ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 44 ข่มขู่
บทที่ 44 ข่มขู่
จิ้นเฟิงเฉินตอบอืมนิ่งๆ หลังจากนั้นก็บอกว่า “หลังจากกินอาหารค่ำเสร็จ ก็รับเสี่ยวเป่ากลับมา”
“ครับ ท่านประธาน”
หลังจากที่วางสายโทรศัพท์ จิ้นเฟิงเหราที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็หยอกล้อขึ้น “เหอะ พี่ โหดเหี้ยมพอจริงๆ แม้แต่ลูกชายตัวเองยังใช้งานได้”
ไม่กี่วันนี้พี่ชายเขาไม่ทำอะไรเลย จนทำให้ จิ้นเฟิงเหราคิดว่า พี่ชายเขาจะเป็นแบบนี้ต่อไป…..ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะกังวลใจเกินไป
จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้พูดอะไรออกมา
“พี่ พี่ดูในใจของพี่สะใภ้เสี่ยวเป่าสำคัญขนาดไหน! และพี่ล่ะ……ยังต้องออกแรงเพิ่มอีกนะ!” คุณชายรองจิ้นรนหาที่ตาย
จิ้นเฟิงเฉินมอง จิ้นเฟิงเหรา อย่างเย็นชา ริมฝีปากบางพูด “หยุดพักสามเดือนไม่เอาแล้วใช่ไหม?”
จิ้นเฟิงเหราตกใจจนนั่งหลังตรงอยู่บนเก้าอี้ รีบโบกมือ
“ไม่ไม่ไม่ พี่ ผมล้อเล่น ในใจของพี่สะใภ้พี่ต้องสำคัญที่สุดแน่ๆ”
“ไสหัวไป”
“ได้ครับ พี่ ไม่รบกวนแล้ว” จิ้นเฟิงเหราหยิบเสื้อคลุมจากโซฟาและลุกขึ้น สักพัก เหมือนกับคิดอะไรออกมา
“ใช่สิ พี่ครับ พี่ให้คนขับรถไปส่งเสี่ยวเป่าหาพี่สะใภ้ พ่อแม่รู้ไหมครับ?”
ไม่กี่วันนี้เสี่ยวเป่า อยู่กับ คุณหญิงจิ้นและคุณท่านโดยตลอด
พูดจบ ในประตูก็มีเสียงเร่งๆ รีบๆ ดังขึ้น
“เฟิงเฉิน เสี่ยวเป่าล่ะ? ทำไมเลิกเรียนนานขนาดนี้แล้วยังไม่กลับมา หรือว่ามาหาลูกที่นี่แล้ว?”
เป็น คุณท่านจิ้นและคุณหญิงจิ้นที่มา
ทั้งสองคนอยู่ที่บ้านรอเสี่ยวเป่าตั้งนานก็ไม่กลับมา ก็เลยรีบมาหา จิ้นเฟิงเฉินที่นี่
จิ้นเฟิงเฉินลนวดหว่างคิ้ว ทำไมลืมพ่อแม่ไปได้นะ
คุณหญิงจิ้นกวาดสายตามองไปทั่วบ้าน ถามอย่างกังวล “นี่ก็ยังไม่เห็นเงาของเสี่ยวเป่า! หรือว่าอยู่ในห้องใช่ไหม?” พูดไป คุณหญิงจิ้นก็เดินไปทางห้องนอน
จิ้นเฟิงเฉินเปิดปากพูด “แม่ เสี่ยวเป่าไม่ได้อยู่ที่นี่”
“ห๊า? ไม่อยู่กับแกที่นี่! งั้นเขาไม่ไหนแล้ว เลิกเรียนตั้งนานแล้วยังไม่กลับมา คนขับรถก็ไม่รับโทรศัพท์ คงไม่ใช่เพราะเกิดเรื่องอะไรแล้วใช่ไหม?”
สีหน้าของ คุณหญิงจิ้นเร่งรีบ มองเห็นเธอกำลังจะโทรศัพท์แจ้งตำรวจ
จิ้นเฟิงเฉินรีบพูดปลอบ “พ่อ แม่ เสี่ยวเป่าอยู่กับเพื่อของผม เขาปลอดภัยดี ทุกคนไม่ต้องกังวล ไม่นานคนขับรถก็จะส่งเสี่ยวเป่ากลับมา”
พอ คุณหญิงจิ้นได้ยิน ในใจก็สงบลง
เดี๋ยวก่อน……เพื่อน?
เธอเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงมีความสงสัย
“คือเพื่อนผู้หญิงครั้งที่แล้วคนนั้น? พวกเธอพัฒนาความสัมพันธ์กันยังไงบ้าง? พัฒนาไปถึงขั้นไหนแล้ว? จะพามาให้พวกเราเจอตอนไหน!”
พูดถึงตอนสุดท้าย คุณหญิงจิ้นดวงตาเป็นประกาย เธอใกล้จะมีลูกสะใภ้แล้วใช่ไหม?
จิ้นเฟิงเหราเม้มปากไม่พูด
พัฒนาถึงขั้นไหนแล้ว? ยุติการไปมาหาสู่กันเรียบร้อยแล้ว……
“เด็กคนนี้นี่ พูดแล้วจะเป็นอะไรไป?”
คุณหญิงจิ้นเห็นเขาไม่พูด ก็รีบร้อนขึ้นมา
คุณท่านจิ้นก็พูดต่อ “เสี่ยวเป่าอยู่กับเธอที่นั่น แล้วแกอยู่นี่ได้ไง? ไม่งั้นก็ให้คนไปรับพวกเขากลับมา ให้พ่อและแม่แกได้เจอ”
“ใช่สิใช่สิ ลูกสะใภ้ของฉัน หน้าตาเป็นยังไงบ้าง? ที่ทำให้ลูกชายและหลานชายชอบได้ขนาดนี้ รีบโทรศัพท์หาคนขับรถ……”
คุณท่านจิ้นก็พูดต่อ “ใช่สิ ถ้าหากชอบจริงๆ ก็รีบพามาให้พวกเราเจอ”
จิ้นเฟิงเหรานั่งพิงอยู่บนโซฟาฟังอย่างสนุกสนาน ยิ้มเล็กๆ และพูดว่า” พ่อครับ แม่ครับ พวกคุณอย่าพยายามเลย ลูกสะใภ้คนนี้หมดโอกาสแล้ว หนีไปแล้ว เสี่ยวเป่ากำลังพยายามช่วยเขาอยู่ครับ!”
จิ้นเฟิงเฉินจ้อง จิ้นเฟิงเหราอย่างเย็นชา
พอ คุณหญิงจิ้นได้ยิน ก็ร้อนใจขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น? เฟิงเฉิน แกทำให้ผู้หญิงคนนั้นโกรธจนหนีไปแล้วงั้นเหรอ?”
จิ้นเฟิงเฉิน “แม่ ผมเปล่านะครับ”
“งั้นก็ต้องมีความสัมพันธ์กับแกแน่ๆ แม่จะบอกให้ ไม่ต้องเอาหน้าเดียวใส่ผู้หญิง ต้องอบอุ่น และต้องและต้อง……”
คำกำชับของ คุณหญิงจิ้นดังเข้ามาในหู จิ้นเฟิงเฉินคลึงหว่างคิ้วอย่างจนใจ
……
ฝั่งนี้ หลังจากที่ เจียงสื้อสื้อทำอาหารค่ำเสร็จก็ยกขึ้นมาบนโต๊ะ หลังจากนั้นก็ตักข้าวให้เสี่ยวเป่า
แววตาของเสี่ยวเป่าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ทานอาหารค่ำอย่างเอร็ดอร่อย
“นี่เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดที่ผมทานเมื่อไม่กี่วันนี้”
เจียงสื้อสื้อยิ้มออกมา “ชอบก็กินเยอะๆ”
“ครับ!”
ก็แบบนี้ แต่ก่อนแค่ยี่สิบนาทีก็กินอิ่มแล้ว แต่เพื่อได้อยู่กับ เจียงสื้อสื้อ เสี่ยวเป่าชักช้าถึงสี่สิบนาที
วางชามตะเกียบลง เสี่ยวเป่าพูดอย่างออดอ้อน “น้าสื้อสื้อ เสี่ยวเป่าเพิ่งกินอิ่มไม่อยากขยับ ผมขอ……”
“ไม่ได้” เจียงสื้อสื้อรู้ดีว่าเสี่ยวเป่าคิดอะไรอยู่ แต่ว่าเธอจะใจอ่อนต่อไปไม่ได้แล้ว
“เสี่ยวเป่า เธอลืมแล้วเหรอว่าเมื่อกี้สัญญากับน้าว่าอะไร?”
เสี่ยวเป่าถอนหายใจออกมา เขารู้ว่าคืนนี้ตัวเองอยู่ที่นี่ไม่ได้
“งั้น น้าสื้อสื้อ หลังจากนี้ผมยังมาอีกได้ไหม?”
เสี่ยวเป่าจ้องมองเธอ ใบหน้าตั้งตารอคอย
น้าสื้อสื้ออดไม่ไหว ทำได้แค่พูดว่า “เธออยากมาก็มาเถอะ!”
ถึงแม้ตัวเองไม่อยาก แต่คิดว่าคงหลบไม่ได้
เสี่ยวเป่าได้ยินแบบนี้ ก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจทันที
“น้าสื้อสื้อดีที่สุดแล้วครับ”
ผ่านไปสักพัก เสี่ยวเป่าและ เจียงสื้อสื้อก็คุยกันไปสักพัก และจากกันอย่างอาลัยอาวรณ์
เจียงสื้อสื้อมาส่งเขาข้างล่างตึก มองเห็นเสี่ยวเป่าถูกคนขับรถพากลับไป ในตอนนี้หัวใจของเธอก็สับสน ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอและ จิ้นเฟิงเฉินไม่นานก็ต้องเจอกันเพราะเสี่ยวเป่า ทำไมตัวเองถึงใจร้ายไม่ลงนะ
เจียงสื้อสื้อสับสนวุ่นวาย กลับมาบนตึก กำลังจะปิดประตูลง ก็มีมือมาขว้างเธอ
ใคร?
เจียงสื้อสื้อตกใจ หมุนตัวกลับถึงรู้ว่า เจียงเจิ้นมา เรื่องไม่กี่วันก่อนเหมือนกับยังชัดเจนอยู่เลย สายตาของ เจียงสื้อสื้อเย็นชาขึ้นมา
เธอมองไปรอบๆ ไม่มีบอดี้การ์ด เธอถึงถอนหายใจออกมา พูดออกมาด้วยเสียงเย็นชา “คุณเจียงดึกขนาดนี้แล้วคุณมาทำไม?”
สีหน้าของ เจียงเจิ้นหมองคล้ำ พูดตำหนิ “เจียงสื้อสื้อ ฉันเป็นพ่อของแก หรือว่าแกไม่ควรจะเชิญฉันเข้าไปนั่งข้างใน?”
“ขอโทษค่ะ ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ มีอุระก็รีบพูด”
สีหน้าของ เจียงเจิ้นไม่น่าดู และก็ไม่ได้ยืดเยื้อต่อ ก็เลยพูดจุดประสงค์ของตัวเองออกมา
“เจียงสื้อสื้อ พ่ออยากให้แกช่วยหาวิธีติดต่อ จิ้นเฟิงเฉิน ให้ เจียงซื่อกรุ๊ปและจิ้นกรุ๊ปร่วมมือกัน”
โครงการนี้ เจียงซื่อกรุ๊ปและหลานซื่อกรุ๊ปร่วมกันลงทุน
เมื่อก่อนพวกเขาลงทุนเงินไปไม่น้อย โครงการนี้ก็ยังไม่พัฒนา ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ความเสียหายยากจะจินตนาการ ตอนนี้ก็มีเพียงต้องร่วมมือกับ จิ้นกรุ๊ป……
หลังจากวันนั้น ท่าทางโมโหของ จิ้นเฟิงเฉินก็ทำให้ คนในตระกูลเจียงตกใจจนหมด ดังนั้นเงียบไปสักพัก เพื่อโครงการนี้ เจียงเจิ้นทำได้แค่มาหา เจียงสื้อสื้ออีกครั้ง
ได้ยินแบบนี้ เจียงสื้อสื้อก็พูดเสียงเย็นชาออกมา “คุณเอาอะไรมาคิดว่า ฉันจะช่วยคุณ?”
แต่ละครั้ง ตระกูลเจียงทำเรื่องเกินไปกับเธอตั้งมากมาย เจียงเจิ้นยังมีหน้ามาขอความช่วยเหลือจากเธออีก?
เจียงสื้อสื้อรู้สึกว่ามันน่าขัน
สายตาของ เจียงเจิ้นลุ่มลึก และพูดออกมาว่า “ก็เพราะว่าฉันเป็นพ่อของแก”