ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 43 แอบเจอหน้ากัน
บทที่ 43 แอบเจอหน้ากัน
“ทำไมกัน?”
จิ้นเฟิงเหราตกใจ เมื่อก่อนยังดีๆ อยู่เลย ทำไมไม่ไปมาหาสู่กันแล้ว?
หรือว่าความมีเสน่ห์ของพี่ชายของเขาลดลงจนถึงระดับนี้แล้ว?
จนกระทั่งพี่สะใภ้จะตัดขาดความสัมพันธ์กับเขาแล้ว ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะรุนแรงมาก! ไม่น่าล่ะงั้นนี้พี่ชายของเขาเหมือนกินระเบิดเข้าไปอย่างนั้น
จิ้นเฟิงเฉินไม่พูดไม่จา ดับก้นบุหรี่ลง และค่อยๆ พูดว่า “บางทีอาจจะเกี่ยวกับเรื่องในอดีตของเธอ”
“อดีต?” จิ้นเฟิงเหราเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “อดีตอะไรกัน?” จิ้นเฟิงเฉินเอาเรื่องคร่าวๆ ของเมื่อคืนเล่าให้ฟัง
จิ้นเฟิงเหราได้ยิน ลุกขึ้นและพูดออกมาทันที “พี่ วางใจเถอะ เรื่องนี้ผมรับผิดชอบเอง ผมจะไปตรวจสอบให้ว่าเรื่องอดีตของพี่สะใภ้เกิดอะไรขึ้น”
พูดไป จิ้นเฟิงเหรากำลังจะออกไป กลับถูก จิ้นเฟิงเฉินขวางไว้
“ไม่ให้ไป ถ้าพี่ไม่อนุญาต ไม่ต้องไปตรวจสอบเธอ”
ในใจ จิ้นเฟิงเหราเต้น แต่ว่าเมื่อสืบก็สืบหมดแล้ว ลังเลไปหมด เขายังพูดว่า “พี่ ความจริงเมื่อก่อนผมสืบเรื่องบ้านและอดีตของพี่สะใภ้แล้ว”
จิ้นเฟิงเฉินค่อยๆ เลิกคิ้วขึ้น
“อดีตของพี่สะใภ้ก็ไม่ได้มีอะไร เพียงแต่…..หกปีก่อน เธอหายตัวไปหนึ่งปี เหมือนกับมีน้อยคนที่รู้ ว่าปีนั้นเธอไปทำอะไร ตอนนั้นผมไม่ได้สนใจ ก็เลยไม่ได้สืบอย่างละเอียด”
ได้ยินแบบนี้ แววตาของ จิ้นเฟิงเฉินเป็นประกาย
เธอหายตัวไปหนึ่งปี?
ดูเหมือนตอนนี้ เจียงสื้อสื้อไม่ยอมไปแตะเรื่องราวในอดีตนั้น หรือว่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากการหายไปในปีนั้น
จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้พูดอะไรออกมา จิ้นเฟิงเหราพูดอีกครั้ง “พี่ ถึงแม้เรื่องนี้จะมีคนรู้ไม่เยอะ แต่ถ้าหากจะสืบต่อ ก็ยังหาข้อมูลออกมาได้”
วิธีการของตระกูลจิ้นร้ายแรง ไม่มีเรื่องอะไรที่พวกเขาค้นหาไม่เจอ
สีหน้าของ จิ้นเฟิงเฉินลุ่มลึก พูดอย่างเย็นชาว่า “ไม่อนุญาตให้ค้น”
จิ้นเฟิงเหราตกใจจนนิ่งอึ้งไป มองสีหน้าพี่ชายของเขาและไม่กล้าพูดอะไรออกมา
“ได้ได้ได้ พี่บอกไม่ค้นก็ไม่ค้น”
เขาไม่เข้าใจจริงๆ ท่าทางพี่ชายเขาเหมือนจะแปลกใจกับอดีตของพี่สะใภ้ แต่ว่าทำไมไม่ให้เขาไปค้นกันนะ?
ค้นออกมาและจัดการปัญหาก็สามารถคืนดีกันได้แล้ว?
ความรักของแบบนี้นะ ทำให้คนสัมผัสไม่ได้จริงๆ
“งั้นไม่สืบ พี่กับพี่สะใภ้จะทำยังไง? ก็จะเย็นชากันแบบนี้…..” จิ้นเฟิงเหราถามด้วยความระมัดระวัง
พูดจบ เขาก็สังเกตเห็นสายตาที่อันตราย จิ้นเฟิงเหราจู่ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองพูดผิดไปแล้ว
“พี่ ผมผิดไปแล้ว ผมยังมีธุระ ไปก่อนนะครับ”
หลังจากพูดจบ จิ้นเฟิงเหราก็ออกจากห้องทำงาน กลัวว่าถ้าไม่ระวังจะทำให้ คุณชายใหญ่ที่อกหักอยู่โมโห
แต่ว่ายังดีที่รู้ว่าเหตุผลที่พี่เขาอารมณ์ไม่ดี มาถึงหน้าประตู จิ้นเฟิงเหราก็โทรศัพท์หา ซูซาน
“ซูซาน วันนี้การทำงานของ เจียงสื้อสื้อเป็นยังไงบ้าง?”
เมื่อกี้ ซูซานเพิ่งกลับมาห้องทำงานเจอ เจียงสื้อสื้อ ได้ยินแบบนี้ ก็รายงานว่า “คุณชายรองคุณเจียงทักอย่างเป็นปกติ”
ทุกอย่างเป็นปกติ……
จิ้นเฟิงเหราไม่วางใจ ถามขึ้นอีกว่า “งั้นอารมณ์ของเธอเป็นยังไง? ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ดีมาก?”
ซูซานสับสน หน้าเหยเกพูดออกมาว่า “ไม่มีนะคะ!”
ได้ยินแบบนี้ จิ้นเฟิงเหราก็วางสายโทรศัพท์อย่างกลัดกลุ้ม เขาเอามือกุมหัว
พี่สะใภ้ปกติทุกอย่าง พี่ชายเขากลับเหมือนเป็นบ้า
ตอนนี้จะทำยังไงดี?
……
ต่อมาไม่กี่วัน วันที่ผ่านไปของ เจียงสื้อสื้อเงียบเหงาอย่างมาก เธอไม่ได้เจอเสี่ยวเป่าและ จิ้นเฟิงเฉินอีก คนใน ตระกูลเจียงและคนใน ตระกูลหลานก็ไม่ได้มาหาเธออีก
ก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องทุกอย่าง ก็เหมือนกับความฝันหนึ่งฉาก เจียงสื้อสื้อคิดว่า ทุกวันหลังจากนี้อาจจะผ่านไปแบบนี้
ใครจะรู้ว่าวันนี้ เมื่อเธอเลิกงานจากบริษัทลงมาถึงข้างล่าง ก็เห็นเงาเล็กๆ วิ่งมาหาตัวเอง
“น้าสื้อสื้อ!”
เสียงที่คุ้นเคยดังเข้ามาในหู เจียงสื้อสื้อนิ่งอึ้งไป เธอก้มหน้ามองเด็กน้อยที่กอดขาของเธออยู่ ตอนนี้ดวงตาก็แดงขึ้นมา
คือเสี่ยวเป่า
หลังจากเจียงสื้อสื้ออึ้งไปสักพัก ถึงคุกเข่าลงมามองเด็กน้อยที่อยู่ข้างหน้า
เด็กน้อยสะพายกระเป๋า เหมือนเพิ่งเลิกเรียน สีหน้าของเขาทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจ ดูเหมือนว่าเขาจะผอมลงมาบ้าง
“เสี่ยวเป่า เธอมาได้ยังไง? เธอ….. แด๊ดดี้พามาเหรอ?”
เสี่ยวเป่าอยู่นี่? จะพูดว่า จิ้นเฟิงเฉินก็มาได้ไหมนะ
เจียงสื้อสื้อมองไปรอบๆ จู่ๆ ก็ตื่นตระหนก
เสี่ยวเป่าส่ายหน้า “ไม่ใช่ครับ แด๊ดดี้แย่มากเลย ไม่ให้ผมเจอ น้าสื้อสื้อ ยังส่งผมไปหาคุณปู่คุณย่าอีก ผมคิดถึงคุณมาก น้าสื้อสื้อก็ไม่มาหาผม ผมเลยมาเองคนเดียว”
พูดไปพูดมา เสียงของเสี่ยวเป่าก็เปลี่ยนเป็นสะอึกสะอื้น
เขากอดคอ เจียงสื้อสื้อไว้แน่น พูดเสียงเล็กๆ “แด๊ดดี้บอกว่า น้าสื้อสื้อยุ่งมาก หลังจากนี้จะไม่มาหาผมอีกแล้ว เสี่ยวเป่าเสียใจมากเลยครับ
น้าสื้อสื้อ หลังจากนี้เสี่ยวเป่าจะไม่รบกวนเวลาทำงานของคุณ ถ้าคุณมีเวลามาหาผมหน่อยได้ไหมครับ? อยู่เป็นเพื่อนผมสักพักก็ได้!”
คำพูดนุ่มนิ่มของเสี่ยวเป่าดังขึ้นมา ในตอนนี้ เจียงสื้อสื้อรู้สึกเพียงใจตัวเองกำลังแตกสลาย ความรู้สึกทรมานก็เกิดขึ้นในหัวใจ
แต่ว่า เธอจะใจอ่อนไม่ได้
ถึงแม้ใจจะทนไม่ไหว แต่เจียงสื้อสื้อยังพูดว่า “เสี่ยวเป่า ขอโทษนะ ช่วงนี้น้ายั่งมากๆ เลย เธอรีบกลับบ้านไปเถอะ! ไม่งั้นคนในบ้านจะกังวลเอานะ”
ในเมื่อพูดไปแล้วว่าไม่ต้องเจอกันอีก เธอคงก็ไม่เจอเสี่ยวเป่าอีก
แต่ว่าไม่ง่ายเลยที่เสี่ยวเป่าจะได้เจอ เจียงสื้อสื้อ จะจากไปง่ายๆ ได้ยังไงกัน?
เขายังกอด เจียงสื้อสื้อแน่นไม่ยอมปล่อย
“ไม่ครับ ผมไม่ไป น้าสื้อสื้อ คุณไม่คิดถึงเสี่ยวเป่าเลยสักนิดเหรอครับ คุณไม่ชอบผมแล้วใช่ไหม……”
จู่ๆ ใบหน้าของเด็กน้อยก็เปลี่ยนเป็นน้อยใจ
เจียงสื้อสื้ออธิบายอย่างเร่งรีบ “ไม่ไม่ไม่ จะเป็นไปได้ยังไง? น้าคิดถึงเสี่ยวเป่าทุกวัน ชอบเสี่ยวเป่าที่สุดแล้ว”
เสี่ยวเป่าถอนหายใจ ดีจังเลย น้าสื้อสื้อยังคงชอบผมอยู่ สักพัก เขาก็ถามขึ้นว่า “งั้นผมอยู่ด้วยได้ไหม?”
“ไม่ได้”
เจียงสื้อสื้อปฏิเสธ เสี่ยวเป่ายังอยู่ที่นี่ไม่ไปไหน สักพัก จิ้นเฟิงเฉินต้องมาหาเขาแน่ๆ ถึงตอนนั้นคิดว่าจะหลบหน้าไม่ได้แน่ๆ
เธอ ไม่มีวิธีเจอหน้าเขา
ได้ยินแบบนี้ สีหน้าของเสี่ยวเป่าพังทลายลงมา มองเห็นเบ้าตามีน้ำตาออกมาอีกรอบ เจียงสื้อสื้อแก้คำอย่างเร่งรีบ “แต่ว่าเสี่ยวเป่าอยู่กินข้าวเย็นได้ แต่ว่าต้องตกลงกับน้า หลังจากกินเสร็จจะกลับบ้านอย่างเชื่อฟัง”
“ครับครับครับ ผมตกลง น้าสื้อสื้อ”
เสี่ยวเป่าพยักหน้าอย่างดีใจ ดึง เจียงสื้อสื้อเดินขึ้นไปบนตึก เหมือนกลัวว่าวินาทีถัดไปเธอจะเปลี่ยนใจ
ในใจของ เจียงสื้อสื้อไม่รู้ว่าจะยิ้มหรือร้องไห้ดี เธอถอยหลังกลับ เพียงแค่ไม่ต้องเจอ จิ้นเฟิงเฉิน แค่แอบเจอเสี่ยวเป่าก็ได้
ไม่ไกลจากบริษัทหลังจากที่คนสองคนจากกัน หมุนตัวกลับไป จิ้นเฟิงเฉิน หมุนตัวกลับไปที่บ้านพักก็โทรศัพท์ขึ้นไป น้ำเสียงที่เคารพนับถือรายงานว่า “ท่านประธานครับ คุณชายน้อยไปกับ คุณเจียงแล้วครับ”