ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 489 นั่นเป็นบิดาของเธอน่ะ!
บทที่ 489 นั่นเป็นบิดาของเธอน่ะ!
“จริงๆหรือ? พวกคุณไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม?”
ทันทีที่เจียงสื้อสื้อได้ยินว่าลูกไม่ได้เป็นอะไรในตอนนั้น หินขนาดยักษ์ที่ทับอยู่ในใจหล่นลงทันที
ในเวลานี้เธอขอบตาแดง ตกใจจนเหงื่อออกเต็มฝ่ามือ
ดีมากเลย! ลูกไม่เป็นอะไร
มิฉะนั้นเธอไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดีจริงๆ
“เป็นเรื่องจริง ฉันจะโกหกแกทำไม ไม่เชื่ออีกสักครู่แกไปถามหวั่นชีง ตอนนี้แกน่ะ ก็พักฟื้นร่างกายให้ดีๆก็พอ หมอก็พูดว่าไม่เป็นไรแล้ววางใจเถอะ”
ได้ยินคำพูด เจียงสื้อสื้อพยักหน้า
เช็ดน้ำตาที่อยู่ขอบตา ก้มหน้าจ้องมองไปยังท้องน้อยของตนเอง
หลังจากแน่ใจว่าลูกน้อยไม่เป็นอะไรจริงๆ จึงฝืนปรากฏรอยยิ้มที่ซีดเซียวเล็กน้อยหนึ่งที
แม่จิ้นเทน้ำอุ่นแก้วหนึ่งให้กับเจียงสื้อสื้อ
หลังจากรอเธอสงบอารมณ์แล้ว จึงเอ่ยปากลองถามเจียงสื้อสื้อดู
“ใช่แล้ว สื้อสื้อ อาหารเสริมเหล่านั้นที่แกกับเฟิงเฉินนำกลับมาหลายวันก่อน แกบอกว่าเป็นบิดาให้แก แน่ใจหรือ?”
น้ำเสียงของเธอฟังแล้วตึงเครียดมาก ลักษณะที่ระมัดระวังทำให้นิ้วของเจียงสื้อสื้อที่ประคองแก้วไว้หยุดชะงัก
มองไปยังแม่จิ้นอย่างงงงวย มีความไม่เข้าใจเล็กน้อย
แต่ว่าก็ยังพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีกอย่างโอนอ่อนผ่อนตาม พูดประโยคหนึ่งอย่างเบาๆ
“ใช่ เป็นเขาให้ฉันกับมือ”
แม้ว่าแม่จิ้นก่อนหน้านั้นก็ทำใจไว้แล้ว คราวนี้มองเห็นเจียงสื้อสื้อพยักหน้า การกระทบกระเทือนในจิตใจก็ยังไม่น้อย
อยู่ในความรู้ของเธอ เสือร้ายก็ยังไม่กินลูกนะ
ล้วนไม่สามารถจินตนาการได้ บิดาคนหนึ่งตกลงว่ามีความรังเกียจลูกสาวของตนเองมากขนาดไหน จึงจะลงมืออำมหิตเช่นนี้
จิ้นเฟิงเหราจ้องมองอยู่ข้างๆ เห็นอารมณ์การขึ้นลงของมารดากับตา
รวมกับความคิดที่ตนเองเรียบเรียงออกมาก่อนหน้านั้น ในสมองปรากฏการณ์คาดเดาอย่างหนึ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“แม่ เป็นยังไงล่ะ เป็นรังนกเหล่านั้นมีปัญหาจริงๆหรือ?” เขาถามด้วยสายตาเย็นชา
หนึ่งประโยค จึงหลุดสมาธิของคนทั้งหลาย ทั้งหมดมองไปยังแม่จิ้นพร้อมกัน
“อืม”
แม่จิ้นก้มหน้า น้ำเสียงเข้มต่ำมาก
เจียงสื้อสื้อจ้องมองสีหน้าที่จริงจังหนักแน่นเต็มใบหน้าของคนทั้งหลาย ออกเสียงซักถามอย่างงุนงงสงสัย
“รังนกเป็นยังไงหรือ?”
เห็นสภาพแม่จิ้นจับมือของเธอไว้อย่างแน่น ทอดถอนใจพูดว่า “สื้อสื้อ ยาทำแท้งที่แกพลาดไปกินในครั้งนี้ ก็คือมาจากอาหารเสริมเหล่านั้นที่พ่อแกให้”
เธอพูดต้นสายปลายเหตุของเรื่องหนึ่งรอบอย่างง่ายๆ
“เพี๊ยงเพี๊ยง——”
มือที่เจียงสื้อสื้อวางแก้วลงสั่นระริก อยู่ดีๆแก้วเอียงจะคว่ำ
เกือบตกอยู่บนพื้น แม่จิ้นพยุงให้ตรงอย่างตาเร็วมือไว
รอยน้ำตามขอบโต๊ะไหลลงข้างล่าง สะท้อนสีหน้าที่ซีดขาวใบนั้นของเจียงสื้อสื้อออกมา
ริมฝีปากของเธอสั่นระริกอยู่ นิ้วโป้งกดนิ้วชี้ของตนเองอย่างรุนแรง
ใช้ความเจ็บปวดรับรู้ถึงความจริง เจียงสื้อสื้อเปิดริมฝีปากอยากคุยแต่ลังเล “ทำไมเป็นอย่างนี้ล่ะ…….เขาลงมือทำลงได้ยังไง…….”
เจียงสื้อสื้อนึกไม่ถึงว่าผลจะเป็นเช่นนี้สักนิด
คิดไม่ถึงว่าเจียงเจิ้นวางยาทำแท้งให้กับเธอ!
นั่นเป็นบิดาของเธอน่ะ!
เดิมทีเธอคิดว่าเจียงเจิ้นรู้สึกผิดแล้วจริงๆ…….
น้ำตาไหลตามแก้มลงมาหยดลงอยู่บนผ้าห่ม กลายเป็นคราบน้ำหนึ่งแผ่น
เจียงสื้อสื้อจิตใจเหม่อลอยจ้องมองผ้าปูที่นอนที่ขาวสะอาด ดูเหมือนหัวใจถูกคนเอามีดแทงอย่างรุนแรง
แม่จิ้นเห็นเธอเป็นเช่นนี้ เจ็บปวดใจเหลือเกินจนกอดเจียงสื้อสื้อไว้
“สื้อสื้อ แกอย่าเป็นอย่างนี้ ตอนนี้ยังมีพวกเราล่ะ มีแม่อยู่ จะไม่มีคนรังแกแกได้อีก”
ตบหลังของเจียงสื้อสื้อไว้อย่างเบาๆ ทันทีทันใด ความเศร้าเจ็บปวดก็ยากที่จะสงบได้
“เอาล่ะ เอาล่ะ พวกเราอย่าคิดมากเกินไปก่อน……..”
จ้องมองเจียงสื้อสื้อที่ประสบกับการกระทบอย่างแรง บรรยากาศในห้องผู้ป่วยหยุดชะงักขึ้นมาอย่างฉับพลัน
ค่อยยังชั่ว หมอที่ส้งหวั่นชีงพามาทำให้บรรยากาศที่จริงจังหนักแน่นนี้จบอย่างกะทันหัน
เจียงสื้อสื้อต้องรับการตรวจเช็ค คนในตระกูลจิ้นล้วนถอยออกจากห้องผู้ป่วยเป็นการชั่วคราว
แม่จิ้นเช็ดน้ำตาที่อยู่หางตา เช็ดแล้วเช็ดอีก จ้องมองจิ้นเฟิงเหราถามว่า “เฟิงเหรา เรื่องนี้ติดต่อพี่ชายแกหรือยัง?”
ได้ยินคำพูด จิ้นเฟิงเหราส่ายหัว
“เรื่องร้ายแรงขนาดนี้ ผมจะกล้าให้เขารู้ได้ที่ไหน ตามอารมณ์ของพี่ชายผมจะไม่ฆ่าเจียงเจิ้นไปเลยเหรอ”
แม่จิ้นจ้องมองไปยังห้องผู้ป่วย เจียงสื้อสื้อที่อยู่ข้างในเหมือนดั่งหุ่นเชิดที่ไร้วิญญาณตัวหนึ่ง
ร่วมมือกันตรวจเช็คกับหมออย่างแข็งกระด้าง ดูลักษณะก็รู้ว่ายังไม่ได้ฟื้นฟูเป็นปกติ
“พูดเถอะ ให้เขากลับมาเร็วหน่อย สื้อสื้อดูแล้ว สภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ” ในเวลาแบบนี้ สิ่งที่ต้องการอยู่ข้างกายที่สุดก็คือสามีแล้ว
เป็นผู้หญิงเหมือนกัน แม่จิ้นย่อมรู้อารมณ์ในเวลานี้ของเจียงสื้อสื้อมากกว่าใคร
จิ้นเฟิงเหราพยักหน้า หยิบมือถือขึ้นมาเดินไปยังสุดทางของทางเดิน
มือถือดังนานมาก ฝั่งโน้นจึงรับสายขึ้นมา
“พี่ชาย”
น้ำเสียงต่ำเข้มของจิ้นเฟิงเหราเรียกคำหนึ่งอย่างหนักอึ้ง
นอกประเทศ จิ้นเฟิงเฉินเพิ่งจัดการงานบางอย่างที่อยู่ในมือเสร็จเตรียมตัวจะกลับห้องไปนอน
ทิวทัศน์ยามค่ำคืนมืดมิด ไฟนีออนในเมืองที่ส่งแสงระยิบระยับมืดลงไม่น้อย
ผู้คนก็ล้วนนอนหลับแล้วด้วย ปรากฏให้เห็นความเงียบสนิทอย่างมาก
เขากดขมับไว้ ความเหนื่อยล้าในคิ้วตาไม่ลบเลือนหายไปไหน
“เฟิงเหรา คราวหน้าแกโทรมาอย่าลืมดูความต่างของเวลาด้วย” ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยการตำหนิเล็กน้อย
“พี่ชาย พี่สะใภ้เกิดเรื่องเล็กน้อย” จิ้นเฟิงเหราพูดอย่างหดหู่
ได้ยินว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเจียงสื้อสื้อ ย่างก้าวของจิ้นเฟิงเฉินหยุดชะงักอย่างรุนแรง สีหน้าเปลี่ยนไปทันที น้ำเสียงก็อดไม่ได้ที่จะดุร้ายขึ้นมาเช่นกัน
“สื้อสื้อเกิดอะไรขึ้น พูดให้ชัดเจน!”
“คุณอย่าเพิ่งตื่นเต้น ฟังผมพูด ตอนนี้พี่สะใภ้เธอไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว”
จิ้นเฟิงเหราพูดผลลัพธ์ก่อน เผื่อว่าพี่ชายของเขาจะควบคุมไม่ได้เป็นบ้าไป
จากนั้นเล่าต้นสายปลายเหตุของเรื่องทั้งหมดให้จิ้นเฟิงเฉินฟัง
พูดจบ สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินมืดลง ฝ่ามืออดไม่ได้กำอย่างแน่น บนแขนโผล่เส้นเลือดเขียวขึ้นมา
ยาทำแท้ง ใครกล้าถึงขนาดนี้!
ฟังโทรศัพท์ฝั่งโน้นไม่มีเสียงแล้ว จิ้นเฟิงเหรารีบปลอบโยนพูดว่า “พี่ชาย คุณอย่าเพิ่งคิดให้เรื่องแย่เกินไปก่อน พี่สะใภ้ก็แค่ได้รับความตื่นตกใจ อารมณ์ไม่ดีเล็กน้อย ความหมายของแม่คือจะให้คุณกลับเร็วหน่อยกลับมามาดู”
“ผมกลับไปเดี๋ยวนี้!”
ไม่มีความลังเล จิ้นเฟิงเฉินเสียงเย็นชาพูดประโยคหนึ่ง ก็วางสายลงเลย
จองตั๋วเครื่องบินไฟล์เช้าที่สุดกลับประเทศโดยตรง ไปยังสนามบินอย่างรีบร้อน
จิ้นเฟิงเฉินบินกลับมาทั้งคืนยังไม่ได้พักผ่อน
วันรุ่งขึ้น ลงจากเครื่องบิน ไม่ได้ล่าช้าสักวินาที รีบไปยังโรงพยาบาล
แค่นึกถึงร่างกายที่เปราะบางอ่อนแอของเจียงสื้อสื้อนั้น รองรับความกดดันที่ใหญ่ขนาดนี้ จิ้นเฟิงเฉินก็อดไม่ไหวอยากจะฆ่าคน
จิ้นเฟิงเหรารู้ว่าเขาจะกลับมา รออยู่หน้าประตูโรงพยาบาลแต่เช้า
มองเห็นสีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินหนักอึ้ง จิ้นเฟิงเหราก็เพียงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในสองวันนี้อย่างง่ายๆ
จิ้นเฟิงเฉินได้ยินว่ายาบำรุงเหล่านั้นที่เจียงเจิ้นให้มีปัญหา สีหน้ากลายเป็นดูแย่มาก
“ถึงแล้ว พี่สะใภ้อยู่ข้างใน คุณเข้าไปปลอบโยนๆเธอเถอะ”
ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้องผู้ป่วย จิ้นเฟิงเหราตบไหล่ของจิ้นเฟิงเฉินต่อๆกัน เหลือช่องว่างเพียงลำพังให้กับคนทั้งสองอย่างรู้จักว่าต้องทำตัวอย่างไร
จิ้นเฟิงเฉินสูดลมหายใจลึกๆหนึ่งที ปกปิดความโกรธรุนแรงที่อยู่นัยน์ตา ผลักประตูเข้าไป
“แม่ ไม่ใช่ให้ท่านกลับไปพักผ่อนก่อนหรือ ฉันไม่……..”
เจียงสื้อสื้อได้ยินเสียง คิดว่าเป็นแม่จิ้นเป็นห่วงเธอตีกลับมาอีกครั้ง
หลังจากเงยหน้าเห็นคนชัดเจนแล้ว คำที่ว่าไม่เป็นไรคำนั้นที่ติดอยู่ในคอถูกตัดออกอย่างแข็งกระด้าง
ในขอบตาเต็มไปด้วยน้ำตาทันที เธอจ้องมองจิ้นเฟิงเฉินอย่างไม่กล้าเชื่อ
แยกไม่ออกว่าเป็นความจริงหรือมายาเล็กน้อย น้ำเสียงพูดอย่างสะอึกสะอื้นว่า “เฟิงเฉินหรือ? เป็นคุณกลับมาแล้วใช่ไหม…….”