ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 507 ผมไม่มีทางยกโทษให้ป๊ะป๋าแน่
บทที่ 507 ผมไม่มีทางยกโทษให้ป๊ะป๋าแน่
เจียงสื้อสื้อนั่งมองทั้งคู่เล่นกันอย่างสนุกสนาน เธอเองก็ต้องยิ้มตามไปด้วย
“เสี่ยวเป่ามานี่ซิ” ประตูของห้องของเล่นถูกเปิดออก จิ้นเฟิงเฉินเข้ามาด้วยสีหน้าที่บึ้งตึง พร้อมกับจ้องไปยังคนทั้งสอง
เขาตำหนิเสี่ยวเป่าด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม “ปกติฉันสอนแกแบบนี้เหรอ? รับของจากคนแปลกหน้าแบบนี้ได้ยังไง?”
ตอนที่มองไปยังข่ายสื้อลิน สายตาของจิ้นเฟิงเฉินก็ดูเย็นชาไปในทันที
พอเห็นอย่างนั้น เสี่ยวเป่าก็ตกใจจนขดตัวลง แล้วรีบคืนของเล่นให้ข่ายสื้อลินไป
“ป๊ะป๋า ผมขอโทษ…”
บรรยากาศในห้องตึงเครียดขึ้นมาทันที
เจียงสื้อสื้อรีบเดินเข้ามาดูเสี่ยวเป่าในทันที
“ไม่เป็นไรนะเสี่ยวเป่า ป๊ะป๋าเขาไม่ได้หมายความอย่างนั้น เดี๋ยวเสี่ยวเป่ากลับไปอ่านหนังสือที่ห้องก่อนนะ”
“พี่สื้อสื้อ ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ” พอข่ายสื้อลินเห็นบรรยากาศกลายเป็นแบบนี้ เธอก็รีบขอตัวกลับในทันที
เจียงสื้อสื้อออกไปส่งเธอ และได้พูดกับข่ายสื้อลินด้วยความเกรงใจว่า “ต้องขอโทษด้วยนะ เขาชอบหงุดหงิดตอนเพิ่งตื่นน่ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันต่างหากที่มารบกวนพวกพี่ แล้วเจอกันนะคะ”
ข่ายสื้อลินโบกมือล่ำลา
หลังจากเธอไปแล้ว เจียงสื้อสื้อยังรู้สึกแย่อยู่เลย
เธอเดินขมวดคิ้วไปถามจิ้นเฟิงเฉิน
“ช่วงนี้คุณเป็นอะไรคะ เอาแต่หาเรื่องสาวน้อยอยู่นั่นแหละ เธอไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจเหรอคะ?”
จิ้นเฟิงเฉินทำเสียงฮึดฮัด แล้วหันมาพูดกับเจียงสื้อสื้อด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า “เธอไม่ได้ใสซื่ออย่างที่คุณคิด ต่อไปคุณช่วยอยู่ห่างจากเธอหน่อย”
ฟังจบ เจียงสื้อสื้อก็ได้แต่มองหน้าจิ้นเฟิงเฉินด้วยความสงสัย
พอเห็นเธอไม่เข้าใจ จิ้นเฟิงเฉินก็ดึงเธอมากอด จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “ยังไงซะ ต่อไปคุณก็อยู่ห่างๆ จากเธอหน่อยแล้วกัน การระวังตัวจากคนที่อาจทำร้ายเรามันไม่มีอะไรเสียหายสักหน่อย”
“ก็ได้ค่ะ แต่เมื่อกี้คุณทำให้เสี่ยวเป่าตกใจจริงๆ นะคะ ทางที่ดีคุณควรไปอธิบายกับเขาดีๆ ก่อนนะคะ เพื่อกันไม่ให้เขาห่างเหินกับคุณในวันข้างหน้า”
เจียงสื้อสื้อแอบตำหนิเขานิดๆ
ฟังจบ เขาก็พยักหน้า เพราะจิ้นเฟิงเฉินก็รู้สึกว่าเมื่อกี้ตัวเองทำเกินไปจริงๆ
หลังจากที่ข่ายสื้อลินกลับไป เสี่ยวเป่าก็ขังตัวเองอยู่ในห้อง
ระหว่างนั้น เจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉินก็ผลัดกันเข้าไปกล่อมเขา แต่มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย
พอพ่อจิ้นกับแม่จิ้นกลับมาและรู้เรื่องเข้า ทั้งสองก็รู้สึกร้อนใจมาก
แม่จิ้นจ้องหน้าจิ้นเฟิงเฉินแล้วตำหนิว่า “เฟิงเฉิน อย่าหาว่าแม่ว่าเลยนะ แกคิดว่าเด็กน้อยอย่างเสี่ยวเป่าจะไปแยกแยะอะไรได้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวเป่าละก็ ฉันเอาเรื่องแกแน่”
จิ้นเฟิงเฉินไม่ยอมรับและไม่ปฏิเสธ แถมยังไม่พูดอะไรอีกด้วย
พอเจียงสื้อสื้อเห็นอย่างนั้น เธอก็รีบเข้ามาพูดให้กำลังใจว่า “แม่คะ แม่ใจเย็นๆ ก่อนนะ ไม่แน่เสี่ยวเป่าอาจจะกำลังวิจัยอะไรของเขาอยู่ก็ได้ แม่อย่าเพิ่งคิดมากเลย เดี๋ยวหนูลองเกลี้ยกล่อมเขาดูอีกที”
“ก็ได้ สื้อสื้อแม่ฝากเสี่ยวเป่าด้วยนะ”
พูดจบ แม่จิ้นก็เดินจากไป
“คุณเองก็ไปก่อนเถอะค่ะ ถ้าคุณยังอยู่ตรงนี้เสี่ยวเป่าไม่มีทางออกมาแน่” เจียงสื้อสื้อหันไปมองจิ้นเฟิงเฉินแล้วบอกให้เขาออกไป
หลังจากจิ้นเฟิงเฉินออกมา เขาก็ตรงมาที่ห้องหนังสือ
แววตาของเขาเย็นเยือก ในเวลาแค่ไม่กี่วัน ข่ายสื้อลินก็สามารถทำให้เสี่ยวเป่าสนิทด้วยได้
ถ้ายังปล่อยให้เธอมาที่บ้านตระกูลจิ้นต่อไป เกรงว่าแม้แต่เจียงสื้อสื้อก็จะหันไปเข้าข้างเธอได้
พอโทรหากู้เนี่ยน จิ้นเฟิงเฉินก็สั่งไปว่า “คุณช่วยไปสืบค้นประวัติของพนักงานใหม่ที่ชื่อข่ายสื้อลินให้ผมที ผมกลัวเธอจะแอบซ่อนแผนอะไรเอาไว้ และทำอันตรายกับสื้อสื้อ”
“ครับคุณชาย ผมเข้าใจแล้ว”
หลังจากที่ได้รับคำสั่ง กู้เนี่ยนก็รีบไปทำหน้าที่ในทันที
จิ้นเฟิงเฉินมองไปยังทิวทัศน์ข้างนอกดวงตาที่เคร่งขรึม
อีกด้านหนึ่ง เจียงสื้อสื้อกำลังกระซิบอยู่หน้าห้องเสี่ยวเป่า “เสี่ยวเป่า ตอนนี้ข้างนอกมีแค่หม่ามี๊คนเดียวแล้วนะ ไม่รู้ว่าหม่ามี๊จะเข้าไปชมปราสาทของเสี่ยวเป่าได้รึเปล่านะ?”
ในที่สุดประตูห้องก็ถูกเปิดออก
เสี่ยวเป่ามองมาที่เจียงสื้อสื้อด้วยใบหน้าที่เศร้าสร้อย เขาโผเข้ากอดเธอพร้อมกับน้ำเสียงที่สั่นเครือ “หม่ามี๊”
เมื่อเห็นเสี่ยวเป่าที่อยู่ในสภาพแบบนี้ หัวใจของเจียงสื้อสื้อก็แทบพังทลาย เธอเอื้อมมือไปอุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นมา
เสี่ยวเป่าร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดเธออย่างเจ็บปวด เห็นได้ชัดเลยว่าเรื่องในครั้งนี้มันทำให้เสี่ยวเป่าสะเทือนใจมากขนาดไหน
เจียงสื้อสื้อตบหลังเสี่ยวเป่าด้วยความเป็นห่วง และปลอบใจของอย่างไม่ยอมหยุด “เสี่ยวเป่าไม่ต้องกลัวนะ หม่ามี๊อยู่นี่แล้ว ถ้าใครกล้ามารังแกเสี่ยวเป่าของหม่ามี๊ละก็ หม่ามี๊ไม่มีทางปล่อยมันไปแน่”
พอได้ยินอย่างนั้น เสี่ยวเป่าก็เงยหน้าขึ้นมาทันที แล้วถามไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ ว่า “แล้วถ้าเป็นป๊ะป๋าล่ะครับ หม่ามี๊จะช่วยผมสั่งสอนเขาให้ไหมครับ?”
“ได้สิจ๊ะ ไม่ว่าใครก็ไม่มีข้อยกเว้น” เจียงสื้อสื้อทำท่าจริงจัง
เมื่อได้ยินเจียงสื้อสื้อตอบมาแบบนั้น เสี่ยวเป่าก็ได้ยิ้มออกมาอีกครั้ง
เขากระโดดลงจากเจียงสื้อสื้อ แล้วหันไปเล่นของเล่นต่อ
เมื่อเห็นเขากลับมาเป็นเหมือนเดิม เจียงสื้อสื้อค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย และหันไปเล่นเป็นเพื่อนเสี่ยวเป่าเหมือนกัน
ของเล่นของเสี่ยวเป่ามีเยอะมาก เยอะจนแทบจะล้นออกไปนอกห้องแล้ว แต่เจียงสื้อสื้อก็ได้สังเกตเห็นกล่องใบหนึ่งที่วางอยู่ตรงมุมห้อง ซื่งกล่องใบนั้นยังถูกปิดผนึกด้วยเทปไว้ด้วย
กล่องใบนั้นทำให้เจียงสื้อสื้อรู้สึกสงสัย ของอะไรกันนะที่จะถูกเสี่ยวเป่าผนึกเอาไว้แบบนี้?
เธอเดินไปข้างๆเสี่ยวเป่า แล้วพูดขัดจังหวะเสี่ยวเป่าที่กำลังง่วนอยู่กับของเล่นอย่างอ่อนโยนว
“เสี่ยวเป่าครับ หม่ามี๊เห็นตรงมุมห้องมีกล่องใบหนึ่งถูกปิดผนึกไว้ มันเป็นเพราะอะไรเหรอ?”
“มันเป็นของขวัญจากผู้หญิงที่ป๊ะป๋าไม่ชอบมอบให้เสี่ยวเป่า ต่อไปผมจะไม่แตะต้องมันอีก และผมก็ไม่มีวันยกโทษให้ป๊ะป๋าด้วย” ตอนที่พูดเสี่ยวเป่ายังดูโกรธอยู่เลย
เจียงสื้อสื้อดึงเสี่ยวเป่ามากอดไว้ แล้วปลอบเขาอย่างอ่อนโยนว่า “เสี่ยวเป่าครับ เสี่ยวเป่าฟังหม่ามี๊ให้ดีๆ นะ ที่ป๊ะป๋าเขาดุเสี่ยวเป่าก็เพราะป๊ะป๋าเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของเสี่ยวเป่า ยังไงเสี่ยวเป่าก็ยังเป็นแก้วตาดวงใจของป๊ะป๋าอยู่นะ
ที่สำคัญ ป๊ะเขากำลังสอนเสี่ยวเป่าให้รู้ว่าไม่ควรรับของขวัญจากคนอื่นง่ายๆ มันก็เหมือนกับนิทานที่หม่ามี๊เคยเล่าให้เสี่ยวเป่าฟังไง เพราะไม่อย่างนั้น พอเสี่ยวเป่าโตขึ้น เสี่ยวเป่าก็อาจจะเสียท่าให้คนอื่นได้ ในโลกใบนี้ คนที่ทำดีกับเสี่ยวเป๋าโดยไม่หวังผลก็มีแค่คนในครอบครัวเท่านั้น ระหว่างเรามีความสัมพันธ์ทางสายเลือดอยู่ เมื่อกี้ป๊ะป๋าเขาแค่ใจร้อนไปหน่อยเพราะกลัวว่าเสี่ยวเป่าจะได้รับอันตราย ดังนั้นเราจะเกลียดป๊ะป๋าไม่ได้นะ”
“ครับ” เสี่ยวเป่าตอบมาด้วยเสียงที่อุดอู้ ไม่รู้ว่าเขาจะเข้าใจหรือเปล่า
พอถึงตอนหัวค่ำ เสี่ยวเป่ายังติดอยู่กับเจียงสื้อสื้อไม่ยอมห่าง แววตาของจิ้นเฟิงเฉินยังคงเคร่งขรึมอยู่
เจียงสื้อสื้อเองก็สังเกตเห็นแววตาของสามีเหมือนกัน แต่ว่าวันนี้เสี่ยวเป่านั้นได้บอบช้ำมากเกินไปแล้ว ดังนั้นวันนี้เธอจึงจำใจต้องปล่อยให้สามีเป็นแบบนั้นไปก่อน
หลังจากที่กล่อมเสี่ยวเป่าเข้านอนเสร็จ เจียงสื้อสื้อที่กำลังจะเตรียมตัวเข้านอน ประตูห้องก็ถูกเคาะขึ้น
ไม่ต้องถามก็รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร เจียงสื้อสื้อจึงต้องลงจากเตียงอย่างเงียบๆ แล้วค่อยๆ ย่องไปเปิดประตู
“เสี่ยวเป่านอนหลับแล้ว แต่วันนี้เสี่ยวเป่าเขาไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ คุณช่วยอดทนไปก่อนนะคะ”
หลังจากหอมแก้มจิ้นเฟิงเฉินไปทีหนึ่ง เจียงสื้อสื้อก็เตรียมที่จะกลับเข้าห้องไป
แต่เธอก็ไม่มีโอกาสได้ทำมัน เพราะจิ้นเฟิงเฉินรีบดันเธอเข้าหากำแพงทันที จากนั้นก็จูบเธออย่างดูดดื่ม
“พอแล้วค่ะ คุณรีบกลับไปเถอะ เดี๋ยวเสี่ยวเป่าจะตื่นเอา”
จิ้นเฟิงเฉินที่ยังไม่ทันได้สุขสมกับรสชาติของภรรยาตัวน้อยเลย ก็ถูกเจียงสื้อสื้อผลักออกมาเสียก่อน
แล้วทิ้งให้เขายืนอ้างว้างอยู่นอกห้องคนเดียว
ถึงแม้ว่าจะไม่เต็มใจ แต่จิ้นเฟิงเฉินก็ต้องทำใจ
การที่ไม่มีเจียงสื้อสื้ออยู่ข้างๆ จิ้นเฟิงเฉินก็นอนไม่ค่อยหลับ
และในตอนนั้น มือถือของเขาก็ดังขึ้นพอดี