ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1447 เขาไม่ใช่คนตื้นเขิน
ท่ามกลางสายตาของเหล่าผู้คน หลี่ซีได้เดินตรงเข้าไปอยู่ตรงหน้าจิ้นเฟิงเฉิน ยื่นมือออกไป บนใบหน้าสวยเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่งดงาม”เป็นเกียรติที่ได้พบค่ะคุณท่านจิ้น”
มองดูใกล้ๆใบหน้าที่ค่อนข้างจะดูปลอมไปบ้างของหลี่ซีนั้น เจียงสื้อสื้อหนาวสั่นขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
ทั้งๆที่เธอยิ้มอยู่ แต่ทำไมถึงได้รู้สึกว่าดูน่ากลัวมากเลย?
จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้จับมือเธอ เอ่ยออกไปอย่างเรียบนิ่ง”สวัสดี”
หลี่ซีถอนมือกลับมาด้วยสีหน้าอับอาย แต่เพียงไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ”ดีใจมากที่วันนี้คุณสามารถมาได้”
ต่อจากนั้น เธอก็มองไปทางเจียงสื้อสื้อ ยิ้มพลางถามออกมา”คุณก็คือภรรยาของคุณท่านจิ้น เจียงสื้อสื้อใช่มั้ยคะ?”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า”สวัสดีค่ะ”
“สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น นายหญิงจิ้นเป็นคนสวยคนหนึ่งอย่างที่คิดจริงๆด้วย”
คำชมนี้พอได้ยินแล้วมันดูไม่จริงใจเลย
เจียงสื้อสื้อไม่เอามาใส่ใจ เอ่ยออกไปอย่างถ่อมตัว”เมื่อเทียบกับคุณหลี่แล้ว ฉันยังห่างชั้นอีกไกลค่ะ”
“งั้นเหรอคะ?” หลี่ซีแสดงท่าทางประหลาดใจออกมา ก่อนจะเอ่ยออกมากึ่งล้อเล่นกึ่งจริงจัง”ถ้าฉันสวยกว่าคุณจริงๆ งั้นทำไมคุณท่านจิ้นถึงไม่มองฉันสักหน่อยเลย?”
คิ้วคมกริบของจิ้นเฟิงเฉินขมวดเข้าด้วยกัน
เจียงสื้อสื้อตกใจออกมาเล็กน้อย ในทันใดนั้นเองก็ได้มีการตอบสนองขึ้นมา จากนั้นก็ได้ยิ้มออกมา”เขาไม่ใช่คนที่ตื้นเขินอย่างนั้นหรอกค่ะ”
“อ้อ อย่างนี้นี่เอง” หลี่ซีเข้าใจได้ทันที จากนั้นก็พูดต่อออกมาว่า”นายหญิงจิ้นมีวาสนาดีมากจริงๆเลยนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ” เจียงสื้อสื้อส่งยิ้มกลับไปอย่างสุภาพ
สายตาของหลี่ซีได้จรดไปบนใบหน้าของจิ้นเฟิงเฉินอีกครั้ง จากนั้นก็เอ่ยออกไปอย่างเกรงอกเกรงใจ”แขกที่มาวันนี้เยอะไปหน่อย ถ้ามีตรงไหนที่ดูแลได้ไม่ทั่วถึง ก็ช่วยให้อภัยกันด้วยนะคะ”
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้าออกมา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ในดวงตาของหลี่ซีเห็นได้ชัดว่าได้พาดผ่านความผิดหวังออกมา บนใบหน้ายังคงรักษารอยยิ้มเอาไว้”หวังว่าพวกคุณจะเที่ยวงานกันอย่างมีความสุขนะคะ”
พูดจบ เธอก็ได้ผันร่างเดินออกไปยังแขกคนอื่น
เห็นเงาร่างเบื้องหลังที่เดินออกไปของเธอ เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้วออกมา เอ่ยเสียงเบาออกไป”เธอค่อนข้างแปลกเลยจริงๆ”
“พวกเราระวังสักหน่อยก็ดี” จิ้นเฟิงเฉินเอ่ยออกมา
เจียงสื้อสื้อส่งเสียง”อืม” ออกมา จากนั้นจู่ๆก็เปลี่ยนประเด็นไป แล้วเอ่ยยิ้มๆออกมา”ฉันหิวแล้ว อยากกินอะไรสักหน่อย”
จิ้นเฟิงเฉินพาเธอโซนบุฟเฟ่ต์
หลี่ซีกำลังพูดกับคนอื่นอยู่ แสร้งทำเป็นหันหน้าไปอย่างไม่ตั้งใจ ก็เห็นเจียงสื้อสื้อกำลังถือจานอาหารอยู่พอดี และจิ้นเฟิงเฉินก็เดินเข้าไปตรงมุม
มือที่ถือแก้วไวน์อยู่ได้บีบแน่นออกมาทันที บนใบหน้าสวยได้ปกคลุมไปด้วยความเยือกเย็น จ้องมองพวกจิ้นเฟิงเฉินไปด้วยสายตามุ่งร้าย
แขกที่อยู่รอบๆเธอต่างพากันสั่นกลัวกันขึ้นมา
“แอร์ตั้งอุณหภูมิต่ำเกินไปเหรอ? ทำไมมันถึงได้หนาวขึ้นมานิดหน่อย?” มีแขกคนหนึ่งถามออกมาด้วยความแปลกประหลาดใจ
“ฉันก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างที่จะหนาวนิดหน่อยเหมือนกัน” หางตาของแขกคนนี้เหลือบไปเห็นสีหน้าของหลี่ซีดูไม่ดี จึงได้ส่งสายตาบอกใบ้คนอื่นไปทันที
คนอื่นได้พากันมองไปทางหลี่ซีกันทีละคน เห็นสีหน้าของเธอไม่ดี ทุกคนต่างพากันเธอมองฉัน ฉันมองเธอกัน กังวลว่าตัวเองพูดอะไรผิดไปตรงไหนหรือเปล่า ถึงได้ทำให้เธอไม่พอใจขึ้นมา
“คุณหลี่ คุณเป็นอะไรไปหรือเปล่า?” มีคนหนึ่งใจกล้าถามออกไปเสียงเบา
หลี่ซีถูกเสียงนี้ดึงสติกลับมา สงบสติอารมณ์ เรียกใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มกลับมา จากนั้นก็เอ่ยออกไป”ไม่มีอะไรค่ะ ก็แค่จู่ๆก็นึกขึ้นมาได้ว่ายังมีงานที่ทำไม่เสร็จอยู่นิดหน่อย จิตใจก็รู้สึกไม่ค่อยดีขึ้นมาทันทีเลย”
“คุณหลี่เป็นคนที่มีความรับผิดชอบมากจริงๆด้วยนะคะ”
“ถ้าสามารถร่วมงานกับคุณหลี่ได้ อย่างนั้นแล้วจะมีความสุขมากจริงๆ”
“ใช่ๆ”
ทุกคนต่างก็ใช้สมองกันอย่างเต็มที่เพื่อชื่นชมหลี่ซีกันออกมา พยายามใช้วิธีการอย่างนี้เพื่อเข้าตีสนิทหลี่ซี จะได้ให้บริษัทของตัวเองสามารถร่วมงานกับJRได้
แต่หลี่ซีไม่ว่าจะกับใครก็แสดงรอยยิ้มออกมาทั้งนั้น มองไม่ออกเลยว่าเธอมีความต้องการจะร่วมงานกับใครเลย
……
“ฉันอยากไปห้องน้ำ” เจียงสื้อสื้อเข้าไปกระซิบข้างๆใบหูของจิ้นเฟิงเฉิน
จิ้นเฟิงเฉินกำลังคุยกับคนอื่นอยู่ เดิมทีก็อยากจะไปกับเธอด้วย แต่ก็ถูกเจียงสื้อสื้อปฏิเสธไป
“ก็แค่ไปเข้าห้องน้ำ ไม่มีทางจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาหรอก”
พูดจบ เจียงสื้อสื้อก็เดินออกไป จิ้นเฟิงเฉินทำได้แค่เพียงมองเธอวิ่งไปทางห้องน้ำไปอย่างจนใจ
“คุณท่านจิ้น ด้านปัญญาประดิษฐ์ทางด้านนี้…”
จิ้นเฟิงเฉินถูกดึงสติกลับมา กลับมาคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ทางด้านปัญญาประดิษฐ์กับอีกฝ่ายต่อ
เจียงสื้อสื้อเข้าห้องน้ำเสร็จ เดินออกมา เตรียมที่จะล้างมือ ก็เห็นหลี่ซีเดินเข้ามาพอดี
เธอพยักหน้าทักทายไปอย่างสุภาพ แล้วก้มหน้าล้างมือไป
หลี่ซีเดินตรงเข้าไปยังเจียงสื้อสื้อ เจียงสื้อสื้อเลิกตาขึ้นมองผู้หญิงที่เข้ามาใกล้ตัวเองในกระจก ภายในใจก็ได้ตั้งการ์ดระวังตัวขึ้นมาชั้นแล้วชั้นเล่า
เธอตั้งตัวตรงขึ้นมา ดึงกระดาษแผ่นหนึ่งออกมา เช็ดมือไปพลางถามออกไปราวกับไม่ได้ใส่ใจอะไรไปพลาง”คุณหลี่ต้องการจะเติมหน้าเหรอคะ?”
หลี่ซียืนอยู่ข้างๆเธอ จัดผมอยู่หน้ากระจกแล้วก็ได้หันหน้าไปมองเธอ เอ่ยออกไปด้วยรอยยิ้ม”เปล่าหรอกค่ะ ฉันมาหาคุณ”
“หาฉัน?” เจียงสื้อสื้อรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย”หาฉันมีธุระอะไรเหรอคะ?”
“มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรหรอก เพียงแค่เคยได้ยินมาว่านายหญิงจิ้นกับคุณท่านจิ้นเป็นคู่แต่งงานที่รักกันมาก มาวันนี้พอได้เห็นแล้วมันก็เป็นอย่างนั้นเลยจริงๆ”
ไม่รู้ว่าตนคิดไปเองหรือเปล่า ทำไมถึงได้รู้สึกว่าเสียงของเธอมันฟังดูเยือกเย็นคาดเดาไม่ถูกอยู่บ้างกันนะ?
เจียงสื้อสื้อยิ้มออกมาเล็กน้อย”ผ่านอะไรมาตั้งมากมาย แน่นอนว่าความรู้สึกมันจะต้องลึกซึ้งเป็นธรรมดาอยู่แล้ว”
นี่หล่อนกำลังอวดกับตนอยู่?
ภายในดวงตาของหลี่ซีได้ปรากฏความมืดครึ้มออกมา แต่บนใบหน้ายังคงรักษารอยยิ้มออกมา”สามารถบอกกับฉันหน่อยได้มั้ยว่าพวกคุณผ่านอะไรกันมาเหรอคะ?”
“พวกเรา…” เจียงสื้อสื้อเห็นสีหน้าอยากรู้มากๆของเธอแล้ว จึงพูดเปลี่ยนประเด็นไปทันที พลางพูดออกไปด้วยความละอายใจ”ขอโทษนะคะ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของฉันกับเฟิงเฉิน ดังนั้นแล้ว…”
เธอไม่ได้บอกอะไรออกไป เธอเชื่อว่าหลี่ซีสามารถเข้าใจความหมายของเธอได้
หลี่ซีเผยสีหน้าเข้าใจได้ทันทีออกมา เพียงไม่นานก็ได้เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม”โอเค ฉันทราบแล้วค่ะ”
“ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้าให้กับเธอ แล้วก็เดินออกไป
พอเดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว เธอผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกออกมายาวเหยียด
เธอหันหน้าไปมองด้านในห้องน้ำไปแวบหนึ่ง เห็นหลี่ซียังอยู่ที่หน้าอ่างล้างมือ กำลังมองเธออยู่
ภายในใจเกิดความตกใจขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก เธอรีบถอนสายตากลับมา รีบเดินไปยังห้องจัดงานเลี้ยง
หลี่ซีถอนสายตากลับไป มองไปยังตัวเองที่อยู่ในกระจก ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวน่ากลัวออกมาเพราะความอิจฉา
“ผ่านอะไรมาเยอะ ความรู้สึกมันจะต้องลึกซึ้งเป็นธรรมดา?” เธอพูดเยาะหยันออกมา”หรือว่าประสบการณ์ที่ฉันกับจิ้นเฟิงเฉินผ่านกันมามันน้อยไปงั้นเหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เขาได้ตายไปตั้งนานแล้ว!”
ตอนที่พูดประโยคนี้ออกมา ก็ถูกความเสียใจพวกนั้นที่จิ้นเฟิงเฉินเป็นคนก่อขึ้นมาโจมตีเข้ามาอีกครั้ง เธอกุมหน้าอกเอาไว้ กัดฟันกรอดแล้วพูดออกมาว่า”เจียงสื้อสื้อ ฉันจะไม่มีทางปล่อยแกไปแน่! ฉันจะต้องทำให้แกได้ลิ้มรสความเจ็บปวดของฉันเมื่อตอนนั้นให้ได้”
“คุณหลี่!”
มีผู้หญิงที่เป็นคู่ควงเดินทางมากับแขกหลายคนเดินเข้ามา มองมาที่เธอ ร้องตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ
หลี่ซีข่มอารมณ์ทั้งหมดเอาไว้ทันที ผันร่างมายิ้มพยักหน้าทักทายพวกเธอ แล้วก็เดินออกไป
เธอเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย สีหน้าดูหยิ่งยโส เหมือนกับเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์คนหนึ่ง
ผู้หญิงทั้งหลายเหล่านั้นมองตามหลังเธอออกไปอย่างแข็งค้าง นานกว่าจะได้สติกลับมา
“ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ชอบหล่อน แต่ก็ไม่ปฏิเสธเลยว่าหล่อนสวยมากจริงๆ สง่างามมาก!” มีผู้หญิงคนหนึ่งพูดออกมาด้วยความไม่ยินยอมเล็กน้อย
ผู้หญิงอีกคนหนึ่งได้ถอนหายใจออกมา”คนเขาเป็นถึงลูกเลี้ยงของประธานJRกรุ๊ปเลยนะ จะไม่สง่างามได้เหรอ?”
“ใช่แล้ว พวกเราก็ประจบประแจงหล่อนให้ดีๆกันเถอะ บางทีอาจจะสามารถร่วมงานกับบริษัทของทางบ้านพวกเราได้”
แต่แขกทั้งหมดที่มาร่วมงานเลี้ยงงานนี้ ต่างก็มีเป้าหมายที่อยากจะร่วมงานกับJRกรุ๊ปกันทั้งนั้น