้ามไม่ได้
เขาหัวเราะเยาะตัวเอง “ฉันไม่สำคัญสำหรับเธอเลยขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“พอแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว” นายท่านหญิงพูดตัดบท เธอมองไปที่ซ่างกวนเชียน แล้วถามว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้น? แกไม่ได้บอกว่าฉันอยากเจอเขาเหรอ?”
“บอกแล้วครับ แต่เขาพูดว่า…” ซ่างกวนเชียนชะงักไป “เขาจะตอบแทนบุญคุณของหยวนหยวนที่ช่วยชีวิตเขาไว้ด้วยวิธีอะไรก็ได้ แต่ยกเว้นการที่ให้เขาทิ้งลูกทิ้งภรรยาของตัวเอง”
นายท่านหญิงขมวดคิ้ว “เขาพูดแบบนี้เหรอ?”
“ครับ”
เธอหันหน้าไปอีกทาง เธอมองไปทางซ่างกวนหยวนด้วยความเป็นห่วง
เธอเห็นแค่ใบหน้าที่ไม่พอใจของซ่างกวนหยวน เธอกัดฟันและถามออกมา “ทำไมเขาถึงได้ใจร้ายแบบนี้?”
ซ่างกวนเชียนขมวดคิ้ว มองดูท่าทีของเธอที่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ก่อนจะพูดต่อว่า “เขายังพูดอีกว่า ถ้ายังทำร้ายภรรยาและลูกของเขาต่อ…เข้าจะไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่”