ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 194 ใครกันที่มีสิทธิพิเศษขนาดนี้
บทที่ 194 ใครกันที่มีสิทธิพิเศษขนาดนี้
ในงานเลี้ยง แขกรับเชิญมากมายล้วนเข้าไปอวยพรให้แก่คุณท่านตระกูลฉิน
จิ้นเฟิงเฉินและคุณแม่คุณแม่ของเขา จิ้นเฟิงเหรา และเสี่ยวเป่าก็ขนาบข้างอยู่ตลอด ฉินมู่หลันมองไปทั่วๆงานเลี้ยง ก่อนจะชมอย่างไม่หยุดปาก “คุณพ่อ ใครเป็นคนจัดการงานเลี้ยงนี้กัน ประดับตกแต่งได้ยอดเยี่ยมไปเลย!”
“ใช่เลย ไม่เลวเลยจริงๆ” จิ้นเฟิงเหราก็ชมไปด้วย
แต่ในใจกลับคิดอีกแบบว่า ถ้าหากให้พี่สะใภ้วางแผนจัดการคงจะสวยกว่านี้แน่
ได้ยินแล้ว คุณท่านตระกูลฉินก็หัวเราะออกมาดังๆ
“อีกสักพักก็คงจะได้รู้กันแล้ว”
ต่อมา ครอบครัวตระกูลซูก็มาถึงแล้ว ซูชิงหยิงแต่งตัวสวยงามประดุจเจ้าหญิง ดูสวยงามสูงส่ง
เดินมากับคุณพ่อก่อนที่ซูชิงหยิงจะเริ่มเอ่ยปากทักทายและอวยพรขึ้น “สุขสันต์วันเกิดค่ะคุณปู่ฉิน ขอให้ท่านมีโชคลาภมากมายประดุจมหาสมุทร อายุยืนยาวยิ่งกว่าภูผา”
“ขอบใจมากชิงหยิง ไม่เจอกันกี่ปี สวยขึ้นเยอะเลยนะ” คุณปู่เอ่ยปากชม
ซูชิงหยิงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนจะเอ่ย “คุณปู่ก็เหมือนกันค่ะ ไม่เจอกันหลายปี ยังดูวัยรุ่นอยู่เลย”
“เด็กคนนี้นี่ จีบปากจีบคอตลอดเลย”
คุณท่านตระกูลฉินถูกชมจนอารมณ์ดี ทั้งสองตระกูลพูดคุยกันอยู่สักครู่ ซูชิงหยิงก็ยืนอยู่บริเวณที่ต้อนรับแขกคอยทักทายแขกที่มางาน
ฉินมู่หลันเห็นแล้วก็รู้สึกชอบใจ รีบคล้องแขนของคุณท่านตระกูลฉินขึ้นมาก่อนจะเอ่ย “คุณพ่อ ชิงหยิงดูเป็นการเป็นงานนัก ช่างเหมาะสมกับเฟิงเฉินของเรายิ่งนัก น่าเสียดาย……”
นึกถึงว่าจิ้นเฟิงเฉินไม่ได้เคียงคู่กับซูชิงหยิงแต่กลับเลือกเจียงสื้อสื้อแล้ว ฉินมู่หลันก็อดที่จะเสียดายไม่ได้ เธอถอนหายใจออกมา
คุณท่านตระกูลฉินก็ชอบพอซูชิงหยิงอยู่เหมือนกัน แต่เขาเคารพการตัดสินใจของหลานตน เขานึกมาถึงตรงนี้ ก็รีบเอ่ยปากถามจิ้นเฟิงเฉินขึ้น “หลานบอกจะพาคนที่หลานชอบมาร่วมงานเลี้ยงนี่ ยังไม่ถึงอีกเหรอ?”
“คุณปู่ เธอมีธุระมาไม่ได้แล้ว” จิ้นเฟิงเฉินพูดจบก็เม้มปากแน่น
คุณท่านตระกูลฉินได้ยินแล้วก็ขมวดคิ้วขึ้น แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไป
……
อีกฝั่งหนึ่ง เจียงสื้อสื้อเดินทางมาตามแผนที่จนถึงโรงแรม เธอไม่ได้เตรียมของขวัญที่มีราคาอะไรมากมายมา มีแค่รูปวาดโบราณที่ซื้อมาจากร้านค้าเท่านั้น เพราะของราคาแพงเธอก็ซื้อไม่ไหวเหมือนกัน แต่ว่าเจียงสื้อสื้อเชื่อว่าคุณปู่คงจะไม่ถือสากับของแบบนี้ เพราะเธอก็ตั้งใจเลือกมาเหมือนกัน
ก่อนที่เดินขึ้นไป เจียงสื้อสื้อก็ถูกพนักงานที่หน้าประตูรั้งไว้
“ขออภัยด้วยครับ รบกวนแสดงบัตรเชิญงานเลี้ยงด้วยครับ”
เจียงสื้อสื้อไม่มีบัตรเชิญ ดังนั้นเลยพูดออกไปตรงๆ “คุณท่านตระกูลฉินเชิญฉันมาน่ะ ขออภัยด้วยนะคะ รบกวนคุณไปแจ้งให้หน่อยได้ไหม”
พนักงานเลิกคิ้วขึ้นมา คุณท่านตระกูลฉินเชิญชวนด้วยตนเอง แสดงว่าคงจะไม่ธรรมดา ดังนั้นเลยรีบเดินเข้าไปแจ้งให้กับคุณปู่ฉินทราบ
คุณท่านตระกูลฉินกำลังต้อนรับแขกอยู่ แต่พนักงานกลับเดินเข้ามาถามว่า “คุณท่านฉินครับ มีคุณหนูท่านหนึ่งไม่มีบัตรรับเชิญ แต่เธอบอกว่าท่านเชิญมา ตอนนี้อยู่ที่ประตูทางเข้าน่ะครับ”
คุณท่านตระกูลฉินได้ยินแล้วก็รู้ทันทีว่าเจียงสื้อสื้อมาถึงแล้ว เขายิ่งอารมณ์ดีขึ้นไปอีก
“รีบไปเชิญเข้ามา”
ฉินมู่หลันเกิดความสงสัยเลยเอ่ยปากถามขึ้น “คุณพ่อ ใครกันเหรอ?”
“เมื่อกี้ลูกถามว่าใครเป็นคนออกแบบงานเลี้ยงไม่ใช่เหรอ? คนออกแบบมาถึงแล้วล่ะ”
พูดจบ คุณท่านตระกูลฉินทักทายแขกคนข้างหน้าตนก่อนที่จะรีบเดินออกไปต้อนรับด้วยตนเอง
ทุกคนเห็นสถานการณ์แล้วก็รีบเดินตามไปติดๆ จิ้นเฟิงเหราแอบบ่นออกมาเล็กน้อย “เป็นใครกันที่มีสิทธิพิเศษถึงขนาดนี้”
ถึงกับที่ทำให้คุณท่านตระกูลฉินต้องเดินออกไปต้อนรับด้วยตนเอง ทำคนล้วนสงสัยว่าเป็นใครกันแน่
เจียงสื้อสื้อรออยู่ด้านนอก สำรวจไปรอบด้าน ก่อนที่จะเกิดความสงสัยขึ้น แท้จริงแล้วคุณท่านตระกูลฉินเป็นใครกัน เพราะทุกคนที่เดินเข้างานไปล้วนเป็นคนที่มีฐานะทั้งสิ้น
กำลังครุ่นคิดอยู่ เจียงสื้อสื้อก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมา คุณท่านตระกูลฉินเดินนำมา ก่อนที่จะเป็นจิ้นเฟิงเฉิน จิ้นเฟิงเหรา และคนคุ้นเคยอีกมาก
นาทีนี้ เจียงสื้อสื้อตะลึงค้างไป นึกว่าตนเห็นภาพลวงแล้ว
คนที่เหลือที่เห็นว่าเจียงสื้อสื้อยืนอยู่ที่ประตูแล้วก็ตะลึงเหมือนกัน จิ้นเฟิงเหราตื่นเต้นจนเกือบจะตะโกนออกไปว่าพี่สะใภ้
นี่เกิดอะไรขึ้น ทำไมเจียงสื้อสื้อถึงอยู่ตรงนี้ได้?
ทุกคนล้วนงุนงง มีเพียงแค่คุณท่านตระกูลฉินที่ดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ “หลานเจียง ในที่สุดก็มาถึงสักที”
เจียงสื้อสื้อรู้สึกทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำได้เพียงยิ้มรับและทักทายกลับไป “คุณปู่ฉิน”
เห็นคุณท่านตระกูลฉินปฏิบัติต่อเจียงสื้อสื้ออย่างสนิทสนมแล้ว ฉินมู่หลันขมวดคิ้วขึ้น จิ้นเฟิงเฉินกับจิ้นเฟิงเหรานั้นประหลาดใจจนแทบช็อก
คุณท่านตระกูลฉินยังไม่รู้ว่าคนรอบตัวมีความรู้สึกที่แตกต่างกันไปอย่างไร ก่อนที่จะแนะนำตัวแขกผู้นี้ให้ทุกคนได้รู้จัก
“นี่คือผู้ที่ออกแบบงานเลี้ยงวันเกิดให้กับฉันเอง มีชื่อว่าเจียงสื้อสื้อ”
ต่อมา เขาก็แนะนำจิ้นเฟิงเฉินให้แก่เจียงสื้อสื้อ “นี่คือหลานชายที่ฉันชอบกล่าวถึงบ่อยๆชื่อว่าจิ้นเฟิงเฉิน หล่อไม่เบาเลยใช่ไหม!”
เจียงสื้อสื้อตะลึงไป ตอนแรกเธอนึกว่าตระกูลจิ้นก็ถูกรับเชิญมาเช่นกัน เพราะคุณท่านตระกูลฉินดูเป็นคนไม่ธรรมดา ถ้าจะเชิญตระกูลจิ้นมาร่วมงานด้วยก็ถือว่าไม่แปลก”
แต่เมื่อได้ฟังคำแนะนำของคุณท่านตระกูลฉินแล้ว เธอถึงจะรู้ตัวขึ้นมา หลานชายที่คุณปู่ชอบเอ่ยถึงบ่อยๆก็คือจิ้นเฟิงเฉินนี่เอง!
นาทีนี้เจียงสื้อสื้อรู้สึกว่าโลกใบนี้แคบมาก! คุณท่านตระกูลฉินเป็นคุณปู่ของจิ้นเฟิงเฉิน
เจียงสื้อสื้อกำลังจะเอ่ยปาก แต่ทันใดนั้น เสี่ยวเป่าก็ปรากฏตัวขึ้นมา พอมองเห็นเจียงสื้อสื้อแล้ว เด็กน้อยก็ตะโกนขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
“น้าสื้อสื้อ!”
เสี่ยวเป่าโถมตัวเข้ามา กอดขาของเจียงสื้อสื้อไว้แน่น
นาทีนี้คุณท่านตระกูลฉินตะลึงขึ้นมา เขาถามขึ้นมา “พวกเธอรู้จักกันเหรอ?”
เจียงสื้อสื้อยิ้มออกมาอย่างแหยๆ ก่อนจะพยักหน้ารับ กอดเสี่ยวเป่าก่อนจะตอบกลับ “ใช่ค่ะ รู้จักกัน”
เสี่ยวเป่าดูดีใจยิ่งขึ้นไปอีก “แด๊ดดี๊ คนโกหก แด๊ดดี๊บอกว่าน้าสื้อสื้อจะไม่มาไม่ใช่เหรอ?”
จิ้นเฟิงเฉินคิดไม่ถึงว่าเจียงสื้อสื้อจะรู้จักกับคุณปู่ตน ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ดูสนิทสนมกันดีด้วย ถ้าอย่างนี้คนที่คุณปู่บอกจะแนะนำให้ตนรู้จักก็คือเจียงสื้อสื้อสินะ
ชั่วพริบตาเดียว การแสดงออกของจิ้นเฟิงเฉินก็ดูประหลาดขึ้นมา
คุณท่านตระกูลฉินมองไปที่เขา ก่อนที่จะมองไปยังเจียงสื้อสื้อ หรือว่านี่คือผู้หญิงที่หลานชายของตนชอบ?”
มองไปยัง เสี่ยวเป่าที่มีท่าทีชอบพอน้าสื้อสื้อขนาดนี้ บวกกับฉินมู่หลันที่ขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น ทำให้เขายิ่งมั่นใจในความคิดของตนเข้าไปใหญ่
ในโลกนี้กลับมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้เกิดขึ้น คุณปู่หัวเราะชอบใจขึ้นมา ก่อนจะดึงเจียงสื้อสื้อให้เข้างานเลี้ยงไป
“ไปกันเถอะ อย่ามัวแต่ยืนกันอยู่ตรงนี้เลย คืนนี้เป็นงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของปู่ หลานต้องสนุกสนานเข้าไว้”
“รับทราบค่ะ คุณปู่” เจียงสื้อสื้อตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
แต่ในใจกลับอดที่จะถอนหายใจขึ้นมาไม่ได้ ไม่นึกว่างานเลี้ยงนี้จะเป็นการพบหน้ากันของเธอและตระกูลจิ้น