ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 232 คู่แข่งยิ่งร้ายกาจ เราก็ยิ่งเก่งกาจไปด้วย
- Home
- ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!
- บทที่ 232 คู่แข่งยิ่งร้ายกาจ เราก็ยิ่งเก่งกาจไปด้วย
บทที่ 232 คู่แข่งยิ่งร้ายกาจ เราก็ยิ่งเก่งกาจไปด้วย
เจียงสื้อสื้อหันมายกยิ้มเบาๆ “กดดันตัวเองนิดหน่อยให้พอเหมาะสม จะได้สามารถขับเคลื่อนตัวเองให้เดินหน้าได้”
ลู่เจิงนิ่งไปเล็กน้อย ก็เข้าใจในหลักและเหตุผลนี้ทันที แต่ก็ไม่ลืมที่จะกล่าว: “ถึงว่า ใครก็บอกคนที่ยิ่งขยันยิ่งก้าวหน้าเร็ว”
เธอกำลังจะเอ่ยปากพูด ครั้งนี้ กลับสบสายตากับซูชิงหยิงพอดี
เจียงสื้อสื้อสังเกตเห็น แววตาของซูชิงหยิงมีนัยอะไรบางอย่าง และแอบมีความลำพองใจเล็กน้อย
ไม่รู้ว่าซูชิงหยิงพูดอะไรกับKevinไป สายตาพิจารณาของKevin ตกลงมาที่ตัวเธอ
ในเมื่อถูกKevinเห็นแล้ว ลู่เจิงก็ถือโอกาสพาเจียงสื้อสื้อเดินเข้าไปเลย
“ไม่เจอกันนานนะKevin” ลู่เจิงยื่นมือออกไปก่อน เขาจับมือกับKevinอย่างสนิทสนม
Kevinเองก็ดูมีความสุข ได้เจอเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันนาน ก็พูดทักทายกันไปหลายประโยค
“ท่านนี้คือ….” Kevinเอ่ยปากถามเจียงสื้อสื้อที่อยู่ข้างๆ ด้วยตัวเอง
เจียงสื้อสื้อพยักหน้าเล็กน้อย แล้วแนะนำตัวเอง: “สวัสดีค่ะ Kevin ฉันคือเจียงสื้อสื้อจากบริษัทจิ่นซื่อ”
Kevinเคยเห็นแผนงานขั้นต้นที่บริษัทจิ่นซื่อส่งมา นับเป็นหนึ่งในแผนที่ถูกใจมากที่สุดบริษัทหนึ่ง
แต่ว่า แผนนี้จะดีสมบูรณ์หรือไม่ นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เห็นKevinทำท่าทีเย็นชา เจียงสื้อสื้อก็ไม่ท้อถอย แม้เจอคลื่นลูกใหญ่ก็ไม่ตระหนก
พวกเขากี่คนคุยกัน และไม่มีใครเริ่มพูดโครงการนี้ก่อนเลย
เจียงสื้อสื้อก็ยังหวังว่าหากมีโอกาสละก็ เธอจะเจรจาหารือกับKevinเพียงลำพัง
แต่ซูชิงหยิงเหมือนจะมองความคิดของเจียงสื้อสื้อออก ก็พูดทอดถอนใจ: “โครงการนี้ ซูซื่อกรุ๊ปก็นับว่าได้เจอกับคู่แข่งที่มีความสามารถมากสองคนเลยนะคะ คุณเจียง ประธานลู่ พวกคุณต้องยอมอ่อนข้อให้ฉันบ้างนะ”
“ควรเป็นคุณซูมากกว่าครับที่ต้องยอมอ่อนข้อให้พวกเรา ใครไม่รู้จักบริษัทOwenภายใต้การบริหารของพวกคุณบ้าง เป็นผู้นำอันดับสองในโลกธุรกิจเลยนะครับ” ลู่เจิงพูดอย่างสุภาพ
ไม่รู้ให้ซูชิงหยิงพูดอะไรขึ้นอีก ลู่เจิงยิ้มอย่างสุภาพบุรุษ ก็พูดขึ้นอีกครั้ง: “คุณซู เพชรตัดเพชร เราต้องเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ในเมื่อพวกคุณหมายมุ่งต้องได้สิ่งนี้ พวกเราบริษัทLGเองก็ไม่ได้ต้องการน้อยไปกว่าพวกคุณอย่างแน่นอน”
ซูชิงหยิงดูถูกในใจ เธอสืบรู้ชัดเจนมาตั้งนานแล้ว จริงลู่เจิงไม่ค่อยสนใจโครงการนี้มากนัก
แต่เขาพูดแบบนี้ ก็เพียงแค่อยากช่วยเจียงสื้อสื้อต่อหน้าคนเท่านั้นเอง
ไม่รู้จริงๆ ว่าเจียงสื้อสื้อนั้นมีดีตรงไหนกันแน่ ถึงทำให้พวกเขาหลงใหลอย่างต่อเนื่องได้
ซูชิงหยิงคิดเคียดแค้นในใจ ไฟในใจลุกโชนจนเกือบเผยออกมาบนใบหน้า
“ถ้างั้นฉันจะตั้งตารอ” ซูชิงหยิงพูดอย่างมีพิธีรีตอง
พวกเขาคุยกันก็นานขนาดนี้แล้ว แต่เจียงสื้อสื้อกลับไม่พูดเลยสักคำ สายตาของซูชิงหยิงมองจับจ้องไปที่เธอแน่วแน่ “คุณเจียงทำไมไม่แสดงความคิดเห็นบ้างล่ะคะ?”
เจียงสื้อสื้อกลับยิ้มเบาๆ “ซูซื่อกรุ๊ปและบริษัทLG ล้วนเป็นอัจฉริยะของวงการธุรกิจ จิ่นซื่อของพวกเรา เพิ่งก่อตั้งขึ้นได้ไม่นาน ควรรับฟังความเห็นและเรียนรู้อย่างถ่อมตัวอยู่ข้างๆ ค่ะ”
Kevinกลับหัวเราะเสียงเย็นชา “ออ? ฉันยังไม่ได้ยินพวกเขาพวกเขาคุยกันเลย มีอะไรให้เธอเรียนรู้ได้งั้นหรือ?”
คำพูดนี้ของเขา แข็งกระด้างอย่างมาก
เจียงสื้อสื้อได้แต่ยกยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรมากมาย
เมื่อเห็นว่าKevinมีท่าทางไม่ดี จึงจะช่วยเจียงสื้อสื้อ ยิ้มพูดอย่างสุดความสามารถ “Kevin ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราดีขนาดนี้ ถ้าดูจากไมตรีจิตที่พวกเรามีมาหลายปี งั้นก็ถือโอกาสให้สิทธิในการโฆษณากับพวกเราไปเลยเถอะ”
Kevinมองออกว่าเขากำลังล้อเล่น ก็อดพูดหยอกล้อไม่ได้ “อะไรน่ะ? คู่แข่งด้านหน้าคุณทั้งสองคนล้วนเป็นผู้หญิง คุณยังกล้าแย่งอย่างไม่ละอายอีกหรือ?”
ซูชิงหยิงกลัวว่าพวกเขาจะความเห็นตรงกันตกลงกันได้ ก็รีบพูดกล่าว: “ใช่แล้ว ประธานลู่ คุณทำอย่างนี้ไม่เมตตากันหน่อยหรือ? พวกเราซูซื่อกรุ๊ปก็ตั้งใจวางแผนให้ดีที่สุดมาตั้งนาน”
เจียงสื้อสื้อเห็นเธอพูดจบ ก็มองเธออยู่ตลอดไม่วางตา ได้เพียงแต่ดันทุรังพูดต่ออีกประโยค “ในเมื่อทุกคนก็จะเข้าร่วมการวางแผน ก็ไม่สู้แข่งกันอย่างยุติธรรมกันดีกว่า”
“Kevin ฉันจะส่งเอกสารแบบวางแผนไปให้คุณโดยเร็วที่สุด ต้องทำให้คุณพอใจได้แน่ๆ ค่ะ” ซูชิงหยิงยิ้มอย่างทะนงตัว มองดูก็เห็นความมั่นใจเต็มร้อย
Kevinพยักหน้ารับอย่างพอใจ เขาชมเชยความไม่ยอมแพ้ใครของซูชิงหลิงอย่างมาก
“ใช่แล้ว คุณเจียง คุณขยันทำงานมาตลอด คราวนี้ตัดสินใจจะเอาชนะอย่างแน่นอนแล้วใช่ไหม?” ซูชิงหยิงไม่ลืมพูดลองเชิงความในใจของเจียงสื้อสื้อ
เจียงสื้อสื้อมักจะไม่ชอบพูดมากเกินไปต่อหน้าคนอื่น “แน่นอนว่าฉันจะสู้อย่างสุดกำลัง ถ้าหากแพ้ ฉันก็ยอมรับ”
Kevinได้ยิน ก็คิดไปเองว่าเจียงสื้อสื้อไม่ได้จริงจังกับโครงการนี้ สีหน้าเขาครึ้มลง
รวมทั้งก่อนหน้านี้ซูชิงหยิงใช้จังหวะที่ไม่มีใครเห็นเปิดเผยความลับว่าชีวิตส่วนตัวของเจียงสื้อสื้อนั้นวุ่นวายมาก เขาอดไม่ได้ที่จะพูดฉีกหน้าไปหนึ่งประโยค “ในฐานะผู้รับผิดชอบของจิ่นซื่อ นี่คือทัศนคติของคุณเหรอ?”
เจียงสื้อสื้อเห็นสีหน้าของKevinเปลี่ยนไปโดยเร็ว ก็รู้ว่าบางทีเขาคงจะเข้าใจผิดเสียแล้ว
ไม่ทันรอให้เธออธิบาย ซูชิงหยิงกลับราดน้ำมันใส่กองไฟเพิ่ม “คุณเจียง ที่แท้คุณไม่คิดจะทุ่มกำลังสุดความสามารถนี่เอง”
Kevinยิ้มเย็นชา น้ำเสียงแข็งกระด้างกล่าว “ฉันไม่กล้าเอาโฆษณาให้พวกคุณหรอกนะ”
“Kevin คุณคงจะเข้าใจผิดซะแล้ว” เจียงสื้อสื้อเหลือบมองเห็นสีหน้าได้ใจของซูชิงหยิง ถึงเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองติดกับเสียแล้ว
เธอรีบพูดไกล่เกลี่ยให้ตัวเอง: “บริษัทของพวกเรา หากคู่แข่งยิ่งร้ายกาจเราก็ยิ่งเก่งกาจไปด้วยทุกครั้งไป”
กี่คนตรงนี้ฟังอย่างตั้งใจ เจียงสื้อสื้อพูดต่อ: “ถึงแม้ว่าคุณสมบัติและประสบการณ์ของบริษัทเรายังถือว่าน้อยจริงๆ แต่ว่า บริษัทของคุณยินยอมรับแผนงานของเราไปพิจารณา คงจะได้ยินมาบ้างแล้ว ว่าสามครั้งก่อนหน้านี้ การโปรโมทของพวกเรากว้างขวางขนาดไหน”
Kevinร้องหึเสียงเย็น: “ก็เป็นแค่ใช้เงินกับพวกดาราดังแค่นั้นเอง”
การเผยแพร่โฆษณาตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ล้วนเชิญดารายอดนิยมมาเป็นตัวแทนให้ เรื่องนี้บริษัทบริษัทไหนก็ทำได้กันทั้งนั้นเพียงแค่มีเงินถึงก็เพียงพอแล้ว
“แต่ว่า….ถ้าเกิดจะส่งเสริมการโปรโมททุกทางในเวลาเดียวกัน แล้วใช้เพียงความดังของดารา เกรงว่าอาจจะไม่พอน่ะสิคะ”
เพียงเจียงสื้อสื้อพูดถึงงานของตัวเองขึ้นมา ก็เหมือนทั้งตัวเธอกำลังส่องแสงออกมาอย่างไรอย่างนั้น
Kevinที่ตอนแรกทำหน้าเย็นชา ก็ค่อยๆ คลายสีหน้านั้นลงทีละนิด “งั้นก็จะรอดูแล้วกัน หวังว่าพวกคุณจะทำให้ฉันเซอร์ไพรส์ได้นะ”
ลู่เจิงเหลือบมองเจียงสื้อสื้อ “ความสามารถในการวางแผนของเจียงสื้อสื้อ ในโลกธุรกิจก็นับว่าเป็นอัจฉริยะเลยล่ะ ฉันยังต้องยอมถอยเลยจริงๆ Kevin นายไม่คิดถึงมิตรภาพระหว่างเรา แล้วเอาโครงการมาให้พวกฉันจริงๆ หรือ?”
Kevinหัวเราะ พูด: “ลู่เจิง ถ้าจะใช้การ์ดมิตรภาพ ก็ควรจะพูดกันส่วนตัวถึงจะถูก”
ขณะนั้น พิธีกรบนเวทีก็พูดถึงชื่อของKevin สายตาของผู้คนทั้งหลายก็ตกลงมาอยู่ที่ร่างของKevinทันที
Kevinรีบพูดทิ้งท้ายอย่างรีบร้อน “ฉันไม่ให้พวกคุณใช้เส้นหรอกนะ” แล้วเขาก็เดินตรงไปที่เวที
เป้าหมายจริงของการจัดงานเลี้ยงครั้งนี้ เพื่อเปิดตลาดเครื่องสำอางในประเทศ Kevinให้ความสำคัญกับการโปรโมทครั้งนี้มาก
เขานำเสนอสินค้าของเขาง่ายเป็นพิเศษ เป็นตัวอย่างที่ดีต่อหน้าสาธารณชน พูดตัดสินใจอย่างเด็ดขาด: “ทุกท่านที่อยู่ ณ ที่นี้ ล้วนสามารถมาร่วมแข่งขันแสดงแบบแผนครั้งนี้ได้ แบบแผนของใครสมบูรณ์แบบที่สุด ผมก็จะเลือกของคนนั้น”
“และแน่นอน เวลามีเพียงแค่สามวันเท่านั้น” Kevinพูดเสริมอย่างทันท่วงที
“สื้อสื้อ แต่ก่อนฉันยังคิดว่าฉันจำเป็นจะต้องแพ้คุณซะแล้ว” ลู่เจิงมองเจียงสื้อสื้อกล่าว “แต่ดูท่าแล้วพวกเราอาจจะไม่มีโอกาสนี้แล้ว”
เจียงสื้อสื้อรู้สึกขบขันในทันที วันนี้ลู่เจิงเหมือนจะติดตลกกว่าวันอื่น