ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 322 แสดงสีหน้าโมโหโดยไม่ไว้หน้าใคร
บทที่ 322 แสดงสีหน้าโมโหโดยไม่ไว้หน้าใคร
ซูชิงหยิงขึ้นเครื่องแล้ว ดังนั้นโทรศัพท์ไม่ติดหรอก
จิ้นเฟิงเฉินทราบเรื่องนี้เข้า ไม่แปลกใจสักนิด
“รู้จุดหมายปลายทางของเธอไหม?” จิ้นเฟิงเฉินถาม
“สกอตแลนด์ครับ”
จิ้นเฟิงเฉินเคาะนิ้วเบาๆ บนโต๊ะ ท่าทางเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ผ่านไปนาน เขาค่อยๆ ปริปากพูด “ตรวจสอบบันทึกขาออก เธออาจจะไม่ไปสกอตแลนด์”
กู้เนี่ยนพยักหน้า “ได้ครับ ผมไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้”
กู้เนี่ยนออกไป จิ้นเฟิงเฉินลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่าง มองไปยังเมืองจิ่น สายตาเย็นชาล้ำลึก
ด้วยบุคลิกที่ระมัดระวังของซูชิงหยิง เป็นไปไม่ได้ที่จะไปสกอตแลนด์ แต่ไปประเทศอื่น หรือไม่แม้แต่จะไปต่างประเทศ
ซูชิงหยิง เธอแค่ใช้วิธีอำพราง
เธอคิดว่าหนีได้สักพัก ก็จะหนีได้ตลอดไปเหรอ?
มุมปากยิ้มเยาะเย้ย เขาไม่ปล่อยเธอไปง่ายขนาดนี้หรอก
วันที่สอง หุ้นของซูซื่อกรุ๊ปดิ่งลงอย่างกะทันหัน ธนาคารต่างๆ เริ่มเก็บเงินกู้ ซูซื่อกรุ๊ปตกอยู่ในวิกฤตขาดแคลนเงินทุนชั่วขณะ
แม้แต่โครงการหลายโครงการยังต้องหยุดลง
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ถามธนาคารให้แน่ชัดหรือยัง?” พ่อซูตะโกนถามคนที่อยู่อีกฟากของโทรศัพท์อย่างฮึดฮัด
แม่ซูอยู่ข้างๆ มองดูเขาอย่างเป็นห่วง กลัวว่าถ้าเขาตื่นตูมมากเกินไป ความดันจะสูง จากนั้นผลที่ตามมาจะเป็นหายนะ
แต่ผ่านไปแค่คืนเดียวเกิดเรื่องแบบนี้อย่างกะทันหัน ใครจะไม่ตกใจกัน?
“ว่าไงนะ?” ไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามพูดอะไร เสียงของพ่อซูดังขึ้นกว่าเดิม “ธนาคารพูดนี้จริงๆ เหรอ?”
พ่อซูวางสาย พูดอย่างโมโห “ไม่เข้าท่าเลย ไม่เข้าท่าจริงๆ!”
“มีอะไรเหรอ?” แม่ซูรีบถาม
“คุณรู้ไหมว่าทำบริษัทถึงเกิดเรื่องแบบนี้อย่างกะทันหัน?” พ่อซูถาม
“ทำไมเหรอ?”
“เพราะว่าไอ้เด็กจิ้นเฟิงเฉินบอกกับธนาคารว่าไม่ให้ซูซื่อกรุ๊ปกู้เงิน มิฉะนั้นจิ้นกรุ๊ปจะยุติการร่วมมือกับธนาคารต่างๆ”
“กลั่นแกล้งมากเกินไป! กลั่นแกล้งมากเกินไป!”
พ่อซูโกรธจนตัวสั่น หน้าอกกระเพื่อมอย่างรุนแรง
เห็นเขาแบบนี้ ในใจของแม่ซูกลัวมาก รีบก้าวไปข้างหน้าลูบหลังเขาเบาๆ แล้วพูดปลอบ “คุณใจเย็นๆ ก่อน คนข้างล่างเข้าใจผิดหรือเปล่า? จิ้นเฟิงเฉินจะทำแบบนี้กับซูซื้อกรุ๊ปทำไม?”
“ก็เพราะลูกสาวสุดที่รักของเธอไง!” พ่อซูหันมาตะคอกใส่เธออย่างโมโห
แม่ซูชะงัก แล้วตั้งสติ พูดอย่างน้อยใจ “คุณโกรธก็โกรธสิ ทำไมต้องใส่อารมณ์กับฉันด้วย?”
“เป็นเพราะชิงหยิง ซูซื่อกรุ๊ปจะจบแล้ว!”
พ่อซูนึกถึงเรื่องนี้ก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่สามารถนั่งรอได้ เขาต้องไปหาจิ้นเฟิงเฉินแล้วถามให้ชัดเจน
“ชิงหยิงทำอะไรอีกแล้วเหรอ?”
แม่ซูไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พ่อซูไม่สนใจเธอ เดินตรงออกไป
“คุณจะไปไหน?” แม่ซูรีบตามไป
“ไปหาจิ้นเฟิงเฉิน”
แม่ซูได้ยิน เท้าหยุดเดิน แล้วรีบตามไปทันที “ฉันไปกับคุณ”
……
พ่อแม่ของซูชิงหยิงมาหาถึงบ้าน อยู่ในการคาดเดาของจิ้นเฟิงเฉิน
“คุณลุงคุณน้า เชิญนั่งครับ”
เมื่อผู้ช่วยพาพวกเขาเข้ามา จิ้นเฟิงเฉินยังคงเหมือนเดิม สุภาพมาก
“เฮอะ!” พ่อซูถอนหายใจหนักๆ เดินเข้าไปนั่งลงอย่างโกรธๆ
“เฟิงเฉิน นายอย่ารังเกียจนะ คุณลุงนายอารมณ์ไม่ดีน่ะ” แม่ซูที่อยู่ข้างหลังอธิบายให้จิ้นเฟิงเฉิน
“ไม่เป็นไรครับ”
จิ้นเฟิงเฉินตอบกลับเบาๆ แล้วเดินไปอีกฝั่ง นั่งลงตรงข้ามพ่อซู เปิดประเด็นพูดอย่างตรงไปตรงมา “คุณลุงมาหาผม เพราะเรื่องที่บริษัทใช่ไหมครับ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ พ่อซูลุกขึ้นยืน พูดด้วยความโกรธ “นายคิดไว้แล้วว่าฉันต้องมาหานาย ถูกไหม? เฟิงเฉิน รอบนี้นายทำให้ลุงผิดหวังมาก”
จิ้นเฟิงเฉินมองเขาอย่างนิ่งๆ “คุณลุงครับ ท่านไม่เข้าใจว่าทำไมซูซื่อกรุ๊ปถึงมีวันนี้เหรอครับ?”
พ่อซูพูดไม่ออก
เพราะในใจเขารู้ว่าลูกสาวตัวเองมีความผิดก่อน เขาก็ไม่สามารถโทษคนอื่นว่าโหดร้ายได้
เป็นแม่ซูที่พูดขึ้น “เฟิงเฉิน หลายปีผ่านมาครอบครัวของเราทั้งสอง ความสัมพันธ์ดีมาก ต่อเรื่องใหญ่แค่ไหน นายก็ไม่ควรทำแบบนี้กับพวกเราไม่ใช่เหรอ?”
จิ้นเฟิงเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ถึงไตร่ตรองแล้วพูด “คุณน้าครับ ท่านรู้ไหมว่าลูกสาวของท่านทำอะไรลงไป?”
“อะไรเหรอ?”
“เธอสั่งให้คนอื่นกระทำรุนแรงกับสื้อสื้อ แม้จะไม่สำเร็จ แต่ว่าสื้อสื้อตกบันได ตอนนั้นสื้อสื้อตั้งครรภ์ได้หนึ่งเดือนกว่าก็แท้งลูก”
จิ้นเฟิงเฉินพูดอย่างใจเย็นเรื่องที่ซูชิงหยิงทำ พ่อซูแม่ซูฟังแล้วตกใจมาก ใบหน้าของทั้งสองขาวซีด ไม่น่าดู และพูดไม่ออก
“ผมสามารถให้ธนาคารปล่อยเงินกู้กับซูซื่อกรุ๊ปต่อได้ แต่ว่าซูชิงหยิงต้องกลับมามอบตัว”
พูดทั้งหมด จิ้นเฟิงเฉินยังไม่ได้จัดการแบบเด็ดขาด เหลือทางเลือกให้กับตระกูลซู
พ่อซูหลับตาลง คิ้วขมวด ในสมองกำลังต่อสู้กัน อีกฝั่งคือลูกสาวของตัวเอง ส่วนอีกฝั่งคือความพยายามทั้งชีวิต
ไม่ว่ายอมทิ้งฝั่งไหน ก็เป็นสิ่งที่เจ็บปวดมากสำหรับพ่อซู
“เฟิงเฉิน ชิงหยิงกับนายเติบโตมาด้วยกัน ความสัมพันธ์หลายปี นายปล่อยเธอครั้งนี้ ปล่อยตระกูลซู ได้ไหม?” แม่ซูน้ำตาคลอเบ้าพูดอย่างอ้อนวอน
เธอลองเล่นไพ่อารมณ์เพื่อให้จิ้นเฟิงเฉินใจอ่อน
แต่จิ้นเฟิงเฉินไม่ไหวติง “คุณน้าครับ ประโยคนี้ท่านควรพูดกับซูชิงหยิง ถ้าเธอสนใจความสัมพันธ์ของตระกูลจิ้นและตระกูลซู ก็ไม่ควรทำเรื่องแบบนี้!”
ที่ซูชิงหยิงทำร้าย เป็นผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจ
“เฟิงเฉิน เพราะว่าชิงหยิงรักนายมาก จึงทำเรื่องแบบนี้ นายเห็นแก่ที่เธอรักนายมากขนาดนี้ ปล่อยเธอเถอะนะ”
เหมือนกับว่าได้ฟังเรื่องตลก จิ้นเฟิงเฉินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา สายตาที่มองไปยังแม่ซูเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย “คุณน้า นี่ไม่ใช่เหตุผลที่เธอทำร้ายคน”
“เฟิงเฉิน…..”
แม่ซูอยากพูดต่อ เวลานี้พ่อซูก็ตะโกนลั่น “พอแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว”
ต่อมา เขามองมายังจิ้นเฟิงเฉิน “ฉันจะชักชวนให้ชิงหยิงกลับมามอบตัวเอง แต่นายก็ต้องทำตามที่นายพูด”
“ผมพูดแล้วทำได้แน่นอน”
“ตกลง งั้นนายรอข่าวจากฉัน”
พ่อซูลุกขึ้นและจากไป
แม่ซูกังวล โวยวายเสียงดัง “คุณตกลงเขาทำไม? คุณจะให้ชิงหยิงเข้าคุกจริงๆ เหรอ?!”
“ไม่อย่างงั้นล่ะ?” พ่อซูสูดหายใจเข้าลึกๆ ยับยั้งอารมณ์โกรธที่อยู่ในใจ ถามเธอกลับ “จะให้เอาซูซื่อกรุ๊ปทั้งหมดไปแลกกับเธอเหรอ?”
“นั่นลูกสาวคุณนะ! เธอไม่สำคัญกว่าซูซื่อกรุ๊ปเหรอ?” แม่ซูมองเขาเหมือนมองคนแปลกหน้า
พ่อซูหลับตาลงอย่างเจ็บใจ “เธอทำผิดก่อน เธอบรรลุนิติภาวะแล้ว ก็ควรรับผิดชอบกับเรื่องที่ตัวเองทำไว้”
“ไม่ ฉันไม่อนุญาตให้คุณทำแบบนี้” แม่ซูหันมามองจิ้นเฟิงเฉิน “เฟิงเฉิน ในเมื่อนายไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัว ก็อย่าโทษฉันที่แสดงสีหน้าโมโหโดยไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น”
ได้ยิน พ่อซูขมวดคิ้ว “เธอจะทำอะไร?”
“ฉันจะไปหามู่หลัน”
แม่ซูเดินออกไปก่อนด้วยความโกรธ
พ่อซูจึงรีบตามไปอย่างรวดเร็ว กลัวว่าเธอจะพูดอะไรผิด ทำให้เรื่องแย่ลงกว่าเดิม
สายตาเย็นชามองดูพวกเขาเดินจากไป จิ้นเฟิงเฉินก็เรียกกู้เนี่ยนเข้ามา
“ท่านประธาน มีอะไรให้รับใช้ครับ?”
“ติดตามตระกูลซู หากมีข่าวของซูชิงหยิงรีบแจ้งให้ฉัน”
“ครับ”