ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 314 ฉันต้องการผู้หญิงคนนี้
บทที่ 314 ฉันต้องการผู้หญิงคนนี้
อีกฝั่งหนึ่ง
“ขับตรงไปเลยค่ะ”
ซูชิงหยิงมองดูไฟจราจรสีแดงตรงหน้า
“ไม่ว่าเราจะรีบขนาดไหนก็ควรเคารพกฎจราจรนะครับ อย่าเอาชีวิตไปล้อเล่นเชียว”
เว่ยจี้เหิงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เขาหวังว่าเธอจะฟังสิ่งที่เขาพูด
“ถ้าไปช้า ฉันก็คงไม่เหลือชีวิตเหมือนกัน” ซูชิงหยิงพูดกับตัวเองเบาๆ
เว่ยจี้เหิงฟังไม่ชัดจึงถามขึ้นว่า “อะไรนะครับ?”
“ไม่มีอะไรค่ะ”
เว่ยจี้เหิงขมวดคิ้วแล้วถามว่า “เกิดเรื่องกับพี่ชายคุณหรือครับ?”
ซูชิงหยิงไม่ได้ตอบเขา เธอกำมือเขาไว้แน่นแล้วพูดว่า “จี้เหิงคะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณจะยังอยู่เคียงข้างฉันหรือเปล่า?”
“อืม……ครับ” เว่ยจี้เหิงลังเล
เมื่อเห็นเธอเป็นแบบนี้ เขาก็กระวนกระวายใจ
เขาจับมือเธอไว้แล้วพูดเบาๆว่า “บอกผมได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ผมจะได้หาทางช่วยคุณ”
“ฉัน……”ซูชิงหยิงลังเลว่าจะบอกเขาดีหรือไม่ แต่สุดท้ายเธอก็ทำได้เพียงพูดออกมาว่า “จี้เหิง คุณต้องช่วยฉันนะคะ”
เมื่อสัญญาณจราจรเปลี่ยนเป็นไฟเขียว เว่ยจี้เหิงก็ไม่ได้ซักถามต่อ
เขารีบขับรถเดินหน้าไป
“ชิงหยิง ถึงแล้วครับ”
เว่ยจี้เหิงยังไม่ทันพูดจบ ซูชิงหยิงก็รีบเปิดประตูรถออกไป
เมื่อเห็นดังนั้น เว่ยจี้เหิงก็รีบปลดเข็มขัดและพูดว่า “ชิงหยิง รอผมด้วย!”
เมื่อซูชิงหยิงก้าวเข้ามาในตึก ก็พบว่าผู้ร้ายคนนั้นกุมตัวเจียงสื้อสื้อเดินตรงมาที่ทางออก
หัวใจเธอตกไปที่ตาตุ่ม
จบกัน!
จบเห่แล้ว!
“ชิงหยิง!”
เว่ยจี้เหิงวิ่งตามเธอมา เมื่อเห็นท่าทีที่ไม่ปกติของเธอ เขาก็มองไปยังทิศที่เธอจ้องอยู่
เขาเบิกตากว้างแล้วพูดด้วยความตกใจว่า “นั่นมันคุณเจียงไม่ใช่เหรอครับ?”
ซูชิงหยิงตั้งสติได้ จากนั้นรีบลากเขาไปหลบ
“ชิงหยิง คุณทำอะไรอยู่น่ะ?” เว่ยจี้เหิงถามด้วยความไม่เข้าใจ
“คุณก็รู้นี่คะว่าฉันไม่ชอบเจียงสื้อสื้อ ดังนั้น……”
เธอยังไม่ทันพูดจบ แต่คิดว่าเว่ยจี้เหิงคงเข้าใจเธอ
เว่ยจี้เหิงพยักหน้า “ผมเข้าใจแล้ว”
เธอไม่อยากเห็นเจียงสื้อสื้อนั่นเอง
ทั้งสองหลบอยู่ในมุมตึก มองดูเจียงสื้อสื้อถูกคนร้ายจี้เป็นตัวประกันพาเดินออกไปข้างนอก โดยมีจิ้นเฟิงเฉินตามมา
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย?”เว่ยจี้เหิงเดินออกมามองไปข้างนอกแล้วพูดด้วยความกังวล
เมื่อเห็นพวกจิ้นเฟิงเฉิน ซูชิงหยิงก็รู้ดีว่าครั้งนี้ผู้ร้ายคงหนีไม่พ้นแล้ว
เพียงแค่จับเขาได้ รับรองว่าต้องสืบสาวราวเรื่องมาถึงเธอแน่นอน
เมื่อถึงเวลานั้น เธอ อีกทั้งตระกูลซูก็ถูกจิ้นเฟิงเฉินเล่นงานแน่ๆ
เธอคนเดียวยังไม่เท่าไหร่ แต่พ่อแม่ของเธอไม่เกี่ยวด้วย
เธอจะทำให้พวกเขาเดือดร้อนไม่ได้เด็ดขาด
“ช่างมันเถอะ เรื่องของคนอื่นไม่เข้าไปยุ่งจะดีกว่า” เว่ยจี้เหิงพูดแล้วหันไปมองซูชิงหยิง “ชิงหยิง ไปกันเถอะครับ”
“จี้เหิง คุณต้องช่วยฉันนะคะ”
……
ผู้ร้ายไม่เชื่อคำพูดของจิ้นเฟิงเฉิน เขาต้องลงมาให้เห็นกับตาว่าพรรคพวกเขาถูกปล่อยตัวมาจริงหรือไม่
ระหว่างการเดินออกมาจากอาคาร มีดได้กรีดโดนที่คอเธอบ้างเล็กน้อย แต่เธอกัดฟันทน ไม่อยากให้จิ้นเฟิงเฉินเป็นห่วง
เดิมทีตอนอยู่ในห้องผู้ป่วย ไม่มีใครรู้ถึงเหตุการณ์นี้ แต่เมื่อเดินออกมา ก็ดึงดูดายตาผู้คนทั้งโรงพยาบาล
หลังออกมาจากอาคารใหญ่ ก็มองเห็นชายสามสี่คนยืนอยู่
เมื่อพวกเขาเห็นผู้ร้ายที่จับเจียงสื้อสื้อเป็นตัวประกันอยู่นั้น ก็ตะโกนออกมาว่า “ลูกพี่”
จากนั้นก็วิ่งมาหาเขา
สีหน้าเขาดูมีความสุขมาก เอ่ยถามพรรคพวกว่า “พวกแกออกมาหมดแล้วซินะ”
“ครับลูกพี่ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน อยู่ๆตำรวจก็ปล่อยตัวพวกเราน่ะ”
“ลูกพี่ ทำอะไรอยู่น่ะ?”
เมื่อมีคนหนึ่งถามขึ้น พวกเขาที่เหลือจึงมองมายังเจียงสื้อสื้อ
“อย่าเพิ่งถาม ขึ้นรถไปเร็ว เดี๋ยวทางนี้ฉันจะจัดการเอง จากนั้นพวกเราจะหนีไปด้วยกัน”
พูดจบเขาก็โยนกุญแจรถให้
“ลูกพี่ หนีพ้นเหรอ?” คนอื่นๆมองดูจิ้นเฟิงเฉิน
เขาหรี่ตาลงและตอบว่า “ขอแค่นังผู้หญิงคนนี้อยู่ในกำมือพวกเรา ก็หนีพ้น”
หลังจากนั้นเขาก็เร่งว่า “อย่าเสียเวลา ขึ้นรถไปเร็ว!”
พวกเขาไม่รอช้า รีบขึ้นรถที่จอดไว้ข้างทาง
เมื่อเห็นว่าพรรคพวกขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว เขาจึงได้มองไปยังจิ้นเฟิงเฉิน “ประธานจิ้น เมื่อผมขึ้นรถก็จะปล่อยตัวผู้หญิงคนนี้ แต่ตอนนี้ห้ามใครเข้าใกล้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือน”
จิ้นเฟิงเฉินมองเขา แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
จิ้นเฟิงเหราที่เพิ่งเดินเข้ามาเมื่อได้ยินคำพูดนั้นก็โมโห “ใครจะไปรู้ว่าแกจะปล่อยตัวเธอจริงๆ?”
“ผมพูดคำไหนคำนั้น!”
“ฉันไม่เชื่อ” จิ้นเฟิงเหราคิดแล้วพูดว่า “ฉันจะแลกตัวกับเธอเอง!”
เมื่อได้ยินดังนั้น เจียงสื้อสื้อก็ตกใจ”จิ้นเฟิงเหรา บ้าไปแล้วหรือไง?”
“พี่สะใภ้วางใจผมได้เลย ผมเป็นผู้ชาย พวกเขาไม่กล้าทำอะไรผมหรอก”
ถึงเวลานี้จิ้นเฟิงเหรายังคงยิ้มให้กับเจียงสื้อสื้อ
สื้อสื้อทำตัวไม่ถูก ตอนนี้มีดจ่อที่คอเธอ ไม่ว่าจะผู้หญิงผู้ชายก็มีค่าเท่ากัน
“ว่าไงครับพี่?” จิ้นเฟิงเหราหันไปถามความคิดเห็นของจิ้นเฟิงเฉิน
จิ้นเฟิงเฉินมองเขาแวบหนึ่งแล้วตอบด้วยน้ำเสียงต่ำทุ้มว่า “ได้”
แม้เขาจะเห็นด้วย แต่ผู้ร้ายกลับไม่เห็นด้วย!
“ฉันต้องการผู้หญิงคนนี้” ผู้ร้ายพูดพร้อมกับถอยหลังออกไป
จิ้นเฟิงเหราพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “นี่แก! ฉันเป็นถึงคุณชายรองบ้านตระกูลจิ้นนะ แกจับฉันเป็นตัวประกันไม่มีประโยชน์กว่าเหรอ?”
“เธอเป็นผู้หญิงของจิ้นเฟิงเฉิน”
อืม ประโยคนี้ทำให้จิ้นเฟิงเหราพูดไม่ออก
ตำแหน่งคุณชายรองของเขาเทียบไม่ได้กับผู้หญิงของจิ้นเฟิงเฉินเลยจริงๆ
“ประธานจิ้น ผมเป็นคนตรงไปตรงมานะ ผมพูดแล้วทำได้แน่นอน”
ผู้ร้ายพูดจบก็ถอยหลังกลับออกไป พรรคพวกของเขาขับรถมาและจอดอยู่ข้างๆ
“ลาก่อนนะครับประธานจิ้น!”
เมื่อพูดจบเขาก็ผลักเจียงสื้อสื้อออกมาและรีบขึ้นรถไป รถคันนั้นก็วิ่งแล่นออกไปด้วยความเร็วสูง
“สื้อสื้อ!”
จิ้นเฟิงเฉินรีบวิ่งออกไปหาเธอ
เจียงสื้อสื้อเซไปมาสองสามก้าวแล้วจึงยืนนิ่ง ตอนนี้เธออยู่ในอ้อมกอดที่คุ้นเคย
เธอยิ้มออกมาพร้อมน้ำตาอันแสนอบอุ่น
จิ้นเฟิงเฉินกอดเธอเอาไว้ คล้ายกับจะหลอมละลายเป็นร่างเดียวกัน
เจียงสื้อสื้อหลับตาลง ตอนนี้รอบตัวเธอคล้ายกับเงียบสงัดไปหมด พวกเขาทั้งสองได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของกันและกันเท่านั้น
“ไม่เป็นไรแล้วครับ”
ในขณะที่ทั้งสองกำลังหวานซึ้ง ก็ได้ยินเสียงของจิ้นเฟิงเหราพูดออกมาว่า
“พี่ครับ! พี่สะใภ้ ระวัง!”
หลังจากนั้น ก็ได้ยินเสียงเครื่องรถยนต์เร่งมาด้วยความดัง
เสียงสะเทือนแสบแก้วหู
เจียงสื้อสื้อยังไม่ทันลืมตามองดูว่าเกิดอะไรขึ้น ทันใดนั้นร่างของเธอและจิ้นเฟิงเฉินก็ถูกผลักออกไปอยู่อีกด้านหนึ่ง ทั้งสองคนล้มลงกระแทกพื้น
จิ้นเฟิงเฉินกอดเธอเอาไว้และกลิ้งไปกับพื้น เพื่อเป็นเบาะรองให้เธอไม่บาดเจ็บ
“โอ๊ย!”
เมื่อร่างทั้งสองกระแทกลงที่พื้น จิ้นเฟิงเฉินก็รู้สึกเจ็บ
“จิ้นเฟิงเฉิน!”
เจียงสื้อสื้อรีบลุกขึ้นมาและมองดูว่าเขาได้รับบาดเจ็บหรือไม่ จากนั้นก็ได้ยินเสียงตะโกนร้องดังจากด้านหลังว่า
“คุณชายรอง!”