ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 451 มอบของขวัญอันใหญ่ยิ่งให้เธอ
บทที่ 451 มอบของขวัญอันใหญ่ยิ่งให้เธอ
ตอนที่แม่จิ้นออกจากร้านกาแฟ สีหน้าไม่ค่อยดี
คำพูดสุดท้ายของเซิ่งจือเสี้ย ทำให้อารมณ์ของเธอค่อนข้างหนักแน่น ถ้าหากผลสุดท้ายที่เธอรอมา มันไม่ดั่งที่เธอหวัง เธอจะเต็มใจรับหรือเปล่า?
เรียกรถกลับถึงบ้าน ทั้งวันแม่จิ้นล้วนเหมือนมีเรื่องหนักอกหนักใจ
ตอนกลางคืน จิ้นเฟิงเฉินกลับมาแล้ว คนในครอบครัวนั่งล้อมวงกัน กินอาหารมื้อเย็นมื้อหนึ่งอย่างมีความสุข
แม่จิ้นเห็นระหว่างลูกชายและสะใภ้มีความรักใคร่ต่อกันมาก ยิ่งรู้สึกยากที่จะพูดออกมา
หลังจากกินข้าวเสร็จ ฉวยโอกาสที่เจียงสื้อสื้อกลับห้องไปอาบน้ำ แม่จิ้นเรียกจิ้นเฟิงเฉิน พ่อจิ้นและจิ้นเฟิงเหราไปที่ห้องหนังสือ สามคนล้วนมึนงงมาก จิ้นเฟิงเหราพูดล้อเล่นว่า”แม่ นี่คือจะประชุมครอบครัวหรอครับ คนยังมาไม่ครบเลย พี่สะใภ้ยังไม่มาเลยเนี่ย”
แม่จิ้นส่ายหน้า รีบพูดว่า”ไม่รอพี่สะใภ้ของคุณแล้ว เรื่องนี้ห้ามให้เธอรู้”
จิ้นเฟิงเหราตกใจ”อ๋า เรื่องอะไรห้ามให้พี่สะใภ้รู้ล่ะ”
แม่จิ้นมองเขาตาหนึ่ง จิ้นเฟิงเหราก็ไม่พูดอีก แต่ยิ่งมายิ่งรู้สึกแปลกใจ
“แม่ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”จิ้นเฟิงเฉินถามอย่างมีสติ สีหน้าค่อนข้างจริงจัง เพราะรู้ว่าถ้าไม่ใช่เรื่องที่สำคัญ แม่จิ้นคงไม่ระวังเช่นนี้
พ่อจิ้นก็พูดว่า”พูดเถอะ”
แม่จิ้นมองไปทางจิ้นเฟิงเฉิน เหมือนจะพูดแต่ก็ไม่ได้อ้าปาก
จิ้นเฟิงเฉินลองถามว่า”มีความเกี่ยวข้องกับฉัน?”
แม่จิ้นถอนหายใจออกมา ในที่สุดก็อ้าปาก”เฟิงเฉิน ถ้าหากแม่แท้จริงของเสี่ยวเป่าหามาแล้ว คุณจะทำไง?”
พอเพิ่งพูดเสร็จ ห้องหนังสือก็เงียบสงบจนสามารถได้ยินเสียงเข็มหล่นพื้น
ผ่านไปอีกสักครู่หนึ่ง จิ้นเฟิงเหราหัวเราะออกมา พูดอย่างขำขัน”แม่ หลายปีนี้ผู้หญิงที่มาปลอมตัวเป็นแม่แท้จริงของหลานชายฉันมันมากมายทีเดียว แต่ในที่สุดล้วนเป็นตัวปลอม ท่านอย่าห่วงเลยครับ”
แม่จิ้นมองไปที่เขาตาหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร
จิ้นเฟิงเฉินพูดอย่างราบเรียบ”เฟิงเหราพูดถูกแล้ว ไม่มีอะไรแม่แท้จริง คุณแม่ของเสี่ยวเป่าคือสื้อสื้อ”
จิ้นเฟิงเหราเห็นด้วย”ใช่ครับ หลานชายกับพี่สะใภ้ใกล้ชิดกันขนาดนั้น บอกว่าเป็นแม่ลูกแท้ๆยังเชื่อเลย ฉันนับถือแต่พี่สะใภ้คนเดียว คนอื่นฉันล้วนไม่นับถือ”
แม่จิ้นรู้สึกปลื้มใจ แต่เมื่อนึกถึงคำพูดที่เซิ่งจือเสี้ยคุกเข่าร้องขอบนพื้น ก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง
“มีคนได้มาหาคุณ และยังบอกว่าเป็นแม่ของเสี่ยวเป่าหรือ?”จิ้นเฟิงเฉินสังเกตถึงปัญหาได้อย่างเฉียบคม และถามด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์
ตาทั้งสามคู่ล้วนจ้องไปทางแม่จิ้น
แม่จิ้นพยักหน้า และบอกเรื่องที่เกิดขึ้นในสองวันนี้ออกมาทั้งหมด
“เป็นไปไม่ได้!”เพิ่งพูดเสร็จ จิ้นเฟิงเหราก็พูดว่า”เป็นตัวปลอมแน่ๆ แม่ ฉันจะบอกกับคุณนะ เป็นคนมาหลอกลวงแน่นอน คนเหล่านี้สุดยอดจริงๆ เห็นท่านเป็นคนแก่ คุกเข่าร้องไห้ก็จะได้รับความเมตตาจากท่าน แต่โลกนี้จะมีเรื่องที่ดีขนาดนั้นได้ยังไงล่ะ”
พ่อจิ้นก็ส่ายหน้าเช่นกัน”ฉันก็ว่ามันไม่น่าเชื่อ”
หลายปีนี้ คนที่มาปลอมตัวเป็นแม่ของเสี่ยวเป่าเยอะมากจริงๆ คนในตระกูลจิ้นไม่แปลกใจแล้ว สิ่งที่คิดขึ้นมาสิ่งแรกก็คือมีคนมาหลอกลวงอีกคน
จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้พูด สายตามืดลึกเล็กน้อย
แม่จิ้นพูดว่า”ตอนแรกฉันก็ไม่เชื่อ เธอมีรูปภาพของเสี่ยวเป่า”
จิ้นเฟิงเหราพูดย่างโมโห”รูปภาพของที่รักบ้านเราไปค้นที่โซเชียลมันก็มีแล้ว ไอ้พวกสื่อไร้น้ำใจเผยแพร่ออกไปแน่เลย มันก็ไม่ถือว่าเป็นความลับแล้ว ไม่ทราบว่าเป็นผู้หญิงตัวไหนที่อยากแต่งงานกับพี่ชายกูจนบ้าคลั่ง ตั้งใจมาหาเรื่อง”
แต่พอแม่จิ้นเอารูปภาพนั้นออกมา เขาก็ไม่พูดแล้ว
เป็นเพราะว่ารูปภาพสองรูปนั้น เพียงตาเดียวก็มองออกว่า คนข้างในเป็นทารกแรกเกิด เบื้องหลังยังเป็นโรงพยาบาล รูปนี้ตระกูลจิ้นของพวกเขายังไม่มีด้วยซ้ำ ต้องเป็นแม่ของเสี่ยวเป่าอย่างเดียว
ทันใดนั้น ห้องหนังสือก็เงียบขรึมลงมาอีกครั้ง
สายตาของจิ้นเฟิงเฉินจ้องอยู่บนสองรูปนั้น สายตาของเขาลึกซึ้งมาก ทำให้คนไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
“นี่ รูปนี้……”จิ้นเฟิงเหราอ้าปากกว้าง หยิบรูปมาดูตั้งนาน พูดพึมพำว่า”นี่เป็นหลายชายของฉันจริงด้วย เหมือนไม่ใช่รูปปลอมด้วย”
เขาหยิบรูปภาพขึ้นมา แล้วพูดกับจิ้นเฟิงเฉินว่า”พี่ครับ ผมว่ารูปนี้มันไม่เหมือนรูปปลอมนะ”
แม่จิ้นพูด”ฉันก็ได้ดูรูปพวกนี้แล้วถึงเชื่อเธอ รูปนี้คนทั่วไปคงไม่มีหรอก แม้ว่าไม่ใช่แม่ของเสี่ยวเป่า แต่อย่างน้อยตอนที่เสี่ยวเป่าเกิด เธออยู่ในนั้นแน่นอน”
จิ้นเฟิงเหราไม่พูดแล้ว เขาแอบมองไปดูสีหน้าของจิ้นเฟิงเฉิน รู้สึกอึดอัดใจ
ถ้าหากเป็นแม่แท้ๆของเสี่ยวเป่า งั้นพี่สะใภ้ทำไงดีล่ะ?
……
เจียงสื้อสื้ออาบน้ำเสร็จ เดินออกไปด้วยผมเปียก จิ้นเฟิงเฉินได้รอยู่ในห้องนอนแล้ว เมื่อเห็นเช่นนี้เลยถือผ้าขนหนูแห้งมาเช็ดผมให้เธอ
เจียงสื้อสื้อหัวเราะออกมาทันที
เธอเพลิดเพลินไปกับการบริการของจิ้นเฟิงเฉิน ในใจแอบดีใจอยู่
“เฟิงเฉิน มีเรื่องจะบอกกับคุณ”
“ครับ”
เจียงสื้อสื้อครุ่นคิดไปสักครู่หนึ่ง แล้วอ้าปากพูดว่า”แม่เหมือนมีเรื่องเก็บไว้ในใจ ฉันเห็นว่าช่วงสองวันนี้เธอล้วนไม่ค่อยมีสติ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะร่างกายไม่สบายหรือเปล่า ฉันถามเธอก็ไม่ยอมบอก ไม่งั้น เราหาเวลาว่างพาเธอไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลละกัน”
จิ้นเฟิงเฉินนานมากไม่ได้พูด
เจียงสื้อสื้อหันหน้ามา มองไปดูจิ้นเฟิงเฉิน พูดเร่งว่า”ได้ไหม?”
จิ้นเฟิงเฉินหัวเราะ”คุณลืมไปแล้วหรือ สองเดือนก่อนเธอเพิ่งไปตรวจร่างกายไง”
“ใช้ด้วย ความจำฉันนี่ไม่ค่อยดีจริงๆ”เจียงสื้อสื้อก็หัวเราะออกมา”งั้นก็คือเวลาที่พวกเราอยู่กับเธอนั้นน้อยไป เธอจึงไม่สบายใจ เราต้องแบ่งเวลามาอยู่กับเธอมากๆเลยนะ”
จิ้นเฟิงเฉินมองไปดูเจียงสื้อสื้อที่ห่วงใยแม่ตัวเอง รู้สึกใจอ่อนทันที จึงก้มหน้าจูบด้านบนหัวของเธอ คิดอยู่ในใจว่า คนที่ดีเช่นนี้ เป็นของเขา
แต่ก็นึกถึงเรื่องเมื่อกี้นี้ขึ้นมาทันที กระพริบตา กลับสู่สภาพปกติ
……
หลังจากเซิ่งจือเสี้ยออกจากร้านกาแฟ เลี้ยวเข้าซอย ปรากฏให้เห็นโรงแรมระดับห้าดาวแห่งหนึ่ง เธอเดินเข้าไป
หลายนาทีผ่านไป เธอได้เห็นเจียงนวลนวลในห้องหนึ่ง
“คุณหนูเจียง ทุกอย่างล้วนดำเนินกันดังที่คุณวางแผน”
เจียงนวลนวลใส่ชุดเดรสสีดำชุดหนึ่ง เนื่องจากตั้งครรภ์ ร่างกายอ้วนไปมาก แม้กระทั่งใบหน้าก็กลมไปหน่อย เห็นจากลักษณะภายนอกแล้วไม่ค่อยใจจืดใจดำเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
เธอพูดด้วยรอยยิ้ม”ดีมาก เธอเชื่อหรือยัง?”
“หลังจากที่ฉันเอารูปภาพออกมาแล้ว เธอก็เชื่อครึ่งหนึ่งแล้ว”เซิ่งจือเสี้ยคิดย้อนหลัง บอกการแสดงออกของแม่จิ้นออกมารอบหนึ่ง
“ไปปรึกษากับคนในครอบครัว?ดีมาก สุดยอด”เจียงสื้อสื้อกล่าวคำว่าดีออกมา เธอเดินไปนั่งบนเก้าอี้ระนาดในหน้าๆต่าง คลุมหน้าท้องไว้อย่างระมัดระวัง
เซิ่งจือเสี้ยเดินตามไป พูดว่า”แล้วตอนนี้ฉันควรทำยังไง?”
เจียงสื้อสื้อเตะหน้าท้องทีละครั้ง ไม่ได้รีบพูดออกมา ตั้งใจมองทิวทัศน์นอกหน้าต่าง นานมาก ถึงหัวเราะออกมาเบาๆ พูดอย่างใจเย็น”อย่าเพิ่งรีบร้อน ก่อนหน้านี้ คุณไปหาเจียงสื้อสื้อก่อน”
เซิ่งจือเสี้ยไม่เข้าใจ ก่อนหน้านี้บอกไว้ว่าจะไปสัมผัสกับแม่ของจิ้นเฟิงเฉินไม่ใช่หรือ ทำไมตอนนี้ให้ไปให้เธอแล้วล่ะ?
เจียงนวลนวลเหลือบมองเธอตาหนึ่ง พูดช้าๆว่า”คิดไม่เข้าใจหรือ?”
“ใช่แล้ว”เซิ่งจือเสี้ยตอบอย่างจริงจัง
เจียงนวลนวลขยับนิ้วเรียวภายใต้แสงไฟ พูดว่า”เพราะว่า ตระกูลจิ้นจะไม่บอกเธอแน่นอน ส่วนฉัน จะมอบของขวัญอันใหญ่ยิ่งให้เธอ”