ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 528 เธอ ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นเหมือนกัน
บทที่ 528 เธอ ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นเหมือนกัน
เมื่อกำชับกำชากันเสร็จแล้ว ทั้งสองก็วางสายโทรศัพท์
หลังกินข้าวเสร็จ ขณะที่กำลังพักผ่อนบนโซฟา แม่จิ้นก็ถามว่า “สื้อสื้อ ตอนบ่ายไปเดินเล่นไหม?”
“คะ เดินเล่น?” หลังเจียงสื้อสื้อกินอิ่ม สมองยังประมวลผลไม่ทัน
แม่จิ้นยิ้ม กล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “อาศัยตอนนี้ที่ร่างกายยังไม่หนัก ผ่านไปสักระยะก็จะไม่ค่อยสะดวกแล้ว พวกเราไปซื้อของใช้เด็กกันสักหน่อย”
“คุณแม่คะ ในบ้านเราไม่ใช่ซื้อไว้ตั้งเยอะแล้วเหรอ ทำไมยังต้องซื้ออีกคะ?”
คิดถึงของที่กองสุมอยู่ในห้องรับแขกตอนนี้ เจียงสื้อสื้อก็อดรู้สึกปวดหัวขึ้นมาไม่ได้
พอแม่จิ้นได้ยิน ก็ส่ายหน้า จับมือเจียงสื้อสื้อไว้พลางกล่าวว่า “นี่ สื้อสื้อ มันไม่เหมือนกัน เด็กตระกูลจิ้นของเราย่อมต้องมอบของที่ดีที่สุดให้เขา
ยิ่งกว่านั้นพวกเราไม่รู้ว่าเด็กที่อยู่ในท้องเป็นชายหรือหญิง คราวก่อนพวกเราซื้อแต่ของเด็กผู้หญิง ครั้งนี้พวกเราจะไปดูของของเด็กผู้ชายสักหน่อย”
เอาเถอะ เจียงสื้อสื้อเถียงสู้แพ้แม่จิ้น จึงได้แต่ตามออกไปข้างนอก
พอถึงร้านแม่และเด็ก สายตาเจียงสื้อสื้อก็ไม่กวาดมองไปที่ไหนอีก สินค้ามีแต่ของสวยงามละลานตาเต็มไปหมด แต่ละอย่างล้วนเป็นของชั้นดีทั้งนั้น
ภายใต้การแนะนำของพนักงาน แม่สามีและลูกสะใภ้ต่างก็ขนของกลับไปเพียบ
ชอปปิ้งมาตลอดทั้งบ่าย ขาของเจียงสื้อสื้อจึงรู้สึกล้าอยู่บ้าง จึงเดินขึ้นไปพักผ่อนชั้นบน
แม่จิ้นเองก็กำชับคนรับใช้ว่าให้ทำอะไรเสียงเบาหน่อย อย่าให้รบกวนเจียงสื้อสื้อ
ณ จิ้นกรุ๊ป
ป๋ายหลี่นั่งอยู่ตรงหน้าจิ้นเฟิงเฉิน มอบข้อมูลให้ที่มือจิ้นเฟิงเฉินพลางกล่าวว่า “คุณชาย คนของเราหาที่พักของข่ายสื้อลินเจอแล้วครับ
อยู่ที่เมืองหลงเฉิงของประเทศเราครับ ผมส่งคนไปจับตาดูไว้แล้ว ไม่ทราบว่าจะเอายังไงต่อไปดีครับ?”
มองแสงบนหน้าจอทีวีที่กะพริบไปมา จิ้นเฟิงเฉินก็ขมวดคิ้ว
ผู้หญิงคนนี้นำพาอันตรายมาเยือนเมืองเป่ย เดือดร้อนถึงสื้อสื้อ หนนี้เขาจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก!
ปิดแฟ้มเอกสาร จิ้นเฟิงเฉินหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาพลางกำชับว่า “ฉันจะไปเมืองหลงเฉิงชั่วคราว พวกนายก็อย่าเพิ่งทำอะไรไปก่อน”
ป๋ายหลี่พยักหน้า จากนั้นก็เดินออกไป
สั่งให้กู้เนี่ยนหาเที่ยวบินที่เร็วที่สุดแล้ว จิ้นเฟิงเฉินก็ไปเมืองหลงเฉิงทันที เพื่อไปหาข่ายสื้อลิน
พอจิ้นเฟิงเฉินมาถึงที่พักของข่ายสื้อลิน เธอกำลังมาส์กหน้าอยู่ในบ้านอย่างเกียจคร้าน
พอเห็นจิ้นเฟิงเฉิน ก็ไม่พ้นที่จะตกใจจนสะดุ้งวาบ
“พี่จิ้น คุณมาได้ยังไง……”
เขาไม่สนใจเธอ จิ้นเฟิงเฉินผลักข่ายสื้อลินออกไปให้พ้นทาง จากนั้นก็เดินเข้าไปในคอนโด
เขาถามเสียงเย็นว่า “พูดมา หนนี้คุณมาเมืองเป่ยมีจุดประสงค์อะไร ทำไมต้องเดือดร้อนไปถึงสื้อสื้อด้วย?”
สบเข้ากับดวงตาเย็นชาของจิ้นเฟิงเฉิน ข่ายสื้อลินก็อดก้มหน้าลงมาไม่ได้ กล่าวอย่างรู้สึกผิดว่า “ฉันขอโทษ ไม่คิดว่าจะทำให้พี่สื้อสื้อเดือดร้อน
แต่ครั้งนี้ฉันแค่มาขอบคุณที่พวกคุณช่วยชีวิตฉันในวันนั้นไว้จริงๆ หากไม่มีพวกคุณ ฉันคงจะ……”
นิ่งไปชั่วครู่ ข่ายสื้อลินก็มีของเหลวแวววาวเอ่อคลอเบ้าตา
มองดูช่างน่าสงสารเหลือแสน ทำให้คนรู้สึกเอ็นดู
แต่ที่น่าเสียดายคือ คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอคือจิ้นเฟิงเฉิน
เห็นเธอทำท่าทางน่ารักเช่นนี้ จิ้นเฟิงเฉินก็รู้สึกรังเกียจ
เอ่ยปากกล่าวอย่างเย็นเยียบว่า “อย่ามาแสร้งทำท่าทางน่าสงสาร ตราบใดที่กล้าแตะต้องสื้อสื้อ นั่นก็เท่ากับเป็นศัตรูของฉัน เธอ ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นเหมือนกัน”
พอได้ยินคำพูดของเขา ข่ายสื้อลินก็ตระหนกอยู่บ้าง รีบร้อนอธิบายว่า “พี่จิ้น ฉันกับคนพวกนั้นที่ทำร้ายพี่สื้อสื้อไม่รู้จักกันเลย ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าพวกเขายื่นมือมาแตะพี่สื้อสื้อทำไม”
ไม่รอให้ข่ายสื้อลินพูดเสร็จ จิ้นเฟิงเฉินก็ตัดบทว่า “พอ พวกเรายังไม่สนิทกันถึงขั้นนั้น ฉันไม่ชอบให้เธอมาเรียกฉันแบบนี้
อีกอย่างฉันก็ไม่ต้องการให้ภรรยามาโกรธฉันเพราะเธอ เข้าเรื่องเลยดีกว่า คนกลุ่มนั้นมีความเป็นมายังไง? หากเธอไม่คิดจะบอกฉันตามตรง ฉันก็ไม่ถือหากฉันจะบอกที่อยู่เธอกับพวกเขา”
พอข่ายสื้อลินได้ยินก็เบิกตากว้าง เธอไม่คิดว่าจิ้นเฟิงเฉินจะทำถึงขั้นนี้
จึงได้แต่พูดความจริงออกมา
“คนกลุ่มนั้นเป็นองค์กรลับแห่งหนึ่งในต่างประเทศ หนนี้พวกนั้นมาที่เมืองเป่ยเพราะฉัน เพื่อต้องการแย่งข้อมูลงานวิจัยทางอากาศไปจากฉัน
แต่ที่พวกนั้นไม่รู้คือ ข้อมูลไม่ได้อยู่ที่ฉัน ข้อมูลส่วนใหญ่อยู่กับรุ่นพี่ฉัน และเกรงว่าถ้าเอาไว้ที่ฉันจะเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้น
ดังนั้นฉันจึงนำเพียงเอกสารส่วนน้อยติดตัวมาเท่านั้น นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงตามล่าฉัน”
ระหว่างที่พูดข่ายสื้อลินก็สังเกตสีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินตลอดเวลา แต่จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้วแน่นทำให้ในใจเธอรู้สึกตระหนกอยู่บ้าง
เห็นได้ชัดว่าจิ้นเฟิงเฉินไม่เชื่อ หากนำข้อมูลออกจากประเทศ ที่ข้างตัวก็ควรจะมีคนคุ้มกัน
ทำไม ข่ายสื้อลินถึงอยู่คนเดียวตลอดเวลา?
ประกอบกับเธอไม่จำเป็นต้องมาเมืองเป่ยก็ได้ บนโลกนี้มีประเทศ มีเมืองตั้งมากมาย ทำไมเธอจะต้องเลือกที่นี่ด้วย?
ทุกอย่างล้วนน่าสงสัยไปหมด
จิ้นเฟิงเฉินกล่าวกับข่ายสื้อลินด้วยสายตาเย็นชา “คำพูดของเธอไม่มีน้ำหนักสำหรับฉันมากเท่าไหร่นัก ดังนั้นฉันจึงไม่เชื่อ
ความรู้สึกที่เธอมอบให้ฉันก็คือการพยายามเข้าใกล้ฉันกับสื้อสื้อ จงใจนำความยุ่งยากมาให้ หากเธอยังไม่ยอมพูดความจริงอีก ฉันคงทำได้แต่มอบตัวเธอออกไป”
พอได้ยินจิ้นเฟิงเฉินจะเปิดเผยที่อยู่ของตนเอง ข่ายสื้อลินก็รีบร้อนคิดจะจับแขนจิ้นเฟิงเฉินไว้
แต่พอเห็นสายตาของจิ้นเฟิงเฉิน เธอก็ได้แค่เก็บความคิดนี้กลับลงไป
พูดด้วยน้ำเสียงเจือแววขอร้องว่า “อย่านะคะ จิ้ม……คุณจิ้น ที่ฉันพูดมาคือเรื่องจริง แต่ตอนนี้ฉันไม่มีหลักฐานพิสูจน์
ข้อมูลที่อยู่ในมือฉันเป็นความลับ ดังนั้นคุณโปรดเชื่อฉันเถอะนะ”
แต่จิ้นเฟิงเฉินไม่เชื่อเธอทั้งหมด ลุกขึ้นคิดจะจากไป
เห็นเงาหลังจิ้นเฟิงเฉิน ข่ายสื้อลินก็คิดถึงข่าวสำคัญเรื่องหนึ่งได้ทันที
“รอเดี๋ยวค่ะ รุ่นพี่ฉันเป็นคนของพันธมิตรยอดเยี่ยมแห่งโลก เขานำข้อมูลส่วนใหญ่ไปเพราะสามารถรักษามันได้ดีกว่า ครั้งนี้ฉันเป็นเพียงนกต่อตัวหนึ่งที่ถูกไล่ลาเท่านั้น ฉันไม่ได้คิดจะนำความยุ่งยากมาให้พวกคุณจริงๆ”
สิ้นคำ จิ้นเฟิงเฉินก็หยุดฝีเท้า
ที่เรียกว่าพันธมิตรยอดเยี่ยมแห่งโลก ก็คือสมาคมที่แต่ละประเทศก่อตั้งขึ้น
สมาชิกที่สามารถสังกัดอยู่ในนั้นได้ ล้วนแต่เป็นบุคคลอัจฉริยะของโลกทั้งสิ้น
ทุกอาชีพ สาขาที่พวกเขาทำบนโลกนี้ ต่างเป็นอัจฉริยะและพรสวรรค์ที่อยู่ข้างใน กำลังในส่วนนั้นไม่อาจดูถูกได้ง่ายๆ
เวลานี้เอง โทรศัพท์จิ้นเฟิงเฉินก็ดังขึ้น
เห็นเบอร์ที่แสดงอยู่บนหน้าจอ แววตาจิ้นเฟิงเฉินก็อดที่จะอ่อนโยนลงอย่างมากไม่ได้
เขาทำมือเป็นสัญญาณไม่ให้ข่ายสื้อลินส่งเสียง ถึงค่อยรับสาย
“สื้อสื้อ ว่ายังไง?”
“เฟิงเฉินคะ ทำไมคุณยังไม่กลับมาอีก” น้ำเสียงเจียงสื้อสื้อที่ดังมาเจือแววง่วงงุน
จิ้นเฟิงเฉินมองดูวลาแวบหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว
“สื้อสื้อ คืนนี้ผมต้องทำโอทีที่บริษัท มีบางเรื่องที่ยังจัดการไม่เสร็จ คุณนอนก่อนเถอะ”
“งั้นก็ได้ค่ะ คุณต้องพักผ่อนด้วยนะ”
หลังวางสาย เจียงสื้อสื้อก็ผล็อยหลับไปอีกครั้ง
เมื่อกี้เธอแค่ตกใจตื่นมากะทันหัน เห็นว่าจิ้นเฟิงเฉินยังไม่กลับมา จึงคิดโทรหาเขา
ในเมื่อทำโอทีที่บริษัท เธอก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว