ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 269 ความจริงในห้าปีก่อน
บทที่ 269 ความจริงในห้าปีก่อน
สิ่งที่เจียงเจิ้นพูดเป็นความจริงมาก พี่สะใภ้เขาไม่ค่อยอยากเจอพ่อคนนี้อย่างแท้จริง
จิ้นเฟิงเหราเงียบไปสักพักจึงเอ่ยปากพูดว่า “ได้ ผมเชื่อว่าคุณไม่ได้ช่วยพี่สะใภ้ผมหนีไป แต่เรื่องของห้าปีก่อน คุณจะบอกว่าคุณไม่รู้ไม่ได้”
“ผม……..”
“รอสักครู่ ผมยังพูดไม่จบ” จิ้นเฟิงเหรายกมือห้ามเจียงเจิ้นพูดต่อ
ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีแบบหนึ่งรินหลั่งขึ้นในหัวใจ เจียงเจิ้นกระวนกระวายใจจ้องมองเขา
จิ้นเฟิงเหราอยู่ดีหัวเราะแล้ว “ลืมบอกกับคุณ บอร์ดิการ์ดที่นี่ของผมล้วนเคยผ่านการฝึกฝนอย่างเข้มงวดมา ตีคนจะไม่มีแผลข้างนอก มีแค่ช้ำใน”
เขาก็ดูเหมือนกำลังพูดเรื่องธรรมดามากเรื่องหนึ่งอยู่ แต่ว่าเจียงเจิ้นได้ยิน ก็เป็นคำตักเตือนที่เปิดโปงมาก
ตุ๊กตาเจียงเจิ้นหมุนไปหมุนมาอย่างกระวนกระวายใจ จากนั้นใบหน้ากองรอยยิ้มที่ประจบขึ้นมา พูดว่า “คุณชายรอง มีอะไรเราค่อยพูดค่อยจา คุณอยากให้ผมพูดถึงอะไร ผมก็พูดอย่างนั้น”
จิ้นเฟิงเหราปรากฏสีหน้าที่พอใจ “คุณเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกก็ดีแล้ว ไม่ต้องทำให้ผมเสียแรงขนาดนี้มัดคุณมาแล้ว”
“คุณชายรอง คุณอยากรู้เรื่องอะไรล่ะ?” เจียงเจิ้นถาม
“เรื่องมีลูกก่อนแต่งของพี่สะใภ้ผมเป็นเรื่องจริงไหม?”
จิ้นเฟิงเหราแฝงไว้ด้วยใจที่เสี่ยงความโชคดีเล็กน้อยรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าจะมีแค่คนตั้งใจทำร้ายพี่สะใภ้เขา
“ไฮ่ว!” เจียงเจิ้นถอนหายใจหนึ่งที
จิ้นเฟิงเหราขมวดคิ้ว “คุณถอนหายใจทำไม?”
“ผมก็แค่รู้สึกว่าผมเป็นพ่อคนหนึ่งไม่ได้สั่งสอนลูกสาวให้ดี น่าละอายมาก” เจียงเจิ้น “ละอาย” จนก้มหัวลง ปกปิดแสงเล่ห์เหลี่ยมที่กวาดไปนัยน์ตาพอดี
จิ้นเฟิงเหราเยาะเย้ยพูดว่า “ในเวลานี้ก็ไม่ต้องเสแสร้งจอมปลอมแล้ว รีบบอกกับผม จริงหรือไม่?”
“ใช่ เป็นเรื่องจริง”
ถูกยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง จิ้นเฟิงเหราอธิบายไม่ได้ว่าเป็นความรู้สึกยังไง
เขาถามต่อว่า “ทำไมหรือ? เวลาตอนนั้นพี่สะใภ้ผมแค่อายุเท่าไหร่เอง เธอทำไมจะมีลูกก่อนแต่ง ต้องมีสาเหตุอะไรแน่นอน ถูกไหม?”
“จะมีสาเหตุอะไรล่ะ ก็ไม่ใช่เพราะว่าเงินหรือ”
เจียงเจิ้นนึกถึงเรื่องที่ขายหน้าตระกูลเจียงเรื่องนั้นในเวลานั้น น้ำเสียงกลายเป็นดูถูกมาก รู้สึกเหมือนกำลังพูดถึงคนไม่รู้จักคนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ลูกสาวของตนเอง
“เพราะว่าเงินหรือ?” จิ้นเฟิงเหราขมวดคิ้ว คิดแล้วคิดอีก รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่เป็นสาเหตุนี้ “พี่สะใภ้ผมดูแล้วไม่เหมือนคนที่หลงใหลเรื่องหน้าตาแบบนั้น ทำไมจะเพราะว่าเงินแล้วขายตัวเองล่ะ?”
ก็เหมือนเช่นดั่งถูกจี้ไปที่บาดแผล อยู่ดีๆเจียงเจิ้นก็ตื่นเต้นขึ้นมา “เธอย่อมไม่ใช่หลงใหลเรื่องหน้าตาอย่างแน่นอน เธอก็คืออยากทำให้ตระกูลเจียงขายหน้าไปหมด อยากจะทำให้ผมคนนี้ที่เป็นพ่อขายหน้าเท่านั้น”
จิ้นเฟิงเหรามักจะรู้สึกเรื่องนี้ไม่ได้ง่ายขนาดนี้
เขาเหล่ตามองเจียงเจิ้นที่ตื่นเต้น ลุกขึ้นมายืน เดินไปยังข้างหน้าเจียงเจิ้นเหล่ตามองลงไป “เจียงเจิ้น ผมคนนี้เกลียดที่สุดก็คือมีคนโกหกผม สิ่งที่คุณพูดเป็นความจริงจะดีที่สุด ถ้าไม่งั้นผมจะทำให้คุณกับตระกูลเจียงชดใช้”
ในเสียงที่เรียบสงบแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายการตักเตือนอย่างเข้มงวด
เจียงเจิ้นร้อนตัวไม่กล้าจ้องมองเขา “ผม……..ที่ผมพูดเป็นเรื่องจริงแน่นอน”
ความร้อนตัวของเขาถูกจิ้นเฟิงเหรามองอยู่นัยน์ตา ตายี๋ขึ้นมาทันที แฝงไว้ด้วยความอันตรายเล็กน้อยน้ำเสียงเย็นแข็งร้องพูดว่า “เจียงเจิ้น ดูแล้วคุณเหมือนไม่ได้ฟังคำพูดของผมเข้าไป!”
เจียงเจิ้นตกใจจนใจสั่น รีบอธิบายว่า “คุณชายรอง ผม……..”
คำพูดยังไม่ทันพูดออกจากปาก ก็เห็นจิ้นเฟิงเหราร้องว่า “พวกคุณเข้ามา”
บอร์ดิการ์ดทั้งสองเดินเข้ามา
เห็นบอร์ดิการ์ดแล้วเจียงเจิ้นว้าวุ่นแล้ว “คุณชายรอง คุณอยากจะทำอะไรหรือ?”
จิ้นเฟิงเหรางอริมฝีปากยิ้มเย็นชา ถามเขากลับว่า “คุณคิดว่าผมอยากจะทำอะไรล่ะ?”
บอร์ดิการ์ดเดินไปข้างกายเขา ก้มหัวลงอย่างเคารพ “คุณชายรอง”
“พวกคุณบอกกับเขา ผมจัดการกับคนที่โกหกผมยังไงมาโดยตลอด”
“ได้ครับ”
บอร์ดิการ์ดเดินไปใกล้กับเจียงเจิ้น
ใบหน้าของเขากลัวมาก ในปากขอร้อง “คุณชายรอง พวกเราล้วนเป็นคนมีการศึกษา มีอะไรค่อยพูดค่อยจานะ”
คำพูดนี้ทำให้จิ้นเฟิงเหราโมโหขึ้นมาหมดเลย หันหน้าดุใส่เขา “เจียงเจิ้น ผมอยากจะพูดดีๆกับคุณ แต่ว่าคุณตั้งใจโกหกผม ไม่สั่งสอนคุณสักหน่อย คุณยังจะคิดว่าผมหลอกลวงง่ายล่ะ?”
“คุณชายรอง ผมไม่ได้โกหกคุณนะ!” เจียงเจิ้นรีบร้อนจนใกล้จะร้องไห้แล้ว
จิ้นเฟิงเหราขี้เกียจสนใจเขา เสียงดุสั่งว่า “ลงมือ!”
คำสั่งสั่งลงไป บอร์ดิการ์ดสองคนจับเจียงเจิ้นขึ้นมา จากนั้นฟาดลงไปที่พื้นอย่างรุนแรง
เจียงเจิ้นเจ็บจนถึงแยกเขี้ยวยิงฟัน เพิ่งอยากจะพูดอะไร ก็เห็นกำปั้นของบอร์ดิการ์ดชกมายังตัวเขาเอง
ทำให้เขากลัวจนปิดตาลง ร้องเสียงดังว่า “ผมพูด! ผมพูดหมดเลย!”
“หยุด!”
จิ้นเฟิงเหราห้ามบอร์ดิการ์ดทันที
ทันทีนั้นเจียงเจิ้นเหมือนลูกบอลที่ถูกปล่อยลมออก ล้มลงกับพื้น
ตกใจ……..ตกใจแทบตาย!
หมัดเมื่อกี้ถ้าหากว่าชกลงมา กระดูกแก่ของเขานี้ที่ไหนล่ะจะรับไหว
“พยุงเขาขึ้นมา”
จิ้นเฟิงเหราจ้องมองบอร์ดิการ์ดพยุงคนขึ้นมา จากนั้นจึงออกเสียงตักเตือน “เจียงเจิ้น ครั้งนี้คุณพูดความจริงดีที่สุด ถ้าไม่อย่างงั้นหมัดของพวกเขาก็จะไม่ได้หยุดง่ายขนาดนั้น”
“ผมรู้ ผมรู้” เจียงเจิ้นพยักหน้าไม่หยุด
ที่ไหนเขาจะกล้าพูดโกหกอีก นอกจากไม่เอาชีวิตแล้ว
“ตอนโน้นแม่ของสื้อสื้อป่วยหนัก ต้องการเงินมากมาย สื้อสื้อมาหาผม ผมไม่ได้ให้ เธอไม่มีวิธีอื่นได้เพียงแค่ขายตัวเอง ไปอุ้มบุญให้คนอื่น”
ที่แท้นี่จึงได้เป็นความจริง
จิ้นเฟิงเหราตื่นตะลึงมาก
ตอนโน้นพี่สะใภ้จะหมดหนทางมากขนาดไหน จึงจะตัดสินใจเลือกทำเช่นนั้น
นี่ก็เห็นได้ชัดว่าเจียงเจิ้นคนนี้เป็นพ่อที่เดรัจฉานมากขนาดไหนด้วย
ไม่!
แม้แต่สัตว์เดรัจฉานก็สู้ไม่ได้!
ไม่น่าล่ะทำไมความสัมพันธ์ของพี่สะใภ้กับตระกูลเจียงแย่ขนาดนี้ นี่ถ้าเป็นเขา จะต้องทำให้ตระกูลเจียงอยู่ไม่เป็นสุขอย่างแน่นอน
จิ้นเฟิงเหรายิ่งคิดยิ่งโมโห ก้าวเท้าเข้าไปข้างหน้า ยกกำปั้นขึ้นชกไปยังเจียงเจิ้น
เจียงเจิ้นล้มจนหงายหลังเท้าชี้ฟ้า
“โอ้ยไอ่หย่า เจ็บจังเลย เจ็บจังเลย!” เจียงเจิ้นร้องโหยหวน
จิ้นเฟิงเหราหมุนข้อมือแล้วหมุนอีก เผลอหัวเราะออกเสียง “เจ็บหรือ? คุณเจ็บขนาดไหนก็ชดเชยความทุกข์ทรมานในตอนโน้นที่พี่สะใภ้ของผมได้รับไม่ได้!”
แค่นึกถึงพี่สะใภ้ผู้หญิงตัวคนเดียวถูกบีบบังคับจนสิ้นหวังแบบนั้น ไฟโมโหก็ “ฟู่ ฟู่” พุ่งขึ้นไป เขาอดไม่ไหวก้าวไปข้างหน้าเตะเจียงเจิ้นหนึ่งที
เจียงเจิ้นเจ็บจนแยกเขี้ยวยิงฟัน “คุณชายรอง คุณปล่อยผมไปเถอะ”
จิ้นเฟิงเหรารู้สึกว่าเรื่องนี้จำเป็นต้องรีบไปบอกพี่เขา เขาหันหน้าไปบอกกับบอร์ดิการ์ดว่า “สั่งสอนเขาให้ดีๆสักหน่อย ค่อยส่งเขากลับบ้าน”
“ได้ครับ”
ได้ยินคำพูด สีหน้าเจียงเจิ้นซีดขาวดั่งกระดาษทันที รีบขอร้อง “คุณชายรอง คุณเป็นผู้ยิ่งใหญ่จิตใจกว้าง ปล่อยผมไปเถอะ”
จิ้นเฟิงเหราหูทวนลม หน้าก็ไม่หันเดินก้าวใหญ่ออกไป
บอร์ดิการ์ดทั้งสองส่งสายตากัน จากนั้นเดินไปใกล้กับเจียงเจิ้น เสียงร้องโหยหวนอย่างทุกข์ทรมานดังขึ้นในห้องขนาดใหญ่
……
“พี่ ผมมีเรื่องสำคัญมากเรื่องหนึ่งจะบอกคุณ คุณอยู่ที่ไหนล่ะ? ผมจะไปหาคุณ”
จิ้นเฟิงเหราทั้งขับรถทั้งโทรหาจิ้นเฟิงเฉิน
“ในบ้าน” จิ้นเฟิงเฉินอยู่ในมือถือฝั่งโน้นพูดคำนี้ออกมาอย่างเย็นชา
“ได้ครับ ผมก็จะไปตอนนี้”
จิ้นเฟิงเหราวางสายลง ทิ้งมือถือไว้ที่นั่งข้างคนขับ จากนั้นหมุนพวงมาลัยยูเทิร์นกลับ ขับไปยังทางคฤหาสน์ตระกูลจิ้นอย่างรวดเร็ว
จิ้นเฟิงเฉินเปิดรูปถ่ายในมือถือ ข้างในมีรูปถ่ายของเขากับสื้อสื้อพาเสี่ยวเป่าออกไปเที่ยวก่อนหน้านั้น
ในรูปถ่าย สื้อสื้อกับเสี่ยวเป่ายิ้มจนตาเกือบมองไม่เห็นแล้ว
ใจ อดไม่ได้เจ็บขึ้นมา
สื้อสื้อ ตกลงว่าคุณอยู่ที่ไหนล่ะ?