ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 246 ชุดครอบครัว
บทที่ 246 ชุดครอบครัว
ตอนแรกเจียงสื้อสื้อแค่คิดว่า ก็แค่ดื่มกับจิ้นเฟิงเฉินนิดหน่อย
แต่ไม่คิดว่า แค่เวลาผ่านไปแป๊บเดียว เธอก็ดื่มไปแล้วหลายแก้ว
เธอไม่ได้ดีใจขนาดนี้มานานแล้ว ก็เลยดื่มเยอะขึ้นโดยไม่ทันระวัง แล้วดื่มจนเมาแล้วด้วย
แล้วดื่มไปอีกหลายแก้ว เจียงสื้อสื้อลืมตาที่สะลึมสะลืออยู่ แล้วล้มลงไปในอ้อมกอดของจิ้นเฟิงเฉินแบบงงๆ
จิ้นเฟิงเฉินทั้งตัวแข็งทื่อ เขาดื่มไปด้วย ก็ดื่มเยอะเช่นกัน
ในตอนนี้ เจียงสื้อสื้อ ผู้หญิงที่เขาใจรักนั้น ก็อยู่ในอ้อมกอดแล้ว จิ้นเฟิงเฉินอดไม่ได้ จึงก้มหัวลง แล้วกดเธอไว้ในอ้อมกอดแน่นๆ
จุมพิตสไตล์ฝรั่งเศส จากเบาไปหนัก พัวพันไปเรื่อยๆ
ภายในห้อง อุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ เขาร้อนไปทั้งตัว ส่วนใบหน้าของเจียงสื้อสื้อก็แดงก่ำ
ภายใต้อารมณ์ จิ้นเฟิงเฉินอุ้มเธอขึ้น แล้ววางเธอลงบนเตียงเบาๆ
สองคนนั้นจูบกับแบบไม่สนอะไรทั้งสิ้น ทั้งสองก็กระชากเสื้อผ้าของฝ่ายตรงข้ามกันอย่างรีบร้อน
ก็เหลือแค่เปลือยกายใส่กันแล้ว ทันทีที่ผิวหนังสัมผัสกับอากาศนั้น อยู่ๆเจียงสื้อสื้อก็ได้สติขึ้นมา แล้วยื่นมือออกดันจิ้นเฟิงเฉินแบบอัตโนมัติ
เธอดึงเสื้อขึ้นอย่างรวดเร็ว เปิดประตูออก แล้วรีบหนี เหลือเพียงแค่เงาหลังที่เร่งรีบให้กับเขา
จิ้นเฟิงเฉินทำอะไรไม่ได้ แล้วก็ไม่ได้ตามไปด้วย แต่ว่าทั้งตัวนั้นก็ร้อนมาก ลดลงไม่ได้เลย
แล้วเขาก็เดินเข้าห้องน้ำอีกรอบ อาบน้ำเย็นอีก
พอเจียงสื้อสื้อหนีไปหลบอยู่ในห้องของตนเองแล้ว เพิ่งจะคิดได้ว่า เหมือนกับว่านี้จะเป็นห้องของเสี่ยวเป่ากับจิ้นเฟิงเหรานะ
พวกเขา…..
เธอตั้งตามอง ในห้องนอนนั้นว่างเปล่า ไม่มีแม้กระทั่งเงาคน
ข้อความของจิ้นเฟิงเฉิน ส่งมาอย่างรวดเร็ว
“นอนเลย นี้ก็คือห้องของคุณ”
เจียงสื้อสื้อหน้าแดงขึ้น แล้วกระทืบเท้าแบบหงุดหงิด ก็วิ่งเข้าห้องน้ำทันที แล้วก็อาบน้ำอุ่นเช่นกัน ถึงจะขึ้นไปนอนบนเตียง
และในคืนนี้ ภายในฝัน เธอกำลังจูบแบบดูดดื่มกับจิ้นเฟิงเฉินอยู่……
พริบตาต่อมา เขากำลังกดเธอไว้ด้านล่างร่างกายอยู่ เสียงเคาะประตูที่รีบร้อนก็ดังขึ้น
เจียงสื้อสื้อตกใจตื่นขึ้นมาทันที แก้มนั้นร้อนขึ้นแบบห้ามไม่ได้ มองดูนาฬิกาแวบหนึ่ง ตอนนี้คือเช้าของวันที่สองแล้ว
เธอสวมเสื้อผ้าแบบรวดเร็ว เปิดประตูออก เสี่ยวเป่าอารมณ์ดีมาก แล้วเรียกเธอด้วยเสียงที่ดัง:“อรุณสวัสดิ์ครับ หม่ามี๊!”
พอเจียงสื้อสื้อได้ยินชื่อเรียกนี้ ก็อึ้งไปสักพัก อะไรกันนะ?
สักพักใหญ่เธอถึงจะคิดได้ว่า ตอนนี้เธอคือยอมรับคำขอแต่งงานของจิ้นเฟิงเฉินแล้วนะ
พวกเขาก็เดินไปทางลิฟต์พร้อมกัน จิ้นเฟิงเหรายังไม่ลืมที่จะเสียดายว่า:“เมื่อวานเป็นวันสำคัญขนาดนั้น พวกคุณยังแยกห้องนอนหรอ”
เขาบ่นไปตั้งเยอะ แล้วต่อว่าจิ้นเฟิงเฉินอีก
“พี่ชาย ผมว่าคุณเป็นคนดีเกินไปแล้วนะ?พี่สะใภ้ก็อยู่ในอ้อมกอดคุณ คุณยังจะมีแรงห้ามตนเองได้ดีขนาดนี้?”จิ้นเฟิงเหราไม่กล้าคิดเลยจริงๆ เป็นชายหญิงที่บรรลุนิติภาวะแล้วแท้ๆ พวกเขาก็ยังรักษาตัวขนาดนี้
พูดไปก็ไม่ลืมที่จะชนเสี่ยวเป่าหนึ่งที อีกนิดเดียวก็จะชนให้เสี่ยวเป่าปลิวแล้ว “เสี่ยว เสียดายจริงๆเลยนะ คิดอยู่ว่าคุณใกล้จะได้มีน่องชายน้องสาวแล้วแท้ๆ”
ได้ยินเขาพูดไม่มีเส้นใต้ เจียงสื้อสื้อก็อดไม่ได้ที่จะจ้องเขา
คำพูดแบบนี้ พูดมั่วต่อหน้าเสี่ยวเป่าได้ยังไงกันละ
ดีที่เสี่ยวเป่าก็ไม่ได้อะไรมาก แต่กลับทำตาโตๆแล้วถามพวกเขาว่า:“แดดดี๊ หม่ามี๊ เสี่ยวเป่าจะมีน้องชายน้องสาวแล้วจริงๆหรอ?”
เจียงสื้อสื้อหน้าแดงขึ้น พูดแค่ว่า:“คุณอย่าฟังอาของคุณพูดมั่วนะ ไม่ได้มีเรื่องนี้สักหน่อย”
จิ้นเฟิงเหรากำลังจะต้าน แต่ก็ได้ยินจิ้นเฟิงเฉินพูดช้าๆว่า:“เป็นเรื่องที่จะเกิดอีกไม่นาน”
ทันได้นั้นเสี่ยวเป่าก็จับมือของเจียงสื้อสื้อ “งั้นหม่ามี๊ คุณต้องพยายามมากกว่านี้นะ!”
เจียงสื้อสื้อยังไม่ทันได้ตั้งตัว เสี่ยวเป่าก็พูดแบบตั้งใจว่า:“หม่ามี๊ วันนี้พวกเราจะไปปีนเขานะ ตอนกลางคืนจะปิกนิกบนเขาด้วย”
เธอรู้สึกแปลกๆ แต่เห็นว่าเสี่ยวเป่าตื่นเต้นเช่นนี้ ก็หวังขึ้นมาด้วยเช่นกัน
“เฟิงเฉิน ที่เสี่ยวเป่าพูดเป็นเรื่องจริงหรอ?”เธอยังไม่เคยมีประสบการณ์ปิกนิกเลยนะ
จิ้นเฟิงเหราเห็นเธอไม่เชื่อ ก็แย่งตอบว่า:“ต้องเป็นจริงอยู่แล้ว พี่สะใภ้ ผมยังเรียกเพื่อนอีกหน่อย คนเยอะปิ้งย่างถึงจะสนุกนะ”
พวกเขาเตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว อุปกรณ์ที่จะปิ้งย่าง รวมถึงอาหาร ก็มีคนส่งขึ้นไปถึงบนเขาแล้ว
เพราะว่าจะปีนเขา เจียงสื้อสื้อก็กลับไปที่ห้อง แล้วก็อาบน้ำไปด้วย ในเมื่อจะไปปิกนิก ตอนกลางคืนก็คงไม่ได้อาบน้ำ
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ เธอก็หาเจอชุดสบายๆในตู้เสื้อผ้า
เจียงสื้อสื้อกระตุกมึมปาก ไม่คิดว่าจิ้นเฟิงเฉินจะดีขนาดนี้ ขนาดชุดสบายๆยังเตรียมไว้ให้
พอเธอเดินไปถึงบนระเบียง เห็นจิ้นเฟิงเฉินที่กำลังเดินมานั้น เธอยิ่งมองเขา ก็ยิ่งรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ
“ไม่ใช่สิ ทำไมเสื้อของพวกเรามันเหมือนกันละ?”หรือว่าจะเป็นเสื้อคู่?
“ต้องเหมือนกันอยู่แล้ว นี้คือผมตั้งใจเตรียมชุดครอบครัวให้พวกคุณเลยนะ”จิ้นเฟิงเหราพาเสี่ยวเป่าที่ใส่ชุดสบายๆเสร็จออกมาอยู่ต่อหน้าพวกเขา
เจียงสื้อสื้อทำอะไรไม่ได้ เธอไม่รู้ว่าต้องพูดจิ้นเฟิงเหราอะไรดี เขาติดได้ทุกอย่างหมดเลยนะ
อีกอย่าง การกระทำของเขานั้น ก็ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะสงสัยเหตุผล
เขาก็รีบที่จะประกาศให้โลกรู้ขนาดนี้เลยหรอ ความสัมพันธ์ของเธอกับพี่ชายเขาเนี่ย
“หม่ามี๊ คุณไม่สบายใจหรอ?”แก้มเล็กๆที่ดีใจของเสี่ยวเป่านั้น เปลี่ยนไปทันที
เจียงสื้อสื้อลูบหัวของเขา “ได้ใส่ชุดครอบครัวกับเสี่ยวเป่านี้ ต้องโชคดีมากๆเลยนะ!”
ระหว่างพูด เธอก็ไม่ลืมที่จะส่งตาขาวให้กับจิ้นเฟิงเหราที่กำลังแอบดีใจอยู่
จิ้นเฟิงเฉินเร่งให้พวกเขารีบออกตัว พวกเขาคือนั่งรถไป แป๊บเดียวก็ถึงจุดรวมพลตรงตีนเขาแล้ว
แต่ที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือ เพื่อนๆที่จิ้นเฟิงเหราเรียกมานั้น มีซูชิงหยิงอยู่ด้วย
ท่าทางที่เจียงสื้อสื้ออุ้มเสี่ยวเป่าลงรถกระตุกนิดหนึ่ง แต่ก็ปิดบังความไม่สบายใจที่อยู่ใต้ตานั้นไป
ตอนนี้คือเธอเห็นซูชิงหยิง ก็รู้สึกจิ้มตา คนที่ลอกเลียนผลงานของเธอนั้น โดนเธอเอาเข้าแบล็คลิสต์ตั้งนานแล้ว
ส่วนซูชิงหยิงนั้นก็จ้องมองเจียงสื้อสื้อด้วยสายตาอิจฉา แล้วก็ที่เธอเห็นเจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉิน แล้วก็เสี่ยวเป่าใส่ชุดครอบครัวด้วยกันนั้น
เธอแทบจะพุ่งเข้าไปฉีกเสื้อบนตัวของเจียงสื้อสื้อทิ้ง แล้วตนเองค่อยขึ้นไปใส่แทน
มีสิทธิ์อะไรละ?
จียงสื้อสื้อที่เป็นผู้หญิงที่ฐานะแปลกๆ การทำงานมั่วซั่วนั้น มีสิทธิ์อะไรที่ได้ยืนข้างจิ้นเฟิงเฉิน?
ซูชิงหยิงเกลียดจนกัดฟัน เหมือนกับว่าวินาทีต่อมาจะพุ่งขึ้นมาลงมือตีเจียงสื้อสื้อ
จิ้นเฟิงเหราพูดเสียงเบาว่า:“พี่สะใภ้ ผมไม่รู้จริงๆ ว่าเธอก็จะมาด้วย”
เรื่องที่ซูชิงหยิงลอกเลียนแบบเจียงสื้อสื้อนั้น รู้กันไปหมดแล้ว แล้วอีกอย่าง ซูชิงหยิงอยากได้จิ้นเฟิงเฉินด้วย นั้นก็ไม่ใช่ความลับ
ทั้งใจของจิ้นเฟิงเหรานั้นคืออยากช่วยเจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉิน ยังไงเขาก็ไม่ไปหาซูชิงงหยิงหรอกนะ
แต่เจียงสื้อสื้อก็แค่ยิ้มออกมา:“ไม่เป็นไร ยังไงเธอก็มาแล้ว”แค่ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกัน ก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกนะ
แต่จิ้นเฟิงเหราเป็นห่วงจิ้นเฟิงเฉินมากกว่า จุงแอบมองเขาแบบกลัวๆ เห็นว่าบนใบหน้าของเขาไม่ได้มีอะไร นี้จึงไว้ใจลงได้
ในเมื่อเป็นคนที่เขาเชิญมา เขาก็ต้องนำหน้าไปก่อน แล้วทักถามแบบสนิท
จิ้นเฟิงเฉินเดินขึ้นหน้าหลายก้าว เดินมาถึงข้างตัวเจียงสื้อสื้อ แล้วจับมือเธอขึ้นเงียบๆ “ไม่เป็นไรนะ?”