ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1424 เข้าใจยากและยากจะคาดเดา
เพราะเรื่องของตระกูลกู้ บริษัทของคริสมินก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน หุ้นก็ตกลงเล็กน้อย
“จิ้นเฟิงเฉิน!” คริสมินกัดฟันกรอด สีหน้าโกรธแค้น
พอเทียบกับความโกรธของเขา ซ่างกวนเชียนดูสงบนิ่งมากกว่า ก่อนจะยกกาแฟบนโต๊ะขึ้นมาจิบ แล้วพูดช้าๆ “สถานการณ์ในวันนี้ ผมพอจะคาดเดาได้นานแล้ว”
พอได้ยินแบบนี้ คริสมินก็เดินไปตรงหน้าเขา แล้วถามด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ “แล้วทำไมคุณถึงไม่เตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้าล่ะ?”
“เตรียมความพร้อมล่วงหน้าอย่างนั้นเหรอ?” ซ่างกวนเชียนวางกาแฟลง แล้วเงยหน้าขึ้นมองเขา “จิ้นเฟิงเฉินเป็นคนที่เข้าใจยากและยากจะคาดเดา ผมจะเตรียมความพร้อมล่วงหน้าไว้ได้ยังไง?”
“แล้วทำไมคุณถึงบอกว่าคาดเดาสถานการณ์ล่วงหน้าได้แล้วล่ะ?” คริสมินขมวดคิ้ว หรือว่าเขาจะอยู่ต่างประเทศนานเกินไป จึงไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด
“สถานการณ์ในวันนี้ก็ปกติมากไม่ใช่เหรอ ในเมื่อเขาคิดจะจัดการพวกเรา เขาต้องพยายามหาจุดอ่อนของพวกเราอยู่แล้ว”
“มันก็ใช่ แต่ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป เราต้องแพ้แน่ๆ ” คริสมินนั่งลงตรงข้ามเขา แล้วพูดอย่างโมโห “พวกเราจะปล่อยให้เขาทำสำเร็จไม่ได้เด็ดขาด! ต้องหาวิธีขัดขวางแผนต่อไปของเขาให้ได้”
ซ่างกวนเชียนนิ่งเงียบไปสักพัก “…ถ้าผมเดาไว้ไม่ผิด เขาคิดจะจัดการบริษัทที่ร่วมมือกับเราทีละบริษัท ตระกูลกู้คือรายแรก แล้วใครจะเป็นรายต่อไปกันนะ?”
ทันทีที่พูดถึงตระกูลกู้ สีหน้าของคริสมินก็ป่าเถื่อนขึ้นมาทันที “ตระกูลกู้บ้านั่น ก่อเรื่องแล้วไม่เช็ดล้างให้สะอาด และยังสร้างความเดือดร้อนให้พวกเราอีก!”
“ครั้งนี้ตระกูลกู้ถือว่าจบลงแล้ว” ซ่างกวนเชียนส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ “พวกเราเองก็สูญเสียผู้ช่วยไปหนึ่งแรง”
“จะต้องหยุดจิ้นเฟิงเฉินให้ได้!” คริสมินหรี่ตาลง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความดุร้าย “ไม่ว่าจะยังไง เราจะพ่ายแพ้แบบนี้ไม่ได้!”
“พ่ายแพ้อย่างนั้นเหรอ?” ซ่างกวนเชียนยิ้มเยาะ “เป็นไปไม่ได้หรอก ตราบใดที่จิ้นกรุ๊ปยังไม่ล้มละลาย ผมก็จะไม่ยอมหยุดแน่นอน!”
……
หุ้นของตระกูลกู้ร่วงลงครั้งแล้วครั้งเล่า ร่วงจนต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ จนใกล้จะล้มละลายแล้ว
ผลกระทบจากตระกูลกู้ในครั้งนี้ ซ่างกวนกรุ๊ปและบริษัทอื่นๆ อีกหลายแห่งที่ร่วมมือกันต่างก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แม้แต่คำพูดก็ได้รับผลกระทบในระดับหนึ่ง
ซ่างกวนเชียนกับคริสมินพยายามช่วยเหลือ แต่ก็ไร้ประโยชน์ ทันใดนั้นเอง ตระกูลกู้ กู้ซ่างกวนกรุ๊ป บริษัทของคริสมินและบริษัทอื่นๆ ล้วนถูกตกเป็นข่าว
ผลลัพธ์นี้ ทำให้จิ้นเฟิงเหราพอใจเป็นอย่างมาก
“อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครจะกล้าสู้กับจิ้นกรุ๊ปอีก!” จิ้นเฟิงเหราส่งเสียงหึอย่างเย็นชา
จิ้นเฟิงเฉินดูรายงานข่าวในโน๊ตบุ้คอย่างใจเย็น หลังจากอ่านจบ เขาก็ปิดหน้าจอ แล้วเอ่ยปากพูด “ยังไม่พอ แค่นี้ยังไม่พอ”
“ไม่พออะไรครับ?” จิ้นเฟิงเหราถามอย่างสงสัย
“จุดจบของตระกูลกู้ยังเลวร้ายไม่พอ” จิ้นเฟิงเฉินเงยหน้าขึ้น แล้วจ้องมองใบหน้าของเขาอย่างแน่นิ่ง จากนั้นก็พูดว่า “นายติดต่อครอบครัวของผู้หญิงคนนั้น ให้พวกเขาไปอาละวาดที่ตระกูลกู้ และฟ้องร้องกู้เส้าถิงขึ้นศาล”
สถานการณ์ในตอนนี้ ถ้าซ่างกวนเชียนและคนอื่นๆ เข้ามาช่วย ตระกูลกู้สามารถพลิกสถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย
จะต้องจัดการตระกูลกู้ให้ได้!
จิ้นเฟิงเหราพยักหน้า “ได้ครับ ผมจะให้คนติดต่อเดี๋ยวนี้”
“นอกจากนี้ ถึงแม้ตระกูลกู้จะล้มลง แต่ก็ยังมีบริษัทอื่นอีก เราต้องหาวิธีทำให้บริษัทอีกหนึ่งบริษัทล้มลงให้ได้”
จิ้นเฟิงเหราเลิกคิ้วขึ้น “พี่ครับ วางใจได้ครับ ผมรู้ว่าต้องทำยังไงบ้าง”
“ขอบใจมาก”
แม้ว่าจิ้นเฟิงเฉินจะพูดโดยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา แต่จิ้นเฟิงเหรารู้ว่าเขาเป็นห่วงตนเองมาก เขาจึงหัวเราะและพูดล้อเล่น “พี่ครับ ถ้าพี่รู้สึกว่าผมทำงานหนักจริงๆ ก็รอเรื่องทั้งหมดจบลง ให้วันหยุดผมนานหน่อย”
จิ้นเฟิงเฉินตกลงโดยไม่มีการลังเล “ได้”
“พี่พูดแล้วนะครับ อย่าปฏิเสธทีหลังนะครับ” จิ้นเฟิงเหรายังคงจำได้ว่าครั้งล่าสุดเขาสัญญาว่าจะให้วันหยุดยาวกับตนเอง แต่ก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมาหลายเรื่องติดต่อกัน จนลืมเรื่องนั้นไปเลย
“อืม”
พอเห็นจิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า จิ้นเฟิงเหราก็เดินออกไปอย่างพึงพอใจ
……
หลายวันมานี้ เจียงสื้อสื้อไม่ได้รับส่งเสี่ยวเป่าไปกลับจากโรงเรียน สาเหตุหลักเพราะจิ้นเฟิงเฉินคิดว่ามีคนรับผิดชอบรับส่งแล้ว
ไม่อยากให้เธอต้องลำบาก
วันนี้ หลังจากที่เจียงสื้อสื้อพบลูกค้าจนเสร็จ ระหว่างทางกลับบริษัทเธอก็คิดพิเรนทร์ จึงกลับรถตรงสี่แยกและขับรถไปที่โรงเรียนของเสี่ยวเป่า
เธอมาถึงโรงเรียนก่อนเวลาเลิกเรียน เธอจึงนั่งรอในรถ
พอถึงเวลาเลิกเรียน เธอก็เปิดประตูและลงจากรถทันที ก่อนจะเดินตามผู้ปกครองคนอื่นๆ เข้าไปในโรงเรียน
เดิมทีเจียงสื้อสื้อตั้งตารอว่าเสี่ยวเป่าจะดีใจมากแค่ไหนตอนที่ได้เห็นเธอ แต่พอเธอมาถึงห้องเรียน ครูประจำชั้นเห็นเธอ ก็รู้สึกประหลาดใจมาก
“คุณแม่ของน้องเป่ยเฉิน มาได้ยังไงกันคะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?”
เจียงสื้อสื้อไม่ได้ยินสิ่งที่ผิดปกติในคำพูดของเธอในตอนแรก จึงตอบด้วยรอยยิ้ม “ฉันมารับเสี่ยวเป่าค่ะ”
“แต่ว่าน้องเป่ยเฉินไม่ได้มาที่โรงเรียนหลายวันแล้วนะคะ”
“อะไรนะคะ?” เจียงสื้อสื้อนึกว่าตัวเองได้ยินผิดไป
“คุณพ่อของน้องเป่ยเฉินบอกกับทางโรงเรียนไว้ค่ะ ว่าน้องเป่ยเฉินไม่สบายขอหยุดพักการเรียนสักระยะหนึ่ง”
พอเห็นเจียงสื้อสื้องุนงง ครูประจำชั้นก็ขมวดคิ้ว “หรือว่าคุณไม่รู้เรื่องนี้คะ?”
หยุดพักการเรียนสักระยะอย่างนั้นเหรอ? !
เจียงสื้อสื้อยกยิ้มแหย “ฉันไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ ค่ะ”
“ไม่น่าจะเป็นไปได้นะคะ หรือว่าคุณพ่อของน้องเป่ยเฉินไม่ได้บอกคุณคะ?”
เจียงสื้อสื้อไม่ทันได้ตอบคำถาม เธอรีบทิ้งประโยคไว้ว่า “คุณครูคะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ” แล้วรีบจากไปอย่างรวดเร็ว
เธอจะต้องกลับไปถามจิ้นเฟิงเฉิน ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
จิ้นเฟิงเฉินเหลือบมองนาฬิกาข้อมือของเขา คิ้วเข้มของเขาขมวดเป็นปม ถึงตอนนี้แล้ว ทำไมเธอยังไม่กลับมาอีกนะ?
เขาโทรหาลูกค้า พวกเขาบอกว่าเลิกประชุมไปนานแล้ว
นั่นก็หมายความว่าสื้อสื้อน่าจะกลับมาถึงบริษัทตั้งนานแล้ว
แต่ตอนนี้ กลับยังไม่เห็นอีกฝ่าย หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างทางกันนะ?
จิ้นเฟิงเฉินลุกขึ้นยืน และตั้งใจจะออกไปตามหา
ทันใดนั้นเอง ประตูห้องทำงานก็ถูกผลักเข้ามาจากภายนอก
คนที่เข้ามาคือเจีนงสื้อสื้อ
“สื้อสื้อ คุณไปไหนมา” จิ้นเฟิงเฉินเดินผ่านโต๊ะ แล้วเดินไปหาเธออย่างรวดเร็ว ก่อนจะถามด้วยความห่วงใย
เจียงสื้อสื้อมองเขาอย่างเย็นชา แววตาของเธอโกรธเล็กน้อย
จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว “เป็นอะไรไปครับ?”
“วันนี้ฉันไปรับเสี่ยวเป่าที่โรงเรียน แต่คุณครูที่โรงเรียนบอกว่าเสี่ยวเป่าไม่ได้ไปโรงเรียนมาหลายวันแล้ว นี่มันอะไรกันคะ?”
เสียงของเธอราบเรียบไม่มีคลื่นเสียงขึ้นลง จึงเดาไม่ถูกว่าเธอกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน
จิ้นเฟิงเฉินหลบสายตา หลบเลี่ยงแววตาที่คมชัดของเธอ แล้วยกมือขึ้นลูบจมูกของตัวเอง “ผมให้เสี่ยวเป่าหยุดพักการเรียนสักระยะเองครับ”
“ทำไมต้องหยุดเรียนด้วยคะ?” เจียงสื้อสื้อเดินเข้าไป แล้วสบตากับเขา “บอกเหตุผลมาด้วยค่ะ”
จิ้นเฟิงเฉินมองไปที่เธอ ในใจรู้ดีว่าไม่สามารถปิดเธอได้
ดังนั้นเขาจึงอธิบายสถานการณ์ของเสี่ยวเป่าออกไปตามความเป็นจริง
“คุณกำลังจะบอกว่าสภาพจิตใจของเสี่ยวเป่าผิดปกติ กำลังอยู่ระหว่างการรักษาอย่างนั้นเหรอคะ” เจียงสื้อสื้อเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
นี่คือเรื่องที่เธอคิดไม่ถึงเลย
จิ้สเฟิงเฉินพยักหน้า “อืม ทุกวันลูกจะต้องไปทำการรักษาที่ห้องทำงานของมู่ป๋ายตามเวลาที่กำหนด”
“คุณปิดบังเรื่องที่สำคัญแบบนี้กับฉันอย่างนั้นเหรอคะ?” เจียงสื้อสื้อโกรธมาก “นั่นมันลูกชายของฉันนะคะ คุณทำแบบนี้ได้ยังไงกัน?”