ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 222 อยากนอนกับผมหรือ?
บทที่ 222 อยากนอนกับผมหรือ?
เธอแข็งเหมือนท่อนไม้ไปทั้งตัว ตามใจเขาปล้นอยู่ในปากของตัวเอง
ก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ จนเธอรู้สึกถึงออกซิเจนในปอดแทบจะถูกดูดไปหมด หายใจเริ่มลำบากขึ้น จึงดึงสติกลับมาอย่างกะทันหัน ดิ้นจะผลักเขาออก
จิ้นเฟิงเฉินทำตามความปรารถนาของเธอ ปล่อยเธอไปชั่วคราว แต่แขนที่กอดอยู่ที่เอวของเธอ กลับยิ่งกอดแน่นขึ้น
เขาหายใจหนักเล็กน้อย ลมหายใจที่พ่นอยู่ข้างหูของเธอ ร้อนแรง คำพูดที่ออกจากปากเสียงแหบกดดัน “เจียงสื้อสื้อผมไม่สนว่าคุณมีอดีตอะไร ผมล้วนไม่สนใจ ที่ผมเห็นคือเจียงสื้อสื้อที่ผมรู้จักนั่นเอง ไม่ใช่เจียงสื้อสื้อที่ผ่านมาในอดีต ก่อนหน้านั้นผมเคยพูดแล้วว่า ไม่อนุญาตให้คุณหลบหนีอีก ใครอนุญาตให้คุณเข้าหูซ้ายทะลุหูขวากับคำพูดของผมล่ะ อืม?”
“ฉัน……..” เจียงสื้อสื้ออ้าปาก อยากจะพูดอะไรบ้าง
แต่จิ้นเฟิงเฉินกลับตัดคำพูดเธอ “ทุกๆคนล้วนมีความลับ หากว่าคุณไม่อยากพูด ผมก็ไม่บังคับคุณ ถ้าหากว่าวันไหนคุณอยู่ดีๆอยากจะหาคนคนหนึ่งระบาย นั่นผมย่อมจะยินดีรับฟังอย่างแน่นอน หากว่าความลับนั้น คุณอยากจะซ่อนเก็บไว้ทั้งชีวิต นั่นผมก็ไม่ถือสา”
พูดถึงตรงนี้ มือของเขายิ่งใช้แรงมากขึ้น เหมือนว่าเช่นดั่งจะเอาเธอทั้งตัวล้วนสอดเข้าไปในกาย อีกทั้งยังเหมือนกอดสิ่งล้ำค่าที่สูญเสียแล้วกลับคืนมาได้ “เจียงสื้อสื้อ คุณลองจากไปผมดูสิ? ผมจะทำให้คุณรู้ว่า อะไรคือประสบการณ์ในการไล่คุณถึงนรก”
เจียงสื้อสื้อได้ยินคำพูดนี้ แค่รู้สึกว่าคัดจมูก น้ำตาคลอทันที
เธอมีบารมีอะไร ที่สามารถถูกผู้ชายคนหนึ่งเช่นนี้ปรนนิบัติหรือ?
เธอเจียงสื้อสื้อ ที่ผ่านมายี่สิบกว่าปี มักถูกความไม่โชคดีพันตัว อยู่หลังการทรมานหนักๆแล้ว กลับถูกผู้ชายที่ดีเลิศเช่นนี้คนหนึ่งปรนนิบัติ
เขาเข้าใกล้อย่างไม่ยอมปล่อย ไม่สนแม้แต่นิดว่าเธอจะใจร้ายอยากผลักเขาออกสองสามครั้ง…….
“จิ้นเฟิงเฉิน คุณแทบจะเป็นคนโง่จริงๆ”
น้ำตาอดไม่ได้ไหลออกจากขอบตาอีก เจียงสื้อสื้อทั้งหัวบุกเข้าไปในอ้อมอกของเขา กอดเขากลับอย่างเป็นทางการ
จิ้นเฟิงเฉินอยู่ข้างหูของเธอ ปลอบใจอย่างอบอุ่น “อย่าร้องไห้อีกเลย อืม?”
เจียงสื้อสื้อปากแข็งว่า “ไม่ได้ร้องไห้”
ก็คือมีฝุ่นเข้าตา
จิ้นเฟิงเฉินดูเหมือนหัวเราะเสียงหนึ่ง จากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรอีก กอดเธออย่างเงียบๆเช่นนั้น
รอคนที่อยู่ในอกสงบนิ่งลงมา เขาจึงปล่อยมือ
เจียงสื้อสื้อก้มหัว ไม่ค่อยกล้าไปสบตาของจิ้นเฟิงเฉิน
เธอร้องไห้จนตาบวม น่าเกลียดมาก
จิ้นเฟิงเฉินก็ไม่ได้ไปเปิดโปง เพียงแค่เร่งเธอไปล้างหน้า จากนั้นจะพาเธอไปกินมื้อดึก
เจียงสื้อสื้อไม่ได้ปฏิเสธ
เธอในหลายวันนี้ก็ไม่ได้กินอะไรบ้าง ในเวลานี้กระเพาะกำลังปวด จะต้องกินอะไรรองท้องบ้าง
หลังจากสิบกว่านาที ทั้งสองจับมือออกจากบ้าน
จิ้นเฟิงเฉินจับมือเธออย่างแน่น เหมือนดั่งไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น เช่นดั่งล้วนจะไม่ปล่อยมือ
เจียงสื้อสื้อรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ส่งมาจากปลายนิ้วของเขา ใจดูเหมือนก็อุ่นขึ้นตามมา
หลังจากยี่สิบนาที ทั้งสองอยู่ร้านอาหารส่วนตัวที่อยู่ใกล้บ้าน สั่งข้าวต้มสองถ้วยกับผัดผักง่ายๆกี่จาน
เจียงสื้อสื้อดื่มคำเล็กๆอยู่ จิ้นเฟิงเฉินนั่งจ้องมองอยู่ตรงข้าม
เจียงสื้อสื้อถูกจ้องมองจนอึดอัดเล็กน้อย ถามว่า “คุณทำไมไม่กินล่ะ?ไม่ถูกปากหรือ?”
“ไม่หิว คุณกินเยอะหน่อย”
จิ้นเฟิงเฉินยื่นมือข้างหนึ่ง จับตรงแก้มของเธอเบาๆ “หลายวันนี้สีหน้าไม่ค่อยดี คราวหน้าเป็นเช่นนี้อีก ผมย่อมไม่ปล่อยคุณแน่”
ใบหน้าเจียงสื้อสื้อแดงขึ้นทันที
เธอรู้สึกทันทีว่า จิ้นเฟิงเฉินหยอกล้อสาวขึ้นมา แทบจะเอาชีวิตคนจริงๆ โดยเฉพาะคือคู่กับใบหน้าที่เป็นเช่นดั่งเทพเทวดาใบนั้น…….ทุกวินาทีขาอ่อน
เจียงสื้อสื้อตื่นตะลึงความคิดของตนเอง ไอเสียงเบาๆเสียงหนึ่ง พูดว่า“นั่นฉันกินต่อ เอาถ้วยของคุณนั่นให้ฉันด้วย ฉันสามารถกินหมดได้”
จิ้นเฟิงเฉินพูดว่า “ผมช่วยเป่าให้คุณ ถ้วยที่อยู่ต่อหน้าคุณนั้นกินให้หมดก่อน”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า
ในที่สุดก็กินข้าวเสร็จ เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วครึ่งชั่วโมง
ออกจากร้านอาหาร จิ้นเฟิงเฉินถามเธอ “กลับบ้านหรือ?”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “ถ้าไม่งั้น?”
จิ้นเฟิงเฉินดึงมือของเธอ พูดว่า “อย่ากลับไปเลย สถานที่นั้นมีความทรงจำที่ไม่ดี คืนนี้ไปอยู่นั่นกับผม พรุ่งนี้ผมให้คนไปเปลี่ยนสถานที่ให้คุณ”
“อ่า? นี่…….ก็ไม่ต้องแล้วล่ะ?” เจียงสื้อสื้อตกกะใจ รู้สึกว่าเรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่สักหน่อยแล้ว
แต่ว่าจิ้นเฟิงเฉินยืนหยัดมาก “จำเป็นต้องย้าย ผมไม่อยากให้คุณหลังจากวันนี้ถูกคนแปลกประหลาดมาก่อกวนอีก นี่ก็คือวิธีที่ผมสามารถปกป้องคุณได้ ดังนั้น คุณปฏิเสธผมไม่ได้”
ถูกเขาพูดเช่นนี้ เจียงสื้อสื้อยังเกรงใจที่จะปฏิเสธได้ที่ไหน มีเพียงพยักหน้า “นั่น………ตกลงล่ะ แต่ว่า ฉันนอนกับเสี่ยวเป่า”
จิ้นเฟิงเฉินยักคิ้ว “ความหมายแอบแฝงอีกด้านหนึ่งของคำนี้ก็คืออยากนอนกับผมหรือ?”
เจียงสื้อสื้อติดคอ “ใครอยากจะนอนกับคุณ!”
จิ้นเฟิงเฉินหัวเราะ
วันต่อมา บ้านใหญ่ของตระกูลจิ้น
ซูชิงหยิงถือของขวัญถุงใหญ่ถุงเล็กมาเยี่ยมแม่จิ้น
แม่จิ้นแค่เห็นซูชิงหยิงก็ชอบมาก เข้าไปต้อนรับอย่างอบอุ่นมาก พูดว่า “ชิงหยิง วันนี้ทำไมมีเวลามาล่ะ?”
ซูชิงหยิงยิ้มพูดว่า “ไม่มีอะไร ก็คือหลายวันก่อนฝากเพื่อนเอาชาแดงยี่ห้อหนึ่งมาจากต่างประเทศชานี้รสชาติหอมหวาน คิดว่าคุณน้าน่าจะชอบ”
พูดแล้วก็เอาของขวัญที่อยู่ในมือส่งไป
แม่จิ้นยิ้มพูดว่า “ยังเป็นแกเด็กคนนี้ที่มีน้ำใจ” ทั้งพูด ทั้งรับของขวัญมา ส่งให้พ่อบ้านที่อยู่ข้างๆ ให้เขาไปชงชา อีกทั้งยกของหวานที่เพิ่งออกจากเตามาบริการซูชิงหยิง
ซูชิงหยิงนั่งอยู่บนโซฟา ความคิดในสมองกลับมีมากมาย
หลังจากคุยกับมู่จิ่งเซินประมาณหนึ่งแล้ว เธอยังรู้สึกไม่ค่อยดีเล็กน้อยเหมือนเดิม
จิ้นเฟิงเฉินทำร้ายกฎเกณฑ์เพื่อเจียงสื้อสื้อ ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้งแล้ว ยากจะรับรองว่าครั้งนี้จะไม่เป็นเช่นดั่งแต่ก่อน
ดังนั้นเพื่อความมั่นใจ เธอยังอยากจะเปิดโปงเรื่องนี้ให้กับแม่จิ้นรู้มีเพียงเช่นนี้ จึงสามารถตัดโอกาสเจียงสื้อสื้อที่จะเข้ามาในตระกูลจิ้นอย่างหมดสิ้น
นึกถึงตรงนี้ นัยน์ตาซูชิงหยิงกวาดคิดแผนการผ่านไป
ในเวลานี้ คนใช้ยกของหวานออกมาแล้ว
แม่จิ้นเรียกเธอ “มา ลองชิมดู นี่คือเมื่อกี้ฉันอบด้วยตัวเอง ใส่น้ำตาลน้อย ไม่หวาน ไม่ต้องกลัวอ้วน”
ซูชิงหยิงพยักหน้าทั้งพูดว่า “นี่คือคุณน้าจะทำให้เฟิงเฉินใช่ไหมล่ะ? เขาไม่ชอบกินหวาน”
“ใช่ล่ะ ก็เป็นแกที่เข้าใจเขามากที่สุด” แม่จิ้นยิ้มพูดว่า “ฉันคือเห็นเขายุ่งทั้งวันได้เพียงแต่อาศัยกาแฟให้มีสติ กาแฟนี้ดื่มเยอะเกินไปก็ไม่ดี ง่ายต่อการทำร้ายกระเพาะ ฉันกลัวกระเพาะของเขาทนไม่ไหว ก็ทำให้พวกเขาพี่น้องเล็กน้อย อีกชุดหนึ่งใส่น้ำตาลเยอะหน่อยคือจะให้เฟิงเหรากับเสี่ยวเป่า ก็จะไม่เอาให้แกแล้ว”
ซูชิงหยิงยิ้มชิมดูหนึ่งชิ้น พูดว่า “ทำได้ดีมาก อร่อย”
“จริงหรือ? ถ้าชอบแกก็กินเยอะหน่อย”
ทั้งสองพูดอย่างสนุกสนาน แม่จิ้นกับซูชิงหยิงคือยิ่งดูยิ่งชอบ ทนไม่ไหวตบหลังมือของเธอพูดว่า “ชิงหยิงอ่า เฟิงเฉินกับเรื่องของความรักเดิมทีไม่มีประสบการณ์อะไรเลย เพราะฉะนั้นอยู่ในด้านนี้อาจจะทึ่มๆเล็กน้อย หรืออาจจะเกิดความรู้สึกที่ผิดพลาดเล็กน้อย แกก็อยู่ข้างๆเขา จำไว้หาโอกาสใกล้ชิดเขามากๆ ทำให้เขาเข้าใจแกมากขึ้น แกดีเลิศเช่นนี้ ไม่ด้อยกว่าใครๆ ฉันเชื่อว่า เฟิงเฉินสามารถเห็นความดีของแกได้แน่นอน”
ซูชิงหยิงฟังถึงตรงนี้ อยู่ดีๆสายตาก็มืดครึ้มลง “คุณน้า…………ที่ท่านพูดฉันล้วนรู้ แต่ว่ามีบางสิ่งบางอย่าง ไม่ใช่ฉันสามารถควบคุมได้”
แม่จิ้นอดไม่ได้ขมวดคิ้วขึ้นมา “ทำไมพูดเช่นนี้ล่ะ?”
สีหน้าซูชิงหยิงเศร้าลง คำพูดติดที่ปาก ดูเหมือนพัวพันอยู่ว่า ควรพูดหรือไม่
แม่จิ้นแค่ตาเห็นก็มองเบื้องหลังออก พูดว่า“ก็เพราะว่าเจียงสื้อสื้อคนนั้นใช่หรือไม่?”