ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 309 ไม่มีใครกล้ารังแกคุณ
บทที่ 309 ไม่มีใครกล้ารังแกคุณ
“คุณพ่อไม่เชื่อฉันหรือ?”
เจียงนวลนวลแกล้งทำเป็นว่าไม่พอใจและจ้องมองเจียงเจิ้นไว้
เจียงเจิ้นรีบปลอบใจเธอว่า”พ่อจะไม่เชื่อคุณได้ยังไงล่ะ?ฉันแค่เป็นห่วงพวกคุณ”
“ทำไมคุณถึงมาในเวลานี้?”เสิ่นซูหลัน ถาม
ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเลิกง่าย ดังนั้นเสิ่นซูหลันถึงถามเช่นนี้
“ได้ข่าวว่าสื้อสื้อได้รับบาดเจ็บและรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ฉันในฐานะที่เป็นคุณพ่อ ควรที่จะไปเยี่ยมเธอ”
แม้ว่าเจียงเจิ้นพูดแบบนี้ แต่ตามจริงเขากลัวว่าถ้าหากเขาไม่ห่วงใยเจียงสื้อสื้อ คนของตระกูลจิ้นจะมาหาเรื่องเขาอีก
“คุณจะไปเยี่ยมไอ้กระหรี่คนนั้น?
เสิ่นซูหลันได้ยินเช่นนี้ก็ตื่นเต้นขึ้นมา”ฉันห้ามคุณไม่เยี่ยมเธอ”
เมื่อได้ยินคำว่า”กระหรี่” สีหน้าของเจียงเจิ้นก็มืดมนขึ้นมา ตวาดเธอว่า”เธอก็เป็นลูกสาวของฉันด้วย แกพูดให้สุภาพหน่อยนะ”
เขามาตำหนิเธอเพื่อไอ้กระหรี่คนนั้น!
ทันใดนั้นเสิ่นซูหลันก็โมโหขึ้นมา เพิ่งคิดจะเถียงกลับไป ดีที่เจียงนวลนวลรีบดึงเธอไว้ และกระซิบเตือนเธอว่า”พอแล้ว คุณแม่ พี่สาวได้รับบาดเจ็บ ไม่เพียงแต่คุณพ่อ พวกเราล้วนควรที่จะไปเยี่ยมเธอ ไม่ใช่หรือ?”
“นวลนวล คุณ……”เสิ่นซูหลันมองมาที่เธออย่างประหลาดใจ ไม่เชื่อว่าเธอจะพูดแบบนี้ออกมา
เจียงนวลนวลส่งสายตาสะกิดเธอ พร้อมพูดว่า”แม่ ไม่ว่ายังไงพี่สาวก็เป็นคนของตระกูลเจียงด้วย หลายปีนี้คุณล้วนปฏิบัติต่อเธออย่างกับลูกสาวแท้ๆ คุณจะโกรธเธอเพราะเธอทำเรื่องบางอย่างผิดไปได้ยังไงล่ะ?”
เสิ่นซูหลันรับรู้ถึงสายตาของเธอ เข้าใจความหมายของเธอทันที เลยหัวเราะเยาะออกมา”ฉันปฏิบัติต่อเธออย่างกับลูกสาวแท้ๆ แล้วเธอล่ะ มองพวกเราเป็นศัตรูกันหมดเลย”
“พอแล้วแม่ อย่าพูดแล้ว”
เจียงนวลนวลดึงเธอไว้ จากนั้นหันไปพูดกับเจียงเจิ้นว่า”พ่อ คุณก็อย่าไปเยี่ยมพี่สาวคนเดียวนะ ให้แม่ไปกับคุณดีกว่า”
พอได้ยินเช่นนี้ เจียงเจิ้งมองไปทางเสิ่นซูหลัน สีหน้ายังคงแย่อยู่”เธอเองยอมไหมล่ะ”
“แม่”
เจียงนวลนวลส่งสายตาสะกิดเสิ่นซูหลัน
แม่ คุณต้องไปแน่นอน ต้องไปดูว่าเจียงสื้อสื้อมีท่าทางยังไง อย่างนี้พวกเราถึงสามารถทำการวางแผนต่อไป
เสิ่นซูหลันรับรู้สายตาของเธอ จึงพยักหน้าแสดงให้เห็นว่าตัวเองรับรู้แล้ว จากนั้นมองไปที่เจียงเจิ้น พูดอย่างไม่เต็มใจ”ฉันไปกับคุณ เพื่อมิให้ใครบางคนมากล่าวว่าแม่เลี้ยงอย่างฉันนี่มันไร้น้ำใจ”
สีหน้าของเจียงเจิ้นจึงค่อยๆกลับสู่มาเป็นสภาพเดิม แต่ยังคงพูดอย่างโกรธ”แกโตจนป่านนี้แล้ว นวลนวลยังรู้เรื่องรู้ราวกว่าคุณอีกเลย”
เจียงนวลนวลยิ้มอ่อนๆ มองขึ้นไปแล้วเป็นคนน่ารักและรู้เรื่องรู้ราวจริงๆ
แน่นอนมีข้อแม้ว่าถ้าเธอไม่ทำสิ่งที่เลวร้ายเหล่านั้น
ดังนั้น เจียงเจิ้นเลยพาเสิ่นซูหลันไปเยี่ยมเจียงสื้อสื้อ
สำหรับการมาเยี่ยมของพวกเขา เจียงสื้อสื่อไม่มีสีหน้าที่ดีต่อพวกเขาเลย เพียงแค่มองพวกเขาตาเดียว จากนั้นก็เอียงหน้าไปอีกข้างหนึ่ง ไม่ยอมมองพวกเขาอีก
ท่าทีของเธอ ทำให้เจียงเจิ้นและเสิ่นซูหลันไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง แต่เนื่องจากจิ้นเฟิงเฉินอยู่ด้วย เลยไม่กล้าตำหนิเธออะไร เพียงแต่ต้องทนไว้
“สื้อสื้อ คุณเป็นไรหรือเปล่า?”แม้ว่าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง แต่การแสดงออกทางภายนอกยังจะเป็นต้องทำ
เจียงเจิ่นเดินไป และถามด้วยความห่วงใย
เจียงสื้อสื้อถึงจะหันหน้ากลับมา มองเข้าหาเขาด้วยสายตาที่เย็นชา และปรากฏรอยยิ้มที่เยาะเย้ยขึ้นมา”แกยังรู้ว่าต้องมาเยี่ยมฉันหรือ?”
“แก!”เจียงเจิ้นเกือบจะโมโหขึ้นมา แต่พอนึกขึ้นมาได้ว่าจิ้นเฟิงเฉินก็อยู่ จึงรีบไอออกมาเพื่อปิดบังความโกรธของตัวเอง พยายามแสดงความห่วงใยในฐานะที่เป็นพ่อที่ใจดีออกมา”คุณเป็นลูกสาวของฉัน ฉันก็ต้องมาเยี่ยมคุณอยู่แล้วไง”
เจียงสื้อสื้อมองไปที่เขา แค่รู้สึกว่าการแสดงออกที่หน้าซื่อใจคดของเขาทำให้คนเกลียดชังจริงๆ
แต่เธอยังคงตอบกลับว่า”คุณไม่ต้องห่วง ฉันไม่เป็นไรหรอก เพราะผลกรรมของคนบางคนยังไม่ได้มาถึง ฉันยังต้องรอดูอยู่เลย”
ขณะที่พูดคำพูดนี้ เธอเหลือบตาไปมองเสิ่นซูหลัน
เสิ่นซูหลันโมโหขึ้นมา และพูดสอบสวนว่า”เจียงสื้อสื้อ สายตาเมื่อกี้นี้ของแกหมายความว่ายังไง?แกหมายความว่าฉันจะได้รับผลกรรมหรือ?”
เจียงสื้อสื้อขี้เกียจไปมองเธอ พูดอย่างราบเรียบว่า”แกอยากจะคิดเป็นตัวเอง ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงดี”
“แก……”
เสิ่นซูหลันกำลังจะด่าต่อ เจียงเจิ้นก็รีบตวาดใส่เธอ”หุบปาก!ประธานจิ้นอยู่ แกทำตัวให้เหมาะสมหน่อย”
เสิ่นซูหลันต้องทนความโกรธลงไป แต่ยังไม่พอใจอีก จึงต้องพูดเยาะเย้ยเธอในทางอ้อม”สื้อสื้อ แกนี่ถือว่าโชคดีนะ ยังไม่ค่อยโตมันไม่ค่อยทำร้ายร่างกายสักเท่าไหร่ แต่นวลนวลก็ไม่เหมือนกันแล้ว ท้องใหญ่ขนาดไหนถึงจะแท้ง ทำร้ายร่างกายหรือเกิน ยังไม่ทราบว่าเมื่อไหร่ถึงจะฟื้นฟูกลับมาได้เลย”
เธอนึกว่าเจียงสื้อสื้อรู้ว่าตัวเองแท้ง เลยตั้งใจที่จะพูดถึงเรื่องเจ็บแสบของเธอ
แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าเจียงสื้อสื้อไม่รู้เรื่องนี้ เพราะจิ้นเฟิงเฉินสั่งให้ทุกคนล้วนปิดบังเธอ ไม่อยากให้เป็นได้รับความทรมานจากการสูญเสียลูกไป
ดังนั้นเจียงสื้อสื้อจึงมึนงงมาก”แกพูดอะไรอยู่?ทำไมฉันฟังไม่รู้เรื่องเลย?”
เสิ่นซูหลันอึ้งทันที”แกไม่รู้หรือ?แก……”
“เธอไม่รู้”จู่ๆจิ้นเฟิงเฉินก็พูดขึ้นมาขัดจังหวะพูดของเธอ เขาเดิมขึ้นไป บังสายตาที่พวกเขามองไปทางเจียงสื้อสื้อ พูดด้วยเสียงที่เย็นชา”พวกแกเยี่ยมเยียนเสร็จยัง?เยี่ยมเสร็จก็กลับได้แล้ว”
“ไม่ ฉันต้องพูดให้จบ”เสิ่นซูหลันไม่สนอะไรทั้งนั้น เธอใจร้อนขึ้นมา เพราะเธอคาดไม่ถึงว่าเจียงสื้อสื้อยังไม่รู้ว่าตัวเองเสียลูกไป
เธอจะไม่รู้ได้ยังไงล่ะ?
เธอจะต้องให้เจียงสื้อสื้อได้รับความทุกข์ทรมานที่นวลนวลเคยชิมมา
“คุณหญิงเจียง!”จิ้นเฟิงเฉินตวาดใส่เธอ ทำตาหยีขึ้นมาอย่างอันตราย”เชิญพวกแกออกไป”
ภายใต้สายตาที่ข่มขี่ของเขา เสิ่นซูหลันเพียงแต่ต้องกลืนคำพูดกลับมาในท้อง และพูดอย่างไม่เต็มใจ”นั้นวันหลังฉันค่อยมาเยี่ยมเธออีก”
“ประธานจิ้น ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งที่คุณมาดูแลสื้อสื้อให้ฉันนะครับ”เจียงเจิ้นพูดอย่างเกรงใจ
มุมปากของจิ้นเฟิงเฉินปรากฏความเยาะเย้ยขึ้นมา”สื้อสื้อเป็นภรรยาของฉัน ฉันดูแลเธอเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล”
ทันใดนั้นเจียงเจิ้นรู้สึกว่าค่อนข้างจะเก้อเขิน เพียงต้องพูดอย่างไม่เต็มใจ”ท่านประธานจิ้นพูดถูกต้องครับ”
จากนั้น เขาก็หันมาพูดกับเจียงสื้อสื้อว่า”สื้อสื้อ เดี๋ยววันหลังพ่อค่อยมาเยี่ยมคุณใหม่นะ”
“ไม่ต้องมาแล้ว”เจียงสื้อสื้อปฏิเสธเขาโดยตรง
“คุณนี่นะดื้อจริงเลย!”เจียงเจิ้นโกรธขึ้นมาเล็กน้อย
เจียงสื้อสื้อหันหัวไปอีกด้านหนึ่ง ไม่อยากเห็นพวกเขา
เจียงเจิ้นและเสิ่นซูหลันจนปัญญา จึงต้องออกไป
พอพวกเขาจากไปแล้ว เจียงสื้อสื้อถึงหันมา ดวงตาที่มีเสน่ห์จ้องจิ้นเฟิงเฉินเอาไว้ และถามว่า”คุณมีเรื่องปิดบังฉันใช่ไหม?”
ตามใจแล้วฟังจากคำพูดของเสิ่นซูหลัน เธอก็สังเกตเห็นถึงอะไรบางอย่างแล้ว แต่ไม่กล้าคิดลึกเข้าไป ตอนนี้เธอเชื่อแต่คำพูดของเขาแล้ว
“ไม่มีหรอก คุณอย่าไปฟังพวกเขาพูดไร้สาระ”
จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกว่าจำเป็นที่จะย้ายโรงพยาบาลให้เธอ ไม่นั้นคนในตระกูลเจียงคงต้องฉวยโอกาสมาพูดความจริงให้เธอฟัง
“จริงหรือ?”เจียงสื้อสื้อค่อนข้างจะไม่เชื่อ
จิ้นเฟิงเฉินหัวเราะออกมา”จริงสิ ฉันจะโกหกคุณไปทำอะไรล่ะ?”
ในเมื่อเขาพูดเช่นนี้แล้ว เจียงสื้อสื้อจึงหัวเราะตามขึ้นมา”โอเค ฉันเชื่อคุณ”
จากนั้น เธอก็หันไปมองนอกหน้าต่าง ทอดถอนใจออกมา”คุณพ่อของฉันนี่ช่างหน้าซื่อใจคดหรือเกิน ถ้าหากไม่ใช่คุณ เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะมาเยี่ยมฉันหรอก”
เธอไม่ได้สังเกตอารมณ์ที่ซับซ้อนภายใต้ดวงตาของจิ้นเฟิงเฉิน เพียงได้ยินแต่เขาพูดว่า”อย่าไปสนใจพวกเขา ต่อจากนี้ไปคุณก็คนของตระกูลจิ้น ไม่มีใครกล้ามารังแกคุณหรอ”
“อุ๊ย คุณจิ้น เรายังไม่ได้แต่งงานเลย ฉันยังไม่ใช่ภรรยาของคุณเลย”เจียงสื้อสื้อหันหัวมา และเลิกคิ้วใส่เขาอย่างน่ารัก
เขากลั้นหัวเราะไม่อยู่”อีกไม่นานก็เป็นแล้ว”