ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 234 ปกป้องคุ้มครองยัยผู้หญิงโสโครกนี่
- Home
- ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!
- บทที่ 234 ปกป้องคุ้มครองยัยผู้หญิงโสโครกนี่
บทที่ 234 ปกป้องคุ้มครองยัยผู้หญิงโสโครกนี่
“งั้นก็ดี”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า เธอเชื่อใจจิ้นเฟิงเฉิน “งั้นคุณก็…….”
เธออยากพูดว่า งั้นคืนนี้คุณก็นอนที่นี่เถอะ
แต่ยังไม่ทันพูดจบ ก็สบสายตาครุ่นคิดของจิ้นเฟิงเฉินที่อยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มพูดแทรกเธอ “เมื่อกี้ล้อเธอเล่นน่ะ ยังมีเรื่องต้องสะสางในภายหลัง คืนนี้ค้างไม่ได้แล้ว”
เธออับอายเล็กน้อย พยักหน้าเบาๆ “ดี งั้นคุณทำธุระเสร็จก็ต้องพักให้เร็วที่สุดนะ”
เขาคลายมือออกจากมือเธอ หยิบเสื้อสูทตัวนอกที่แขวนอยู่ข้างๆ มาสวมลงบนตัว เตรียมตัวจะออกไป
เสี่ยวเป่าหันไปยู่ปากให้เขา เขายิ้มอย่างรู้ใจ ก้มตัวลงไป
เสี่ยวเป่าทำเสียง “ม๊วฟ” หอมแก้มเขาลงไปแรงๆ พูดเสียงหวาน: “ฝันดีนะแด๊ดดี้!”
เขาจุ๊บเสร็จ ก็เดินหลีกไปข้างๆ มองเจียงสื้อสื้ออย่างคาดหวัง
เจียงสื้อสื้อถูกเสี่ยวเป่ามองจนงุนงงเล็กน้อย เสี่ยวเป่าถอนหายใจ พูดเร่งอย่างกับเด็กแก่แดด: “น้าสื้อสื้อไม่จุ๊บๆ แด๊ดดี้เหรอครับ?”
ที่แท้…..
เธอเขินจนหน้าแดง เมื่อเห็นจิ้นเฟิงเฉินและเสี่ยวเป่ามองเธออย่างคาดหวัง เธอทำใจดีสู้เสือ เขย่งปลายเท้ายกตัวขึ้นไปตรงแก้มของจิ้นเฟิงเฉิน ประทับจูบด้วยความรวดเร็ว
เจียงสื้อสื้อจุ๊บเสร็จ กำลังคิดจะหลบไปทางอื่น แต่กลับถูกจิ้นเฟิงเฉินรวบกอดไว้ในอ้อมแขน
เธอยืนตัวแข็งอยู่ในอ้อมกอดเขา และเขาก็ก้มหน้าลงมาแล้วจูบลงที่ริมฝีปากปากของเธอทันที
พวกเขาจูบกันจนเกือบลืมตัว จนได้เสียงแอบหัวเราะของเสี่ยวเป่าดังขึ้นที่ข้างหู
เจียงสื้อสื้อรีบดันตัวจิ้นเฟิงเฉินออก มองเสี่ยวเป่าอย่างเก้อเขิน
เธอลืมไปเลย เด็กน้อยยังอยู่ตรงนี้ด้วย
เสี่ยวเป่าเห็นเธอดูเหมือนถูกทำลายเรื่องน่ายินดีของแด๊ดดี้ จิ้นเฟิงเฉินจ้องเขา เขาก็ไปหลบหลังเจียงสื้อสื้ออย่างเฉลียวฉลาด
เขาพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างโม้กับจิ้นเฟิงเฉิน: “แด๊ดดี้ จุ๊บเสร็จแล้ว แด๊ดดี้ก็ควรกลับได้แล้วหรือเปล่า?”
จิ้นเฟิงเฉินเหลือบมองเสี่ยวเป่า แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ลาพวกเขาเสร็จก็ออกจากคอนโดไป
“ไปเถอะ เสี่ยวเป่า ถึงเวลานอนแล้ว”
เจียงสื้อสื้ออุ้มเด็กน้อยกลับห้องนอนไป เด็กอย่างเสี่ยวเป่าเชื่อฟังอย่างมาก เมื่อถึงเตียง ก็ไม่ต้องรอเธอกล่อม ก็หลับไปอย่างรวดเร็ว
เธอมองเสี่ยวเป่าที่รู้ความอย่างนี้ แล้วคิดถึงลูกของตนขึ้นมาอีกครั้ง
เด็กคนนั้น ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
เธอคลึงขมับตัวเอง เดินย่องๆ กลับไปที่ห้องข้างๆ เตรียมขัดเกลาแบบการวางแผนต่อ
เช้าของอีกวันหนึ่ง เธอถูกการสั่นแจ้งเตือนข้อความปลุกให้ตื่น เป็นจิ้นเฟิงเฉินส่งมา
ถึงจะเป็นวันหยุด แต่จิ้นเฟิงเฉินมีธุระกะทันหัน มาอยู่เป็นเพื่อนพวกเขาไม่ได้แล้ว
เจียงสื้อสื้อตอบข้อความกลับท่าทางง่วงงุนสะลึมสะลือ และยังอยากคิดจะมุดกลับเข้าไปในผ้าห่ม แต่พอดูเวลาก็เป็นเวลาเจ็ดโมงแล้ว
เธอลงจากเตียงทันที เพิ่งเดินประตูออกก็เจอเสี่ยวเป่ายืนอยู่หน้าประตู
“น้าสื้อสื้อ มอนิ่ง!” เสี่ยวเป่าพูดทักทายยามเช้าเสียงหวาน แล้วยังตรงไปดึงมือเจียงสื้อสื้อด้วย
เจียงสื้อสื้อก้มตัวลง ให้ความร่วมมืออย่างมาก เสี่ยวเป่าประทับมอนิ่งคิสไปหนึ่งที มือน้อยๆ แล้วมือใหญ่ของทั้งคู่ เดินจูงเข้าห้องครัวไปพร้อมกัน
เธอเตรียมอาหารเช้าที่เต็มไปด้วยสารอาหารและสมดุล ตอนนี้ร่างกายเสี่ยวเป่ายังโตขึ้นเรื่อยๆ ต้องระวังเรื่องอาหาร
“เสี่ยวเป่า วันนี้น้าต้องไปเยี่ยมแม่ของน้าที่โรงพยาบาล” เธอคิด “เดี๋ยวน้าส่งเธอกลับไปก่อนนะ”
เสี่ยวเป่าส่ายหัว พูดเสียงดัง: “เสี่ยวเป่าจะไปกับน้าสื้อสื้อ”
ทานข้าวเสร็จ ผู้ใหญ่หนึ่งเด็กหนึ่งก็ออกจากบ้านไป
เมื่อถึงโรงพยาบาล เสี่ยวเป่ามองผู้หญิงคนหนึ่งที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย ถามอย่างไม่แน่ใจ: “น้าสื้อสื้อ นี่คือหม่ามี๊ของน้าเหรอ?”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า เธอคิด ถ้าเกิดมีวันหนึ่ง เธอสามารถพาลูกของตัวเองมาเยี่ยมแม่ได้ บางทีแม่ของเธอคงจะฟื้นขึ้นเร็วๆ
พวกเขาอยู่ที่ห้องผู้ป่วยครู่ใหญ่ พูดคุยเรื่องมากมายเป็นเพื่อนแม่ที่นอนหลับใหลอยู่
เสี่ยวเป่าอายุน้อย แต่กลับรู้ความกว่าเด็กทั่วไป
เขาไม่เพียงแต่เล่าเรื่องหลายเรื่องให้แม่ของเธอฟังด้วยตัวเอง เขายังปลอบเธอไปด้วย: “น้าสื้อสื้อ คุณยายจะต้องฟื้นเร็วๆ นี้ น้าไม่ต้องกังวล”
“เสี่ยวเป่า ทำไมเธอถึงเรียกคุณยายล่ะ?”
เสี่ยวเป่าพูดเป็นธรรมชาติอย่างมาก: “น้าสื้อสื้อจะกลายเป็นหม่ามี๊ของเสี่ยวเป่า ถ้างั้นหม่ามี๊ของน้าก็ต้องเป็นคุณยายของเสี่ยวเป่า!”
เจียงสื้อสื้อไร้คำจะเถียง ถึงยังไงตรรกะของเสี่นวเป่าก็ไม่ได้ผิด
เธอพาเสี่ยวเป่าไปหาหมอด้วย ทำความเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้เล็กน้อย
หมอบอกเธอว่า อาการของแม่เธอคงที่มาก ยังมีโอกาสตื่นขึ้นมาอยู่
ฟังหมอพูดจบ เจียงสื้อสื้อก็อดตื่นเต้นเล็กน้อยไม่ได้ “ขอบคุณค่ะ การรักษานี้ พวกเราจะทำต่อไป”
ออกจากห้องทำงานของหมอ อารมณ์ของเจียงสื้อสื้อดีขึ้นกว่าตอนมามากอย่างเห็นได้ชัด
ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความยินดี ดูเปล่งประกายไปทั้งตัวคน
และเธอยังยืนอยู่ใต้แสงอาทิตย์พอดี เธอในตอนนี้ สวยงามจนไม่สามารถเทียบได้
และหลานซือเฉินที่เพิ่งมาโรงพยาบาลเป็นเพื่อนเจียงนวลนวล เห็นเธอในตอนนี้ ก็เผลอมองเหม่ออย่างอดไม่ได้
เจียงนวลนวลที่อยู่ข้างๆ เขากลับไม่ได้สังเกตถึงสีหน้าของเขา แต่พอเห็นเจียงสื้อสื้อ ก็เผยสีหน้าถากถาง
เธอถูกประคองโดยหลานซือเฉิน ทั้งสองคนเดินไปตรงหน้าเจียงสื้อสื้อช้าๆ
“เจียงสื้อสื้อ ตระกูลจิ้นรู้ว่าเธอเคยคลอดลูกแทนคนอื่น ทำไม? จิ้นเฟิงเฉินยังไม่เลิกกับเธออีกหรือ?” เจียงนวลนวลพูดเสียดสีไปหนึ่งประโยค
เสี่ยวเป่ายังอยู่ตรงนี้ เจียงสื้อสื้อกลัวว่าเจียงนวลนวลจะพูดอะไรไม่น่าฟังออกมา อยากจะจูงมือเสี่ยวเป่าเดินจากไปให้เร็วที่สุด
จากนั้น ท้องใหญ่แก่ใกล้คลอดของเจียงนวลนวล ก็มาขวางตรงหน้าพวกเขาไว้
“นวลนวล วุ่นวายพอหรือยัง?” หลานซือเฉินเห็นเจียงนวลนวลไม่พูดอะไร ก็พูดโน้มน้าวให้หยุดอยู่ข้างๆ
แต่การขัดขวางของเขา กลับทำให้เธอยิ่งไปแล้วใหญ่ “หลานซือเฉิน นี่คุณลืมเจียงสื้อสื้อไม่ได้อย่างนั้นเหรอ? ถึงตอนนี้ยังปกป้องคุ้มครองยัยผู้หญิงโสโครกนี่อีก”
“พอได้แล้ว!” หลานซือเฉินดุเสียงดัง แล้วยังขอโทษเจียงสื้อสื้อแทนเธอด้วย “เจียงสื้อสื้อ ขอโทษด้วยนะ พวกคุณไปก่อนเถอะ”
ตอนแรกเขาคิดว่าเจียงสื้อสื้อจะซาบซึ้งในน้ำใจของเขา ยังไม่ทันได้คิด เธอเพียงแต่กล่าว “ขอบคุณ” เสียงเย็นชาออกมาคำหนึ่ง แล้วก็พาเสี่ยวเป่าเดินออกไปจากตรงนี้
เขามองตามหลังเธอไป หลานซือเฉินหลงลืมสติไปอยู่นาน เขาขมขื่นไปทั้งหัวใจ
เจียงนวลนวลหัวเราะเสียงเย็น “ตอนนี้ยัยนั่นเกาะจิ้นเฟิงเฉินอยู่ จะยังหันมาชอบคุณได้ยังไง? คุณตื่นสักทีเถอะ!”
“เจียงนวลนวล เธอมันไร้เหตุผลจริงๆ เลย” ถ้าไม่ใช่เพราะเธอใกล้คลอดแล้ว หลานซือเฉินแทบอยากจะสะบัดมือเธอออกเดี๋ยวนั้น