ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 340 คุณใจกล้ามาก
บทที่ 340 คุณใจกล้ามาก
เมื่อเธอมาถึงซูเปอร์มาร์เก็ต ส้งหวั่นชีงหยิบเหล้าไปสองสามขวด แต่เธอจะไม่ให้จิ้นเฟิงเหรา
ดื่ม เธอรู้ว่าเขาแค่อยู่เป็นเพื่อนตัวเอง แม้ว่าจิ้นเฟิงเหราจะเป็นคนไม่สนใจอะไร แต่เธอจะไม่ทำอะไรใจร้อน
ในฐานะเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ อย่างน้อยจรรยาบรรณในวิชาชีพก็ยังมีอยู่ เธอหยิบเครื่องดื่มมา1ขวดแล้วไปคิดตัง
หลังจากกลับมา ส้งหวั่นชีงก็ส่งเครื่องดื่มในมือของเธอให้จิ้นเฟิงเหราทำให้เขามองบนอย่างแรง
“ ตอนนี้คุณได้รับบาดเจ็บ คุณดื่มไม่ได้ คุณดื่มมันแทนเหล้าเป็นเพื่อนฉันเถอะ ” ส้งหวั่นชีงพูดและเปิดขวดเหล้ามา
จิ้นเฟิงเหราทำได้แค่ยอมรับ และหยิบเครื่องดื่มขึ้นมา แต่เขาก็รู้ตัวดีว่า เขาได้รับบาดเจ็บและต้องระวังหน่อย
มิฉะนั้นหากแม่ของเขารู้ว่าเขากินเหล้าในวันนี้ เขาจะต้องถูกตีตายแน่ๆ จิ้นเฟิงเหราคงไม่กล้าเอาชีวิตของเขามาเสี่ยง
ส้งหวั่นชีงที่อยู่ด้านข้างภายนอกดูเหมือนไม่มีอะไร แต่เธอก็ยังเหม่อลอยเล็กน้อย เมื่อจิ้นเฟิงเหราเห็นเช่นนี้เขาก็ยกเครื่องดื่มขึ้นและชนกับส้งหวั่นชีงและพูดอย่างเสียงดัง “ไชโยกับการที่คุณได้ออกมาจากผู้ชายเลวๆสักที !”
เธอรู้สึกขบขันกับคำพูดของเขา ส้งหวั่นชีงดื่มเหล้าคำแรกลงไป ก็สำลักขึ้นมา จิ้นเฟิงเหราอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อเห็นภาพที่เธอกระโดดเต้นขึ้นมา
ส้งหวั่นชีงจ้องมองเขา จากนั้นก็กลับไปนั่งลงอีกครั้ง เหล้านี้เข้าปากมีรสฝาดเล็กน้อยและตามด้วยรสเผ็ดเล็กน้อย แต่เมื่อชินแล้วเธอก็รู้สึกอุ่น ๆ ในท้องเล็กน้อย
สำหรับคนที่ไม่ค่อยสัมผัสแอลกอฮอล์อย่างส้งหวั่นชีงเธอรู้สึกแปลกใจเกี่ยวกับความรู้สึกตอนเมามากๆ เธอจึงดื่มทีละขวดด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง
จิ้นเฟิงเหรารู้ดีว่าวิธีการดื่มแบบนี้ไม่ดีต่อร่างกาย แต่ตอนนี้สำหรับส้งหวั่นชีงแล้วนี่อาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการระบายอารมณ์ของเธอ
แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ ส้งหวั่นชีงดื่มได้เยอะ มีขวดเปล่ามากมายอยู่ที่พื้น แต่ส้งหวั่นชีงยังดูโอเค เหมือนคนปกติ
ไม่คาดคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะดื่มเก่งขนาดนี้
แต่วินาทีถัดไปความคิดเขาก็ผิดไป
………
ส้งหวั่นชีงนอนตัวตรงอยู่บนพื้นโดยที่ยังถือขวดเหล้าไว้ในมือ ตอนนี้เธอแค่รู้สึกเวียนหัวและเมานิดหน่อย เธอไม่เคยมีความรู้สึกนี้มาก่อน และเธอไม่สามารถแยกได้ว่ามันคือความจริงหรือความฝัน
เมื่อเห็นเธอเป็นแบบนี้จิ้นเฟิงเหราก็รู้สึกปวดหัวกับเธอ
เขาพยุงเธอขึ้นจากพื้นด้วยขาที่เป๋ ส้งหวั่นชีงล้มลงในอ้อมแขนของเขา เธอลืมตาขึ้นและมองไปที่คนตรงหน้า เธอตบตีเขาและพูดอย่างคลุมเครือ
“จิ้น … จิ้นเฟิงเหรา ทำไมคุณกลายเป็นจิ้นเฟิงเหราหลายคน … เรอ… ”
จิ้นเฟิงเหราอดไม่ได้ที่จะทำหน้าเซ็งๆ กลิ่นแอลกอฮอล์พุ่งท่วมใบหน้าของเขา
“ คุณเมาแล้ว”
“ฉันไม่เมา ใครบอกว่าฉันเมา คุณดูสิว่าฉันยังยืนได้” ส้งหวั่นชีงยืนขึ้นโดย เพิ่งจะยืนขึ้นเธอก็ล้มลงอีกครั้ง จิ้นเฟิงเหราตกใจก็รีบเดินไปปกป้องศีรษะของเธอไว้ เพราะกลัวว่าเธอล้มไปโดน
ตอนนี้ส้งหวั่นชีงเมาเต็มที่แล้ว และเริ่มร้องไห้ขึ้นมา เธอทุบตีไปที่ไหล่จิ้นเฟิงเหราและร้องว่า “ทำไมฉันถึงเป็นคนที่ถูกทิ้ง ฉันก็อยากให้ใครสักคนมารักฉัน … ฉันก็อยากมีความรักที่สมบูรณ์แบบ ทำไมถึงไม่ถึงตาฉันสักที … ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด จิ้นเฟิงเหราก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้จะกระทบกับเธอจริงๆ
“ เรารู้จักกันมาสองปีแล้ว เขาบอกว่าจะแต่งงานกับฉัน แต่ทำไมเขาถึงไปหลงรักคนอีกคนได้ หรือว่าการมีอะไรกันมันสำคัญกับผู้ชายขนาดนั้นเลยหรือ?”
ส้งหวั่นชีงมองจิ้นเฟิงเหราด้วยสายตาที่งุนงง เธอคิดไม่ออกจริงๆว่าพวกเขาสองคนผ่านความยากลำบากมามากมายขนาดนี้ และพวกเขาจะพ่ายแพ้ให้กับสิ่งนี้ …..
“มันไม่สำคัญหรอก ตราบใดที่ผู้ชายคนหนึ่งรักคุณจริงๆ เขาจะไม่บังคับให้คุณทำในสิ่งที่คุณไม่ชอบ ดังนั้นฉันจึงดีใจแทนคุณที่ได้ออกมาจากผู้ชายเลวๆ” จิ้นเฟิงเหราตอบ
อันที่จริงเขาไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนี้อย่างไร ท้ายที่สุดเขาไม่เคยสัมผัสกับความรักที่ยากจะลืมเลือนเช่นนี้ และไม่รู้ว่าการตกหลุมรักใครสักคนเป็นอย่างไร
“แต่ฉันเศร้ามากเลยนะ ฉันเสียเวลาไปกับการคนเลวๆแบบนี้ ผู้ชายเลว!”
พูดไปส้งหวั่นชีงก็เริ่มอารมณ์รุนแรงขึ้น จินเฟิงเหรารีบกดเธอลงเพื่อป้องกันไม่ให้เธอทำอะไร
หลังจากเมาแล้วส้งหวั่นชีงก็เสียงดังขึ้นเล็กน้อย จิ้นเฟิงเหราชายร่างใหญ่นี้กลับสู้แรงเธอไม่ค่อยได้ โชคดีที่เธอเงียบหลังจากโวยวายอยู่เพียงครู่เดียว
แก้มของส้งหวั่นชีงที่กำลังหลับแดงก่ำและเธอก็พึมพำเป็นครั้งคราวขณะหลับ
จิ้นเฟิงเหราพูดไม่ค่อยออกกับภาพนี้ ผู้หญิงคนนี้นอนอยู่ที่นี่แล้วเรียกเขานี่ทำยังไงดี
เขามองไปรอบ ๆ แต่บังเอิญไม่มีใครอยู่รอบ ๆเลย เขาตบหน้าส้งหวั่นชีงและผู้หญิงคนนี้ก็ยืนไม่นิ่ง
เขาจึงทำได้แค่ยอมให้เธอพิงไหล่ของเขาและเดินกะเผลกกลับไป
ระยะทางนี้ใช้เวลาไม่นาน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้ที่มีอาการบาดเจ็บที่ขา โชคดีที่เขาอาศัยอยู่ในหอผู้ป่วยวีไอพีที่มีลิฟต์โดยตรง ไม่เช่นนั้นมันอาจจะฆ่าเขาได้จริงๆ
หลังจากกลับไปที่ห้องคนไข้จิ้นเฟิงเหรา โยนส้งหวั่นชีงลงบนโซฟาอย่างหมดแรง อยากจะนั่งหายใจสักหน่อย แต่ไม่คาดคิดผู้หญิงคนนี้ก็กลิ้งตกลงมา
ในตอนนี้จิ้นเฟิงเหรารู้สึกเพียงว่าผู้หญิงคนนี้ต้องถูกส่งมาจากสวรรค์เพื่อมาลงโทษเขาแน่ๆ
ส้งหวั่นชีงที่นอนอยู่บนพื้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและยังนอนกรนอีก
มันทำให้จิ้นเฟิงเหราหัวเสียจริงๆ เธอเมาแล้วเธอไม่ต้องสนใจอะไรเลย ปล่อยเรื่องวุ่นวายนี้ให้เขาจัดการ
หลังจากบ่นๆไปสักพัก จิ้นเฟิงเหราช่วยเธอยืนขึ้นจากพื้นและวางเธอลงบนเตียงด้วยความพยายามอย่างมาก ส่วนเขาต้องนอนลงบนโซฟา
สงสัยจะเมากลิ่นแอลกอฮอล์ของเธอ จิ้นเฟิงเหรารู้สึกเมาเล็กน้อย เขาจึงหาตำแหน่งที่พอดีและนอนหลับไป
ในระหว่างนั้นมีนางพยาบาลจะมาเปลี่ยนยา แต่จินเฟิงเหยาได้แขวนป้ายห้ามรบกวนไว้ที่ประตู พยาบาลก็เลยไม่ได้เข้ามา
คืนนั้นจิ้นเฟิงเหรานอนไม่สบายตัว และเกือบตกโซฟาหลังจากพลิกตัวหลายครั้ง
กลางดึกเขาลุกขึ้นไปดูส้งหวั่นชีงพยาบาลตัวน้อยนอนหลับสบาย
เขาอดไม่ได้ที่จะแกล้งเธอ จิ้นเฟิงเหราเกาจมูกเธอแรง ๆ ส้งหวั่นชีงไม่ตอบสนองใดๆ
เมื่อเห็นว่าเธอกำลังนอนหลับสนิท เขาก็เก็บความขี้เล่นกลับไป และกลับไปนอนที่โซฟา
วันรุ่งขึ้นหมอและพยาบาลมาตรวจการฟื้นตัวของ จิ้นเฟิงเหราเมื่อพวกเขาเห็นภาพในห้อง พวกเขาก็ตกใจ
คนไข้นอนโซฟา พยาบาลนอนบนเตียง …
ถ้าเรื่องนี้หลุดออกไปมันจะเกิดอะไรขึ้น…
พยาบาลเริ่มกระซิบกันและผู้อำนวยการเห็นเช่นนี้ก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไร
เสียงกระซิบของฝูงชนทำให้ส้งหวั่นชีงตื่นขึ้นมา เธอตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงงและเมื่อเห็นเพื่อนร่วมงานจำนวนมากยืนอยู่ตรงหน้า เธอก็ตกใจ
เมื่อหน้ามาก็เห็นว่าเธอกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงของจิ้นเฟิงเหราเธอก็ยิ่งตกใจ
ทุกคนมองกันไปมา มองหน้าซึ่งกันและกัน
…….
บรรยากาศเงียบมากสักพัก
ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมาอย่างกะทันหันว่า “ส้งหวั่นชีงคุณใจกล้ามากนะ กล้ามานอนบนเตียงผู้ป่วย!”