ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1421 อย่าหาว่าเขาใจดำอำมหิต
“คุณกล้าชื่นชมผู้ชายคนอื่นต่อหน้าผม!” คริสมินสีหน้าไม่พอใจมาก
โดยเฉพาะจิ้นเฟิงเฉิน!
“ฉันเป็นห่วงว่าคุณจะประเมินศัตรูต่ำเกินไป ก็เลยเตือนคุณไว้”
“ผมไม่สน คุณกำลังช่วยให้ท้ายคนอื่นอยู่ ผมจะต้องลงโทษคุณให้สาสมเลย”
พอพูดจบ เขาก็ก้มหน้าลงจูบลำคอของเธอ
“อย่าค่ะ มันจั๊กจี้!” ซูชิงหยิงยกยิ้มแล้วพยายามผลักเขาออกห่าง
แต่แรงผลักนั้นเบามาก ในสายตาของคริสมิน มันเป็นเหมือนยินยอมแต่แกล้งทำเป็นปฏิเสธ
เขาคว้าเอวของเธอแล้วอุ้มเธอขึ้นมา ก่อนจะโยนเธอลงบนเตียง หลังจากนั้น จึงกดเธอไว้ใต้ร่างของเขาทันที
“วันนี้ผมต้องลงโทษคุณ จนกว่าคุณจะลุกขึ้นจากเตียงไม่ได้ ดูซิว่าจากนี้คุณจะกล้าชื่นชมผู้ชายคนอื่นอีกไหม”
ซูชิงหยิงวางมือบนหน้าอกของเขา แล้วพูดออดอ้อนขอความเมตตา “ฉันผิดไปแล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว”
“สายไปแล้ว!” คริสมินกัดเม้มที่ลำคอของเธออีกครั้ง
ซูชิงหยิงกอดคอของเขาไว้ แล้วปล่อยให้เขาสัมผัสร่างกายของเธออย่างตามใจ ริมฝีปากของเธอยังคงยกยิ้มตลอด คิ้วของเธอแฝงไปด้วยความดุร้าย
เจียงสื้อสื้อเอ๋ยเจียงสื้อสื้อ ในเมื่อแกกับจิ้นเฟิงเฉินมีลูกด้วยกันสองคน ถ้าอย่างนั้นฉันจะทำลายพวกเขาทีละคนก็แล้วกัน
……
ไม่เพียงแต่แย่งชิงที่ดินในแถบตะวันออกที่ซ่างกวนเชียนหมายปองไว้เท่านั้น แต่ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา จิ้นเฟิงเฉินยังให้จิ้นเฟิงเหรากว้านซื้อบริษัทที่เป็นพันธมิตรกับซ่างกวนกรุ๊ปมาเก็บไว้
พอพ่อจิ้นรู้เรื่องนี้ เขาก็ตกใจมาก
บริษัทตรงข้ามไม่เคยมีความแค้นต่อจิ้นกรุ๊ปเลย อีกทั้งยังพัฒนามาอย่างราบรื่น ไม่ถึงขั้นต้องมาตกอยู่ในจุดที่ถูกคนอื่นเข้าซื้อกิจการแบบนี้
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
หลังอาหารเย็น จิ้นเฟิงเฉินถูกพ่อของเขาเรียกตัวไปในห้องทำงาน
พ่อจิ้นมองเขาด้วยสีหน้าจริงจัง “ในตอนที่ลูกเข้าบริหารจิ้นกรุ๊ป พ่อเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าทุกบริษัทกว่าจะก่อตั้งขึ้นมาได้มันไม่ง่าย ลูกห้ามบังคับซื้อกิจการบริษัทอื่นเด็ดขาด”
“เคยพูดครับ”
“แล้วทำไมครั้งนี้ลูกถึงกว้านซื้อบริษัทเหล่านั้นแบบนี้” พ่อจิ้นขมวดคิ้วแน่น
จิ้นเฟิงเฉินนิ่งเงียบไปหลายวินาที ก่อนจะเอ่ยปากพูดช้าๆ “เพราะพวกเขาแอบเข้าไปขัดขวางธุรกิจของจิ้นกรุ๊ป ผมจึงทนให้พวกเขาทดสอบขีดจำกัดของจิ้นกรุ๊ปเด็ดขาดครับ”
“แบบนี้นี่เอง” พ่อจิ้นพยักหน้า แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ “ลูกทำแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะมีสักกี่คนที่ต่อว่าตระกูลจิ้นลับหลังว่าใช้อำนาจของบริษัทใหญ่กลั่นแกล้งบริษัทเล็ก”
“ความคิดเห็นของคนอื่นสำคัญมากเหรอครับ” จิ้นเฟิงเฉินถามกลับ
“ไม่ใช่ว่าสำคัญหรือไม่ แต่ตระกูลจิ้นไม่ควรถูกคนอื่นเข้าใจผิดแบบนี้” พ่อจิ้นขมวดคิ้ว แล้วพูดต่อ “ไม่มีใครสนใจเหตุผลที่ลูกทำแบบนี้ แต่จะสนแค่ผลลัพธ์เท่านั้น”
“พ่อครับ ผมเข้าใจครับว่าคุณพ่อหมายความว่ายังไง แต่ใครไม่มาหาเรื่องผม ผมก็ไม่หาเรื่องกลับครับ” นี่คือความคิดของจิ้นเฟิงเฉิน
ในช่วงหลายวันนี้ซ่างกวนกรุ๊ปกับบริษัทอื่นๆ แย่งธุรกิจของจิ้นกรุ๊ป อีกทั้งยังเที่ยวใส่ร้ายทำลายชื่อเสียงของจิ้นกรุ๊ปจนเสียหาย เขาจึงเลือกที่จะปิดตาข้างหนึ่งลืมตาข้างหนึ่งไม่สนใจ
แต่ครั้งนี้ เป็นการโต้กลับครั้งแรกของเขา แต่จะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย
“ไม่ว่าลูกจะทำอะไร พ่อก็จะสนับสนุนลูก” พ่อจิ้นตบไหล่เขา
“ขอบคุณครับคุณพ่อ”
เพราะมีการสนับสนุนจากคนในครอบครัวของเขา ทำให้เขายิ่งอยากให้พวกเขามีชีวิตที่สงบสุข พวกที่คิดจะทำร้ายจิ้นกรุ๊ปหรือตระกูลจิ้น เขาจะไม่ปล่อยไว้สักคน
……
พ่อจิ้นเพิ่งออกไป จิ้นเฟิงเหราก็เดินเข้ามา เขาเดินมาหยุดตรงหน้าพี่ชาย แล้วพูดว่า “ที่พ่อพูดกับพี่เมื่อตะกี้ผมได้ยินหมดแล้ว”
จิ้นเฟิงเฉินเงยหน้าขึ้นมองเขา ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะแล้วนั่งลง
จิ้นเฟิงเหราเดินเข้ามา “พี่ครับ ทำไมผมถึงคิดว่าเรื่องนี้มันไม่ง่ายอย่างที่พี่พูด”
หลังจากพูดจบ เขาก็จ้องหน้าจิ้นเฟิงเฉินนิ่ง
ถ้าเพียงเพราะอีกฝ่ายขัดขวางธุรกิจของจิ้นกรุ๊ป เป็นไปไม่ได้ที่จะเลื่อนเวลาจัดการอีกฝ่ายล่าช้าจนถึงตอนนี้
คงมีเหตุผลที่เขายังไม่รู้อีก
“มันไม่ง่ายแค่นั้นจริงๆ ” จิ้นเฟิงเฉินพูดเสียงเรียบ
“ว่าแล้วเชียว” จู่ๆ จิ้นเฟิงเหราก็รู้สึกว่าตัวเองฉลาดมาก เขารีบถามต่อ “เพราะอะไรกันแน่ครับ?”
“วันนี้ เสี่ยวเป่าเห็นคนต่อสู้กันบนถนน แล้วอ้วกออกมา”
เสียงของจิ้นเฟิงเฉินเรียบมาก จึงเดาไม่ออกว่าเขากำลังอยู่ในอารมณ์ไหน มีแต่จิ้นเฟิงเหราที่ได้ยิน แล้วร้อนใจขึ้นมาทันที “แล้ว เสี่ยวเป่าเป็นยังไงบ้างครับ วันนี้ตอนกินข้าวเย็น ผมยังเห็นเขาเป็นปกติดี”
“ไม่เป็นไร” จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว “แต่มีปัญหาทางจิต”
มีปัญหาทางจิตอย่างนั้นเหรอ?
จิ้นเฟิงเฉินนิ่งคิดอยู่สักพัก ก่อนจะถามอย่างไม่แน่ใจ “พี่หมายความว่า ที่เสี่ยวเป่าอ้วก เพราะปัญหาทางจิตอย่างนั้นเหรอครับ?”
“อืม” จิ้นเฟิงเฉินนิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนครั้งที่แล้วให้เขาฟัง
“ดังนั้น พี่สงสัยว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคริสมินอย่างนั้นเหรอครับ”
หลังจากฟังจบ จิ้นเฟิงเหราจึงถามลองเชิง
“ไม่ใช่สงสัย แต่มั่นใจแน่นอน” พอพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินก็เยือกเย็น
“บ้าเอ้ย!” จิ้นเฟิงเหราสบถด้วยความโกรธ “เขายังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า ถึงได้พุ่งเป้าไปที่เด็กแบบนี้!”
จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตา เผยให้เห็นสีหน้าที่ดุร้าย “ฉันจะทำให้พวกเขารู้ ว่าการเป็นศัตรูกับจิ้นกรุ๊ปเป็นเรื่องที่โง่แค่ไหน”
“พี่ครับ ไม่ต้องห่วง ผมจะจัดการพวกเขาให้หมดทีละคน” พอจิ้นเฟิงเหรานึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับเสี่ยวเป่าตลอดหลายวันที่ผ่านมาจึงทั้งรู้สึกทุกข์ใจและโกรธมาก
พวกคริสมินช่างไร้มนุษยธรรมจริงๆ !
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็อย่าหาว่าเขาใจดำอำมหิตก็แล้วกัน
……
ในเวลาเดียวกัน ในบาร์แห่งหนึ่งใจกลางเมืองจิ่น ภายในแสงไฟพร่ามัว เพลงแนวเฮฟวีเมทัลที่หนักหน่วงกำลังบรรเลงอยู่ มีชายหญิงจำนวนมากที่กำลังโยกย้ายตัวไปกับเสียงเพลงบนฟลอร์เต้นรำ
ห้องวีไอพีบนชั้นสอง มีผู้ชายสวมชุดสูทสองสามคนกับรองเท้าหนังนั่งอยู่
“คริส คุณคิดว่าที่นี่เหมาะสำหรับการพูดคุยธุรกิจอย่างนั้นเหรอ” ซ่างกวนเชียนละสายตาที่กำลังมองลงไปชั้นล่าง แล้วหันมามองที่คริสมิน ดวงตาของเขาดูไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
เสียงดังที่นี่ทำให้เขาปวดหัว และอารมณ์หงุดหงิดของเขาก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก
“ไม่เหมาะอย่างนั้นเหรอ?” คริสมินเหลือบมองมาทางเขา แล้วถามกลับ
“แน่นอนว่ามันไม่เหมาะ!” ซ่างกวนเชียนวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะแก้วอย่างแรง จนเกิดเสียงแหลม คนอื่นๆ ต่างก็พากันขมวดคิ้ว
คริสมินจิบไวน์ แล้วถามช้าๆ “แล้วประธานซ่างกวนคิดว่าที่ไหนเหมาะสมเหรอครับ?”
ซ่างกวนเชียนสูดหายใจเข้าลึกๆ “ผมคิดว่าเราควรหาที่เงียบๆ ปรึกษากันว่าจะจัดการกับจิ้นกรุ๊ปยังไง ไม่ใช่ที่นี่…”
เขามองดูกลุ่มคนที่กำลังเต้นโยกเยกอยู่ด้านล่าง แล้วยกมือขึ้นมานวดขมับ “อยู่ที่นี่ผมใจเย็นไม่ลงจริงๆ ”
“ผมคิดว่าคุณต้องการผู้หญิงมาบริการสักคน” คริสมินยกมือขึ้นแล้วดีดนิ้วเรียกพนักงาน
พนักงานที่รออยู่ไม่ห่างได้ยินเสียงจึงรีบเดินเข้ามา “คุณลูกค้าต้องการบริการกี่ท่านครับ”
“ช่วยเรียกผู้หญิงสวยๆ มาดื่มกับพวกเราหลายๆ คนหน่อย” คริสมินพูด
“ได้ครับ”
พนักงานหันหลังแล้วรีบเดินออกไป
ซ่างกวนเชียนอดที่จะยกยิ้มไม่ได้ เป็นรอยยิ้มประชดประชัน “คริสมิน ในเวลาแบบนี้ คุณยังมีอารมณ์จะหาผู้หญิงมาบริการคุณอีกเหรอ?”
“ไม่อย่างนั้นจะให้ทำยังไงล่ะ?” คริสมินแบมือ “หรือคุณอยากให้ผมหน้าบึ้งตึงเหมือนคุณ?”
ซ่างกวนเชียนพูดไม่ออก
คริสมินหัวเราะเบาๆ ฝ่ามือใหญ่ของเขาตบไหล่ของอีกฝ่าย “ประธานซ่างกวน ใจเย็นๆ สิครับ ไม่ต้องขมวดคิ้ว เดี๋ยวผู้หญิงสวยๆ เข้ามาเห็นจะกลัวเอาได้”