ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 210 ผมดูว่าจะมีใครกล้าไหม
บทที่ 210 ผมดูว่าจะมีใครกล้าไหม
ในตอนนั้นเองก็ได้มีมารับตัวหันจิ้งไว้ได้ทัน เมื่อเห็นท่าไม่ดีเขาจึงได้เอ่ยปากถามไปว่า” เกิดอะไรขึ้นครับ?”
ผู้ชายคนนี้ใส่เสื้อสูทสีดำเอาไว้ ดูแล้วอายุน่าจะราวๆ ยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปด พอๆ กับหันจิ้งเลย
พอเห็นหน้าเขา หันจิ้งก็รีบทำตัวน่าสงสารแล้วซบเขาไป เธอที่อยู่ในอ้อมอกก็รีบตอบกลับมาว่า “อาหนิงคะ เดิมทีฉันต้องการซื้อเนกไทให้คุณเส้นหนึ่ง แล้วก็มาเจอเข้ากับเพื่อนร่วมงานเก่า มันอยากจะมาแย่งเนกไทเส้นนั้นไปจากฉัน ยังไม่พอมันยังตบหน้าฉันอีกด้วยค่ะ……คุณรีบสั่งให้คนไล่พวกมันออกไปทีค่ะ!”
พอผู้ชายที่ชื่ออาหนิงได้ยินอย่างนั้นเขาก็โมโหขึ้นมาทันที เขารีบเรียกรปภมาแล้วตะโกนสั่งไปว่า “รปภ พาตัวสองแม่ลูกนี้ออกไปเดี๋ยวนี้!”
หันจิ้งยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ ถึงแม้ว่าเธอจะถูกไล่ออกจากงาน แต่มันก็ทำให้เธอได้มาพบกับผู้ชายคนนี้เข้า เขานั้นถือได้ว่าหลงรักเธอเป็นอย่างมาก ต่อให้โดนไล่ออกแล้วมันจะยังไง เธอในตอนนี้ก็ไม่ได้ขาดเหลือหรือลำบากอะไรอีกแล้ว อยากใช้ชีวิตหรูหราเท่าไรก็ได้ตามใจเธอ
อาหนิงเป็นถึงประธานของนิ่งกรุ๊ป และยังเป็นหุ้นส่วนของร้านนี้อีกด้วย
แค่การที่เจียงสื้อสื้อทำให้เธอต้องถูกไล่ออกมันก็ทำให้เธอไม่พอใจไปพักใหญ่แล้ว แล้ววันนี้เจียงสื้อสื้อยังกล้ามาตบหน้าเธออีก เธอไม่มีทางปล่อยโอกาสที่จะเอาคืนเจียงสื้อสื้อในครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน
รปภหลายคนไปมาถึงแล้ว พวกเขาพูดขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “ท่านประธานหนิงครับ”
ประธานหนิงชี้ไปที่เจียงสื้อสื้อกับเสี่ยวเป่าแล้วสั่งออกมาอย่างโมโหว่า “แม่ลูกสองคนนี้กล้ามาลงไม้ลงมือกับคนรักของฉัน รีบไล่พวกมันออกไปเดี๋ยวนี้”
พอรปภได้ยินอย่างนั้นต่างก็พากันมองมาที่เสี่ยวเป่ากับเจียงสื้อสื้อ และในตอนนั้นเอง เสียงของผู้ชายคนหนึ่งก็ดังขึ้น
“ผมดูว่าจะมีใครกล้าไหม?”
พอมองตามต้นเสียงไปก็เห็นก็เห็นจิ้นเฟิงเฉินเดินมาอย่างไม่เร่งรีบ เขามาในชุดสูทสีดำ รังสีของผู้ที่มีอำนาจแผ่ออกมาอยู่รอบตัวเขา ทำให้คนที่เห็นเข้าถึงกับต้องตัวสั่นกันเลยทีเดียว
ประธานหนิงเองเคยเห็นหน้าคนที่อยู่ตรงหน้านี้มาก่อน คนๆ นี้คือจิ้นเฟิงเฉินไม่ผิดแน่ ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ประธานหนิงเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
พอเสี่ยวเป่าเห็นจิ้นเฟิงเฉินมา เขารู้เลยว่าที่พึ่งของตัวเองมาแล้ว เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปหาผู้เป็นพ่อ
“พ่อครับ ที่นี่มีคนรังแกผมกับน้าสื้อสื้อครับ แถมพวกเขายังบอกว่าจะไล่พวกเราออกไปอีกด้วยครับ”
พอประธานหนิงได้ยินเสี่ยวเป่าเรียกจิ้นเฟิงเฉินว่าพ่อ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เด็กคนนี้เป็นลูกชายของจิ้นเฟิงเฉินนี่เอง หัวใจของเขาตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ซวยแล้ว……
จิ้นเฟิงเฉืนหันไปมองเจียงสื้อสื้อเหมือนกำลังถามเธอว่าคุณไม่เป็นไรใช่ไหม!
เจียงสื้อสื้อส่ายหน้า เป็นการตอบว่าไม่เป็นไร แต่เธอแค่สงสัยว่าจิ้นเฟิงเฉินโพล่มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง?
หันจิ้งได้สังเกตเห็นการกระทำของทั้งสองคน แล้วรอยยิ้มที่ชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าเธอ
“แหม๋ เจียงสื้อสื้อ นี่นะเหรอพ่อของเด็กเดรัจฉานคนนั้น?”
หันจิ้งไม่รู้เลยว่าบุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นคือท่านประธานจิ้นผู้มีอำนาจ
ล้นฟ้า พอมองดูผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า สายตาของเธอก็ส่อแววอิจฉาออกมา ทำไมผู้หญิงอย่างเจียงสื้อสื้อถึงได้หาผู้ชายดีๆ อย่างนี้มาครอบครองได้กัน? ไม่ ยังไงวันนี้เธอก็จะต้องทำให้ผู้ชายคนนี้รู้ถึงธาตุแท้จริงๆ ของเจียงสื้อสื้อให้ได้เธอจะต้องทำให้เจียงสื้อสื้อต้องถูกเขาทิ้งขว้างให้ได้
ตอนนี้ประธานหนิงแทบจะไม่กล้าหายใจเสียงดังเลยด้วยซ้ำ เขาพยายามส่งสัญญาณด้วยสายตาอย่างบ้าคลั่งให้หันจิ้งหยุด แต่หันจิ้งกลับมองไม่เห็นสัญญาณเหล่านั้นเลย
“คุณบอกว่าลูกชายของผมเป็นเดรัจฉานอย่างนั้นเหรอ?” จิ้นเฟิงเฉินก้าวขึ้นมาข้างหน้าแล้วถามไป น้ำเสียงของเขาค่อนข้างทุ้มลึก
หันจิ้งถูกบรรยากาศรอบๆ ตัวเขาทำให้ตกใจ แต่พอมาคิดๆ ดูแล้ว ผู้ชายคนนี้จะมีฐานะสูงส่งขนาดไหนกันเชียว ก็แค่รูปร่างหน้าตาดีเท่านั้นเอง ไม่ว่ายังไงก็เทียบอาหนิงไม่ได้หรอก เธอมีเขาคอยหนุนหลังอยู่ แล้วเธอยังจะกลัวอะไรอีก ไม่ว่ายังไงวันนี้เธอก็ต้องสั่งสอนเจียงสื้อสื้อให้รู้จักหลาบจำซะบ้าง
“ถูกต้อง! คุณผู้ชายคะ ฉันจะบอกอะไรให้นะว่าผู้หญิงที่ชื่อเจียงสื้อสื้อคนนี้เนี่ยประวัติไม่ดีเอาซะเลย ก่อนหน้านี้ฉันเคยทำงานที่เดียวกับเธอมาก่อน เพื่อบรรลุเป้าหมายแล้วเธอมักจะเอาร่างกายเข้าแลกเสมอ ถ้าเธอเป็นคนคลอดลูกชายคนนี้ของคุณละก็ไม่แน่พ่อของเด็กจริงๆ อาจจะไม่ใช่คุณก็ได้นะคะ! คุณผู้ชายคะ ฉันว่าคุณปู่สว่างสักทีเถอะค่ะ! อย่าถูกรูปลักษณ์ภายนอกของผู้หญิงคนนี้หลอกเลยค่ะ”
พอได้ยินอย่างนั้นเข้า แววตาของจิ้นเฟิงเฉินก็มืดมนขึ้นมาทันที แต่ว่าหันจิ้งก็ยังไม่รู้ตัวว่าตอนนี้จิ้นเฟิงเฉินกำลังโกรธมาก แล้วเธอก็พูดต่อไปอย่างไม่กลัวตาย “ที่ฉันพูดมาทั้งหมดมันคือความจริงนะนะ ถ้าคุณไม่เชื่อก็ลองไปสืบดูได้เลยค่ะ เจียงสื้อสื้อคนนี้ไม่รู้ว่าเคยผ่านผู้ชายมามากขนาดไหนแล้ว เธอมันก็แค่นางโสเภณีคนหนึ่ง……”
หันจิ้งยังคงพูดต่อ แต่เสียอื่นเยือกเย็นของจิ้นเฟิงเฉินก็ขัดเธอเอาไว้
“รปภ ช่วยแจ้งตำรวจที ผู้หญิงคนนี้กำลังหมิ่นประมาทคู่หมั้นของผมอยู่”
พอได้ยินอย่างนั้น หันจิ้งก็โมโหขึ้นมาทันที
“แจ้งตำรวจรึ? ฮึ คุณผู้ชายคะ ที่ฉันพูดมามันคือความจริงนะ คุณไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร นี่ถึงขั้นจะแจ้งความเลยเหรอ? นี่คุณคิดว่าสถานีตำรวจเป็นของบ้านคุณรึไง!” พอพูดจบหันจิ้งก็มองไปทางประธานหนิง แล้วพูดต่อโดยเธอเอามือเท้าเอวเอาไว้ “อาหนิงคะ คุณเองก็ช่วยฉันพูดหน่อยสิคะ!”
สายตาของจิ้นเฟิงเฉินก็มองไปยังประธานหนิง ประธานหนิงรีบชักมือออกจากแขนของหันจิ้ง เขารีบพูดออกมาอย่างร้อนรนว่า “ท่านประธานจิ้นครับ ผมไม่ได้สนิทอะไรกับผู้หญิงคนนี้เลยครับ ระหว่างผมกับเธอเราไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรพิเศษกันเลยครับ ผมแค่บังเอิญผ่านมาทางนี้เฉยๆ ครับ”
เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้แล้ว เอาตัวรอดไว้ก่อนดีที่สุด อีกอย่าง ผู้หญิงโง่เง่าอย่างหันจิ้งจะให้ประธานหนิงคบต่อกับเธอได้ยังไง ด้วยสถานการณ์แบบนี้การตัดความสัมพันธ์กับเธอก็คงช่วยอะไรได้ไม่มากแล้ว!
พอหันจิ้งได้ยินประธานหนิงพูดออกมาอย่างนั้นเธอก็ถึงกับงงไปเลย “อาหนิงนี่คุณ……”
เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อกี้อาหนิงเรียกผู้ชายคนนี้ว่าอะไรนะ? ท่านประธานจิ้นเหรอ?
แล้วในทันใคนั้นเอง ความรู้สึกขนลุกอย่างหนึ่งก็ได้วิ่งเข้ามาในหัวของหันจิ้ง เธอมองไปยังจิ้นเฟิงเฉินอย่างตะลึง ส่วนเด็กที่ยืนอยู่ข้างๆ นี่ก็คงไม่ใช่ลูกชายของจิ้นเฟิงเฉินใช่ไหม?
หันจิ้งรู้สึกร้อนรนขึ้นมาทันที เธอแทบจะล้มทั้งยืน
มีข่าวลือว่าจิ้นเฟิงเฉินมีลูกชายอายุประมาณห้าขวบ ดังนั้นเสี่ยวเป่าก็น่าจะเป็น……พอนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้ตัวเองเพิ่งบอกว่าเสี่ยวเป่าเป็นเด็กเดรัจฉาน หันจิ้งก็รู้สึกอยากตายขึ้นมาจริงๆ
ไม่สิ จิ้นเฟิงเฉินบอกว่าเจียงสื้อสื้อเป็นคู่หมั้นของเขา?
แล้วในตอนนั้นเอง ดวงตาที่ไม่อยากจะเชื่อของหันจิ้งเปิดกว้างขึ้นมาแล้วมองไปยังเจียงสื้อสื้อ ผู้หญิงคนนี้กำลังคบอยู่กับจิ้นเฟิงเฉินอย่างนั้นเหรอ?
ไม่ว่ายังไงหันจิ้งก็ไม่มีทางนึกถึงหรอกว่าเจียงสื้อสื้อจะไปคบกับจิ้นเฟิงเฉินได้ แต่ตอนนี้ความจริงได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้ว หันจิ้งในตอนนี้ก็ได้เข้าใจเสียทีว่า ทำไมเธอถึงได้ถูกไล่ออก และเจียงสื้อสื้อเองก็มีจิ้นเฟิงเฉินอยู่ แล้วยังจะไปให้ผู้ชายคนอื่นเลี้ยงทำไม……
พอทำความเข้าใจเรื่องราวมาถึงตรงนี้ หันจิ้งก็รู้สึกเสียใจที่ตัวเองนั้นโง่ขนาดนี้ ถ้ารู้ว่าเจียงสื้อสื้อกำลังคบกับจิ้นเฟิงเฉินอยู่ละก็เธอไม่มีทางที่จะเข้าไปวุ่นวายกับผู้หญิงคนนี้อย่างแน่นอน
ตอนนี้ตำรวจได้มาถึงแล้ว สีหน้าของหันจิ้งได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เธอจึงรีบเปิดปากขอโทษไป “ขอโทษนะคะท่านประธานจิ้น ฉันมันมีตาหามีแววไม่ ฉันสำนึกผิดแล้ว ที่ฉันพูดไปเมื่อกี้มันแค่พูดไปอย่างนั้นเอง ยกโทษให้ฉันเถอะนะคะฉันขอร้องหล่ะ!”
หันจิ้งตอนนี้รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ทำไมเธอถึงได้โง่ขนาดนี้นะ! เธอน่าจะดูออกตั้งแต่แรกแล้วว่าฐานะของผู้ชายคนนี้ต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว!
จิ้นเฟิงเฉินอุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นมาโดยที่ไม่ได้สนใจเธอเลย
หันจิ้งจึงรีบหันไปหาเจียงสื้อสื้อ
“สื้อสื้อ เธอช่วยฉันหน่อยนะ! ไม่ว่ายังไงเราสองคนก็เคยเป็นเพื่อนร่วมงานกันมาก่อน ฉันสำนึกแล้ว ฉันไม่ควรดูถูกเธอเลย เธอช่วยฉันพูดหน่อยนะ! ฉันสาบานเลยต่อไปฉันจะไม่ไปวุ่นวายกับเธออีกแล้ว”