ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 378 ก็แค่อยากฆ่าเพื่อลักทรัพย์
บทที่ 378 ก็แค่อยากฆ่าเพื่อลักทรัพย์
หลังจากฟังสิ่งที่ ป๋ายหลี่พูด สายตาของจิ้นเฟิงเฉินก็หม่นมืดมาก สีหน้าที่เย็นชาอยู่แล้วก็เพราะว่าอารมณ์เสีย ทำให้สีหน้าของเขารู้สึกน่ากลัวมากขึ้น
แม้ว่าป๋ายหลี่รู้ตั้งนานแล้วว่าเขาเป็นคนอย่างไร แต่ในขนาดนี้ เห็นสายตาแบบนี้ของเขา ก็รู้สึกไม่ไหวและสั่น
คนอื่นล้วนว่ากันว่าคุณชายของคุณชายใหญ่ของตระกูลจิ้นยากที่จะเข้าหา ป๋ายหลี่รู้สึกเห็นด้วยในขณะนี้
เมื่อก่อนไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นคุณชายก็ล้วนไม่เป็นสีหน้าแบบนี้ ดังนั้นดูเหมือนว่าคุณหญิงมีความสำคัญมากในใจของเขา
ป๋ายหลี่ยังคิดไม่เสร็จเลย ก็ได้ยินจิ้นเฟิงเฉินพูด “กล้าทำแบบนี้กับคนของฉัน แม้ว่าเขาคือยมราช ก็ต้องจัดการกับเขา”
หลังจากที่เขาพูดเสร็จ ก็มองไปที่นอกหน้าต่างอย่างเย็นชาด้วย
นอกหน้าต่างก็มีลมที่เย็นๆพัดเข้ามาพอดี ทำให้คำพูดของเขารู้สึกน่ากลัวมาก
ป๋ายหลี่ฟังเขาพูดเสร็จก็ตอบอย่างรีบๆ “ครับ”
จิ้นเฟิงเฉินพูด “แกไปจับจ้องจี้เฉินไว้ให้ดี”
หลังจากป๋ายหลี่ได้รับคำสั่งก็เลยจากไป จิ้นเฟิงเฉินค่อยๆคลายมือที่กำแน่น และตาของเขาเหล่ขึ้นด้วย
จี้เฉิน ฉันจะลองดูว่า แกจะทำอะไร
นึกถึงแค่นี้ จิ้นเฟิงเฉินโทรออก พูดด้วยเสียงเบาๆ “กู้เนี่ย แกเข้ามาหาหน่อย”
กู้เนี่ยห่างจากนี่ไม่ไกล ไม่ถึงชั่วขณะ ก็เห็นเขามาอย่างรีบร้อน
“ประธานครับ เรื่องอะไรครับ”
“แกรู้ไหมว่าสตีเฟนกรุ๊ปมีธุรกิจอะไรอยู่ในประเทศไหม” น้ำเสียงของจิ้นเฟิงเฉินธรรมดามาก ดูเหมือนว่าความโกรธในเมื่อกี้ไม่ได้มาจากเขา
บริษัทนี้กู้เนี่ยรู้แน่นอน แต่ว่าเมื่อก่อนจิ้นเฟิงเฉินไม่เคยถามเขา “รู้ครับ สถานบันเทิงที่ชื่อว่าFindalล้วนเป็นธุรกิจของพวกเขาหมดครับ”
ได้ยินเขาพูดเสร็จ จิ้นเฟิงเฉินก็พูด “นั้นก็หาเรื่องสักหน่อยให้พวกเขา หากพวกเขาไม่รู้จะทำอย่างไรอีก ขับไล่พวกเขาออกไปเลย ไม่มีที่เหลือให้ต่อไป”
แม้ว่าไม่รู้ว่าจิ้นเฟิงเฉินทำไมทำแบบนี้ แต่กู้เนี่ยก็อยู่กับเขานานขนาดนั้นแล้ว รู้ว่าสไตล์ของเขาในการทำสิ่งต่างๆเป็นอย่างไร ก็เลยไม่ได้คิดว่าจะถาม “ครับ”
หลังจากกู้เนี่ยได้รับคำสั่ง จิ้นเฟิงเฉินโบกมือให้เขาออกไป จากนั้นเขาก็ทำงานอีกครั้ง ช่วงนี้งานก็เยอะ มีเรื่องที่เยอะมากรอเขาจัดการ พักไม่ได้จริงๆ
อยู่ดีๆก็ถึงเวลาเที่ยงโดยไม่รู้ตัว เวลาที่เจียงสื้อสื้อกับเสี่ยวเป่ามาหาจิ้นเฟิงเฉินไปกินข้าวก็เห็นเขาไม่ได้สังเกตเวลา ยังทำงานอยู่
เสี่ยวเป่าก็เข้าใจและไม่ออกเสียง พวกเธอเข้าไปอย่างเงียบๆ จิ้นเฟิงเฉินก็ยังไม่สังเกต
ผ่านไปแล้วประมาณ10นาที จิ้นเฟิงเฉินเงยหน้าขึ้นมามอง ก็เห็นทั้งสองคนเล่นมือถือในมุมสำนักงาน
ใจเขารู้สึกอุ่นๆ
ถ้าทุกวันที่เวลาทำงานเสร็จก็จะได้เห็นพวกเธอรอเขา ไม่ว่างานเยอะขนาดไหน ก็รู้สึกดี
“พวกเธอมาตอนไหน ทำไมไม่พูด” จิ้นเฟิงเฉินวางงานที่ทำอยู่ลงไป เดินไปหาพวกเธอ
เจียงสื้อสื้อก็เลยพูดอย่างรีบว่า “มาไม่นาน เห็นแกทำงานอยู่ ก็ไม่ได้ออกเสียง”
“ทีหลังมาแล้วก็เรียกเลย แค่งานเอง ไม่ได้สำคัญเท่าพวกคุณ”จิ้นเฟิงเฉินจมองพวกเธอด้วยความอ่อนโยน
เจียงสื้อสื้อยิ้มจางๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร
ขนาดนี้เสี่ยวเป่าไม่ไหวแล้ว “แด๊ดดี้ผมหิวข้าวแล้ว พวกเราไปกินข้าวที่ไหน”
จิ้นเฟิงเฉินถูหัวของเขา “เสี่ยวเป่าอยากกินที่ไหน”
“อยากกินร้านเปิดใหม่ที่โน่น เห็นตอนมาเมื่อกี้ ตกแต่งได้เท่มาก”เวลาที่เสี่ยวเป่าพูดเขาตื่นเต้นมาก
จิ้นเฟิงเฉินยิ้ม “แกก็รู้แล้วว่าจะไปไหม ทำไมยังถามแด๊ดดี้อีก”
เสี่ยวเป่ายิ้มอย่างเขินอาย จับมือของเขาเตรียมตัวจะไป
พวกเขาไม่ได้ซีเรียสเรื่องอาหารมาก ก็ฟังของเสี่ยวเป่าเลย
ครอบครัวทั้งสามคนก็ไปร้านอาหารกินข้าวกลางวัน อยู่ในห้อง เจียงสื้อสื้อพูดว่า “วันนี้ไม่มีงานอะไรเลย เวลาที่เลิกงานพวกเราไปโรงพยาบาลเยี่ยมเฟิงเหราาดีไหม”
แม้ว่าได้ยินข่าวว่าเขาสบายดี แต่ก็ยังอยู่โรงพยาบาล ถ้าไม่ไปเยี่ยมเขารู้สึกว่าไม่ค่อยจะเชื่อใจ
จิ้นเฟิงเฉินตอบ “ไม่ต้องแล้ว วันนี้เขากลับไปที่บ้านแล้ว”
ในขนาดนี้ ในวิลล่าส่วนตัวของจิ้นเฟิงเหราา
“ส้งหวั่นชีง แกทำเสร็จยัง”จิ้นเฟิงเหราากระตุ้นส้งหวั่นชีงขณะที่เล่นเกมอยู่บนโซฟา
“แกอย่ากระตุ้น เสร็จแล้วจะเอาไปให้ แกเล่นเกมไปก่อน”เมื่อเห็นคุณชายที่กำลังเล่นเกมอยู่บนโซฟาส้งหวั่นชีงก็รู้สึกพูดไม่ออก
สมองของตัวเองคือโดนประตูยับจริงๆ ถึงสัญญากับไอ้นี้มาดูแลเขา
เช้านี้ไอ้นี่จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว เพราะยังไงเขาก็รักษาอยู่โรงพยาบาลนานขนาดนี้ ดังนั้นเธอก็เลยมาส่งเขา
แต่ไม่ได้คิดว่าเขาพูดว่า “หวั่นชี ฉันคิดว่าฉันยังแย่อยู่ จะออกจากโรงพยาบาลได้ไง”
ส้งหวั่นชีงไม่ไหวเขาแบบนี้ เลยพูดตรงไปว่า“ต้องทำตามที่หมอบอก”
จิ้นเฟิงเหราาก็ไม่สามารถอยู่แต่ในโรงพยาบาล เพราะการแย่งชิงทรัพยากรสาธารณะก็เป็นปัญหา แต่…… ทำยังไงจะให้เธอดูแลตัวเองอีก
เห็นเขาเหมือนนึกได้และพูด “ฉันต้องหาคนดูแลมาดูแลฉันโดยเฉพาะ ฉันคิดว่าคุณได้อยู่ เอาไหม”
ส้งหวั่นชีงไม่ได้ตอบ
“วันละ 2 หมื่น” จิ้นเฟิงเหราาพูด
ส้งหวั่นชีงโดนใจ
เธอขาดเงินจริงๆ เงินเดือนที่สูงเช่นนี้หาได้ยากมาก แค่ดูแลคนเพียงคนเดียว ซึ่งมันง่ายกว่าการดูแลกลุ่มคนในโรงพยาบาลมาก
“ได้”
ดังนั้นส้งหวั่นชีงจึงเดินตามเขาไปที่บ้านพักส่วนตัวของเขา
“ฉันกระหายน้ำ ไปเอาน้ำมาให้ฉัน” ไอ้คุณชายที่บนโซฟาเริ่มกระตุ้นอีกครั้ง
ส้งหวั่นชีงก็ต้องหยุดสิ่งที่อยู่ในมือของเธอและไปเทน้ำให้เขา
ตอนแรกคิดว่ามันจะง่ายที่จะดูแลคนคนๆหนึ่ง แต่ตอนนี้ส้งหวั่นชีงรู้แล้วว่าความคิดนี้ของเธอนั้นผิดจริงๆ เธอไม่ได้หยุดทำงานแม้แต่สักพักเดียวในวันนี้เลย เธอเหมือนเป็นคนใช้ และไอ้จิ้นเฟิงเหราาก็ปัญหามากจริงๆ
ส้งหวั่นชีงนำน้ำขึ้นมาและพูดด้วยใบหน้างงงวย “เห็นได้ชัดว่าแกก็มีคนรับใช้ด้วย ทำไมแกถึงเรียกฉัน”
จิ้นเฟิงเหราาจิบน้ำแล้วคายออกทันทีด้วยความไม่พอใจ “มันร้อนมาก เทใหม่”
ส้งหวั่นชีงก็ต้องไปเทอีกแก้ว
จิ้นเฟิงเหราาพอใจแล้ว แล้วจึงพูดต่อ “เมื่อเช้านี้ยัดแอปเปิ้ลทั้งลูกเข้าในปากของฉัน และตอนนี้เทน้ำร้อนให้ฉันอีก ฉันคิดว่าแกอยากฆ่าฉันเพื่อลักทรัพย์จริงๆ”
ส้งหวั่นชีงไม่อยากคุยกับเขาเลยและพูดตรงๆว่า “ตอบคำถามที่ฉันถามก่อนหน้านี้”
“แน่นอนว่ามันต้องใช้อย่างคุ้มค่าไง เงินสองหมื่นต่อวันนะ”
ส้งหวั่นชีงพูดไม่ออก