ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 48 ฉันเห็นฉันยังปวดใจ
บทที่ 48 ฉันเห็นฉันยังปวดใจ
เจียงเจิ้นรู้นิสัยของ เจียงสื้อสื้อดี แม่คือส่วนหนึ่งของเธอ เธอรอหลังจาก 24 ชั่วโมงไม่ได้หรอก
พรุ่งนี้เช้า เขากดดันเล็กน้อย เจียงสื้อสื้อต้องรีบไปหา จิ้นเฟิงเฉินคุยเรื่องร่วมมืออย่างเชื่อฟังแน่ๆ
เจียงนวลนวลนั่งอยู่ด้านข้าง ก็รู้ข่าวดีนี้เหมือนกันใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่ไม่รู้ว่าทำไมในใจกับไม่สงบ
เรื่องมันจะเป็นแบบที่พ่อคิดราบรื่นขนาดนั้นเชียวเหรอ ในตอนนี้เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น เจียงเจิ้น ตกใจ ดึกขนาดนี้ คงไม่ใช่ เจียงสื้อสื้อ มาหาที่บ้านหรอกนะ
คิดไป เจียงเจิ้น ก็ลุกไปเปิดประตู เห็นตำรวจยืนอยู่นอกประตูสองนาย เขาตกตะลึงไป
“คุณตำรวจ พวกคุณ……”
เจียงสื้อสื้อตามมาด้านหลังตำรวจ สายตาเย็นชามองมาที่ เจียงเจิ้น
ตำรวจพูดว่า “คุณเจียง พวกเราตรวจสอบว่าคุณพาคนออกจากโรงพยาบาลไม่ทำตามกฎ รีบพาผู้ป่วยกลับมาทันที ไม่งั้นพวกเราจะจับกุมคุณ”
พูดจบ สีหน้าของ เจียงเจิ้นก็เปลี่ยนไป
เขาเคยคิดว่า เจียงสื้อสื้อจะแจ้งตำรวจ แต่ไม่คิดว่าตำรวจจะรับเรื่องนี้ และหายไปยังไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงไม่ใช่เหรอ?
ทำไมตำรวจถึงมาหาเขา หรือว่า หลี่ยิ่งถูกจับได้แล้ว เศษสวะจริงๆ
สีหน้าของ เจียงเจิ้นไม่น่ามอง เขายิ้มเหยเกออกมา
“คุณตำรวจ เรื่องนี้เข้าใจผิดกัน ผมแค่อยากให้เมียเก่าได้รับการรักษาในที่ที่ดีกว่าเดิม เป็นผมเองที่ไม่ได้บอก สื้อสื้อก่อน ขอโทษจริงๆ ครับ รบกวนพวกคุณแล้ว”
มองหน้า เจียงเจิ้น เจียงสื้อสื้อรู้สึกสะอิดสะเอียนจริงๆ ความจริงเขาเอาแม่มาขู่เธอแท้ๆ กลับมาพูดว่าเพื่อดูแลแม่
“เป็นความผิดของพ่อ สื้อสื้อ แกให้ตำรวจออกไปก่อน ดูสิว่าดึกขนาดไหน……”
เจียงเจิ้นมองมาที่ เจียงสื้อสื้อ แววตาเต็มไปด้วยความอันตราย เหมือนแววตานั้นกำลังจะบอกว่า “ถ้าแกยังไม่ให้ตำรวจออกไป อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจก็แล้วกัน!
มีตำรวจอยู่นี่ เจียงสื้อสื้อจะกลัว เจียงเจิ้นทำอะไรกับแม่ของเธอได้ยังไง
แววตาของเธอเสียดสี และพูดเย็นชาว่า “แม่ฉันและคุณไม่มีความสัมพันธ์กันตั้งนานแล้ว ฉันดูแลเธอเองได้ ไม่รบกวนสามีเก่า คุณเจียงให้ต้องกังวลใจหรอกค่ะ”
เจียงเจิ้นโมโหจนหน้าแดง แต่ตำรวจยังอยู่ที่นี่ จะพูดอะไรออกมาไม่ได้
ตำรวจจ้อง เจียงเจิ้น เร่งให้เขาบอกว่าตอนนี้ ฟางเสว่มั่นอยู่ที่ไหน
เจียงเจิ้นกัดฟัน แววตาเป็นประกาย แต่ว่าเขารู้ว่าเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นไม่ง่ายอย่างแน่นอน
สุดท้าย เจียงเจิ้นบอกที่อยู่หนึ่งออกมา อยู่ที่คลินิกเล็กๆ ในเมือง เมืองจิ่น
“หืม นี่คือ คุณเจียงบอกว่าจะดูแลแม่ฉันดีๆ ใช่ไหมคะ?”
เจียงสื้อสื้อมอง เจียงเจิ้นอย่างประชดประชัน เอาที่หลบในคลินิกเล็กๆแบบนั้น เขาไม่กลัวว่าแม่จะเกิดอะไรขึ้นแล้วต้องทำการผ่าตัดหรอกเหรอ?
ได้รับที่อยู่ เจียงสื้อสื้อก็ไม่ได้อยู่พัวพันกับ เจียงเจิ้นต่อ
คลินิกนั้นค่อนข้างไกล มาๆ ไปๆ ไปรับคนมาส่งโรงพยาบาลอย่างปลอดภัย ก็กลางดึกเรียบร้อยแล้ว
เห็นนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยอย่างปลอดภัย น้ำตาของ เจียงสื้อสื้อก็ไหลออกมาไม่หยุด เธอจับมือของ ฟางเสว่มั่นไว้ และสะอึกสะอื้น “แม่……”
เจียงสื้อสื้อไม่อยากจะคิดเลยว่า ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับแม่ หลังจากนี้เธอจะทำยังไง?
“คุณเจียง คนก็หาเจอแล้ว พวกเราขอตัวก่อนนะครับ ถ้าหากมีเรื่องอะไรโทรหาเราได้เลยครับ”
เจียงสื้อสื้อเช็ดน้ำตาที่อยู่บนหน้า พูดด้วยความเกรงใจว่า “คุณตำรวจ ขอบคุณพวกคุณมากนะคะ กลางดึกขนาดนี้ รบกวนพวกคุณแล้ว”
“คุณเจียงคุณไม่ต้องเกรงใจ นี่เป็นเรื่องที่พวกเราควรทำ” ตำรวจสองคนจะรู้สึกรบกวนได้ยังไง ในเมื่อหัวหน้าพูดออกมาเอง พวกเขากล้าที่จะไม่ทำที่ไหน!
พวกเขามอง เจียงสื้อสื้อไม่หยุด สาวน้อยคนนี้เป็นใครกัน หัวหน้าตำรวจและหัวหน้าโรงพยาบาลถึงเชิญได้ ไม่ง่ายเลย!
หลังจากส่งตำรวจไป เจียงสื้อสื้อก็ขอบคุณ เซิ่นมู่ป๋ายอยู่หน้าห้องผู้ป่วย
“คุณหมอเสิ่น วันนี้ขอบคุณ คุณจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณหาหลักฐานเจอ หลี่ยิ่งคงไม่ยอมรับ พวกเราคงหาแม่ฉันเจอไม่เร็วขนาดนี้”
เซิ่นมู่ป๋ายยิ้มออกมา กำลังจะพูดว่าคนที่ควรขอบคุณไม่ใช่เขา แต่เป็นบางคน……
ยังไม่ทันได้พูด เจียงสื้อสื้อก็พูดต่อ “ใช่สิ คุณหมอเสิ่น รบกวนคุณอีกเรื่องหนึ่งได้ไหม?”
“เอ่อ? เรื่องอะไร?”
เซิ่นมู่ป๋ายคิดว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ฟางเสว่มั่น
เจียงสื้อสื้อสีหน้าสับสน หลังจากลังเลสักพักก็พูดว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นคืนนี้ อย่าบอก จิ้นเฟิงเฉินได้ไหมคะ!”
ก่อนหน้านี้เขาเจอ เซิ่นมู่ป๋ายที่ ตระกูลเจียง เจียงสื้อสื้อรู้ว่าสองคนนี้รู้จักกัน คืนนี้เซิ่นมู่ป๋ายช่วยเธอตั้งมากมายคงเป็นเพราะจิ้นเฟิงเฉินแน่ๆ
แต่ เจียงสื้อสื้อไม่อยากให้เขารู้ ไม่อยากให้เขาเป็นห่วง
เซิ่นมู่ป๋ายเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย คิดในใจ สาวน้อยคนนี้ทำไมใสซื่อเช่นนี้นะ!
เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เขาคิดจริงๆ เหรอว่า จิ้นเฟิงเฉินจะไม่รู้อะไรเลย?
เซิ่นมู่ป๋ายตอบรับไป จากนั้นก็ออกจากโรงพยาบาลไป
เดินมาถึงหน้าประตู เซิ่นมู่ป๋ายเปิดประตูรถไมบัค จอดอยู่ตรงนั้นมาโดยตลอดและเข้าไปนั่ง
“เอ่อ จิ้นเฟิงเฉิน ฉันประเมินแกต่ำไปจริงๆ แกยังมาดูแลผู้หญิงได้ทั้งคืน”
เซิ่นมู่ป๋ายรู้จัก จิ้นเฟิงเฉินมานานแล้ว ไม่เคยเห็น เขาทำเพื่อผู้หญิงคนไหนแบบนี้
ไม่ จะพูดให้ถูก เมื่อก่อน จิ้นเฟิงเฉินไม่เคยทำเพื่อผู้หญิงคนไหนแบบนี้เลย
จิ้นเฟิงเฉินมือข้างหนึ่งจับกระจกรถไว้ สายตามองเข้าไปในตึกโรงพยาบาล เสียงใสๆ พูดขึ้นว่า “เธอเป็นยังไงบ้าง?”
“อยากรู้ก็เข้าไปดูเอง”
จิ้นเฟิงเฉินมองตรงมาที่ เซิ่นมู่ป๋าย บรรยากาศแบบนี้ทำให้เขาไม่กล้าแกล้งเขาต่อ
“เห็นแม่ของเธอ สักพักก็ร้องไห้ ฉันมองแล้วยังปวดใจ”
จิ้นเฟิงเฉินเม้มปากไม่พูด
“เมื่อกี้เพิ่งขอบคุณฉันและตำรวจ ใช่สิ ยังไม่ให้ฉันเอาเรื่องนี้มาบอกแกอีก ดูเหมือนสาวน้อยคนนี้จะน่าสงสารมาก อดทนเจอเรื่องแย่ๆ มาทั้งคืน ตอนนี้อยู่เป็นเพื่อนแม่ในห้องผู้ป่วย ฉันคิดว่าคืนนี้ก็คงไม่ไปไหน”
เซิ่นมู่ป๋ายเอนหลังพิง พูดต่ออย่างช้าๆ “แกแน่ใจว่าจะไม่เข้าไปดู เป็นคนออกตัวเป็นคนออกแรง ช่วยตั้งครึ่งคืน ทำเรื่องดีไม่บอกชื่อแกมีนิสัยแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหน คุณชายจิ้น”
จิ้นเฟิงเฉินเม้มริมฝีปาก ใบหน้าหล่อเหลาลุ่มลึก ก็พูดว่า “ไม่ไปแล้ว”
คิดว่าเธอคงไม่อยากเจอเขา
“ช่างเถอะ ไม่ไปก็ไม่ไป ป่ะ เลี้ยงข้าวฉันก็ได้! ยังไงโรงพยาบาลของพวกเราก็มีหมอโสดๆ เยอะ คืนนี้เรื่องของ เจียงสื้อสื้อเชิญหัวหน้าออกมาได้ ทำเป็นเรื่องใหญ่โต คืนนี้คาดว่ามีคนไม่น้อยคอยดูแลเธอ แกวางใจเถอะ!”
พูดไป เซิ่นมู่ป๋ายก็คาดเข็มขัดนิรภัยไป เขาแกล้งทำเป็นหยอกล้อ
จิ้นเฟิงเฉินสีหน้าเปลี่ยนไป ลังเลสักพัก เขาก็เปิดประตูรถเดินลงไป ก้าวเท้าเข้าไปในโรงพยาบาล
“เอ่อ ไหนบอกว่าไม่ไป?”
เซิ่นมู่ป๋ายมองตามหลัง จิ้นเฟิงเฉิน ไม่สิ ถ้าเขาไปแล้วใครจะเลี้ยงข้าวละ ช่วยเรื่องยุ่งๆ นี้มาทั้งคืนนะ?