ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 327 คุณหญิง
บทที่ 327 คุณหญิง
สาวใช้เห็นเจียงสื้อสื้อเดินเข้าห้องอาหาร รีบหมุนตัวเดินเข้าห้องครัว ในมือยกถ้วยน้ำซุปที่ยังมีไอร้อนลอยขึ้นออกมา
“คุณหญิง ระวังร้อนนะคะ ค่อยๆ ดื่ม”
ได้ยินสรรพนามที่สาวใช้เรียก เจียงสื้อสื้อรีบพูดแก้อย่างรวดเร็ว “ฉันยังไม่ได้แต่งงานกับคุณชายของพวกเธอ เรียกฉันว่าคุณเจียงก็ได้”
“ไม่ได้ค่ะ คุณหญิงบอกไว้ค่ะ ให้ทุกคนเรียกคุณว่าคุณหญิง”
แม่จิ้นบอกไว้?
นี่คือ….ยอมให้เธอคบกับเฟิงเฉินแล้ว?
ในใจไม่สามารถอธิบายได้ว่ารู้สึกอย่างไร เหมือนจะดีใจแต่ก็ไม่เหมือนดีใจ ค่อนข้างซับซ้อน
เอาเถอะ อย่างไรก็ตาม แม่จิ้นก็ถือว่ายอมรับเธอจริงๆ แล้ว
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกสบายใจ ดื่มซุปให้สะอาดหมดจดในครั้งเดียว
แม่จิ้นเข้ามาเห็นเธอดื่มซุปคำใหญ่ แสดงสีหน้าปลื้มใจ คิดในใจเด็กคนนี้เจริญอาหารได้ดี ต้องให้ห้องครัวเคี่ยวซุปเยอะๆ จะได้ให้สุขภาพดีขึ้นเร็วๆ
เจียงสื้อสื้อมองแม่จิ้นที่เดินมาถึงตรงหน้าตัวเอง รีบกลืนซุปที่อยู่ในปาก ลุกขึ้นยืน “คุณน้า”
เห็นเธอระมัดระวัง แม่จิ้นขมวดคิ้ว “สื้อสื้อ เธอไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้น ทำเหมือนว่าที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง”
แม่จิ้นคิด รู้สึกว่าตัวเองพูดไม่ถูก จึงพูดเสริม “หลังจากนี้บ้านตระกูลจิ้นก็จะเป็นบ้านจริงๆ ของเธอ เธอก็จะเป็นหนึ่งในเจ้านายของที่นี่ ดังนั้นก็ผ่อนคลาย มี ความสุขยังไงก็ทำอย่างนั้น”
พูดถูก แต่เจียงสื้อสื้อไม่กล้าที่จะหละหลวม
กว่าพวกเขาจะยอมรับตัวเอง หากตัวเองผ่อนคลายเกินไป เผลอทำนิสัยแย่ๆ ให้พวกเขาจำภาพลักษณ์ที่ไม่ดี นั่นก็แย่เลยสิ
แต่ว่าแม่จิ้นพูดขนาดนี้แล้ว เธอจึงยิ้มและพยักหน้า “คุณน้า ฉันรู้แล้วค่ะ”
แม่จิ้นยิ้มอย่างพอใจ แล้วถาม “จะดื่มอีกไหม?”
“ไม่แล้วค่ะ อิ่มแล้ว”
“ถ้าอยากกินอะไรก็บอกฉัน หรือบอกพ่อบ้านโดยตรงเลยก็ได้นะ”
“ได้ค่ะ”
เจียงสื้อสื้อเดินขึ้นห้อง จิ้นเฟิงเฉินอยู่ที่ห้องสมุด เธอเดินไปที่หน้าประตูห้องสมุด ยื่นหน้ามองไปข้างใน จิ้นเฟิงเฉินนั่งอยู่หน้าโต๊ะหนังสือ ก้มหน้าก้มตาตั้งใจอ่านเอกสาร
“เข้ามา”
เขาไม่ได้เงยหน้ามองเธอ กลับรู้ว่าเธอมา หูดีจริงๆ
ในใจเจียงสื้อสื้อถอนหายใจเบาๆ
เธอเดินไปข้างๆ เขา เหล่มองเอกสารของเขา เลิกคิ้ว คืองบการเงิน
“เธออยากดู?” จิ้นเฟิงเฉินเงยหน้ามองเธอ
“ไม่เอา ตัวเลขเยอะขนาดนี้เห็นแล้วฉันมึนหัว” เจียงสื้อสื้อขอบคุณแล้วส่ายหน้า
จิ้นเฟิงเฉินหัวเราะเบาๆ
เขาเก็บเอกสาร “รอร่างกายหายดีแล้ว มาช่วยฉันที่จิ้นกรุ๊ปไหม?”
“ที่จิ้นกรุ๊ป?”
เจียงสื้อสื้อไม่กล้าเชื่อหูตัวเองเล็กน้อย “นายไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?”
จิ้นกรุ๊ปเป็นกรุ๊ปที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของในประเทศ มีคนตั้งเท่าไรพยายามอย่างมากที่จะเข้าไป แต่ก็ไม่เข้าไม่ได้ เพราะข้อกำหนดในการสรรหาบุคลากรของจิ้นกรุ๊ปนั้นถือว่าสูงที่สุดในอุตสาหกรรม นอกจากวุฒิการศึกษาแล้ว ยังต้องดูทัศนคติและนิสัย
แต่ตอนนี้เขาเปิดปากพูดคำเดียวก็จะให้เธอเข้ามาช่วยจิ้นกรุ๊ป
ถ้าเธอตกลง เท่ากับว่าใช้เส้นสายไหม?
แล้วยังเป็นเส้นสายที่ใหญ่ที่สุด
“ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันจริงจังมาก”
ให้เธอทำงานที่บริษัทอื่น ยังไม่ดีเท่าอยู่ข้างตัวเอง แบบนี้ก็เห็นเธอตลอดเวลา
พูดให้ถูก เขากำลังกลัวว่าเธอจะจากไปแบบไม่กล่าวเหมือนครั้งที่แล้ว
“แต่ฉันเป็นแค่ผู้วางแผนโฆษณา ไปบริษัทนายทำอะไร? พนักงานต้อนรับหรือเลขาเหรอ?”
“เธออยากทำอะไรล่ะ?”
“อืม……” เจียงสื้อสื้อตั้งใจคิด ดวงตาฉายแววเจ้าเล่ห์ พูดด้วยรอยยิ้ม “ผู้ช่วยของนาย ผู้ช่วยแบบกู้เนี่ยน”
“ได้สิ” เขาไม่คิดก็ตอบตกลงทันที
เจียงสื้อสื้อตกใจ
นี่มันง่ายเกินไปแล้ว!
กู้เนี่ยนเรียนจบ MBA จากมหาวิทยาลัยต่างประเทศที่มีชื่อเสียง เธอเทียบไม่ได้หรอก
เธอพูดอย่างรู้ตัวเอง “ไม่เอาหรอก ฉันเป็นผู้วางแผนโฆษณาของฉันดีกว่า”
“ไม่มาจริงเหรอ?” จิ้นเฟิงเฉินถาม
เจียงสื้อสื้อตอบ “อื้อ” “ฉันกลัวว่าฉันจะเพิ่มภาระให้นาย อีกอย่างถ้าฉันทำผิด นายก็จะลำบากอีก ดังนั้น….ฉันไม่ไปดีกว่า”
ขนาดเรื่องแบบนี้ เธอยังนึกถึงเขาก่อน
แววตาของจิ้นเฟิงเฉินลึกลง เอื้อมมือไปโอบเอวเธอ อุ้มเธอขึ้นมานั่งบนตัก
“นายทำอะไร?”
ความใกล้ชิดอย่างกะทันหันทำให้ใจของเจียงสื้อสื้อสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ใบหน้าขาวใสแดงขึ้นทันที
“สื้อสื้อ”
เขานำซุกหน้าเข้าที่ซอกคอของเธอ เวลาพูด ลมหายใจเป่าลดข้างหูที่อ่อนไหวของเธอ ร่างกายของเธอสั่นสะท้าน
เธอก้มหัวลง พูดเบาๆ “หืม”
“ฉันหวังว่าหลังจากนี้ไม่ว่าเจอเรื่องอะไร เธอต้องให้ความสำคัญกับเธอก่อน ค่อยนึกถึงคนอื่น”
จู่ๆ เขาก็พูดเรื่องนี้ เจียงสื้อสื้องงเล็กน้อย “ทำไมอยู่ดีๆ ก็พูดเรื่องนี้ล่ะ?”
“เพราะว่าเธอใจดีเกินไป”
ทำไมรู้สึกเหมือนน้ำเสียงของเขาฟังดูรังเกียจ?
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว มองที่เขา “นายไม่ชอบเหรอ?”
“ชอบ แต่ฉันอยากให้เธอเห็นแก่ตัวหน่อย”
มีแค่เห็นแก่ตัว เธอถึงจะอยู่ดี ไม่โดนคนอื่นทำร้าย
เจียงสื้อสื้อเลิกคิ้ว “จริงๆ แล้วฉันก็เห็นแก่ตัวนะ อย่างเช่น…… ความรู้สึกที่มีต่อนาย ฉันก็เห็นแก่ตัว”
เธอให้เขาดีกับเธอคนเดียว รักเธอคนเดียว
แบบนี้ก็นับว่าเห็นแก่ตัว
จู่ๆ จิ้นเฟิงเฉินก็หัวเราะขึ้นมา ลมหายใจก็พ่นออกมาทำให้เจียงสื้อสื้อจั๊กจี้แล้วหดคอ โวยวายเบาๆ “นายอย่าหัวเราะแล้ว มันจั๊กจี้”
“สื้อสื้อ ฉันมีความสุขมาก” จิ้นเฟิงเฉินพูด
เจียงสื้อสื้อชะงัก แล้วดึงสติกลับมา มุมปากค่อยๆ ยกขึ้น พูดทีละคำอย่างชัดๆ “ฉันก็มีความสุข”
รอบๆ ตัวเงียบลง เงียบและอบอุ่น
รู้สึกว่าปัญหาเหล่านั้นได้จากพวกเขาไปแล้ว โลกทั้งใบเหลือแค่พวกเขาสองคน
รอเธอหายดีแล้ว ฉันพาเธอกับเสี่ยวเป่าไปพักร้อนกัน”
“พักร้อน?”
“อืม ฉลองที่พวกเราอยู่ด้วยกันอย่างเป็นทางการ”
เจียงสื้อสื้อเอียงคอ มองเขาอย่าขำๆ “ฉลอง? ทำไมเรื่องแบบนี้ก็ต้องฉลอง?”
“เพราะว่าฉันมีความสุข”
เจียงสื้อสื้อ ……
ข้ออ้างนี้ค่อนข้างง่ายและเอาแต่ใจ ทำให้รู้สึกพูดไม่ออกจริงๆ
“จะไปไหน?” เจียงสื้อสื้อถาม
“เธออยากไปไหน?” เพียงแค่เธออยากไป แม้แต่จุดสิ้นสุดของโลก เขาก็จะอยู่ข้างๆ
“อันนี้เหรอ…..” เจียงสื้อสื้อตั้งใจคิด ผ่านไปประมาณหลายสิบวิ ดวงตาเธอเป็นประกาย พูดอย่างตื่นเต้น “พวกเราไปต่างประเทศกันเถอะ เกาะไหนก็ได้”
“ได้ ฉันให้กู้เนี่ยนหาเกาะที่เงียบสงบและสวย รอเธอหายดีแล้ว พวกเราก็บินไป”
“สัญญาแล้วนะ อย่าพอถึงเวลาแล้วมีงานไปไม่ได้นะ”
เธอไม่มีปัญหา แค่กลัวว่าถึงเวลาแล้วเสี่ยวเป่าจะผิดหวัง
“ไม่หรอก ฉันจะวางแผนให้ดี หาเวลาว่างให้พวกเธอ”
เจียงสื้อสื้อยิ้มตาปิด “งั้นฉันก็วางใจแล้ว”
เธอรู้สึกคาดหวังการพักร้อน หวังว่าร่างกายจะหายดีเร็วๆ!