ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 167 ฉันไม่คู่ควรกับคุณ
บทที่ 167 ฉันไม่คู่ควรกับคุณ
หลังจากที่เจียงสื้อสื้อรับร้อนหนีออกมา ลู่เจิงก็ลุกตามขึ้นมาเหมือนกัน หยิบกระเป๋าและโทรศัพท์ของเจียงสื้อสื้อและพูดขอโทษว่า “ขอโทษนะครับ ผมและสื้อสื้อไปก่อนนะครับ”
สถานการณ์ตอนนี้ อาหารมื้อนี้จะทานต่อไปได้ยังไงกันนะ
ซูชิงหยิงยิ้มและพยักหน้ารับ : “ประธานลู่รีบไปหาคุณเจียงเถอะค่ะ!”
ลู่เจิงหมุนตัวจากไป,ก่อนจะจากไปยังบอกสวีหน้าว่าสักพักจะให้คนไปส่งเธอ
“ได้ค่ะ,ขอบคุณนะคะประธานลู่”
สวีหน้านั่งอยู่บนเก้าอี้และพยักหน้ารับอย่างงงๆ
หลังจากเขาจากไป สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินลุ่มลึกขึ้นเล็กน้อย ลุกขึ้นยืนเตรียมตัวจะจากไป
“เฟิงเฉิน คุณจะไปไหนคะ?” ซูชิงหยิงเอ่ยปากถาม เธออดไม่ได้ที่จะกังวล จิ้นเฟิงเฉินคงไม่ได้ขัดขวางลู่เจิงไม่ให้ไปหาเจียงสื้อสื้อหรอกมั้ง?
“กลับไปพักผ่อน”
น้ำเสียงเย็นชาจบลง จิ้นเฟิงเฉินก็ก้าวเท้าออกจากร้านอาหารไปเรียบร้อยแล้ว
“ไม่ทานข้าวแล้วเหรอคะ?”
ซูชิงหยิงทั้งถามทั้งตามออกไป เธอสังเกตได้ชัดว่า จิ้นเฟิงเฉินกำลังโกรธอยู่ หรือจะพูดได้ว่าหึง
เขากำลังหึงเจียงสื้อสื้อ จู่ๆ ในใจของซูชิงหยิงก็อิจฉาอย่างบ้าคลั่ง
แต่ว่าบนทางที่กลับ เธอยังยิ้มละถามต่อว่า: “เฟิงเฉิน ประธานลู่ดูยอดเยี่ยมมากเลยค่ะ เขารู้จักคุณเจียงมาตั้งนาน แถมยังชอบคุณเจียงมาตั้งหลายปี ไม่รู้เหมือนกันว่าทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันได้ไหม”
จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้พูดอะไร สายตาของเขาเป็นประกาย เจียงสื้อสื้อกับลู่เจิงอยู่ด้วยกัน เป็นไปไม่ได้
……
ด้านนี้ เจียงสื้อสื้อไปสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำสักพัก
ตอนแรกเธอคิดว่าคืนนี้คงทานอาหารง่ายๆ แต่กลับคิดไม่ถึงว่า จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
รุ่นพี่ที่หล่อเหลายอดเยี่ยมชอบเธอมาตั้งแต่หลายปีก่อน เจียงสื้อสื้อไม่อยากจะเชื่อเลย แต่ว่าความจริงก็อยู่ตรงหน้า
แต่ว่าเธอมองลู่เจิงเป็นรุ่นพี่มาโดยตลอด และเอาเขามาเป็นแบบอย่างมาโดยตลอด จบแล้ว หลังจากนี้เธอจะเจอหน้ารุ่นพี่ยังไง?
ไม่ง่ายเลยที่จะรู้สึกดีได้ เจียงสื้อสื้อเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นลู่เจิงรออยู่ด้านนอกแล้ว
มองเห็นเจียงสื้อสื้อ ลู่เจิงก็เดินมาข้างหน้า และพูดขอโทษ “สื้อสื้อ ขอโทษนะ เรื่องเมื่อกี้มันกะทันหันเกินไป พวกเรากลับกันเถอะ!”
“ค่ะ” เจียงสื้อสื้อพยักหน้ารับ สักพักก็รู้สึกอึดอัด และไม่กล้ามองสายตาลู่เจิง
เดินออกจากร้านอาหาร ที่นั่งเมื่อกี้ว่างเปล่าไปหมดแล้ว ลู่เจิงอ้าปากถามว่า “ผมให้คนไปส่งสวีหน้ากลับไปแล้วครับ ประธานจิ้นและคุณซูก็น่าจะกลับไปแล้วเหมือนกัน”
ได้ยินแบบนี้ เจียงสื้อสื้อก็ไม่ได้พูดอะไร ในใจอดไม่ได้ที่จะคิดถึงจิ้นเฟิงเฉิน และก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ในใจเขากำลังคิดอะไรอยู่ หรือว่าซูชิงหยิงเปลี่ยนไปทานอาหารร้านอื่นแล้ว? ”
ในสมองของเจียงสื้อสื้อวุ่นวายไปหมด และออกจากร้านอาหารพร้อมกับลู่เจิง นั่งอยู่บนรถและกลับโรงแรม
บรรยากาศบนถนนอึดอัด และเจียงสื้อสื้อก็ไม่รู้จะพูดอะไร มาถึงโรงแรมและลงจากรถ ลู่เจิงก็เปิดประตูรถให้เจียงสื้อสื้อ
“ขอบคุณรุ่นพี่ที่มาส่งฉันนะคะ งั้นฉันไปก่อนนะคะ คุณขับรถดีๆ ”
หลังจากพูดจบ เจียงสื้อสื้อคิดจะเดินจากไป
แต่ว่าลู่เจิงกลับดึงข้อมือของเธอเอาไว้ เขาค่อยๆ พูดว่า “สื้อสื้อ พี่รู้ว่าเรื่องเมื่อกี้มันกะทันหันไปสำหรับเธอ แต่ว่าพี่พูดจริงๆนะ ไม่กี่ปีมานี้ พี่ชอบเธอมาโดยตลอด”
คำสารภาพรักส่งผ่านมา ในหัวของเจียงสื้อสื้อก็แทบระเบิด ตอนนี้ยิ่งไม่รู้เลยว่าจะพูดอะไรดี
ลู่เจิงค่อยๆ ปล่อยมือเจียงสื้อสื้อออกและพูดว่า “เมื่อก่อนตอนที่อยู่สมาคมนักเรียน เริ่มจากชื่นชมเธอจนเปลี่ยนเป็นความชอบ ตอนนั้นพี่หาโอกาสพี่ที่จะสารภาพรักกับเธอ แต่ว่า……..”
แต่ว่าเจียงสื้อสื้อเป็นแฟนกับหลานซือเฉิน และทั้งสองคนยังมีความสุข ลู่เจิงในตอนนั้น ไม่ต้องพูดเลยว่าเสียใจแค่ไหน เขาอยู่ในสมาคมนักเรียนใจลอยบ่อยๆ เข้าเรียนก็เหม่อลอย สอบยังมีปัญหาใหญ่อีก ถูกอาจารย์สั่งสอนอีกรอบ ตำแหน่งประธานสมาคมนักเรียนกำลังเจอภัยคุกคามใหญ่
ลู่เจิงไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งตัวเองจะซึมเศร้าจนกลายเป็นแบบนี้ แต่ว่าในใจของเขาเจ็บปวดมากจริงๆ
หลังจากนั้นยังคงเป็นเจียงสื้อสื้อที่ปลอบโยนลู่เจิง ถามเขาว่ายังมีเรื่องอะไรในใจอีกไหมคะ
ตอนนั้นลู่เจิงยิ้ม และคิดว่าเรื่องในใจของเขาก็คือเธอไงล่ะ!
ลู่เจิงจำได้ว่า ตอนนั้นเจียงสื้อสื้อบอกว่า “รุ่นพี่คะ ไม่มีเรื่องอะไรที่ผ่านไปไม่ได้หรอกค่ะ ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไร พี่ยังคงเป็นรุ่นพี่ที่ฉันเลื่อมใสอยู่นะคะ พี่ต้องสู้ๆ นะ! พวกเราจะเจออุปสรรคในสมาคมนักเรียนไปด้วยกัน!”
หลังจากนั้น ลู่เจิงก็กลับมาสู่สภาพปกติเหมือนเมื่อก่อน เขาจะทำให้ผู้หญิงที่เขาชอบผิดหวังไม่ได้ ลู่เจิงให้ความสำคัญกับการเรียน ความชอบในวัยเด็ก เขาไม่เคยบอกกับใครๆ แต่ไม่เคยบอกผู้หญิงคนนั้น
หลังจากเรียนจบ ยิ่งไม่ได้ไปรบกวนเธอเลย
“สื้อสื้อ เธอรู้ไหม? ตอนแรกพี่ปล่อยผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ถึงแม้จะเสียใจในใจ แต่ว่าตอนนี้คิดว่าเธออยู่กับหลานซือเฉินอย่างมีความสุขพี่ก็ไม่อยากไปรบกวนเธออีก แต่ว่าก่อนหน้าที่จะได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง พี่รู้ว่าเธอเลิกกับเขาแล้ว พี่ก็อยากจะสู้เพื่อตัวเองบ้าง”
ตอนแรกลู่เจิงคิดว่าจะสารภาพรักช้ากว่านี้ แต่ว่าจิ้นเฟิงเฉินปรากฏตัวอยู่ข้างๆ เจียงสื้อสื้อทุกๆ ครั้ง ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ เขากลัว กลัวว่าไม่ง่ายเลยที่จะได้เจอกันแต่ว่ายังเหมือนเมื่อก่อนอีกแม้แต่คำว่าชอบก็ยังไม่ทันได้พูดออกไป
วันนี้ซูชิงหยิงพูดถึงเรื่องนี้บนโต๊ะอาหาร ในที่สุดลู่เจิงก็ปลุกความกล้าและยอมรับออกมาว่าเขาชอบเธอมาโดยตลอด
“สื้อสื้อ เธอไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น ถึงแม้จะปฏิเสธพี่ หลังจากนี้พี่ก็ยังคงเป็นรุ่นพี่ของเธอ”
เจียงสื้อสื้อลดสายตาต่ำลง กลับไปคิด ตอนที่อยู่ในมหาลัยลู่เจิงดีกับเธอมาก ตอนนี้เธอไม่รู้สึกเลย เมื่อก่อนตอนงานสถาปนามหาลัยเธอยังงงๆ คิดว่าคนที่ลู่เจิงชอบอาจจะเป็นคนอื่น คิดไม่ถึงว่าคนที่เขาชอบจะเป็นเธอ
ชั่วขณะนั้น อารมณ์ของเจียงสื้อสื้อก็สับสนวุ่นวาย แต่ยังพูดว่า “ขอโทษนะคะ รุ่นพี่ ตอนนี้ฉันยังไม่ได้คิดอะไรมาก ดังนั้น………….”
ได้ยินแบบนี้ แววตาของลู่เจิ่งก็แน่นิ่ง ในใจของเขาผิดหวังเป็นอย่างมาก เจียงสื้อสื้อทำไมปฏิเสธตัวเอง? เป็นเพราะว่าไม่ชอบเขาหรือว่ามีคนที่ชอบแล้ว? คนคนนั้นคือจิ้นเฟิงเฉินใช่ไหม……..
ถึงแม้ในใจจะเจ็บปวด แต่ว่าลู่เจิงยังเสแสร้งว่าไม่มีอะไรและเปิดปากพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอก ความจริงพี่รู้ตั้งนานแล้ว ไม่ว่าพี่จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ สื้อสื้อ พี่หวังว่าเธอยังคงคบกับพี่แบบเมื่อก่อนได้ ไม่ต้องหลบพี่เพราะว่าเรื่องนี้ พี่ไม่อยากสร้างความลำบากใจอะไรให้เธอ”
รุ่นพี่คิดถึงความรู้สึกของเธอขนาดนี้ ในใจของเจียงสื้อสื้อก็รู้สึกละอายใจมากขึ้น เธอเลื่อมใสลู่เจิงและรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ยอดเยี่ยมมาโดยตลอด แต่ว่า…….เจียงสื้อสื้อจำเป็นต้องยอมรับว่า ในหัวใจของเธอมีคนอื่นเรียบร้อยแล้ว และลู่เจิงก็ไม่ใช่ผู้ชายแบบที่เธอชอบ
ในเมื่อเป็นไปไม่ได้ ก็อย่าให้เขามีความหวัง ดังนั้นเจียงสื้อสื้อก็พูดขึ้นอีกว่า “รุ่นพี่ ยอดเยี่ยมขนาดนี้ ต้องเจอคนที่ดีกว่าแน่ๆ ฉันไม่คู่ควรกับคุณ”