ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 249 ซูชิงหยิงหายไป
บทที่ 249 ซูชิงหยิงหายไป
นั่งอยู่บนยอดภูเขา ชมวิวที่อยู่ด้านล่างนั้น ช่วยลดความกดดันได้อย่างดี
ในใจของเจียงสื้อสื้อนั้นหวานๆไว้ เธอรู้ว่าจิ้นเฟิงเฉินจะทำอะไร
เพื่อเธอแล้ว เขาใส่ใจจริงๆ
ช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันอย่างดีนั้น น้อยมากจริงๆ
เห็นว่าใกล้จะถึงเวลากินเข้าแล้ว เจียงสื้อสื้อจึงลุกขึ้นก่อน ถ้ายังไม่กลับไปอีก ถึงเสี่ยวเป่าตื่นมาแล้วไม่เจอคน ก็ไม่ค่อยดี
อีกอย่าง ฝั่งพวกจิ้นเฟิงเหราเขา ก็มีแค่สามคนที่กำลังยุ่งอยู่
พวกเขาทำไปแล้วตั้งนาน ให้พวกเขารออีกก็คงไม่ดี
จิ้นเฟิงเฉินก็ไม่ได้ห้าม เดินเพียงไม่กี่ก้าว ก็ไปถึงข้างตัวเจียงสื้อสื้อแล้ว
มือของเขาขยับนิดหน่อย ก็ทำให้มือของเธอจูงอยู่ในมือเขาแล้ว แล้วกับว่ายังไงก็จูงไม่พอ
เจียงสื้อสื้อหันหน้าหาเขา แล้วยิ้มแบบเขินอายให้ สักพัก ก็กลับไปถึงที่ตั้งแคมป์แล้ว
พวกเขาคนยังไม่ทันยืนนิ่ง เสี่ยวเป่าก็พุ่งเข้ามาแล้ว
“ฉันว่าแล้วไง เสี่ยวเป่าตื่นแล้วต้องหาพวกเราแน่เลย”ในอ้อมกอดของเจียงสื้อสื้อก็มีเสี่ยวเป่าที่อ่อนนุ่มพุ่งเข้ามา ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ไม่สามารถปิดกั้นได้
จิ้นเฟิงเฉินมองดูอยู่ข้างๆนั้น รู้สึกมีความหึงนิดๆ
ในใจของเสี่ยวเป่านั้น ที่อยู่ของเจียงสื้อสื้อ คงจะสูงขึ้นเรื่อยๆในแต่ละวันนะ
แต่ว่า เสี่ยวเป่าติดเจียงสื้อสื้อขนาดนี้ ในใจของเขาก็รู้สึกดีใจ ในบ้านหลังนี้ กว่าจะมีคนกดเสี่ยวเป่าไว้ได้แล้ว
เขาเพิ่งจะได้สติกลับมา ก็ได้ยินเสี่ยวเป่าบ่นว่า “แดดดี๊ คุณนี้แย่จริงๆเลยนะ พาหม่ามี๊ไปนานขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะพาผมไปด้วย”
จิ้นเฟิฃเฉินก้มหัวมองดูเสี่ยวเป่า ไม่ได้สนคำบ่นของเสี่ยวเป่าเลย
แต่เจียงสื้อสื้อก็ยิ้ม อุ้มเสี่ยวเป่าขึ้น “ได้แล้ว เมื่อกี๊เสี่ยวเป่านอนหลับ แดดดี๊ของคุณเรียกคุณตื่นไม่ได้”
“หม่ามี๊ เป็นแบบนี้จริงหรอ?”เสี่ยวเป่าเงยหน้า กระพริบตาที่สว่างแล้วถาม
เธอยิ้มพลางวางเสี่ยวเป่าลง เป็นเด็กดื้อจริงๆเลยนะ
เจียงสื้อสื้อเดินจูงเสี่ยวเป่าไป ตอนแรกกะว่าจะช่วยงาน แต่จิ้นเฟิงเหราก็สะบัดมือแล้วพูดว่า “พี่สะใภ้ ผมไม่กล้าใช่คุณ คุณไปอยู่กับพี่ผมดีกว่า”
เห็นความเร่งรีบในตาของจิ้นเฟิงเหรา เจียงสื้อสื้อจึงทำอะไรไม่ได้ ก็เลยเดินไปนั่งลงที่ข้างตัวของจิ้นเฟิงเฉิน
“หม่ามี๊ เสี่ยวเป่าหิวแล้ว”เสี่ยวเป่าอายุยังน้อย อย่าพูดว่าวันนี้ออกกำลังกายเยอะเกินเลย ปกติถึงเวลานี้ ก็หิวง่ายกว่าผู้ใหญ่อยู่แล้ว
เจียงสื้อสื้อกลัวว่าเขาจะหิว กำลังจะลุกขึ้นไปเอาของกิน จิ้นเฟิงเหรานี้ ก็นำอาหารมาให้ก่อนแล้ว
“นี้คืออาของคุณก็คือผมเป็นคนทำให้คุณเองนะ”จิ้นเฟิงเหรามองดูเสี่ยวเป่าแบบทำดีให้
เสี่ยวเป่ารับปิ้งย่างมาทันที แล้วก็กินแบบเอร็ดอร่อย
จิ้นเฟิงเหรารู้สึกเจ็บใจมาก เขาอุตส่าห์ส่งทริคให้แล้ว แต่ทำไมเสี่ยวเป่าก็คือไม่รู้จักดีของเขาละ ไม่กอดเขาละ?
เจียงสื้อสื้อเห็นสีหน้าที่เจ็บใจของจิ้นเฟิงเหรานี้ ก็เลยขำออกมาแบบห้ามไม่ได้
เสี่ยวเป่าเงยหน้าขึ้นแบบไม่รู้สึกอะไร “หม่ามี๊ หรือว่าเป็นเพราะเสี่ยวเป่าเอาของกินเลอะปากหรอ?รีบช่วยผมเช็ดหน่อย”
จิ้นเฟิงเหราโดนเสี่ยวเป่าเมิน ก็เลยไม่เอาแล้ว แล้วก็เข้าไปตรงหน้าของเสี่ยวเป่า จับหัวของเสี่ยวเป่าไว้ แล้วกำลังจะจูบขึ้นไป เสี่ยวเป่าทำหน้าไม่ชอบ แล้วหันหน้าหนี “คุณอา คุณจูบผมไม่ได้”
จิ้นเฟิงเหราจับบนใจของตัวเองไว้ แล้วทำสีหน้าเจ็บปวด “เสี่ยวเป่า คุณทำให้อาเสียใจแล้วนะ”
เสี่ยเป่าทำตาขาวใส่จิ้นเฟิงเหรา แล้วกินเนื้อใจไก่ไปอีกคำ “ถ้าจะหาความเป็นอยู่ คุณอาควรไปหาผู้หญิงนะ”
สองคนหยอกกันไปหยอกกันมา แล้วทำให้ขำออกมาทั้งคู่
เจียงสื้อสื้อหัวเราะจนจะสำลักแล้ว เธอเห็นพวกเขาเล่นจนไม่หยุด และยังเป็นห่วงว่าเสี่ยวเป่าจะติดคอ จึงพูดออกไปว่า:“คุณชายรอง ตรงนั้นมีคนเรียกให้คุณไปช่วยปิ้งต่อ”
จิ้นเฟิงเหรามองดูแวบหนึ่ง แล้วก็เดินกลับไปหน้าที่ปิ้งย่างอัตโนมัติ
เจียงสื้อสื้อเลือกผักหลายไม้ให้เสี่ยวเป่า พวกเนื้อพวกลูกชิ้น เธอไม่กล้าให้เสี่ยวเป่ากินเยอะ
“คุณก็อย่ามัวแต่ห่วงเสี่ยวเป่านะ”จิ้นเฟิงเฉินเอากุ้งปิ้งหนึ่งไม้ ยื่นมาถึงข้างปากของเธอ
เธอจับมือเขาไว้ เพิ่งจะกินไปหนึ่งไม้ หน้าก็แดงขึ้นแบบห้ามไม่ได้
“เอ๊ะ แล้วชิงหยิงละ?”
เล่นไปนานขนาดนี้ เพิ่งจะมีคนเห็นว่าชิงหยิงหายไปแล้ว
ทุกคนในนั้นหันหน้ามองงง ไม่มีใครรู้ว่าชิงหยิงไปไหนแล้ว
“เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว เดินไม่หายหรอก น่าจะแค่ไปเดินเล่นมั้ง”คุณชายหลี่ช่วยทุกคนย่างเนื้อวัวอีกทั้งๆที่ตนก็เหงื่อไหลมากแล้ว คนที่เหลือก็กินกันต่อ
ทุกคนนั้นคิดเพียงว่า บนภูเขานี้วิวสวย และมีที่เงียบๆสวยๆหลายที่ ซูชิงหยิงน่าจะไปเดินเล่นแล้วแหละ
ในช่วงเวลานั้น ก็ไม่มีใครถามถึงซูชิงหยิงอีกเลย
แต่เว่ยจี้เหิงก็ขมวดคิ้ว เขาสังเกตซูชิงหยิงมาตลอด แล้วก็เห็นว่าเธอไปทางไหน
ถึงจะเป็นแค่ไปเดินเล่น ตอนนี้ก็คงต้องกลับมาแล้ว
เขาไว้ใจลงไม่ได้ จึงออกไปหาซูชิงหยิงคนเดียว ในใจนั้นก็รู้สึกเสียใจมาก เขาควรตามไปตั้งแต่แรก
จากนั้นไม่นาน ฟ้าก็เริ่มมืดลงแล้ว
ซูชิงหยิงไม่ได้กลับมาสักที ตอนนี้เว่ยจี้เหิงก็หายไปแล้วด้วย
สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินเข้มลง เขาเดาว่าพวกเขาอาจเจอเรื่องอะไรแล้ว
เวลาเร่งรีบ เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก จึงรีบก่อกลุ่มคน สองคนหนึ่งทีมออกไปตามหา
“ฉันจะไปด้วย”ถึงแม้ว่าจะมีอะไรที่ไม่ดีกับซูชิงหยิง แต่ถึงเวลานี้ เจียงสื้อสื้อก็ยังเป็นห่วงซูชิงหยิงอยู่
จิ้นเฟิงเฉินมองดูเสี่ยวเป่า แล้วพูดเสียงต่ำว่า:“คุณอยู่ตรงนี้ดูแลเสี่ยวเป่า อยู่แต่ในเต้นท์นะ ห้ามไปไหนเด็ดขาด
เจียงสื้อสื้อคิดดู ดึกขนาดนี้แล้ว ก็มองไม่ค่อยเห็นทางบนภูเขา เสี่ยวเป่ายัง ไปผจญภัยไม่ได้ จึงตอบตกลงไว้
เธอจูงมือของเสี่ยวเป่า รอจนไม่เห็นเงาของจิ้นเฟิงเฉินแล้ว เธอถึงจะพาเสี่ยวเป่าเข้าไปในเต้นท์
หลังจากที่คนออกไป เจียงสื้อสื้อเพิ่งจะสังเกตได้ว่าในเขาเงียบมาก เสี่ยวเป่ายิ่งหนีเข้าไปในอ้อมกอดของเธอด้วย พูดเสียงเบาว่า:“หม่ามี๊ เสี่ยวเป่ากลัว”
เธอตบหลังของเสี่ยวเป่าเบาๆ จนถึงกล่อมให้เขาหลับไป
ทำไมนานขนาดนี้แล้ว พวกเขายังไม่กลับมา?
เจียงสื้อสื้อเป็นห่วงมาก กำลังจะออกไปดู ก็ได้ยินเกิดเรื่องขึ้นแล้ว
“เป็นอะไรหรอ?”เธอเห็นว่ามีคนโดนหามออกมาจากที่ไกลๆ
พอเธอเดินเข้าไปใกล้ ถึงจะเห็นชัดว่า จิ้นเฟิงเหราบาดเจ็บ
“คุณชายรอง นี้คุณเป็นอะไรหรอ?”เจียงสื้อสื้อเห็นเขาสีหน้าเจ็บปวด ก็รู้สึกตกใจ
“พี่สะใภ้ ผมไม่เป็นไร แค่ข้อพลิกเฉยๆ เป็นแผลถลอกนิดหน่อย”
พอเจียงสื้อสื้อได้ยิน จะรีบไปเอากล่องปฐมพยาบาลมา ช่วยเขาใส่ยาแบบตั้งใจ ถ้าเกิดเป็นบาดทะยัก แล้วไข้ขึ้นสูง ก็แย่เลยนะ
คนที่เหลือเห็นว่าจิ้นเฟิงเหรามีคนดูแล จึงไปหาคนต่อ
หลังจากที่เจียงสื้อสื้อใส่ยาให้เขาเสร็จ ในใจก็เป็นห่วงจิ้นเฟิงเฉินมาก
“นานมากแล้ว พวกเขายังไม่กลับมา”เจียงสื้อสื้อลุกตัวขึ้นทันที “ฉันจะไปหาเขา”
“แบบนี้ก็ไม่ได้สิ ถ้าคุณเป็นอะไรขึ้นมา พี่ฉันคงฆ่าฉันแน่ๆ”จิ้นเฟิงเหราไม่กล้าปล่อยให้เธอไป คิดแต่จะห้ามเขาไว้
แต่ว่าอารมณ์ของเจียงสื้อสื้อขึ้นมาแล้ว มันจะไม่ยอมมากๆเลยนะ ใครก็ห้ามไม่ได้
พวกเขาทำเสียงดังขนาดนี้ เสี่ยเป่าก็ตื่นขึ้นแล้ว
จิ้นเฟิงเหรารีบบอกให้เสี่ยวเป่าช่วยห้ามเธอ แต่เจียงสื้อสื้อจะไปสนอะไรอีกละ คนก็หายออกจากเต้นท์ไปแล้ว