ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 328 เสี่ยวเป่า ใครสอนเธอ?
บทที่ 328 เสี่ยวเป่า ใครสอนเธอ?
บทที่ 328 เสี่ยวเป่า ใครสอนเธอ?
หน้าประตูวิลล่า รถเบนท์ลีย์สีดำจอดลงอย่างนิ่งๆ ร่างเล็กๆ กระโดดลงจากเบาะหลัง ไม่ทันปิดประตูก็รีบวิ่งเข้าวิลล่า
ใบหน้าเล็กแดงของเสี่ยวเป่าถามพ่อบ้าน “คุณลุงพ่อบ้านครับ หม่ามี๊ผมล่ะครับ?”
“เธออยู่ชั้นบนครับ”
เมื่อได้ยิน เขารีบวิ่งขึ้นไปชั้นบน
“คุณชายน้อย ช้าๆ สิครับ ระวังล้ม”
พ่อบ้านมองร่างเล็กที่วิ่งขึ้นชั้นบน ในใจตกใจ รีบตามขึ้นไป
ถ้าล้มขึ้นมา เขารับผิดชอบไม่ไหว
“หม่ามี๊!”
เสี่ยวเป่าผลักประตูห้องของเจียงสื้อสื้อ แต่ข้างไม่มีคนเลย
“หม่ามี๊ล่ะครับ?” เขาหันไปมองพ่อบ้านที่ตามขึ้นมา
“อยู่ที่ห้องสมุดครับ”
พ่อบ้านยังพูดไม่จบ เห็นเสี่ยวเป่าวิ่งไปทางห้องสมุด
“หม่ามี๊!”
คนยังไม่ถึง เสียงถึงก่อน
เจียงสื้อสื้อตกใจแล้วรีบลงมาจากตักของจิ้นเฟิงเฉิน
เสี่ยวเป่าวิ่งเข้าห้องสมุด เห็นเจียงสื้อสื้อ หน้าเล็กดีใจ รีบพุ่งไปหา
เจ้าตัวเล็กช่วงนี้อ้วนขึ้นอีกแล้ว เจียงสื้อสื้อถอยหลังหนึ่งก้าว แล้วกอดเขาให้แน่น
“หม่ามี๊ ในที่สุดคุณก็กลับบ้าน” เสี่ยวเป่าเงยหน้าขึ้นจากอ้อมกอดเธอ ดวงตากลมโตส่องประกายเพราะมีความดีใจ
“เสี่ยวเป่าคิดถึงหม่ามี๊ไหม?” เจียงสื้อสื้อยื่นมือไปหยิกแก้มเขา ถามด้วยรอยยิ้ม
“คิดถึงครับ!”
เสียงดังฟังชัด
ในใจของเจียงสื้อสื้อเต็มไปด้วยความสุข รอยยิ้มบนใบหน้ามากขึ้นกว่าเดิม
“ฉันก็คิดถึงเสี่ยวเป่า” เธอพูดอย่างอ่อนโยน
ไม่รู้เพราะการแท้งบุตรหรือเปล่า เธอรักเสี่ยวเป่ามากขึ้นเรื่อยๆ รักที่ลึกเข้าถึงไขกระดูก
เหมือนกับว่าเขาเป็นลูกที่ตัวเองคลอดออกมา
นึกถึงเรื่องนี้ แววตาเศร้าเล็กน้อย
เด็กคนนั้นน่าจะสูงเท่าเสี่ยวเป่าแล้ว
เสี่ยวเป่ายังเด็ก ไม่ได้สังเกตเห็นว่าเธอแปลกไป เขาถอดกระเป๋าที่สะพายไว้วางลงบนพื้น แล้วนั่งยองๆ บนพื้น หาของอะไรบางอย่างในกระเป๋า
“หาเจอแล้ว!”
เขาหยิบกระดาษขนาดเท่ากระดาษ A4 ออกมาจากกระเป๋า แล้วยกขึ้นสูงเหมือนถวายสมบัติ
“หม่ามี๊ ดูสิครับ นี่คือใบประกาศนียบัตร” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
เจียงสื้อสื้อรีบเก็บอารมณ์ รับใบประกาศนียบัตรจากมือเขา ดู เบิกตากว้างอย่างเซอร์ไพรส์ “รางวัลชนะเลิศอันดับที่หนึ่ง?”
“อื้มๆ ภาพวาดที่หม่ามี๊สอนผมวาดได้รางวัลครับ” สีหน้าเสี่ยวเป่าภูมิใจ
“เหรอคะ?” เจียงสื้อสื้อหอมแก้มเขาอย่างดีใจ แล้วลูบหัวเขาเบาๆ “เสี่ยวเป่าของพวกเราเก่งมาก”
เธอหมุนตัว ยื่นใบประกาศนียบัตรให้จิ้นเฟิงเฉินที่เงียบไป “นายดูสิ เสี่ยวเป่าได้รางวัล”
ตอนนี้ จู่ๆ เสี่ยวเป่าก็พูดขึ้นมา “แดดดี๊ก็อยู่เหรอครับ”
เจียงสื้อสื้อ ……
เขาไม่ได้สังเกตเห็นพ่อเขา
เธอมองไปที่จิ้นเฟิงเฉินอย่างเห็นใจ ใบหน้าเขานิ่งเรียบ ดูไม่ออกว่าอารมณ์ไหน
เขายักคิ้วเบาๆ “ไม่อยากได้รางวัลเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำว่ารางวัล เสี่ยวเป่ารีบพุ่งขึ้นไป ปีนขึ้นไปบนตักเขาด้วยความชำนาญ นั่งลงตรงข้ามเขา
“แดดดี๊ ผมชอบคุณที่สุดเลย”
จูบที่เต็มไปด้วยน้ำลายพิมพ์ไว้บนแก้มของจิ้นเฟิงเฉิน คิ้วคมขมวดเล็กน้อย
เพราะว่าเป็นลูกชายของตัวเองจึงไม่รังเกียจ ถ้าเป็นคนอื่นคงโยนไปไกลแล้ว
“เธอชอบฉัน?” จิ้นเฟิงเฉินมองเขาอย่างสงสัย
“อื้มๆ” เสี่ยวเป่าพยักหน้าแรงๆ
“แล้วหม่ามี๊เธอล่ะ?”
“หม่ามี๊……” เสี่ยวเป่าเอียงหัว ตั้งใจคิด แล้วพูดเสียงใส “ผมรักหม่ามี๊ที่สุดเลย”
“อุ๊บส์!”
เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “เจ้าตัวเล็ก เธอเข้าใจระหว่างชอบกับรักเหรอ?”
“เข้าใจสิครับ! รักก็คือชอบมากๆๆ”
เมื่อได้ยิน เจียงสื้อสื้อมองไปที่จิ้นเฟิงเฉิน ทั้งสองคนทำอะไรไม่ถูก
คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าเด็กน้อยจะรู้เยอะ
“งั้นเธอก็ชอบหม่ามี๊ที่สุดสิ ไม่ใช่ฉันนี่นา” จิ้นเฟิงเฉินพูดแล้วแกล้งโกรธ
“ไม่ใช่ครับๆ”
เสี่ยวเป่ารีบส่ายหัว “ผมชอบแดดดี๊ที่สุด รักหม่ามี๊ที่สุด”
“เธอบอกว่ารักก็คือชอบมากๆ ไม่ใช่เหรอ? งั้นก็แปลว่าชอบหม่ามี๊ที่สุดไม่ใช่เหรอ?”
จิ้นเฟิงเฉินทำเอาเสี่ยวเป่ามึนไปหมด
“ผม……ผม……” เสี่ยวเป่าอธิบายไม่ถูก กังวลจนเกือบจะร้องไห้
เมื่อเห็น เจียงสื้อสื้อมองแรงมาที่จิ้นเฟิงเฉิน แล้วปลอบเสียงเบา “เสี่ยวเป่าอย่ากังวล แดดดี๊แค่แกล้งเล่น เธอชอบแดดดี๊ที่สุดถูกแล้ว”
“จริงเหรอครับ?” สีหน้าของเสี่ยวเป่ากลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
เจียงสื้อสื้อยิ้ม “จริงค่ะ”
เจียงสื้อสื้อใช้สายตาเตือน จิ้นเฟิงเฉินจึงเก็บความคิดที่จะแกล้งเสี่ยวเป่า ถาม “เธออยากได้รางวัลอะไร?”
“น้องสาว”
เสี่ยวเป่าตอบเร็วมาก เหมือนกับว่าเตรียมคำตอบไว้นานแล้ว
จิ้นเฟิงเฉินและเจียงสื้อสื้อชะงัก แต่ก็ดึงสติกลับมาได้
“เสี่ยวเป่า ใครสอนเธอ?” จิ้นเฟิงเฉินถามด้วยสีหน้านิ่ง
“คุณอาครับ เขาบอกว่าถ้าผมมีน้องสาว ก็จะเล่นกับผม ไปโรงเรียนกับผม”
เจียงสื้อสื้อหน้ามืดลง “น้องชายนายอะไรก็สอนจริงๆ”
จิ้นเฟิงเฉินมองเธอ แววตากังวลเล็กน้อย เธอเพิ่งเสียลูกไป ตอนนี้ก็พูดถึงเรื่องมีลูก กลัวว่าเธอจะเสียใจ
ดูออกว่าเขากังวล เจียงสื้อสื้อกุมมือเขา พูดเสียงเบา “ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น”
เรื่องเมื่อตอนนั้น เธอยังผ่านมาได้ด้วยคนเดียว แล้วยังเจออะไรมาเยอะ เธอแข็งแกร่งขึ้นแล้ว
เธอพูดแบบนี้ เขาทุกข์ใจกว่าเดิม
“สื้อสื้อ……” เขามองเธออย่างทุกข์ใจ
เจียงสื้อสื้อยิ้ม “อย่าทำสีหน้าแบบนี้สิ ฉันไม่เป็นไรจริงๆ มีนายอยู่ข้างๆ ก็พอแล้ว”
จิ้นเฟิงเฉินกุมมือเธอ ทั้งสองสบตากัน ไม่ละออกจากกัน เหมือนกับว่าโลกนี้เหลือแค่พวกเขาสองคน
เสี่ยวเป่าที่โดนเมินไม่พอใจแล้วดิ้น “แดดดี๊ หม่ามี๊”
เสียงของเสี่ยวเป่าทำให้พวกเขารู้ตัวได้สำเร็จ
เจียงสื้อสื้อลูบหัวเขายิ้มแล้วพูด “เสี่ยวเป่า พวกเราเปลี่ยนรางวัลเป็นอย่างอื่น ดีไหม?”
“ผมอยากได้น้องสาว ไม่ได้เหรอครับ?”
“เสี่ยวเป่าเป็นเด็กดี อนาคตเดี๋ยวก็มีน้องสาว เปลี่ยนเป็นรางวัลที่เธออยากได้ตอนนี้ ดีไหม?”
เสี่ยวเป่างอปาก “แต่ผมอยากได้แค่น้องสาว”
เขาดื้อดึงตั้งแต่อายุยังน้อย
เจียงสื้อสื้อมองไปที่จิ้นเฟิงเฉินอย่างช่วยไม่ได้
“เสี่ยวเป่า พวกเราไปพักร้อน ไปเล่น ดีไหม?” จิ้นเฟิงเฉินถาม
เมื่อได้ยินคำว่าเล่น เสี่ยวเป่าดีใจทันที “ดีครับ ดีครับ แล้วพวกเราไปเล่นที่ไหนดี?”
“เธออยากไปไหนล่ะ?” เจียงสื้อสื้อถาม
“ดิสนีย์”
สิ่งที่เด็กๆ ชอบที่สุดก็คือสวนสนุกที่เต็มไปด้วยไร้เดียงสา
“ได้สิ” จิ้นเฟิงเฉินตกลง
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้วงง เขาจะไปเที่ยวเกาะไม่ใช่เหรอ? ทำไมเปลี่ยนเป็นดิสนีย์ล่ะ?
“พวกเราแวะดิสนีย์ตอนกลับประเทศ” จิ้นเฟิงเฉินพูด
“ลำบากหรือเปล่า?” เจียงสื้อสื้อกลัวว่าทุกคนจะเหนื่อย
“ไม่หรอก”
จิ้นเฟิงเฉินอุ้มเสี่ยวเป่า แล้วลุกขึ้น รอยยิ้มผุดขึ้นจากริมฝีปาก “ฉันคิดว่าพวกเราต้องออกไปซื้อของที่จะใช้ไปพักร้อน”
เมื่อได้ยินว่าจะออกบ้าน เสี่ยวเป่ากระโดดอย่างดีใจ “ผมจะไปเดินห้างสรรพสินค้า”
“ได้สิ” จิ้นเฟิงเฉินจูงมือเขา
“ฉันไปได้ไหม?” เจียงสื้อสื้อชี้มาที่ตัวเอง
แม่จิ้นบอกเธอไว้ อยู่เดือนเล็กพยายามออกบ้านให้น้อย
“ได้สิ แค่ไปห้างสรรพสินค้า”
เจียงสื้อสื้อยิ้มตาปิด “ดีจัง ฉันก็ออกบ้านได้แล้ว”