ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 244 คุกเข่าหนึ่งข้างกับพื้น
บทที่ 244 คุกเข่าหนึ่งข้างกับพื้น
เจียงสื้อสื้อตอบข้อความกลับไปแบบอยากรู้ ถามเขาว่าจะพาเธอไปตรงไหน
จิ้นเฟิงเฉินตอบกลับแบบลึกลับว่า “ถึงตอนนั้นคุณก็รู้เอง”
เจียงสื้อสื้อทำอะไรไม่ได้ จึงตอบตกลง
หลังจากที่ได้รายการของบริษัทEisleyมา เธอก็เหนื่อยจนจะสำลัก เวลาผ่านไปเร็วมาก เพียงแค่พริบตาก็ถึงมะรืนแล้ว
เจียงสื้อสื้อบอกกับซูซานก่อนแล้วว่า จะเลิกงานเช้าหน่อย
เธอเพิ่งจะลงมาถึงใต้ตึก ก็เห็นว่ารถของจิ้นเฟิงเฉินจอดอยู่หน้าประตูบริษัทแล้ว
เห็นเธอเดินมา จิ้นเฟิงเฉินก็ลงรถมาแบบสุภาพบุรุษ ช่วยเธอเปิดประตูรถออก แล้วช่วยป้องกันศีรษะของเธอ พยุงให้เธอขึ้นรถ
เจียงสื้อสื้อหันหลังกลับแล้วมองดู ที่นั่งเบาะหลังไม่มีวี่แววของเสี่ยวเป่า ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
เธอติดว่าตอนนี้พวกเขากำลังจะไปรับเสี่ยวเป่า
แต่แล้ว พอเธอตั้งตัวขึ้นมา ก็เพิ่งจะสังเกตว่าพวกเขาขึ้นทางด่วนแล้ว
เธอรู้สึกอึ้ง แล้วถามเขาแบบรีบรนว่า:“เฟิงเฉิน นี้คุณจะพาฉันไปไหนหรอ?”
“คุณทำงานมาหลายวันเช่นนี้ ก็ต้องพักผ่อนดีๆบ้างแล้ว”จิ้นเฟิงเฉินยิ้มแบบลึกลับ “ผมจะพาคุณออกไปพักผ่อน
เจียงสื้อสื้อคิดในใจ ได้ออกไปพักผ่อนบ้าง ก็ยังดีอยู่
แต่ว่า เธอคิดไปคิดมา ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า:“ทำไมไม่พาเสี่ยวเป่าไปด้วย?”
“เสี่ยวเป่าให้เฟิงเหราพาไปตั้งนานแล้ว”จิ้นเฟิงเฉินพูดมั่วๆไป แล้วก็กลับมาตั้งใจขับรถต่อ
ตลอดทางนั้น เพื่อความปลอดภัยแล้ว เจียงสื้อสื้อไม่ได้คุยกับจิ้นเฟิงเฉินอีก เพื่อที่จะให้เขาตั้งใจขับรถดีๆ
ขับรถไปประมาณสองชั่วโมงกว่าๆ พวกเขาถึงจะมาถึงที่พัก
เธอเข้าไปพร้อมกับจิ้นเฟิงเฉิน เขาแนะนำที่พักไปด้วย พลางพาเธอเข้าไปทางโรงแรม
ที่พักนี้อยู่บนภูเขา อากาศดีมาก มีบ่อน้ำพุร้อนของธรรมชาติ รอบๆนี้ยังมีคฤหาสน์ มาตรการป้องกันก็ทำได้ดีเยี่ยม แค่ดูก็รู้ว่านี้คือสถานที่ให้คนมีฐานะมาเล่นกัน
เลี้ยวไปเลี้ยวมาตั้งนาน พวกเขาถึงจะมาถึงโรงแรมที่จองไว้ก่อน
จิ้นเฟิงเฉินรับบัตรห้องมา เขาก็เอามาสองห้อง
พอไปถึงห้องพัก เจียงสื้อสื้อก็พักก่อนสักพัก ก็ไปหาเขาที่ห้องของเขา ที่แปลกก็คือ เธอไม่ได้พบเห็นเสี่ยวเป่า
ในใจของเธอก็แอบหวังอยู่นิดๆ
หรือว่าเขาตั้งใจจะไม่พาเสี่ยวเป่ามา?อยากจะอยู่โลกสองคนที่โรแมนติกกับเธอคนเดียว?
แต่……พวกเขาออกมาเล่น ไม่พาเสี่ยวเป่าออกมา แย่จริงๆเลยนะ!
ถ้าเสี่ยวเป่ารู้ ต้องเสียดายแล้วก็เสียใจแน่ๆเลยนะ
เจียงสื้อสื้อก็อดไม่ได้ที่จะว่าเขา:“เสี่ยวเป่าละ?คุณทิ้งเสี่ยวเป่าไว้ได้ไงกัน?”
เขาเห็นเธอเป็นห่วงเสี่ยวเป่าขนาดนี้ ถามตั้งหลายรอบ ก็ยิ้ม “อาจเป็นเพราะโดนเฟิงเหราพาไปเล่นที่ไหนแล้วมั้ง”
เขาดึงให้เธอนั่งลง “คุณพักผ่อนก่อนนะ ดึกกว่านี้ผมจะพาคุณไปหาอะไรกินที่เรสเตอรองก์นะ”
เขาวางแผนไว้หมดแล้ว กินข้าวเสร็จ พวกเขาก็ไปแช่น้ำพุร้อนได้เลย
เจียงสื้อสื้อเห็นเขาพูดเช่นนี้ ก็รู้สึกวางใจลงแล้ว แต่ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างเร็ว “แต่ว่าฉันไม่มีชุดว่ายน้ำนะ”
เธอไม่รู้ว่าจะได้มาที่พักก่อนหน้านี้ จึงไม่ได้เอาสัมภาระอะไรมาด้วยเลย
“ไว้ใจได้นะ ช่วยคุณเตรียมไว้หมดแล้ว”จิ้นเฟิงเฉินพาเธอไปที่ห้องของเธอ
เธอดึงประตูตู้เสื้อผ้าออกภายใต้คำพูดของเขา เห็นว่าภายในนั้นไม่ได้มีเพียงชุดว่ายน้ำหลายรุ่น ถึงกับว่าเสื้อที่จะเปลี่ยนนั้นก็เตรียมไว้ดีแล้ว
เจียงสิ้อสื้อหน้าแดง ถามแบบเขินอายว่า:“ทำไมคุณถึง……”
คำถามที่น่าอายเช่นนี้ สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่ได้ถามออกมา
เขารู้ขนาดของเธอได้ยังไงกันละ
เมื่อกี๊ก็พักก่อนแล้ว ทั้งสองคนก็ไม่ได้อยู่ในห้องนาน จึงลงไปชั้นล่างด้วยกัน
เจียงสื้อสื้อได้ยินมาว่า น้ำพุร้อนตรงนี้ คือเพิ่มยาลงไปด้วย มีความสามารถที่จะบำรุงผิวพรรณให้สวยขึ้นด้วย
พวกเขาเดินอยู่บนทางเล็กๆ มองเห็นรอบๆของโรงแรมนั้นปลูกซากุระสี่ฤดูที่สวยๆไว้เต็มเลย อารมณ์ก็เลยดีขึ้นเยอะ
ไม่พูดไม่ได้ว่า วิวของตรงนี้ สวยตระการตามากๆ เจียงสื้อสื่ออดชมออกมาไม่ได้ว่า “อากาศของตรงนี้ดีจริงๆเลยนะ ทำให้คนเราสบายขึ้นมาก”
แต่จิ้นเฟิงเฉินนั้นเพราะว่ารอยยิ้มของเธอ ในใจจึงอบอุ่นขึ้น
พวกเขาเดินเที่ยวเล่นไปทั่ว แป๊บเดียวก็ถึงเวลาของอาหารมื้อค่ำแล้ว
จิ้นเฟิงเฉินจึงพาเธอไปที่เรสเตอรองก์
เจียงสื้อสื้อเพิ่งจะเข้าไปพร้อมเขา ก็มีพนักงานขึ้นมาให้บริการกับพวกเขา
สมกับเป็นเรสเตอรองก์ชั้นสูงเลยจริงๆนะ ที่นั่งในนี้ก็ทำการแยกออกแบบเดี่ยวๆ
และในทุกๆช่องเล็กนั้น สไตล์ก็แตกต่างกันออกไป
“ในเรสเตอรองก์นี้ ตกแต่งได้แบบแตกต่างกับที่อื่นมาก”สำหรับสิ่งของที่สวยๆ เจียงสื้อสื้อก็ไม่เคยไม่ชมอยู่แล้ว
เธอคิดมาแต่แรกว่าเรสเตอรองก์ทั้นสูงเช่นนี้ อาหารต้องขึ้นมาช้าแน่เลย
แต่ที่เกินความคาดคิดคือ พวกเขาเพิ่งจะสั่งเสร็จ ก็มีกับแก้มส่งขึ้นมาแล้ว
กับแก้มพวกนี้ ก็มีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือว่ารสชาติ ก็อร่อยมากๆเลย
และที่สำคัญก็คือ เมื่อเอาพวกนี้ผสมด้วยกัน ตอนกินก็มีรสชาติที่อร่อยกว่าเดิมอีก
“เฟิงเฉิน คุณสั่งของกินได้เก่งจริงๆ”เจียงสื้อสื้อคีบอีกหนึ่งชิ้นมาชิม
“กินน้อยหน่อย เดี๋ยวอาหารหลักขึ้นมาแล้ว คุณก็กินไม่ลงหรอก”เห็นเธอกินจนหยุดไม่ได้ จิ้นเฟิงเฉินจึงพูดไปพลางยิ้มไปด้วย
เจียงสื้อสื้อเพิ่งจะตั้งตัวได้ “เอ๊ะ พวกเสี่ยวเป่าเขายังไม่ได้กินเลยนะ”
เธอทำเสียงงงๆขึ้นมา ทำไมพวกเสี่ยวเป่าเขายังไม่มาละ?
จิ้นเฟิงเฉินจึงได้แต่พูดว่า:“เฟิงเหราพาเสี่ยวเป่าไปกินที่อื่นแล้ว”
เจียงสื้อสื้อก็ไม่ได้ถามอะไรอีก ขณะเดียวกัน อาหารหลักก็นำขึ้นมาต่อๆกันแล้ว
เป็ดนึ่งปาเป่าที่นำขึ้นมาเป็นอันดับแรกนั้น วิธีทำกับที่พบเห็นบ่อยๆนั้นไม่ค่อยเหมือนกัน
ด้วยความอยากรู้ของเธอ จึงคีบมาหนึ่งชิ้น แล้วส่งเข้าไปในปาก
“ยังไงละ?”จิ้นเฟิงเฉินมองดูเธอแบบไม่ละสายตา
เจียงสื้อสื้อจึงพยักหน้า น่าจะพึงพอใจมาก
เรสเตอรองก์นี้ไม่เพียงแค่ตกแต่งให้สถานที่สวย แต่อาหารนั้นก็ยังอร่อยเช่นเดียวกัน
“กินเสร็จแล้วหรอ?”เห็นเธอกินจนนวดท้องตนเองแบบเขินอาย จิ้นเฟิงเฉินก็ยิ้มแล้วลุกขึ้น พาเธอเดินเข้าไปสวนดอกไม้ด้านหลังนั้น
“เวลาก็ไม่เช้าแล้ว ทำไมพวกเสี่ยวเป่าเขายังไม่ทาอีกละ?”เพิ่งจะเดินไปได้ไม่นาน เจียงสื้อสื้อก็พูดถึงเสี่ยวเป่าอีกแล้ว
ตอนนี้จิ้นเฟิงเฉินเพิ่งจะพูดแบบลึกลับว่า:“ใกล้จะได้เจอกันแล้ว”
เดินไปข้างหน้าอีกสักพัก ด้านหน้านั้นก็คือสวนดอกไม้แล้ว
บนต้นซากุระตรงนี้ เต็มไปด้วยหลอดไฟที่สีสวย ภายใต้ลมเบานั้น ยังมีริบบิ้นสีชมพู กำลังลอยพริ้วอยู่
เจียงสื้อสื้ออุทานออกมาแบบตื่นเต้นว่า:“พวกเขามีใจจริงๆเลยนะ ตกแต่งได้ตั้งใจขนาดนี้ ทั้งเป็นธรรมชาติแล้วก็สวยอีก เหมาะกับการ……”
เธอยังพูดไม่ทันจบ เสียงเพลงที่เบาๆก็บรรเลงขึ้น เสี่ยวเป่ากับจิ้นเฟิงเหราใส่ชุดสูทสีขาวไว้ แล้วเกินตรงมาหาเธอที่ละก้าวที่ละก้าว
ในมือของพวกเขาเข็นรถเข็นอยู่ เจียงสื้อสื้อเห็นว่าบนนั้นมีเค้กอันใหญ่ที่หน้าตาแปลกใหม่อยู่ เธอจึงถามแบบงงๆว่า:“มีวันเกิดของใครหรอ?”
จิ้นเฟิงเหราส่ายหัว “ไม่ คือจะเอามาฉลองนะ”
เหมือนกับว่าวันนี้ก็ไม่มีเทศกาลอะไรนะ?
ทันได้นั้น เจียงสื้อสื้อสังเกตว่า ตอนที่จิ้นเฟิงเหราพูดนั้น ยิ้มให้กับจิ้นเฟิงเฉินแบบแปลกๆ
เธอหันหัวกลับแบบงุนงง จิ้นเฟิงฉินก็คุกเข่าข้างเดียวลงต่อหน้าเธอ
เจียงสื้อสื้อมีความคิดอย่างหนึ่ง ใจของเธอเต้นรัวจนจะเด้งออกมาแล้ว
เห็นเพียงแค่ว่าจิ้นเฟิงเฉินเอากล่องสวยๆออกมาจากกระเป๋ากางเกงอย่างช้าๆ แล้วเปิดออกมาช้าด้วยสีหน้าที่จริงจัง……