ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1442 ยืมมือคนอื่นมารับความสูญเสียแทน
วันถัดไป ตอนมื้อเช้า อานอานเสนอออกมาว่าจะไปตกปลาที่ทะเลสาบบนภูเขาแถวๆนี้
ดังนั้นแล้ว พอกินข้าวมื้อเช้าเสร็จแล้ว เจียงสื้อสื้อกับเหลียงซินเวยก็ได้พาเด็กๆทั้งสามคนเดินเข้าไปยังทะเลสาบนั้น
รถหยุดจอดอยู่ที่ข้างทางไม่ไกลออกไปจากทะเลสาบ
เด็กทั้งสามคนรีบเปิดประตูกระโดดลงจากรถไปอย่างรอไม่ไหว แล้ววิ่งไปยังทะเลสาบ
“ช้าหน่อย!” เจียงสื้อสื้อตะโกนออกมา
เสียงพูดนี้ยังไม่ทันได้หลุดออกมาก็เห็นเถียนเถียนชนเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งเสียแล้ว
“เถียนเถียน!” เจียงสื้อสื้อรีบวิ่งเข้ามาทันที
เถียนเถียนพอก้นได้นั่งลงไปกับพื้นอย่างแรงแล้ว ก็ส่งเสียงร้อง”อ๊ะ” แล้วก็ร้องไห้ออกมา
ผู้หญิงที่ถูกชนก็ได้ย่นคิ้วออกมาด้วยความเกลียดชังออกมา”ทั้งๆที่แกเป็นคนมาชนฉันเองแท้ๆ แกจะร้องไห้ทำไมกัน?”
“ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ” เจียงสื้อสื้อรีบเข้าไปอุ้มเถียนเถียนขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว ก้มหน้าเอ่ยขอโทษออกไปไม่หยุด
ตอนที่เหลียงซินเวยที่ตามอยู่ข้างหลังเธอเห็นผู้หญิงคนนั้นเข้า ถลึงตาออกมาด้วยความประหลาดใจ”เย่เสี่ยวอี้!”
ไม่ผิดเลย คนที่เถียนเถียนชนเข้าเป็นเย่เสี่ยวอี้จริงๆ
ตอนที่เย่เสี่ยวอี้เห็นเหลียงซินเวย ใบหน้าทั้งหน้าก็ได้มืดครึ้มออกมาทันที ส่งเสียงเฮอะเสียงเย็นออกมาด้วยความเหยียดหยาม”ที่แท้ก็เป็นพวกแกนี่เอง ฉันยังนึกอยู่เลยว่าใครกันที่ลูกที่สั่งสอนออกมาได้ไม่มีการศึกษาได้อย่างนี้”
“เธอพูดว่าอะไรนะ?” เหลียงซินเวยโกรธออกมา
เย่เสี่ยวอี้ยิ้มออกมา”ทำไม? ละอายจนพาลโกรธขึ้นมาเสียแล้ว?”
“เธอ!” เหลียงซินเวยโกรธจนอยากจะเข้าไปเถียงให้รู้ดำรู้แดง
เจียงสื้อสื้อรีบดึงเธอเอาไว้ทันที ส่ายหน้าออกไปเบาๆเพื่อเป็นการบ่งบอกเธอว่าอย่าวู่วาม เลิกตาขึ้นมองไปทางเย่เสี่ยวอี้ สายตาเยือกเย็นออกมา”คุณเย่ เด็กชนเธอ เป็นเด็กที่ผิดไป แต่เธอก็ไม่จำเป็นต้องพูดจาโหดร้ายขนาดนี้เลย”
“ฉันพูดความจริงมันโหดร้ายที่ไหนกัน?” เย่เสี่ยวอี้แสร้งทำเป็นไม่เข้าใจออกมา
เจียงสื้อสื้อหัวเราะออกมาเบาๆ”คุณเย่ อย่าลืมว่าน้าสะใภ้เล็กของฉันเคยชมเธอว่าสุภาพมีมารยาทมาก่อน เป็นคนอ่อนโยนใจดี ทำไมวันนี้ฉันถึงรู้สึกไม่ได้กันนะ? หรือว่า การแสดงออกเมื่ออยู่ต่อหน้าฉันกับน้าสะใภ้เล็กจึงไม่เหมือนกันเลยสักนิด? คนชอบตีสองหน้า? ”
เย่เสี่ยวอี้พอได้ยินคำว่า”คนชอบตีสองหน้า” คำนี้แล้ว ก็ได้โกรธเดือดดาลขึ้นมาทันที”เธอต่างหากที่ตีสองหน้า ทั้งบ้านของเธอต่างก็เป็นคนชอบตีสองหน้ากันทั้งนั้น!”
เห็นเธอโกรธขนาดนี้ เหลียงซินเวยส่งเสียงหัวเราะ”คิกคัก”ออกมา
เย่เสี่ยวอี้ได้ยินแล้ว ก็ยิ่งโกรธกว่าเดิม จึงใช้นิ้วมือชี้ไปที่เธอ”เหลียงซินเวย เธอหัวเราะอะไร? มันมีอะไรให้น่าตลกกัน?”
เหลียงซินเวยมองเธอไปด้วยรอยยิ้ม”ฉันก็แค่คิดว่าเธอน่ารักเท่านั้นเอง”
นึกไม่ถึงว่าเธอจะพูดมาอย่างนี้ เย่เสี่ยวอี้ตะลึงงันไปทันที แต่เพียงไม่นานก็ได้สติกลับมา ใบหน้านั้นก็ไม่รู้ว่าโกรธหรือว่าอายอยู่ มันจึงได้แดงก่ำออกมา
“เหลียงซินเวย อย่านึกว่าเธอจะพูดมาอย่างนี้ ฉันจะยกโทษให้เธอ”
“ฉันไม่มีอะไรต้องให้เธอยกโทษให้ฉัน ฉันเพียงคิดว่าเธอมันน่ารักมากจริงๆ”
เย่เสี่ยวอี้ไม่พูดอะไรไปชั่วขณะหนึ่ง ใช้จมูกส่งเสียงเฮอะออกมาอย่างแรง รีบสาวเท้าออกไป
เจียงสื้อสื้อกับเหลียงซินเวยหันหน้าไปมองเงาร่างเบื้องหลังที่เดินออกไปของเธอ ทั้งสองคนได้หันไปมองหน้าแล้วยิ้มให้กัน
“ถึงแม้ว่าเย่เสี่ยวอี้จะเอาแต่ใจตัวเองเจ้ากี้เจ้าการจริงๆ แต่ก็ยังมีจุดที่น่ารักอยู่บ้าง” เจียงสื้อสื้อพูด
“ความรู้สึกที่เธอมีต่อยู่เชินมันเป็นของจริง ถ้าไม่ใช่การปรากฏตัวของฉัน บางทีพวกเขาคงจะได้แต่งงานกันจริงๆ”
พูดถึงตรงนี้แล้ว เหลียงซินเวยก็ถอนหายใจออกมา”พูดให้แย่หน่อย คือฉันต่างหากที่เป็นมือที่สามคนนั้น”
“อย่าว่าตัวเองอย่างนี้สิ” เจียงสื้อสื้อชำเลืองมองเธอไปอย่างไม่สบอารมณ์นัก”พี่ชายไม่ชอบหล่อน ถึงแม้ว่าจะไม่มีเธอ พวกเขาก็ไม่มีทางจะแต่งงานกันหรอก”
เหลียงซินเวยยิ้มออกมาเล็กน้อย”คงอย่างนั้นล่ะมั้ง”
เรื่องที่ตั้งสมมติฐานมาจำพวกนี้ ไม่ว่าใครก็ไม่รู้เลยว่าผลมันจะเป็นยังไง
“หม่ามี้ รีบมาเร็ว”
เสี่ยวเป่าที่ได้ยืนอยู่ริมทะเลสาบเป็นที่เรียบร้อยแล้วได้ตะโกนเรียกพวกเธอเสียงดัง
เจียงสื้อสื้อยิ้มให้กับเหลียงซินเวยพลางเอ่ยออกไป”พวกเราเข้าไปกันเถอะ”
……
ต่อจากนั้นเองบริษัทที่ได้ร่วมงานกันทั้งสองบริษัทได้เกิดปัญหาขึ้นมา แล้วยังมีข่าวอื้อฉาวอยู่เต็มไปหมด ขนาดที่ยังนำชื่อเสียงของบริษัทของซ่างกวนเชียนกับคริสมินพากันได้รับผลกระทบกันไปทั้งนั้น
นี่มันทำให้คริสมินกับซูชิงหยิงต่างพากันโกรธกันมาก
“เธอว่าตอนก่อนที่ซ่างกวนเชียนจะหาคู่ค้าเขาไม่ได้ตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนเลยหรือไง?” ซูชิงหยิงยิ้มเย็นออกมา ใบหน้าก็ได้มีสีหน้าเหน็บแนมออกมา”ก็เพราะว่าทั้งสองบริษัทนี้ บริษัทของพวกเราเลยถูกคนอื่นด่าว่าเป็นบริษัทที่รวมคนชั่วอยู่ด้วยกัน”
พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ซูชิงหยิงก็โกรธจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันออกมา
“อย่าโกรธไปเลย” คริสมินช่วยเธอคลายอารมณ์โกรธ”โชคดีที่พวกเราตัดขาดกับทั้งสองบริษัทนั้นได้ทัน ไม่อย่างนั้นผลกระทบมันจะใหญ่กว่านี้”
ซูชิงหยิงครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง พลางถามออกมา”อย่างนั้นแล้วตอนนี้พวกคุณวางแผนจะทำยังไง?”
“จิ้นกรุ๊ปคว้าโปรเจ็คของTSกรุ๊ปมา อยู่ในตอนที่ดีใจกันสุดๆ พูดตามตรงแล้วตอนนี้ฉันกับซ่างกวนเชียนก็ช่วยอะไรไม่ได้ด้วย”
“ช่วยอะไรไม่ได้?” ซูชิงหยิงนึกว่าตัวเองจะฟังผิดไป เธอมองเขาไปอย่างยากที่จะเชื่อ”คริสมิน อย่าลืมว่านายเคยรับปากอะไรฉัน”
“ฉันไม่ลืม” คริสมินโอบเธอเข้าอ้อมแขน”ฉันจะต้องช่วยคุณแก้แค้นให้ได้”
“คริสมิน คุณก็รู้ว่าฉันรอนานไม่ได้”
ซูชิงหยิงขอเพียงแค่คิดถึงว่าตอนนี้เจียงสื้อสื้อใช้ชีวิตไปอย่างมีความสุขแล้ว เธอก็เกลียดขึ้นมา แทบอยากจะฆ่าเจียงสื้อสื้อไปเสียตอนนี้เลย
“ผมรู้ คุณให้เวลาผมอีกสักหน่อย ได้มั้ย?” คริสมินก้มหน้าลง มองเธอไปอย่างอ่อนโยน
ซูชิงหยิงสูดหายใจเข้าไปลึกๆ”ได้ ฉันจะให้เวลาคุณอีกสักหน่อย”
ในขณะเดียวกันนั้นเอง หลี่ซีกับเจี่ยงฉือกำลังวางแผนไว้ว่าจะจัดการกับจิ้นกรุ๊ปยังไง
“พี่ชายของฉันพวกเขามีการเคลื่อนไหวอะไร?” หลี่ซีถามออกมา
เจี่ยงฉือส่ายหน้าออกมา”ตอนนี้ยังไม่มี ข่าวฉาวของทั้งสองบริษัทนั้นต่างก็สร้างผลกระทบที่แน่นอนให้กับซ่างกวนกรุ๊ปทั้งนั้น ในช่วงเวลานี้หุ้นมันก็ไม่มั่นคงเลย เดี๋ยวก็ขึ้นเดี๋ยวก็ลง ฉันคิดว่าตอนนี้พี่ชายของคุณเองก็กำลังปวดหัวจนไม่รู้ว่าควรจะต้องทำยังไงด้วยเหมือนกัน”
หลี่ซียิ้มเย็นออกมาเล็กน้อย”ฉันไม่ควรจะโอบอุ้มความหวังต่อพี่ชายของฉันมากเกินไป”
เธอคิดๆไป แล้วก็ได้ถามออกไป”งั้นคุณก็มีวิธีแล้วเหรอ?”
“ผมมีอยู่วิธีหนึ่ง” เจี่ยงฉือพูดออกมา
“คืออะไร?” หลี่ซีรีบถามออกไป
“พี่ชายของคุณกับคริสมินพวกเขาจัดการกับจิ้นกรุ๊ป จากผิวเผินทุกคนต่างก็รู้กันทั้งนั้น”
หลี่ซีขมวดคิ้วออกมา”แล้วยังไงกันล่ะ?”
“ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว พวกเราสามารถใช้ประโยชน์จากตรงจุดนี้ได้นะ”
หลี่ซีคิดพิจารณาขึ้นมาอย่างเอาจริงเอาจัง ในทันใดนั้นเองดวงตาก็ได้ส่องสว่างออกมาทันที”คุณวางแผนจะยืมมือคนอื่นมารับความสูญเสียแทน…”
“ฉลาด” เธอยังไม่ทันได้พูดจบ เจี่ยงฉือดีดนิ้วพลางเอ่ยชมออกมา
หลี่ซีหรี่ตาลงเล็กน้อย”ฉันได้ข่าวว่าช่วงนี้จิ้นกรุ๊ปวางแผนจะเข้าซื้อกิจการบริษัทเล็กๆที่เชี่ยวชาญการวิจัยเรื่องปัญญาประดิษฐ์โดยเฉพาะเจ้าหนึ่ง บางทีพวกเราก็จะสามารถแย่งชิงบริษัทที่เขาเข้าซื้อไปเมื่อก่อนหน้านั้นมาได้”
เจี่ยงฉือพยักหน้าออกมา”แน่นอนว่าได้อยู่แล้ว สิ่งที่คุณคิดอยู่มันตรงกับผมพอดีเลย”
“พวกเราแอบดำเนินการเข้าซื้อกิจการ อย่าเปิดเผยข้อมูลใดๆของพวกเราออกไป ทำให้จิ้นเฟิงเฉินนึกว่ามันเป็นฝีมือของคริสมิน”
หลี่ซีแสยะริมฝีปากออกมา อย่างนี้แล้ว ไม่เพียงจะสามารถทำให้จิ้นเฟิงเฉินได้ลิ้มรสความล้มเหลวเป็นครั้งแรก แล้วยังสามารถเร่งสงครามการสู้รบกันระหว่างจิ้นกรุ๊ปกับคริสมินให้มันเร็วขึ้นได้
“ฉลาดเกินไปแล้ว” เจี่ยงฉือมองเธอไปใบหน้าชมเชย
หางคิ้วของหลี่ซีได้เลิกขึ้น เอ่ยพูดออกไปอย่างหยิ่งทะนง”แน่นอนว่าฉันต้องฉลาดอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นแล้วฉันจะกล้ากลับประเทศมาจัดการกับจิ้นกรุ๊ปได้ยังไงกันล่ะ?”
เจี่ยงฉือเงยหน้าขึ้นหัวเราะออกมาเสียงดัง”ถูกต้อง คุณพูดมาไม่ผิดเลย”