ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 137 เป็นฝ่ายรุกเขา
บทที่ 138 หึง
หลังจากฟังเรื่องต่างๆจบ จิ้นเฟิงเฉินก็ขมวดคิ้ว เขาเพิ่งรู้ว่าเจียงสื้อสื้อต้องใช้ชีวิตอย่างทรหดเกินกว่าที่เข้าสืบหรือจินตนาการไว้เสียอีก
เขาอดสงสารเธอไม่ได้ ถ้าได้เจอกับเธอเร็วกว่านี้ก็คงดี เขาจะไม่ปล่อยให้เธอต้องพบเจอกับเรื่องเลวร้ายมากขนาดนี้
คิดๆอยู่ จิ้นเฟิงเฉินก็โอบเจียงสื้อสื้อแน่น เขาเอ่ยสียงทุ้มต่ำน่าหลงใหล “มันผ่านไปแล้ว คนพวกนั้นไม่ควรค่าให้เธอต้องคิดถึงหรือเกลียดชังอีก ลืมความทรงจำเหล่านั้นไปเถอะ”
เจียงสื้อสื้อเผยรอยยิ้มบางๆตรงมุมปาก เธอจิบไวน์แดงที่วางอยู่บนโต๊ะเบาๆ ใบหน้าสวยหมดจดเย็นชาขึ้นเล็กน้อย
“ใช่ มันผ่านมาแล้ว ฉันเองก็สามารถมีชีวิตที่ดีจนถึงตอนนี้ ฉันก็แค่เกลียดที่ทำไมพวกนั้นถึงยังไม่หยุดระรานฉัน ครั้งนี้กล้าทำถึงขนาดนี้ ฉันดูเป็นคนที่ใครอยากจะรังแกยังไงก็ได้หรอ? พวกนั้นทนเห็นฉันอยู่ดีมีสุขไม่ได้เลยสินะ”
เจียงสื้อสื้อจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ที่คนนั้นพวกหาเรื่องเธอ นับตั้งแต่วันที่ออกจากบ้านตระกูลเจียงมา
พวกนั้นจะต้องเห็นเธอตายไปเลยหรือเปล่าถึงจะพอใจ?
ฟังจบ จิ้นเฟิงเฉินก็โอบกอดเธอแน่นกว่าเดิม
“มีฉันอยู่ทั้งคน ต่อไปจะไม่มีใครกล้ามารังควาญเธอได้อีก”
เวลานี้เจียงสื้อสื้อดื่มไปเยอะแล้ว เธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ รู้แค่ว่าตอนนี้มีอะไรในใจอยากพูดเต็มไปหมด เธอฟังที่เฟิงเฉินพูด ก็หัวเราะก่อนจะว่า “ใช่ เพราะมีคุณอยู่ ฉันถึงไม่ค่อยโดนคนอื่นรังแกแล้ว จริงสิ ขอบคุณที่วันนี้คุณช่วยฉันไว้อีกแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะคุณรีบมาช่วยฉันไว้ทัน ตอนนี้ฉันคงนอนอยู่โรงพยาบาล”
เจียงสื้อสื้อยิ่งพูดก็ยิ่งติดลม “จิ้นเฟิงเฉิน ฉันดีใจจริงๆที่ได้รู้จักคุณ ตั้งแต่ที่ออกจากบ้านตระกูลเจียง ฉันก็ตัวคนเดียวมาตลอด ผ่านมาตลอดหลายปี คุณทำให้ฉันได้กลับมาสัมผัสกับความรู้สึกความอุ่นใจที่มีใครบางคนคอยอยู่เคียงข้างคอยปกป้องอีกครั้ง คุณกับเสียวเป่าทำให้ฉันรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านอีกครั้ง…”
คนเรามักจะคลายความจริงหลังดื่มเหล้า สิ่งที่เจียงสื้อสื้อพูดล้วนเป็นสิ่งที่ออกมาจากใจ เธอไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เวลาที่ได้อยู่กับเสียวเป่าและจิ้นเฟิงเฉิน เธอก็รู้สึกเหมือนได้อยู่บ้าน
ทุกครั้งที่เขาโผล่มา เธอก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นปลอดภัย
ทุกครั้งที่เห็นเขากับซูชิงหยิงอยู่ด้วยกัน คนอื่นๆต่างพูดว่าพวกเขากำลังจะแต่งงานกัน ในใจของเธอก็รู้สึกเจ็บปวด คงเป็นเพราะว่าเธอหึงมั้ง!
เธอกลัวว่าตัวเองจะยิ่งถลำลึก ยิ่งอยากหนีไปให้ไกลจากเขาแต่กลับยิ่งอยากเข้าใกล้เขาในทุกวินาที
จิ้นเฟิงเฉินมีท่าทีอ่อนโยน ใบหน้าของเขาประดับรอยยิ้มบางๆ
เจียงสื้อสื้อ การมาของเธอก็ทำให้เขารู้สึกได้ถึงบ้านเช่นกัน
“จิ้นเฟิงเฉินคุณรู้ไหมว่าฉัน…” ชอบคุณจริงๆนะ เป็นครั้งแรกที่ชอบใครสักคนมากขนาดนี้ ชอบมากจนอยากจะอยู่ข้างๆคุณตลอดไป
เจียงสื้อสื้อไม่ได้พูดคำในใจออกมาหมด เธอรู้สึกมวนๆในท้อง เธอรีบจับขอบโต๊ะแล้วอาเจียนลงถังขยะด้วยความทนไม่ไหว
จิ้นเฟิงเฉินเห็นแบบนั้นก็ทนไม่ไหว หลังจากอาเจียนเสร็จเรียบร้อย เขาก็ประคองเจียงสื้อสื้อให้ลุกขึ้น
“ดึกมาแล้ว ไปเถอะ เรากลับกันเถอะ”
“ไม่ ฉันไม่กลับ เหล้าที่คุณสั่งมายังดื่มไม่หมดเลยนะ! ฉันไม่กลับ”
พูดๆอยู่ เธอก็หยิบเหล้าบนโต๊ะขึ้นจะดื่มต่อ จิ้นเฟิงเฉินแย่งขวดออกจากมือเธอ แล้วพูดอย่างใจเย็น “อย่าดื้อสิ เธอดื่มเยอะแล้ว ไม่ต้องดื่มแล้ว”
“ฉันไม่อยากกลับ”
เจียงสื้อสื้อยังโวยวายไม่หยุด สุดท้ายจิ้นเฟิงเฉินจึงต้องใช้วิธีหลอกล่อพาเธอออกจากคลับเฮ้าส์จนได้
ภายในรถ เจียงสื้อสื้อเดี๋ยวก็พูดละเมอเดี๋ยวก็ร้องเพลง…เธอด่าทอคนตระกูลเจียงไปชุดใหญ่ ก่อนจะพูดขอบคุณจิ้นเฟิงเฉินซ้ำอีกเซ็ทนึงเต็มๆ พูดง่ายๆว่าเธอแหกปากเสียงดังไม่หยุด ราวกับคืนนี้จะต้องระบายความโมโหออกมาให้หมด
สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินมีแววจำใจนิดๆ รู้งี้เขาคงไม่พาเธอมาดื่ม เดาว่าพรุ่งนี้เช้าตื่นขึ้นมาแม่สาวน้อยคนนี้คงไม่รู้จะเผชิญหน้ากับเขายังไงแล้วมั้ง!
เดิมทีตั้งใจว่าจะพาเจียงสื้อสื้อไปส่ง แต่พอเห็นสภาพของเธอแบบนี้แล้ว จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกไม่วางใจ
สุดท้ายเขาก็พาเธอกลับมาที่บ้านด้วย
กลับมาเวลาดึกดื่นเที่ยงคืน ทำเอาคนรับใช้ในวิลล่าต่างพากันตื่นตระหนก เห็นคุณชายพาผู้หญิงกลับมาเวลานี้ ทุกคนล้วนมีสีหน้าตกใจ แล้วก้มหน้าซุบซิบกัน
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน? เป็นอะไรกับคุณชายนะ?”
“เหมือนจะเป็นคุณหนูเจียงที่เมื่อก่อนเคยมาที่บ้านหรือเปล่านะ? ดึกป่านนี้ เธอกับคุณชาย…”
“ดูสิดูสิ คุณชายดีกับเธอจังเลย แถมยังถอดรองเท้าให้เธอเองกับมืออีก กรี๊ดดดด อิจฉา!”
……
เจียงสื้อสื้อที่อยู่ในสภาพสะลึมสะลือมาถึงวิลล่าพร้อมกับจิ้นเฟิงเฉิน คงเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ทันทีที่เปลี่ยนมาใส่รองเท้าแตะแล้วเดินเข้ามาในห้องโถง เธอก็รู้สึกร้อนจนอยากถอดเสื้อผ้า
ชุดที่เธอใส่เป็นชุดราตรี หากถอดออกก็จะไม่เหลืออะไรปกปิดร่างกายอีกต่อไป เมื่อเห็นดังนั้น จิ้นเฟิงเฉินก็รีบห้าม
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดอย่างหงุดหงิด “ทำอะไรของนาย? ฉันร้อน ฉันจะถอดเสื้อผ้า ฉันจะนอนแล้ว…”
คนรับใช้ในวิลล่าต่างตกใจไปตามๆกันจากการกระทำของแม่สาวคนนี้ เป็นอย่างที่คิดเลยว่าผู้หญิงที่คุณชายพาเข้าบ้านย่อมไม่ธรรมดา ดึกดื่นป่านนี้ คุณชายกับผู้หญิงคนนี้คงจะไม่มีซัมติงอะไรเกิดขึ้นหรอกนะ?
คนรับใช้ทุกคนต่างก็อดความอยากรู้อยากเห็นไม่ได้ แต่เจียงสื้อสื้อถูกจิ้นเฟิงเฉินโอบเอวเดินขึ้นไป
ชาวไทยมุงที่คิดว่าจะได้เห็นช็อตเด็ดๆก็ต้องผิดหวังไปตามๆกัน ไม่นานทุกคนก็แยกย้ายกันไป
เมื่อมาถึงห้องนอน เจียงสื้อสื้อที่ล้มตัวลงบนเตียงยังโวยวายไม่หยุด
“ฉันไม่นอน ฉันจะดื่มเหล้า คืนนี้ไม่เมาไม่กลับ”
ได้ยินดังนั้น จิ้นเฟิงเฉินก็หัวเราะอย่างระอา
“เธอเมาแล้ว”
“ไม่ ฉันไม่ได้เมา ฉันจะไปดื่ม”
“เอาล่ะ เชื่อฟังนะ คืนนี้เราไม่ดื่มแล้ว”
เจียงสื้อสื้อลุกขึ้นมานั่ง ดวงตาใสๆมองไปยังจิ้นเฟิงเฉิน ท่าทางเธอตอนนี้เหมือนกับเด็กไม่มีผิด
“ไม่ไปดื่มเหล้า งั้นเราไปร้องเพลงกัน! จิ้นเฟิงเฉิน ฉันร้องเพลงเพราะนะจะบอกให้” เพิ่งพูดจบไม่ทันไร เจียงสื้อสื้อก็ว่าต่อ “ช่างเหอะๆ ไม่ไปก็ได้ ดึกขนาดนี้แล้ว นอนดีกว่า”
พูดจบเจียงสื้อสื้อก็เตรียมจะถอดเสื้อผ้าอีก
จิ้นเฟิงเฉินหมดปัญญา เขารีบเข้าไปห้ามเหมือนที่ทำเมื่อกี้
ในเสี้ยวนาทีที่ทั้งคู่ตกอยู่ท่ามกลางความเสน่หา จิ้นเฟิงเฉินระดมจูบลงบนริมฝีปากของเธอ จากนั้นไม่นาน เจียงสื้อสื้อจึงสงบลง ดวงตากลมโตของเธอมองไปยังใบหน้าใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า ยอมให้อีกฝ่ายจูบแต่โดยดี
ริมฝีปากของทั้งคู่ประสานกันไปมา กลิ่นเหล้าอ่อนๆส่งผ่านมาจากอีกฝ่าย ทั้งสองจูบกันเนิ่นนานจนลมหายใจเริ่มเปลี่ยนเป็นหนักหน่วง โดยเฉพาะเจียงสื้อสื้อ จากใบหน้าซีดขาวในตอนแรกค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ
จิ้นเฟิงเฉินเห็นอีกฝ่ายสงบลงในที่สุด ก็ไม่กล้าถลำลึกไปมากกว่านี้ จึงปล่อยเจียงสื้อสื้อให้เป็นอิสระ
เจียงสื้อสื้อสูดอากาศเข้าร่างกาย บางทีคงเป็นเพราะดื่มเยอะเกินไป เธอถึงได้กล้าแบบนี้ เจียงสื้อสื้อในวินาทีนี้รู้สึกยังไม่พอ…
จิ้นเฟิงเฉินตั้งใจจะจากไปแล้วให้หญิงรับใช้เขามาดูแลจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เจียงสื้อสื้อ แต่ทันทีที่ยืนตัวขึ้นมา ใครจะคิดว่าเจียงสื้อสื้อกลับเป็นฝ่ายจู่โจมรัดคอเขาเข้ามาประทับจูบลงอีกครั้ง
จูบของเธอทั้งเร่าร้อนและแสดงถึงความกล้าที่อยู่ภายใน
จากนั้นไม่นาน ไฟในร่างกายของจิ้นเฟิงเฉินก็ได้ปะทุขึ้น บรรยากาศในห้องเปลี่ยนเป็นอบอุ่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว…