ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 407 ความจริงแล้วบริษัทเป็นของเจียงสื้อสื้อ
- Home
- ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!
- บทที่ 407 ความจริงแล้วบริษัทเป็นของเจียงสื้อสื้อ
บทที่ 407 ความจริงแล้วบริษัทเป็นของเจียงสื้อสื้อ
ตระกูลหลานนั้นโทษเจียงนวลนวลที่ทำให้พวกเขานั้นได้รับความเสียหายทั้งหมด บอกว่าเป็นเพราะเจียงนวลนวล ถึงทำให้ตระกูลหลินนั้นตัดสินใจแบบนี้
หลานซือเฉินกับหลานเป่ยชวน ฉินซวนกำลังปรึกษาว่าจะรับมือกับตระกูลหลินยังไง
ตอนนี้ธุรกิจที่ตระกูลหลินกับตระกูลหลานที่ได้ร่วมลงทุนนั้นได้หยุดไปทั้งหมด แล้วก็ได้ถอนเงินลงทุนออกไปจากตระกูลหลาน ทำให้บริษัทของตระกูลหลานนั้นได้รับความเสียหายทางการเงินอย่างมาก บางโครงการที่ได้เริ่มทำนั้นต้องหยุดลงอย่างช่วยไม่ได้
“ฉันมีวิธีหนึ่ง” หลานเป่ยชวนคิดวิธีหนึ่งออก แล้วก็ได้มองหลานซือเฉินด้วยความลำบากใจ “แต่ลูกนั้นต้องทนหน่อยนะ แต่เพื่อชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล ลูกจะยอมไหม?”
“ลองว่ามาครับ?” หลานซือเฉินไม่ได้แสดงออกมาสนใจมาก
การถามกลับแบบนี้ เหมือนว่าจะเป็นการฟังหัวข้อบทสนทนาหนึ่ง ฟังไปนิดหน่อย ก็อยากจะฟังมันให้หมด กับหลานเป่ยชวนที่อยู่สายงานนี้มานาน แต่ก็ยังต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป
หลานเป่ยชวนเห็นว่าหลานซือเฉินนั้นเหมือนว่าอยากจะฟังต่อ ก็ได้กระแอมปรับเสียง ค่อยๆ พูดออกมาว่า “ไหนๆนังเจียงนวลนวลคนนั้นก็อยากจะแต่งเข้าตระกูลหลานของเรา งั้นก็ต้องยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อที่จะให้ชื่อเสียงของตระกูลหลานกลับมาได้”
อยู่ๆ ฉินซวนก็ได้ไอออกมา อยากจะเตือนหลานเป่ยชวน หลานเป่ยชวนเหมือนจะเข้าใจความคิดของฉินซวนเลยทันที พูดออกมาเสียงเบาว่า “คุณคิดอะไรอยู่เนี่ย”
จากนั้นก็พูดต่อว่า “สามารถให้เจียงเจิ้นนั้นยกตำแหน่งให้นาย แล้วนะก็ควบรวมกิจการทั้งสองเข้าด้วยกัน บริษัทของตระกูลเจียงนั้นสามารถทำให้บริษัทของพวกเราเดินงานได้ปกติ แล้วยังสามารถควบคุมคนของตระกูลเจียงได้ด้วย”
เป็นไปอย่างที่คิดแผนเก่าที่นักธุรกิจชอบใช้
หลานซือเฉินพยักหน้า เป็นการเห็นด้วยกับความคิดของหลานเป่ยชวน จากนั้นก็กวักมือ พูด “ตอนนี้โทรไปหาทนายเจี่ย ให้เขานั้นเอาสัญญาการควบรวมกิจการไปให้เจียงเจิ้น ต้องแสดงจุดยืนของตัวเองออกมา แพ้ไม่ได้”
คนใช้ข้างหลังที่ได้คำสั่งก็ได้รีบโทรไปหาทนายเจี่ย ให้เขานั้นได้ทำตามคำสั่งที่คุณชายสั่งมาให้เรียบร้อย
บ้านตระกูลเจียง
เจียงนวลนวลกับเจียงเจิ้นนั้นได้นั่งที่ห้องรับแขกด้วยกัน หมาน้อยขนสีขาวนั้นได้ถูกเจียงนวลนวลลูบขนอยู่บนตัก บางครั้งก็ได้เลียมือของเธอ
“ติ๊งต๊อง”
อยู่ๆ เสียงกริ๊งของประตูนั้นได้ดังขึ้น เจียงนวลนวลมองเจียงเจิ้น ใช้สายตาเป็นการถาม คนที่มากดกริ่งเป็นใคร
เป็นไปอย่างที่คิดว่าคิดเหมือนกัน เจียงเจิ้นนั้นได้เข้าใจความคิดที่เจียงนวลนวลจะสื่อ แต่ว่าเขานั้นไม่ได้มีตาทิพย์ ไม่รู้คนที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นใครกันแน่ ก็เลยทำได้แค่ส่ายหน้าเป็นการบอกว่า:ฉันไม่ได้เชิญใครมาบ้านของพวกเรา
“คุณท่านอยู่นี่ค่ะ”
คนใช้ในบ้านนั้นได้เชิญแขกที่ใส่เสื้อสูทนั้นมาที่ห้องรับแขก พ่อลูกของตระกูลเจียงนั้นได้เงยหน้าพร้อมกัน ผู้ชายคนนั้นก็ได้ชิงแนะนำตัวก่อน ว่า “ผมเป็นทนายที่ตระกูลหลานเชิญมาครับ เรียกผมว่าเสี่ยวเจี่ยก็พอ ครั้งนั้นก็ได้มาตามคำสั่งและงานคุณหลานที่มอบหมายมาครับ”
ได้ยินชื่อของหลานซือเฉิน ใจของเจียงนวลนวลนั้นก็ได้เต้นแรงทันที ถึงขั้นจินตนาการไปว่า นี่เป็นทนายที่หลานซือเฉินสั่งมาจัดการเรื่องการแต่งงานหรือเปล่า
“คุณหลานบอกว่า ถ้าอยากจะแต่งงานเข้าตระกูลหลาน ก็ต้องเสียสละเพื่อตระกูลหลาน” ทนายเจี่ยก็ได้เอาเอกสารขนาด A4ปึกหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเอกสาร คิดไว้ว่าจะอ่านเนื้อหาเอกสารข้างในให้ทั้งสองฟัง
เจียงเจิ้นรู้สึกว่าทนายเจี่ยคนนี้กับหลานซือเฉินนั้น ไม่ได้มาดี ได้ยินคำว่า “เสียสละ” สองคำนี้ออกมาจะปากทนายเจี่ย ก็ได้คิดมากเข้าไปอีก ถามออกไปว่า “เสียสละอะไร?”
แต่ใจของเจียงนวลนวลนั้นได้อยู่กับหลานซือเฉินทั้งหมด ไม่สนเลยสักนิดว่าหลานซือเฉินจะขออะไร ก็ได้โบกมือ พูดออกไปอย่างไม่ใส่ใจว่า “ก็แค่ร่วมหุ้นกันไม่ใช่เหรอ? เงินแค่นั้นตระกูลเจียงของพวกเรานั้นออกได้ ยังไงซะความรักของฉันนั้นก็มีครั้งเดียว……”
“เหอะๆ”
ทนายเจี่ยยิ้ม ได้จัดเอกสารใหม่ แล้วก็วางไว้บนโต๊ะชงชา ค่อยๆ ดันมันไปข้างหน้าของทั้งสอง “แต่น่าเสียดายที่คุณหนูเจียงนั้นเดาถูกแค่นิดเดียว การจะเป็นคุณนายของตระกูลหลานนั้น แค่นั้นมันไม่พอ……”
เจียงเจิ้นได้เอาเอกสารขึ้นมา เปิดไปหน้าแรก ตัวหนังสือที่ได้เพิ่มความหนานั้นได้ดึงดูดความสนใจของเขา สัญญาการควบรวมกิจการ
“ปึ้ง” สัญญานั้นก็ได้ถูกเจียงเจิ้นนั้นโยนไปบนโต๊ะทันที เจียงเจิ้นก็ได้รีบยืนขึ้น จ้องมองไปยังทนายเจี่ยที่อยู่ตรงหน้า นัยน์ตาเต็มไปด้วยความน่าสมเพช “นายคิดว่าฉันจะเซ็นสัญญาที่น่าขายหน้านี่เหรอ?”
“นี้จะนับว่าเป็นการขายหน้าได้ยังไง?”
ยังไม่รอให้ทนายเจี่ยพูด เจียงนวลนวลก็ได้ยืนขึ้นมา มือข้างหนึ่งนั้นได้ลูบไปที่หลังของเจียงเจิ้น น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความขอร้อง “กว่าที่หนูจะได้เจอความสุขของตัวเองนั้นมันยากนะคะ รอหนูเป็นคุณนายของตระกูลหลานแล้ว บริษัทบริษัทเดียวนับอะไร เดียวหนูสร้างออกมาสิบบริษัทให้พ่อเลย!”
เจียงนวลนวลนั้นได้พูดปลอบโยนเจียงเจิ้น พ่อเจียงนั้นหลับตาแล้วนั่งบนโซฟา หลีกเลี่ยงการเป็นลม
งานของทนายเจี่ยนั้นได้เสร็จแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะอยู่ที่นี่ต่อ ก็ได้กล่าวลากับทั้งสอง แล้วก็จากไป
สัญญาเล่มหนานั้นยังวางอยู่บนโต๊ะ สำหรับเจียงนวลนวลนั้นเป็นเหมือนภูเขาไฟที่ร้อน อยากจะกินเข้าไป แต่ก็กลัวว่าจะลวกปาก
“พ่อค่ะ พ่อทำไมไม่ยอม?” พอปลอบเจียงเจิ้นเสร็จ เจียงนวลนวลก็ได้ถามขึ้น “พ่อนั้นคิดว่าความสุขของหนูนั้นเทียบไม่ได้กับบริษัทเล็กๆ ใช่ไหม?”
เจียงเจิ้นส่ายหน้า ใบหน้านั้นได้หมดหนทาง ก็ทำอะไรเจียงนวลนวลไม่ได้ ไม่ว่ายังไงก็เป็นลูกของตัวเอง
“เธอนี่นะ ทำไมถึงได้ไปชอบคนตระกูลหลาน……”
เจียงเจิ้นตีน่องด้วยความโมโห ได้พูดออกไปด้วยความโกรธ “ฉันนั้นไม่ขอให้อีกฝั่งนั้นรวยเหมือนเรา แต่อย่างน้อยก็หาคนที่รักลูกสิ อย่าไปหลงในความรวยจนลืมตัวเองไป!”
“หนู……” เจียงนวลนวลได้ไปกำผ้าปูโต๊ะ ในใจนั้นได้สับสนอย่างบอกไม่ถูก “หนูก็แค่อยากจะทำเพื่อความสุขของหนู เลยลองดูสักครั้ง”
เจียงเจิ้นเลี้ยงเจียงนวลนวลมาหลายปี ก็ต้องเข้าใจความคิดของเจียงนวลนวลดี ไหนๆ ก็ชอบ งั้นก็ไม่ห้ามที่เธอจะไปไล่ตาม แต่ว่า……
“ถ้าเกิดอยากจะควบรวมกิจการ ความเป็นไปได้มันมีน้อย” เจียงเจิ้นคิดไปสักพัก ขนาดสัญญาก็ไม่ได้ดู ปล่อยมันวางอยู่บนโต๊ะ
เจียงนวลนวลก็ได้เข้าร่วมงานด้านนี้อยู่บ้าง เรื่องที่เกี่ยวกับการโอนบริษัทการควบรวมกิจการพวกนี้ ก็ได้เข้าใจอยู่บ้าง แต่ว่าความเป็นไปได้นั้นไม่น้อยนะ
“ทำไม?” ไม่คิดอะไรมาก เจียงนวลนวลก็ได้ถามออกไป
“มันไปเชื่อมโยนกับเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่ง……” เจียงเจิ้นถอนหายใจ เดิมคิดว่าจะเก็บความลับนี้ไปตลอด แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว จะไม่บอกกับเจียงนวลนวลก็ไม่ได้
เจียงเจิ้นก็ได้จริงจังขึ้น ทำให้เจียงนวลนวลรับรู้ถึงความสำคัญของความลับนี้ ไม่กล้าจะนอกเรื่อง ก็ได้นั่งดีๆ ฟังที่พ่อเจียงพูด
“บริษัทนี้เดิมทีเป็นของคุณปู่ของเจียงสื้อสื้อ ปีที่คุณปู่ของเจียงสื้อสื้อเสียนั้น เขาก็ได้แอบไปโอนหุ้นส่วนให้เจียงสื้อสื้อ เพราะงั้นตอนนี้ความจริงแล้วบริษัทนั้นเป็นของเจียงสื้อสื้อ ขอแค่เธอนั้นแต่งงาน ก็จะได้รับมอบหุ้นส่วน……”
เจียงนวลนวลอึ้ง งั้นก็หมายความว่า ที่จริงแล้วตอนนี้บริษัททั้งบริษัทนั้นเป็นของเจียงสื้อสื้อ
พอคิดได้ว่าเจียงสื้อสื้อนั้นได้แย่งของในบ้านกับเธอ ขนาดผู้ชายที่เธอชอบ เจียงสื้อสื้อก็ได้เข้ามาแย่งไป!
เมื่อก่อนหลานซือเฉินนั้นก็ได้เป็นว่าที่สามีของเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะหลานซือเฉินมองเธอทะลุปรุโปร่ง คาดว่าตอนนี้หลานซือเฉินได้นั่งเสียใจแน่ๆ!