ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1396 การค้าก็เหมือนสนามรบ
ข่าวที่ซ่างกวนหยวนเสียชีวิตกระแสกระจายไปทั่ว ทำให้เริ่มมีข่าวลือแปลกๆ เผยแพร่ออกมา
อย่างเช่นซ่างกวนหยวนโดนจิ้นเฟิงเฉินทำลายความรู้สึก คิดไม่ได้เลยไปฆ่าตัวตาย
แถมยังมีข่าวแฉออกมาว่าจิ้นเฟิงเฉินความจำเสื่อมอีก
ข่าวที่ไม่ดีต่อจิ้นกรุ๊ปพวกนี้ มันไปกระทบถึงหุ้นของจิ้นกรุ๊ปโดยตรง หุ้นตกลงไปอัตราร้อยละหลายจุด
“คุณชาย คนข้างนอกทำไมถึงรู้เรื่องที่คุณความจำเสื่อม?” กู้เนี่ยนงงไม่เข้าใจ
เรื่องที่คุณชายความจำเสื่อมปกปิดไว้อย่างดี นอกจากฝ่ายตระกูลจิ้นสองบ้าน ยังมีเขา อิ้งเทียนและเห้อซูหานที่รู้ ก็ไม่มีคนรู้เรื่องนี้อีกเลย
ไม่ถูก!
จู่ๆ สายตาของกู้เนี่ยนก็มาดเคร่ง
ยังมีตระกูลซ่างกวนที่รู้
จิ้นเฟิงเฉินเห็นสีหน้าการเปลี่ยนแปลงของเขาอยู่ในสายตา หว่างคิ้วขยับเล็กน้อยแล้วถาม “นึกถึงอะไรใช่ไหม?”
กู้เนี่ยนพยักหน้า “หรือว่าตระกูลซ่างกวนเผยแพร่ออกไป?”
น้ำเสียงของเขายังไม่ค่อยมั่นใจ
“นอกจากตระกูลซ่างกวน ยังมีคนอื่นอีกหรือไง?” จิ้นเฟิงเฉินไม่ตอบแต่ถามกลับ
“ก็เพราะซ่างกวนหยวนเสียชีวิต ก็เลยตั้งใจเผยแพร่ข่าวที่เสียเปรียบต่อคุณ นี่ถือว่าเป็นการประกาศสงครามกับจิ้นกรุ๊ป?”
จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตาเล็กน้อย มุมปากยกยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นชา “งั้นก็ต้องให้พวกเขามีความสามารถขนาดนั้นด้วยสิ”
กู้เนี่ยนเชื่อใจกับความสามารถของคุณชายบ้านตัวเองอยู่แล้ว แต่ก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ “คุณชาย แต่พวกเราต้องคอยระวังไว้”
จิ้นเฟิงเฉินมองไปที่เขาแวบเดียว ไม่ได้พูดอะไร
ระวังนี่ต้องระวังอยู่แล้ว แต่ในเมื่อตระกูลซ่างกวนได้เริ่มลงมือทำก่อน งั้นเขาก็คงนั่งรอความตายอย่างเดียวไม่ได้
……
จิ้นเฟิงเหราได้ข่าวว่าซ่างกวนหยวนเสียชีวิต ก็โล่งอกล่งใจไปใหญ่ ในที่สุดก็สามารถใช้ชีวิตเงียบสงบสักที
แต่ยังไม่ทันได้ดีใจนาน เรื่องที่จิ้นเฟิงเฉินเคยความจำเสื่อมถูกแฉออกมาเป็นข่าวก็ส่งมาถึงหูของเขา
“เหี้ย!” เขาอดที่จะพูดคำหยาบไม่ได้
“ใครกันแน่ที่มีปัญหากับตระกูลจิ้นของพวกเรา?” เขาขยี้ผมด้วยความหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด
“คุณชายรอง ตอนนี้สถานการณ์ของจิ้นกรุ๊ปอันตรายหน่อย เพราะมีคนตั้งใจหาเรื่องใส่ร้ายคุณชาย บอกว่าคุณชายทำเป็นเล่นกับความรู้สึกของซ่างกวนหยวน ก็เลยทำให้ซ่างกวนหยวนเสียชีวิต” ผู้ช่วยของเขาพูดอย่างระมัดระวัง
“ตอแหล!”
จิ้นเฟิงเหราโมโหจนหัวเราะ “พวกเขาไปซ่อนอยู่ในใต้เตียงของพี่ชายฉันหรือไง? ไม่อย่างนั้นทำไมถึงรู้ดีขนาดนี้?”
“พวกเรารู้ว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง แต่คนนอกไม่รู้ เล่ากระจายต่อกันได้น่าเกียจมาก ทำให้คู่พันธมิตรหลายที่ของจิ้นกรุ๊ปเสนอมาว่าจะระงับสัญญา บอกว่ากลัวโดนผลกระทบ”
“โดนผลกระทบอะไร?” จิ้งเฟิงเหรายิ้มแห้ง “คนที่อยากร่วมมือกับจิ้นกรุ๊ปมีตั้งเยอะตั้งแยะ พวกเขาไม่อยากร่วมมือ มันก็ต้องมีคนอื่นอยากร่วมมือเป็นธรรมดา”
ผู้ช่วยถาม “งั้นตอนนี้พวกเราควรทำยังไงต่อ?”
“ออกโรงพยาบาล!” จิ้นเฟิงเหราดึงผ้าห่มออกลงจากเตียง
ถึงแม้ว่าพี่ชายของเขามีความสามารถพอที่จะจัดการเรื่องพวกนี้ได้ แต่เขาก็อยากจะช่วย ไม่อยากให้พี่ชายของเขาแบกรับไว้คนเดียว
……
จิ้นเฟิงเหราพึ่งออกมาจากโรงพยาบาล ก็มุ่งหน้าไปที่บริษัททันที
ตอนที่กู้เนี่ยนเห็น ถึงกับตกใจไม่น้อย “คุณชายรอง คุณมาได้ยังไง?”
“ฉันมาไม่ได้?” จิ้นเฟิงเหราไม่ตอบแต่ถามกลับ
กู้เนี่ยนยิ้มแห้ง “ได้อยู่แล้ว แต่ว่าร่างกายของคุณพักฟื้นหายดีหรือยัง?”
“คุณดูฉันเหมือนเป็นคนมีเรื่องหรือไง?”
“ไม่เหมือน” กู้เนี่ยนตอบอย่างจริงจัง
“งั้นก็ถูกแล้วสิ” จิ้นเฟิงเหรามองไปที่ห้องทำงานของท่านประธาน เปลี่ยนเรื่องคุยทันทีแล้วถาม “พี่ชายฉันอยู่ไหม?”
“อยู่”
จิ้นเฟิงเหราค่อยๆ ผลักประตูเข้าไป แค่แวบเดียวก็เห็นจิ้นเฟิงเฉินที่กำลังตั้งใจอ่านเอกสารอยู่
“มีเรื่องอะไร?” จิ้นเฟิงเฉินคิดว่าคนที่เข้ามาเป็นกู้เนี่ยน หัวก็ไม่เงยขึ้นมาแล้วถาม
จิ้นเฟิงเหราปิดประตู เดินเข้าไป “พี่ชาย”
ได้ยินเสียง จิ้นเฟิงเฉินยกหัวขึ้นมา ขมวดคิ้ว “คุณออกจากโรงพยาบาล?”
“อือ” จิ้นเฟิงเหราหันตัวเดินไปทางโซฟา เดินไปด้วยพร้อมพูดไปด้วย “ฉันได้ยินข่าวพวกนั้นทั้งหมดแล้ว จะทนอยู่แต่ในโรงพยาบาลไหวได้ยังไง”
จิ้นเฟิงเฉินลุกขึ้นยืนเดินเข้าไป นั่งลงตรงข้ามของเขา นัยน์ตาแอบแฝงความกังวล “ร่างกายไหวไหม?”
“พี่ชาย ฉันสบายดี” จิ้นเฟิงเหราจนปัญญามาก “ฉันหายดีตั้งแต่แรกแล้ว แต่พวกคุณห้ามไว้ไม่ให้ออกโรงพยาบาลไง”
“ใช่แล้ว พี่ชาย ใครเป็นคนเผยแพร่ข่าวไร้สาระพวกนั้น?” จิ้นเฟิงเหราถามด้วยความแปลกใจ
จิ้นเฟิงเฉินยกหางคิ้ว “คุณคิดว่าใครล่ะ?”
“เป็นคู่แข็งของพวกเราแน่ๆ ” จิ้นเฟิงเหราพูดอย่างมั่นใจ “ผ่านมาตั้งหลายปีพวกเขาอุตส่าห์ถือโอกาสไว้ได้สักที คงจะใช้โอกาสครั้งนี้เพื่อผลประโยชน์อย่างเต็มที่ มาใส่ร้ายจิ้นกรุ๊ป”
จิ้นเฟิงเฉินยกยิ้มมุมปากขึ้นมาอย่างแผ่วเบา “ในเมื่อคุณก็ทายออกแล้ว งั้นเรื่องนี้ยกให้คุณสืบเลย”
“ไม่มีปัญหา” จิ้นเฟิวเหราตอบตกลงอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาหรี่ตา “ฉันจะสืบพวกเขาออกมาทีละคนทีละคนให้ได้!”
จิ้นเฟิงเหรากลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง รีบให้ผู้ช่วยไปสืบว่าเป็นใครกันแน่ที่พยายามใส่ร้ายจิ้นกรุ๊ป
หลังจากที่สืบเสร็จ จิ้นเฟิงเหราหาเจอต้นตอที่กระจายข่าวพวกนี้
มีตระกูลซ่าน ตระกูลเจี่ยง ตระกูลไป๋แล้วก็ตระกูลหยางที่เมืองถงเฉิง
พวกนี้เป็นคู่แข่งของจิ้นกรุ๊ป ที่ผ่านมาก็คอยขัดต่อจิ้นกรุ๊ปทุกที่ แถมยังคิดที่จะแยกคู่พันธมิตรใหม่ของจิ้นกรุ๊ปอีก
ครั้งนี้ไม่รู้ว่าพวกเขาไปรู้เรื่องที่จิ้นเฟิงเฉินความจำเสื่อมมาจากไหน แถมทำเป็นข่าวใหญ่ เอาทุกอย่างมาใส่ร้ายที่จิ้นกรุ๊ปหมด ใส่ร้ายไปที่จิ้นเฟิงเฉินด้วย
“เหอะ”
ได้ยินที่ผู้ช่วยรายงาน จิ้นเฟิงเหรายิ้มแห้ง “ใช้หัวเข่าคิดก็รู้ว่าพวกเขาไปรู้เรื่องที่พี่ชายของฉันความจำเสื่อมมาจากไหนแล้ว?”
ผู้ช่วยขมวดคิ้ว “คุณชายรอง คุณหมายถึงตระกูลซ่างกวน?”
จิ้นเฟิงเหราไม่ตอบกลับไปตรงๆ แต่กลับพูดต่อ “ตอนนี้ซ่างกวนหยวนเสียชีวิตไปแล้ว ตระกูลซ่างกวนคงเอาเรื่องนี้มาโทษใส่ที่ตระกูลจิ้นและพี่ชายของฉัน”
นี่ก็คืออีกหนึ่งสาเหตุที่ว่าทำไมตระกูลซ่างกวนถึงเอาเรื่องที่จิ้นเฟิงเฉินความจำเสื่อมกระจายออกไป
“ในเมื่อตอนนี้รู้แล้วว่าใครเป็นก่อกวนคนอยู่เบื้องหลัง งั้นพวกเราก็โต้กลับไปตรงๆ เลยสิ” ผู้ช่วยถาม
“อย่าพึ่งรีบ ฉันไปปรึกษากับพี่ชายของฉันก่อน”
จิ้นเฟิงเหราไปที่ห้องทำงานของท่านประธาน เอาผลสรุปที่ไปสืบมาเล่าให้จิ้นเฟิงเฉิน
จิ้นเฟิงเฉินได้ยินก็ยิ้มแห้ง “อย่างพวกเขาเนี่ยนะ สมควรที่จะเป็นคู่แข่งของจิ้นกรุ๊ปด้วยเหรอ?”
“พี่ชาย จะพูดอย่างงี้มันก็ถูก แต่พวกเราจะให้พวกเขาใส่ร้ายมาเปล่าๆ แบบนี้ไม่ได้ ไม่เอาคืนสักหน่อยหรือไง?” จิ้นเฟิงเหรารู้สึกมีความรู้สึกบางอย่างอัดอั้นอยู่ในใจ จะขึ้นไม่ขึ้น จะลงไม่ลง มันทรมานมาก
เขาต้องให้พวกตระกูลต่างๆ เบิกตากว้างดูดีๆ จิ้นกรุ๊ปไม่ได้รังแกง่ายขนาดนั้น
“ฉันบอกที่ไหนว่าจะไม่เอากลับ?” จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตามองเขาอย่างเย็นชา
“ไม่เคย”
จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตา เผยถึงบรรยากาศที่มีความอันตราย น้ำเสียงต่ำพูด “เงินทุนของตระกูลซ่านมีปัญหา กำลังเจรจาเรื่องกู้ยืมเงินมาหมุนเวียนกับธนาคาร คุณสามารถไปหาผู้จัดการของธนาคารคุยเรื่องนี้”
จิ้นเฟิงเหราพยักหน้า “เข้าใจ”
“มีโรงงานภายในตระกูลเจี่ยงแห่งหนึ่งแอบระบายมลพิษทำให้พืชผลการเกษตรรอบบริเวณเหี่ยวตายหมด แถมยังมีประชาชนเป็นพิษอีก แต่ตระกูลเจี่ยงอยากใช้เรื่องเงินปิดบังเรื่องนี้ไว้ คุณน่าจะรู้ว่าต้องทำยังไงใช่ไหม?”
“รู้แน่นอน” จิ้นเฟิงเหราพูดอย่างมั่นใจ
“ส่วนตระกูลไป๋กับตระกูลหยางยิ่งง่ายไปใหญ่เลย ภายในตระกูลกันเองของทั้งสองตระกูลวุ่นวายตลอด คุณสามารถเริ่มลงมือจากตรงนั้น”
จิ้นเฟิงเหราได้ยินที่จิ้นเฟิงเฉินพูดเสร็จ จิ้นเฟิงเหราตัวสั่นทันที “พี่ชาย โชคดีที่ฉันเป็นน้องชายของคุณ ไม่ใช่คู่แข่ง คุณมันน่ากลัวเกินไป จุดด้อยของคู่แข่ง คุณรู้ทุกรายละเอียดเลย”
มันเชื่อยากจริงๆ ว่าเขาความจำเสื่อม
จิ้นเฟิงเฉินยกยิ้มมุมปาก “การค้าก็เหมือนสนามรบ ต้องรู้เขารู้เรา”
“พี่ชายสั่งสอนถูกหมด ฉันจะทำตามที่คุณสั่ง”
จิ้นเฟิงเหราหันหลังและรีบออกไป