ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1422 หายไปอย่างสมบูรณ์
“คริส ผมกำลังพูดกับคุณอย่างจริงจัง โปรดจริงจังด้วย!”
พอเห็นว่าซ่างกวนเชียนโกรธจริงๆ คริสมินจึงสงบลง แล้วพูดว่า “ท่านประธานซ่างกวน ผมรู้ว่าคุณเกลียดจิ้นเฟิงเฉิน แต่คุณใจร้อนไปก็ไม่มีประโยชน์ เราต้องวางแผนให้รอบคอบว่าก้าวต่อไปจะจัดการยังไงให้จิ้นกรุ๊ปล้มละลาย”
“เพราะแบบนี้ เราถึงควรไปคุยกันที่อื่น”
หลังจากพูดจบ ซ่างกวนเชียนก็รีบลุกขึ้นยืน
“อยู่ที่นี่ก็คุยได้เช่นกัน” คริสมินกดเขากลับไปนั่งที่โซฟาตามเดิม เก็บท่าทางเอ้อระเหยลอยชาย แล้วพูดต่อด้วยสีหน้าจริงจัง “ที่ดินที่เราหมายตาถูกจิ้นกรุ๊ปชิงไปแล้ว ดังนั้นเราจะแย่งชิงโครงการอื่นๆ ของจิ้นกรุ๊ปมา”
คนอื่นมองมามองหน้ากันไปมา
“แล้วจะแย่งยังไง” มีคนในกลุ่มเอ่ยถาม
“ตอนนี้จิ้นเฟิงเฉินเริ่มโต้กลับแล้ว ดูท่าเขาคงส่งคนแอบดูทุกการเคลื่อนไหวของเราแล้ว ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นเราจะแย่งชิงกันต่อหน้าต่อตา ขอแค่เป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของจิ้นกรุ๊ปก็แย่งชิงมาให้หมด”
พอได้ยินแบบนี้ ซ่างกวนเชียนก็พูดเย้ยหยันอย่างเย็นชา “คุณคิดว่าจิ้นเฟิงเฉินเป็นพวกอ่อนหัดหรือไง เขาจะยอมนั่งรอความตายอย่างนั้นเหรอ?”
คริสมินมองมาที่เขาแวบหนึ่ง ก่อนจะวางแก้วไวน์ในมือลง แล้วถามด้วยรอยยิ้มว่า “งั้นประธานซ่างกวนมีวิธีที่ดีกว่านี้เหรอครับ?”
“ผม…” ซ่างกวนเชียนเห็นว่าทุกคนมองมาที่เขาอย่างมีความหวัง เขาก็พูดเสียงเบา “ไม่ครับ”
คริสมินยิ้มเยาะ “ไม่มี ก็ฟังผม”
เขาคิดอย่างรอบคอบ ก่อนที่จะพูดว่า “เราแยกกันลงมือ โจมตีธุรกิจของจิ้นกรุ๊ปจากทุกด้าน ผมไม่เชื่อว่าจิ้นเฟิงเฉินมีกำลังมากพอที่จะจัดการกับบริษัทของเราหลายๆ แห่งในเวลาเดียวกันได้”
ซ่างกวนเชียนกำหมัดแน่น แล้วพูดอย่างข่มอารมณ์ “ยังไงก็ตาม ครั้งนี้ต้องทำให้จิ้นกรุ๊ปขาดทุนย่อยยับ!”
“ไม่ต้องห่วง ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน”
คริสมินตบไหล่เขา แล้วรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา ครั้งนี้ต่อให้จิ้นกรุ๊ปจะไม่ล้มละลาย ก็คงสาหัสแน่นอน!
……
หลายวันต่อมา จิ้นกรุ๊ปเกิดปัญหาต่างๆ มากมายขึ้นไม่หยุด ไม่ว่าจะเป็นโครงการในบริษัทเกิดปัญหา หรือผู้รับผิดชอบโครงการของบริษัทประสบอุบัติเหตุ
ปัญหาเกิดขึ้นต่อเนื่องจนทำให้หุ้นของจิ้นกรุ๊ปเกิดการผันผวน จนหุ้นลดลงหลายจุด
วงการธุรกิจทั้งหมดต่างตกใจ ทุกคนรู้ว่านี่เป็นผลพวงมาจากซ่างกวนกรุ๊ปและบริษัทอื่นๆ อีกหลายแห่งร่วมมือกันจู่โจมจิ้นกรุ๊ป
แม้แต่ช่องข่าวธุรกิจต่างก็ทำข่าวเรื่องนี้
มือเดียวเอาชนะหลายมือไม่ได้
ทุกคนต่างก็คิดว่าครั้งนี้จิ้นกรุ๊ปจะต้องจบสิ้นแล้วแน่ๆ
แต่ใครจะไปรู้ ว่าเรื่องราวต่างๆ จะเปลี่ยนไปในวันรุ่งขึ้น
สี่ตระกูลใหญ่อย่างตระกูลฟาง ตระกูลหยุน ตระกูลจี้ และตระกูลจิ่ง ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ว่าพวกเขาจะต่อต้านการกระทำทางธุรกิจที่เป็นอันตรายของซ่างกวนกรุ๊ปจนถึงที่สุด และจะไม่ร่วมงานกับซ่างกวนกรุ๊ปและบริษัทที่ร่วมมือ โครงการที่ทำร่วมกันอยู่ทั้งหมดจะถูกยกเลิกทันที!
เมื่อคำกล่าวนี้ถูกประกาศออกมา ก็ยิ่งน่าตกตะลึงมากขึ้นไปอีก
ทุกคนรู้ดีว่าสี่ตระกูลใหญ่อย่าง ฟาง หยุน จี้ จิ่ง ต่างเป็นมิตรที่ดีกับตระกูลจิ้น พวกเขาจึงออกมาคว่ำบาตร เพื่อช่วยตระกูลจิ้น
ทันใดนั้น วงการธุรกิจทั้งหมดก็ลุกฮือขึ้นมาทันที หลายคนต่างเฝ้าดูการต่อสู้ครั้งนี้ด้วยความสนุกสนาน
ใครจะชนะใครจะแพ้ คือสิ่งที่พวกเขาสนใจมากที่สุด
ฟางยู่เชินตั้งใจมาจากเมืองหลวงเพื่อเรื่องนี้ และพอเขาเห็นจิ้นเฟิงเฉิน ในประโยคแรกของเขาก็พูดขึ้นมาว่า “น้องเขย เจอปัญหาแบบนี้ ทำไมถึงไม่บอกผมสักคำ”
ถ้าเขาไม่ได้อ่านข่าว แล้วส่งคนมาทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาก็ไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ
จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ตอบคำถามของเขา แต่พูดขึ้นมาว่า “ขอบคุณ”
ถ้าพวกเขาไม่ได้ออกแถลงการณ์ทันเวลา เกรงว่าหุ้นของจิ้นกรุ๊ปจะต้องตกเรื่อยๆ
“สื้อสื้อเป็นน้องสาวลูกพี่ลูกน้องของผม เป็นคนตระกูลฟาง ผมต้องช่วยคุณอยู่แล้ว” ฟางยู่เชินถอนหายใจ “แต่ผมคิดไม่ถึงเลยว่า ซ่างกวนเชียนจะกลายเป็นแบบนี้”
ช่วงนี้ซ่างกวนกรุ๊ปจู่โจมจิ้นกรุ๊ปในรูปแบบต่างๆ เขารู้สึกว่าซ่างกวนเชียนบ้าไปแล้วจริงๆ ถึงได้คิดจะเป็นศัตรูกับจิ้นกรุ๊ป
“เขาคงทำเพื่อซ่างกวนหยวน” จิ้นเฟิงเฉินพูด
“ถึงจะเพื่อซ่างกวนหยวน เขาก็ไม่ควรเอาทั้งตระกูลซ่างกวนมาร่วมด้วยแบบนี้” พูดถึงตรงนี้ ฟางยู่เชินก็โบกมือไปมา “ช่างมันเถอะ นี่มันเรื่องของตระกูลซ่างกวน ไม่เกี่ยวอะไรกับผม แค่รู้สึกเสียดายนิดหน่อย”
บริเวณโดยรอบเงียบสนิท
หลังจากผ่านไปสักพัก ฟางยู่เชินก็ถามขึ้นมาว่า “คุณจะทำอย่างไรต่อไป? ถ้าต้องการความช่วยเหลือ บอกมาได้เลย”
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า “ได้ครับ”
ฟางยู่เชินคุยกับเขาสักพัก ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินจากไป
หลังจากเขาเดินจากไป จิ้นเฟิงเฉินก็นิ่งคิดอยู่สักพัก แล้วใช้โทรศัพท์สายภายในเรียกให้จิ้นเฟิงเหรามาหา
หลังจากนั้นไม่นาน จิ้นเฟิงเหราก็เปิดประตูรีบเดินเข้ามา
“พี่ครับ พี่เรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ” จิ้นเฟิงเหรายุ่งอยู่กับการจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นในจิ้นกรุ๊ปตลอดหลายวันที่ผ่านมา ยุ่งมากจนหัวหมุนไปหมด
ในใจยิ่งโกรธแค้นซ่างกวนกรุ๊ปกับคริสมินมากขึ้น
“มีวิธีจัดการกับซ่างกวนเชียนกับคนอื่นๆ แล้วใช่ไหมครับ?”
ก่อนที่จิ้นเฟิงเฉินจะพูดจิ้นเฟิงเหราก็ถามขึ้นมาอีกครั้ง
จิ้นเฟิงเฉินมองมาที่เขาและพยักหน้า “ใช่”
“วิธีไหนครับ” จิ้นเฟิงเหรารีบถาม
หลังจากเงียบไปสักพัก จิ้นเฟิงเฉินก็พูดขึ้นมาช้าๆ “จัดการพวกมันทีละคน”
“หะ?” จิ้นเฟิงเหราไม่เข้าใจอยู่พักหนึ่ง
“หนึ่งในบริษัทที่ร่วมมือกับซ่างกวนเชียนในครั้งนี้ ลูกชายของผู้รับผิดชอบติดการพนันอย่างหนัก เป็นพวกที่ใช้การไม่ได้ อีกทั้งยังชอบเล่นกับผู้หญิง”
พอเขาพูดแบบนี้ จิ้นเฟิงเหรายิ่งงงงวยมากขึ้น “แล้วเราต้องทำยังไงครับ”
จิ้นเฟิงเฉินเลิกคิ้ว “ฉันได้ยินมาว่าผู้ชายคนนี้เล่นกับผู้หญิงที่ต่างประเทศและทำให้ท้องของเธอป่องขึ้นมา เขาไม่คิดจะรับผิดชอบ”
“เฮ้ย! นี่มันบัดซบจริงๆ !” จิ้นเฟิงเหราสบถหยาบคายอย่างอดไม่ได้ “ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่ไหนครับ?”
“ตายแล้ว”
“ตายแล้ว?” จิ้นเฟิงเหราตกใจ “ตายได้ยังไงครับ?”
“เพราะเธอถูกเล่นความรู้สึก จนตั้งท้อง แต่อีกฝ่ายก็ไม่รับผิดชอบ เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องฆ่าตัวตาย”
“ไม่คุ้มเลยจริงๆ ” จิ้นเฟิงเหรารู้สึกไม่คุ้มค่าแทนผู้หญิงคนนั้น เพื่อคนเลวทรามแบบนี้แม้แต่ชีวิตก็ไม่เอา
“แต่ว่า ดูเหมือนสื่อในประเทศจะไม่เคยรายงานข่าวนี้เลย” จิ้นเฟิงเหรานึกถึงข่าวในช่วงหลายวันนี้ และดูเหมือนว่าไม่มีข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มเยาะอย่างเย็นชา “เสียเงินปิดข่าวเยอะแบบนั้น จะมีข่าวได้ยังไง”
จิ้นเฟิงเหราขมวดคิ้วครุ่นคิดสักพัก “พี่ครับ ผมพอจะรู้แล้วว่าพี่จะทำอะไรต่อไป”
“นายลองพูดให้ฟังหน่อยสิ”
“อืม…” จิ้นเฟิงเหรานิ่งคิด “พี่อยากใช้ข่าวนี้โจมตีบริษัทนั้น ถ้าสื่อรายงานข่าวนี้ แค่ความคิดเห็นของประชาชนเพียงอย่างเดียวก็ทำให้บริษัทนั้นจมน้ำลายตายแล้ว”
“ถูกต้อง” จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า “ในตอนที่เขาเลือกจะร่วมมือกับซ่างกวนกรุ๊ป เขาน่าจะรู้ชะตากรรมของตัวเองที่มาต่อสู้กับจิ้นกรุ๊ป”
“ฉันต้องการให้บริษัทนี้หายไปอย่างสมบูรณ์”
พอพูดคำพูดนี้ เสียงของจิ้นเฟิงเฉินก็มีความโหดร้ายแฝงอยู่ด้วย
“พี่ครับ เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเอง” จิ้นเฟิงเหราพูดอย่างหนักแน่น “ผมจะทำให้มันหายไปอย่างแน่นอน”
และผู้ชายเลวทรามนั่นก็ต้องชดใช้ในสิ่งที่เขาทำลงไปด้วย!