ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 139 แผนการของสองแม่ลูกตระกูลซู
บทที่ 139 แผนการของสองแม่ลูกตระกูลซู
จิ้นเฟิงเฉินเริ่มจัดการงานยุ่งๆต่อ เขามีเรื่องที่ต้องให้ซูชิงหยิงไปจัดการ ผู้ช่วยได้ยินจึงบอก ”ซีอีโอ วันนี้คุณซูลาป่วยอยู่บ้านครับ”
ได้ยินดังนั้นจิ้นเฟิงเฉินถึงนึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานเขาทิ้งเธอไว้ในงานคนเดียว ชายหนุ่มแม้มปากอย่างใช้ความคิด “เดี๋ยวไปซื้ออาหารกับของบำรุงส่งไปให้เธอที่บ้าน”
“ครับซีอีโอ” ผู้ช่วยรับปาก แล้วจึงเดินออกจากห้องทำงานไป
……
และในเวลานี้ ณบ้านตระกูลซู ซูชิงหยิงสวมชุดอยู่บ้านนั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา
ความจริงแล้วเธอไม่ได้ป่วยแต่อย่างใด แพงแค่อารมณ์ไม่ค่อยดีก็เท่านั้น
เมื่อคืนจิ้นเฟิงเฉินทิ้งเธอแล้ววิ่งตามเจียงสื้อสื้อออกไปอย่างไม่ไยดี ไหนจะคนในงานที่ลือกันให้แซ่ดว่าจิ้นเฟิงเฉินมีคนที่ชอบอยู่ในใจแล้ว และเธอก็เป็นแค่คุณหนูซูที่คอยตามเกาะแกะเขาก็เท่านั้น งานหมั้นงานแต่งอะไรไม่เคยเกิดขึ้นจริงๆ
เมื่อคืนพอซูชิงหยิงกลับมาถึงบ้าน คงไม่ต้องบอกว่าเธออารมณ์เสียแค่ไหน จากที่คิดว่าตัวเองจะได้มีโอกาสอยู่กับจิ้นเฟิงเฉินสองต่อสอง เป็นที่น่าอิจฉาของทุกคนในงาน แต่ใครจะคิดว่านังเจียงสื้อสื้อนั่นก็อยู่ในงานด้วย เพราะว่ามันถึงทำให้จิ้นเฟิงเฉินทิ้งเธอไว้แล้วหนีออกจากงานไป
เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอนอนไม่หลับทั้งคืน วันนี้ก็เลยขี้เกียจไปทำงาน
คุณหญิงซูที่นั่งอยู่ข้างๆก็พูดปลอบ “ก็แค่ผู้หญิงเก็บที่ไม่มีวันได้ออกหน้าออกตาคนนึง ไม่ต้องโมโหเพราะคนประเภทนี้หรอก”
“คุณแม่จะไม่ให้หนูโมโหได้ยังไงคะ คุณแม่ไม่รู้หรอกว่าเมื่อคืนนี้คนในงานมองหนูอย่างกับเป็นตัวตลก ใครๆก็พูดว่าคุณหนูตระกูลซูเทียบลูกสาวที่โดนทอดทิ้งจากตระกูลเจียงนั่นไม่ติด คุณแม่ดูสิจะไม่ให้หนูโมโหได้ยังไง?”
ไม่กี่นาทีก่อนทุกคนยังพูดกันอยู่ว่าซูชิงหยิงกับจิ้นเฟิงเฉินเป็นบุพเพสันนิวาส เหมาะสมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก แต่วินาทีต่อมาจิ้นเฟิงเฉินกลับวิ่งตามผู้หญิงคนอื่นออกจากงานไป จะไม่ให้เธอเสียหน้าได้ยังไง?
“คุณแม่ตอนนี้หนูชักเริ่มสงสัยแล้วว่านังเจียงสื้อสื้อนั่นมันตั้งใจหรือเปล่า เฟิงเฉินอยู่ที่ไหนมันอยู่ที่นั่น ทุกครั้งที่โผล่มาก็สร้างปัญหาตลอด นังนั่นต้องตั้งใจยั่วพี่เฟิงเฉินแน่ๆ”
แววตาของคุณหญิงซูนิ่งไป “เจียงสื้อสื้อนังตัวดี แม่ไม่เชื่อหรอกว่าเราจะจัดการมันไม่ได้”
ซูชิงหยิงอยากจะสั่งสอนเจียงสื้อสื้อใจจะขาด แต่จิ้นเฟิงเฉินก็ออกโรงปกป้องมันตลอด ถ้าเธอลงมือเองแล้วถูกจับได้คงไม่ดีแน่…
“ไม่ต้องกลัวชิงหยิง เดี๋ยวคุณป้าจิ้นจะมาหา ถึงตอนนั้นเราฟ้องอะไรไปนิดหน่อย ก็รู้ๆอยู่ว่าระดับตระกูลจิ้นไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นคุณป้าจิ้นของเราน่ะเกลียดนังนั่นเข้าไส้ ถ้าเธอรู้เรื่องนี้ มีหวังแม่เจียงสื้อสื้อนั่นได้งานเข้าแน่”
ได้ยินดังนั้น แววตาของซูชิงหยิงก็เปร่งประกาย
จริงสิ! ทำไมเธอถึงคิดไม่ได้นะ?
ขณะนั้นเอง แม่บ้านก็เข้ามารายงาน
“คุณนายคะ คุณผู้หญิงจิ้นมาค่ะ”
คุณหญิงซูลุกขึ้นแล้วรีบพูดกับแม่บ้าน “รีบไปเชิญเธอเข้ามา”
ผ่านไปไม่นาน คุณหญิงจิ้นก็เดินเข้ามา เธอสวมชุดกระโปรงยาวสีขาวขุ่น แต่งตัวอย่างสง่างาม ร่างทั้งร่างเผยออร่าความเป็นผู้ดี
คุณหญิงจิ้นให้คนยกน้ำชากับของหวานมาเสิร์ฟ ซูชิงหยิงก็ลุกขึ้นยืนส่งยิ้มทักทาย
“คุณป้าคะ”
เมื่อเห็นซูชิงหยิง คุณนายจิ้นก็มีสีหน้าตกใจ ก่อนจะถามอย่างสงสัย “ชิงหยิงก็อยู่บ้านด้วยหรอ! วันนี้ไม่ไปทำงานหรอลูก? เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะคุณป้า ก็แค่รู้สึกไม่สบายนิดหน่อยค่ะ”
คุณนายจิ้นแปลกใจเล็กๆ เธอเดินเข้ามาแล้วว่า “ไม่สบาย? ทำไมไม่เห็นเฟิงเฉินพูดเลย? ได้ยินว่าเมื่อคืนเราสองคนไปงานเลี้ยงด้วยกันนี่ หรือว่าเจ้าตัวแสบดูแลหนูไม่ดี?”
ซูชิงหยิงยิ้มๆ แล้วรีบบอกปัด “เปล่าค่ะคุณป้า อาจจะเป็นเพราะเข้าหน้าหนาวแล้ว หนูก็เลยเป็นหวัด ไม่เกี่ยวอะไรกับเฟิงเฉินหรอกค่ะ”
คุณนายซูนั่งอยู่อีกฝั่งก็แค่นเสียงออกมา “เรากำลังปิดบังเพื่อช่วยพี่เขาอยู่น่ะสิ!”
คุณนายจิ้นรู้สึกถึงความไม่ปกติ เธอขมวดคิ้วแล้วถาม “เกิดอะไรขึ้น?”
คุณนายซูลังเลไปนิดนึง ก่อนจะจับมือคุณนายจิ้นขึ้นมากุม “จริงๆแล้วเรื่องนี้ชิงหยิงไม่อยากให้ดิฉันพูดหรอกนะคะ แต่ดิฉันว่าถึงยังไงเราสองตระกูลก็หวังอยากให้เด็กสองคนนี้เขาได้ลงเอยกัน เรื่องบางอย่างก็ควรจะเปิดอกพูดกันตรงๆ”
ยิ่งฟัง คุณนายจิ้นก็ยิ่งสงสัยมากขึ้น
“แน่นอนค่ะ แล้วตกลงเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น? เฟิงเฉินของดิฉันไม่ได้ดูแลชิงหยิงให้ดีหรอคะ?”
ซูชิงหยิงนั่งอยู่ด้านข้าง แกล้งทำเป็นห้ามปรามคุณนายซู
“อย่าเลยค่ะคุณแม่” ว่าจบซูชิงหยิงก็หันไปพูดกับคุณนายจิ้น “เมื่อคืนนี้ไม่มีอะไรจริงๆค่ะคุณป้า”
คุณนายจิ้นไม่เชื่อ เธอหันไปหาคุณนายซูแล้วซักไซ้ “อย่างที่คุณซูบอกนั่นแหละ เราสองตระกูลก็อยากให้เด็กสองคนนี้แต่งงานกัน เพราะฉะนั้นมีอะไรก็ไม่ต้องปิดบังกันหรอกค่ะ ถ้าเฟิงเฉินรังแกอะไรหนูชิงหยิง ดิฉันจะกลับไปจัดการให้เองค่ะ”
สองแม่ลูกทำทีลีลาอยู่ไม่นาน สุดท้ายก็เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้คุณนายจิ้นฟัง
“จริงๆแล้ว พ่อเฟิงเฉินเขาก็ไม่ได้รังแกอะไรชิงหยิงหรอกนะคะ เพียงแต่เมื่อวานคุณหนูเจียงเธอก็มางานด้วยเหมือนกัน”
แน่นอนว่าคุณหนูเจียงที่เธอหมายถึงก็ไม่พ้นเจียงสื้อสื้อ สีหน้าของคุณนายจิ้นเปลี่ยนไปในพริบตา แม่เจียงสื้อสื้อก็เข้าร่วมงานเลี้ยงด้วยหรอ?
คุณนายซูเห็นแบบนั้นก็รีบพูดต่อ “ตอนแรกเฟิงเฉินกับชิงหยิงก็กำลังสังสรรค์กันอยู่ดีๆหรอกค่ะ แต่เจียงสื้อสื้อเหมือนจะมีเรื่องมีราวกับคนตระกูลเจียงแล้วก็ตระกูลหลาน แถมยังผลักน้องสาวตัวเอง น้องสาวเธอน่ะกำลังตั้งท้อง ก็เลยปวดท้องขึ้นมา…”
“รายละเอียดเป็นยังไงดิฉันก็ไม่ทราบนักหรอกค่ะ เอาเป็นว่าทำกันซะจนเป็นเรื่องราวใหญ่โต จากนั้นเฟิงเฉินก๊อกหน้าช่วยแก้สถานการณ์แทนให้ แม่นั่นก็เดินออกจากงานไป รู้สึกว่ายังขอให้เฟิงเฉินพาไปปลดปล่อยอารมณ์เป็นเพื่อนด้วย สองคนนั้นก็เลยจากไปดื้อๆ ส่วนชิงหยิงของเราก็…คุณจิ้นก็ทราบดีนี่คะ สังคมเขาก็รู้กันทั้งนั้นว่าเฟิงเฉินกับชิงหยิงกำลังคบๆกันอยู่ แต่พ่อเฟิงเฉินเล่นพอผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้เดินออกไปท่ามกลางสายตาคนทั้งงาน ไม่ว่าจะพูดยังไงชิงหยิงของเราก็เป็นฝ่ายเสียหน้านะคะ”
หลังจากฟังจบ สีหน้าของคุณนายจิ้นก็นิ่งสนิท
เจียงสื้อสื้อแม่ตัวดี ทำเป็นรับปากดิบดีว่าจะไม่ยุ่งวุ่นวายกับเฟิงเฉินแล้วก็เสียวเป่าอีก แต่ลับหลัง…
แถมยังขอให้เฟิงเฉินพาไปปลดปล่อยอารมณ์เป็นเพื่อน?
เห็นสีหน้าของคุณนายจิ้น มุมปากของซิงหยิงก็ยกยิ้ม คุณนายซูเองก็เช่นกัน แต่ก็ยังไม่วายแสร้งพูด “ถึงดิฉันจะชอบพ่อเฟิงเฉินอยู่ไม่น้อย ถ้าได้ตบแต่งกับซูหยิงจริงตระกูลเราก็สบายใจ แต่ถ้าเฟิงเฉินชอบแม่คนนั้นจริงล่ะก็…ชิงหยิงของเราก็พร้อมจะแสดงความยินดีให้กับพวกเขาสองคนค่ะ”
คุณนายจิ้นรีบพูดทันใด “เป็นไปไม่ได้ค่ะ เฟิงเฉินไม่มีทางได้คู่กับแม่นั่น ชิงหยิง เรื่องเมื่อคืนนี้เป็นความผิดของเฟิงเฉิน ป้ากลับไปจะจัดการให้หนูแน่นอน”
คุณนายจิ้นในตอนนี้ไม่มีทางยอมให้เจียงสื้อสื้อกับเฟิงเฉินรักกันได้
ได้ยินแบบนี้ ซูชิงหยิงก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันใด ริมฝีปากของเธอค่อยๆยกยิ้ม ขอแค่คุณนายจิ้นเข้าข้างเธอ นังเจียงสื้อสื้อก็อย่าคิดแม้แต่จะหวัง
เธอไม่เชื่อว่ากะอีแค่ลูกสาวที่ถูกตระกูลเจียงทิ้งจะมีอะไรที่เธอสู้ไม่ได้