ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1470 ความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา
เห้อซูหานทำได้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ใช้เวลาแค่วันเดียวก็สืบหาเรื่องราวของคริสมินได้หมดแล้ว
เห้อซูหานรีบมาที่บริษัท แล้วรายงานกับเจ้านาย: “คุณชายครับ คริสมินชื่อเสียงเขาแย่มากในต่างประเทศ”
จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว “ทำไมล่ะ?”
“บริษัทก่อตั้งขึ้นที่ทวีปอเมริกาใต้ ตอนแรกเป็นแค่บริษัทเล็กๆ แต่เขาอยากขยายกิจการให้ใหญ่ขึ้น เลยใช้วิธีการสกปรกรับซื้อกิจการคนอื่นมาไม่น้อย”
จิ้นเฟิงเหราทำเสียง ‘หึ’ ในลำคออย่างเย็นชา “ไม่ต้องใช้ศัพท์รับซื้อที่สุภาพขนาดนี้หรอก นี่มันเป็นการครอบงำชัดๆ”
จิ้นเฟิงเฉินมองเขาแล้วพูดเสียงทุ้มว่า: “ซูหาน เล่ารายละเอียดมาสิ”
เห้อซูหานพยักหน้า “ครับ”
“ตอนที่อยู่ทวีปอเมริกาใต้ คริสมินแกล้งทำเป็นร่วมงานกับบริษัทอื่น และหลอกว่าจะได้กำไลสูงหลอกล่อให้บริษัทพวกนั้นเซ็นชื่อลงสัญญา พอบริษัทพวกนั้นลงทุนเข้าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถูกหลอกจนหมดตัวแล้ว ถึงรู้ว่ามันคือแผนการหลอกลวง คริสมินก็ใช้โอกาสที่บริษัทพวกเขากำลังจะล้มละลาย ก็รีบซื้อกิจการพวกเขาอย่างเร็ว เพราะเขาใช้วิธีสกปรกแบบนี้ จึงทำให้ชื่อเสียงในทวีปอเมริกาใต้ของเขาแย่มาก แค่พูดถึงเขา ทุกคนก็ต่างไม่พอใจ เกลียดเขาเข้ากระดูกดำเลยล่ะครับ”
“คนระยำ!” จิ้นเฟิงเหราอดไม่ได้สบถด่า “การทำธุรกิจให้ความสำคัญเรื่องได้ผลประโยชน์พร้อมกัน ดูเขาสิ ใช้วิธีการสกปรก คิดแต่จะครอบงำกิจการของคนอื่น”
จิ้นเฟิงเฉินครุ่นคิดสักพัก แล้วถามอย่างสงสัยว่า: “ในเมื่อเขามีชื่อเสียงแย่ขนาดนี้ ทำไมถึงมีนักข่าวมากมายวิจารณ์เขาในทางที่ดีล่ะ? และแทบจะไม่มีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับเขาประกาศออกมาเลย”
“มีเงินจะทำอะไรก็ได้” เห้อซูหานพูด “หลังจากที่เขาขยายกิจการได้อย่างราบรื่น เขาก็เอาเงินไปทำประชาสงเคราะห์กับเรื่องดีๆ พอมีนักข่าวประกาศออกไป คนที่ไม่รู้ความจริงก็คิดว่าเขาเป็นคนดี แต่คนที่เข้าใจเขาจริงๆ ก็ไม่กล้าไปหาเรื่องเขา เพราะเดี๋ยวจะโดนเขาหมายหัวได้ ถ้าครั้งนี้พวกเราไม่ไปสืบ ก็คงไม่รู้ว่าเขาเป็นคนที่น่ากลัวมากแค่ไหน”
“น่ากลัวงั้นเหรอ?” จิ้นเฟิงเหราขมวดคิ้ว “แทนที่จะบอกว่าน่ากลัว บอกว่าสกปรกจะดีกว่า ตอนนี้เขานำกิจการหลักย้ายมาตั้งหลักปักฐานในประเทศ จะต้องครอบงำบริษัทเล็กๆทีละแห่งสองแห่งเหมือนอย่างในอดีตแน่”
และบริษัทเล็กๆพวกนั้น บางคนก็เคยเป็นคนที่ร่วมงานกับจิ้นกรุ๊ป
นึกถึงบริษัทพวกนั้นที่ตอนนี้เอาแต่ประจบประแจงคริสมิน จิ้นเฟิงเหราก็รู้สึกสมเพช “ช่างโง่เง่าสิ้นดี”
เขาหันหน้าไปมองจิ้นเฟิงเฉิน “พี่จะเตือนพวกเขาหรือเปล่า?”
จิ้นเฟิงเฉินส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก ถ้าคริสมินยังอยากทำเหมือนเมื่อก่อน ทำลายการตลอดภายในประเทศ เกรงว่าจะต้องยอมจ่ายในราคาที่เยอะหน่อย”
“คุณชายครับ พวกเราต้องระวังให้มากนะครับ” เห้อซูหานรู้สึกว่าตอนนี้คริสมินตั้งใจหาเรื่องจิ้นกรุ๊ปตลอด เกรงว่าถ้าไม่สำเร็จก็คงไม่ยอมง่ายๆแน่
“ฉันรู้แล้ว” จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย เผยให้เห็นถึงกลิ่นอายของความอันตราย “ตอนนี้เขาก็แค่กำลังได้ใจ ใครจะหัวเราะได้ถึงตอนสุดท้าย นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง”
เห้อซูหานพยักหน้า ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงเรื่องหนึ่ง “ใช่สิ คุณชายครับ ผมยังสืบเจออีกเรื่องครับ”
“หื้ม?”
“ก็คือว่า……” เห้อซูหานลังเลสักพักแล้วพูดว่า “ความสัมพันธ์ของคริสมินกับซูชิงหยิง”
“ซูชิงหยิง?” จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว ชื่อนี้ทำไมฟังแล้วคุ้นจัง แต่พอครุ่นคิดดูแล้ว ก็รู้สึกว่าแปลกหน้าอยู่ดี
“ซูหาน นายแน่ใจเหรอ?” พอได้ยินชื่อ “ซูชิงหยิง” สีหน้าของจิ้นเฟิงเหราก็เปลี่ยนไปทันที เห็นได้ชัดว่าเขาดูไม่สบายใจ
“แน่ใจครับ อีกอย่าง ความสัมพันธ์ของพวกเขาดูไม่ธรรมดาเลย เหมือนกับคู่รักเลยครับ” เห้อซูหานมองไปที่จิ้นเฟิงเฉิน แล้วพูดต่อว่า: “ตอนแรกคริสมินกับจิ้นกรุ๊ปไม่มีความแค้นต่อกัน ไม่มีเหตุผลที่จะหาเรื่องและคอยขัดขวางพวกเรา ตอนนี้ เรื่องทุกอย่างก็กระจ่างแล้วครับ”
“ซูชิงหยิงเป็นใครกัน?” จิ้นเฟิงเฉินถาม
จิ้นเฟิงเฉินกับเห้อซูหานสบตากัน แล้วพูดว่า: “ซูชิงหยิงเคยเป็นอดีตว่าที่ภรรยาของพี่ ต่อมาพี่ก็เลือกพี่สะใภ้คนปัจจุบัน หล่อนโกรธแค้นในใจ ทำร้ายพี่สะใภ้อยู่บ่อยๆ สุดท้ายก็เลยถูกพี่ไล่ออกนอกประเทศไป”
ได้ยินแบบนี้แล้ว ดูเหมือนเรื่องทุกอย่างจะซับซ้อนมากขึ้นนะ
จิ้นเฟิงเฉินส่ายหน้า “ฉันจำไม่ได้แล้ว”
“จำไม่ได้ก็ดีแล้ว” ทันใดนั้นจิ้นเฟิงเหรารู้สึกว่าการเสียความทรงจำของเขาไม่ได้เรื่องร้ายซะทีเดียว
จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้วเป็นปม “คริสมินตั้งใจหาเรื่องจิ้นกรุ๊ป ก็เพื่อซูชิงหยิงงั้นเหรอ?”
“ถ้าเดาไม่ผิดล่ะก็ น่าจะใช่” จิ้นเฟิงเหราพูด “ก็เหมือนกับที่ซูหานพูด ตอนนี้เรื่องทุกอย่างก็กระจ่างแล้ว ซ่างกวนเชียนแก้แค้นพี่เพื่อซ่างกวนหยวน และคริสมินทำเพื่อซูชิงหยิง”
พอพูดถึงตรงนี้ จิ้นเฟิงเหราก็ส่ายหน้าแล้วออกเสียง ‘จึ๊ๆ’ “พี่ครับ พี่นี่มีเสน่ห์มากเลยนะครับ ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะผู้หญิงนี่เอง”
สายตาเฉียบแหลมมองไปพรึ่บ เขาลูบจมูกตัวเองเบาๆ ก็รีบขอโทษทันที “ผมผิดไปแล้ว”
“สั่งคนให้จับตาดูคริสมินไว้” จิ้นเฟิงเฉินสั่งเสียงแข็ง
เห้อซูหานก้มหน้าอย่างเคารพ “ครับ”
……
ตอนที่เจียงสื้อสื้อได้รับรู้ถึงความสัมพันธ์ของซูชิงหยิงกับคริสมินแล้ว ก็ตกใจอย่างมาก
ซูชิงหยิง ผู้หญิงที่ถูกเฟิงเฉินไล่ออกจากประเทศ กลับมาแล้วเหรอ
นึกย้อนกลับไปเรื่องที่ซูชิงหยิงเคยทำกับตัวเอง เจียงสื้อสื้อก็อดไม่ได้ขนลุก
เธอไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวกับซูชิงหยิงเลย ถ้าเป็นไปได้ เธอหวังว่าชาตินี้จะไม่ได้ยินชื่อนี้อีก
“หล่อนกลับประเทศแล้วเหรอ?” เจียงสื้อสื้อเอ่ยปากถาม
จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไม่รู้สิ แต่ว่า ในเมื่อคริสมินกลับประเทศแล้ว หล่อนก็น่าจะกลับมาด้วยนะ”
ทันใดนั้นเจียงสื้อสื้อก็นึกถึงสองวันก่อนที่บังเอิญเห็นคนที่คุ้นเคย สีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปทันที หรือว่าวันนั้นเธอไม่ได้ตาฝาดไปจริงๆ?
เป็นซูชิงหยิงจริงด้วย?
ไม่ได้ เธอจะต้องรู้ให้ได้ว่าซูชิงหยิงกลับประเทศแล้วจริงหรือเปล่า
“เฟิงเฉิน ให้กู้เนี่ยนสืบให้ชัดเจนได้ไหม?”
จิ้นเฟิงเฉินสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเธอ เขาเลยถามอย่างเป็นห่วงว่า: “เป็นอะไรไปเหรอ?”
“ซูชิงหยิงไม่ใช่คนดี” เจียงสื้อสื้อสูดหายใจเข้าลึกๆ “ตอนนั้นเพื่อที่จะได้นายไปครอบครอง พูดได้เลยว่าหล่อนใช้วิธีการทุกอย่าง ถ้าหล่อนกลับประเทศแล้วจริง ชีวิตของพวกเราคงไม่มีวันสงบสุขแน่”
ที่สำคัญก็คือ เธอกลัวว่าซูชิงหยิงจะยังไม่ตายใจกับเฟิงเฉิน ถ้าเกิดหล่อนอยากแย่งเขาไปจากเธออีกล่ะ ใครจะรู้ว่าจะเหมือนกับซ่างกวนหยวนที่จับคนไปซ่อนหรือเปล่า
เธอไม่อยากเสียเขาไปอีกแล้ว
จิ้นเฟิงเฉินจับมือเธอไว้แน่น แล้วลูบช้าๆ พูดปลอบใจว่า: “ไม่ต้องกังวลหรอก ฉันจะปกป้องเธอกับลูกเอง”
“ฉันรู้ว่านายจะต้องปกป้องพวกเราได้แน่ แต่ก็ต้องตรวจสอบให้ละเอียดนะ พวกเราจะได้เตรียมตัวไว้ก่อน” เจียงสื้อสื้อพูด
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า “ได้”
ขอแค่ทำให้เธอสบายใจได้ สิ่งที่เธอพูดมา เขาจะทำมันทั้งหมด