ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 531 แผนการลับ
บทที่ 531 แผนการลับ
เจียงสื้อสื้อหยุดชะงักไปสักแป๊บ จากที่รู้สึกอ่อนเพลียง่วงนอนอยู่นั้น ก็หันไปมองเขาอย่างรวดเร็ว
“ไปเมื่อไร? ไปกี่วัน?”
พูดจบ แววตาของเจียงสื้อสื้อก็แฝงไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ แสงสว่างดำมืดลงไม่น้อย
จิ้นเฟิงเฉินเก็บไดร์เป่าผม แล้วเริ่มใช้ผ้าขนหนูเช็ดให้เธออย่างเบาๆ พร้อมกับพูดกระซิบๆ“ไปพรุ่งนี้ แต่ระยะเวลาในครั้งนี้ไม่แน่นอน อาจจะนานสักหน่อย”
เขาไม่ได้บอกเรื่องข่ายสื้อลินกับเธอ เพราะว่าเรื่องในครั้งนี้ มันเกี่ยวข้องกับอันตราย เขาไม่อยากให้เธอเป็นห่วง
เจียงสื้อสื้อพอได้ยินแบบนั้น คิ้วก็ขมวดเล็กน้อย เธอพยายามคาดเดาจากสีหน้าของจิ้นเฟิงเฉิน ในใจรู้สึกกระวนกระวายไม่น้อย
“ทำไมถึงรีบขนาดนี้? บริษัทมีปัญหาอย่างนั้นเหรอ?”
จากสีหน้าและน้ำเสียงของจิ้นเฟิงเฉินแล้ว เธอพอจะรู้สึกได้ว่าเขาน่าจะเจอกับปัญหาหรืออุปสรรคอะไรสักอย่าง
ใจก็เต้นขึ้นมาทันที
“ไม่มีปัญหาอะไรหรอก แค่ไปตรวจธุรกิจเหมือนกับปกตินั่นแหละ หรือว่าคุณไม่เชื่อความสามารถของผม? คิดว่าผมจะจัดการเรื่องสัญญาไม่ได้งั้นเหรอ?”
จิ้นเฟิงเฉินเกี่ยวนิ้วของเธอ บิดเบาๆ จงใจใช้ประโยคคำถามเบี่ยงเบนความสนใจของเธอ
เจียงสื้อสื้อส่ายหัวพร้อมกับพูดขึ้น“ฉันเชื่อสิ คุณสุดยอดจะตาย ฉันก็แค่รู้สึกว่ามันกะทันหันเกินไป”
ว่าด้วยเรื่องความสามารถในการทำงานที่บริษัทของจิ้นเฟิงเฉินแล้ว เธอเชื่อมั่นในตัวเขาอย่างสุดใจ
พูดแบบไม่ได้เว่อเกินจริงนะ เพียงแค่เขาคิดอยากจะทำอะไรแล้ว ก็ไม่มีงานธุรกิจไหนที่เขาเจรจาไม่สำเร็จเลย
แต่แค่ครั้งนี้มันทำให้เธอรู้สึกว่ามีตรงไหนที่มันแปลกๆไม่ชอบมาพากล
เธอจ้องจิ้นเฟิงเฉิน พยายามที่จะมองอะไรบางอย่างให้ออก
พอเห็นสีหน้าที่จริงจังของเธอ จิ้นเฟิงเฉินก็โค้งริมฝีปาก ยกคิ้วที่สวยดูดีให้กับเจียงสื้อสื้ออย่างอบอุ่น
พูดขึ้นอย่างคุลมเครือไม่ชัดเจน“อ้อ? ดูแล้วผมคงจะเก่งไม่พอสินะ ถึงทำให้คุณภรรยารู้สึกกระวนกระวายแบบนี้ ผมทำให้คุณภรรยาไม่พอใจ ผมผิดเองแหละ”
น้ำเสียงเบาๆ ทำให้เจียงสื้อสื้อไม่เข้าใจว่าเขากำลังบอกเป็นนัยอะไรอยู่
สีหน้าแดงระเรื่อเต็มไปด้วยความสงสัย เธอใช้หมอนตีเขาด้วยความรู้สึกอาย
“ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นสักหน่อย คุณจงใจตีความหมายของฉันผิด!”
จิ้นเฟิงเฉินได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมา จับหมอนไว้
ยื่นมือคว้าตัวเธอเข้ามาโอบอยู่ในอ้อมกอด กระซิบที่หูของเธอ
“อ้อ? แล้วคุณภรรยาหมายความว่ายังไง แสดงว่าพอใจมากสินะ?”
กลิ่นลมหายใจหอมอ่อนๆของจิ้นเฟิงเฉินมากระทบที่หู ทำให้หูของเจียงสื้อสื้อแดงผ่าว ยื่นมือออกไปดันๆเขา
พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“ฉันไม่บอก ถึงยังไงก็ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดก็แล้วกัน”
พอเห็นว่าหูเธอเริ่มแดง จิ้นเฟิงเฉินก็ยิ้มอย่างกำเริบเสิบสาน เจียงสื้อสื้อผลักเขาไม่ออก แถมเธอกลับถูกพาไปนอนลงบนเตียงอีกด้วย
ทั้งสองจ้องตากัน อุณหภูมิร่างกายเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา
จิ้นเฟิงเฉิน สิบนิ้วประสานกัน คลุกคลีนัวเนียกับเจียงสื้อสื้อ ออกกำลังกายตามพละกำลังที่มี ตามคำสั่งของแพทย์
เปลี่ยนวิธีการที่ทำให้เธอยอมรับในความสุดยอดของเขา
……
ความรู้สึกอ่อนโยนภายในห้องนั้น ทำให้เจียงสื้อสื้อแทบจะไม่ได้มีกะจิตกะใจไปคิดว่ามันมีตรงไหนที่มันแปลกๆไม่ชอบมาพากลอีก
วันต่อมา เจียงสื้อสื้อเหนื่อยจนลุกไม่ไหว
ในขณะที่กำลังสะลึมสะลืออยู่นั้น ได้ยินเสียงตื่นนอนของจิ้นเฟิงเฉิน
“สื้อสื้อ ผมไปแล้วนะ”
จูบลงไปที่หน้าผากหนึ่งที เป็นจูบแห่งรักและอาลัยอาวรณ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
จิ้นเฟิงเฉินราวกับจะสลักใบหน้าของเธอเอาไว้อยู่ในใจของเขาอย่างไรอย่างนั้น
“อื้อ รีบกลับมาล่ะ”
น้ำเสียงของเธออ่อนโยน ในขณะที่กำลังสะลึมสะลือนั้น เธอกอดคอของเขาอยู่สักพัก ก่อนจะปล่อยออก
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มอย่างพออกพอใจ ลงบันไดไป เขาตะโกนเรียกจื่อเฟิง
“จื่อเฟิง ช่วงหลายวันที่ฉันไม่อยู่ เธอต้องอยู่ประกบสื้อสื้อห้ามห่างไปไหน ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับสื้อสื้อแม้แต่นิดเดียว เธอเตรียมย้ายออกไปได้เลย!”
จิ้นเฟิงเฉินสายตาเฉียบคม กวาดมองไปยังจื่อเฟิงอย่างเยือกเย็น
เรื่องเมื่อครั้งก่อน ที่เขาไม่ได้ถามหาความรับผิดชอบอะไร ไม่ได้หมายความว่าเขายกโทษให้เธอ
นี่เป็นโอกาสครั้งที่สอง และก็เป็นโอกาสครั้งสุดท้ายแล้วเช่นกัน
พอเห็นสายตาที่เยือกเย็นของจิ้นเฟิงเฉินแล้วจื่อเฟิงก็สั่นสะดุ้งไปทั่วร่างกาย
เธอกัดริมฝีปาก สายตาแฝงไปด้วยความหวาดกลัว
คำพูดของจิ้นเฟิงเฉิน เธอไม่กล้าขัดขืน
เธอก้มมองต่ำลง ตอบรับไปหนึ่งประโยค“ฉันทราบแล้วค่ะ คุณวางใจเถอะ”
แววตาสีน้ำตาลดูมืดมัวลงไปไม่น้อย
ในใจ แอบรู้สึกเจ็บปวด
จิ้นเฟิงเฉินพอเห็นแบบนี้ ก็หันสายตาที่จ้องเขม็งจื่อเฟิงกลับมา
“ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น รีบรายงานให้ฉันทราบเลยทันที”
พูดสั่งกำชับง่ายๆไปหนึ่งประโยค ก่อนจะก้าวขาเดินออกไปจากบ้าน
ด้านหลัง จื่อเฟิงมองเงาหลังของเขา แววตาเจ็บปวดไม่น้อย
ไม่นาน ความรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้ก็ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกขยะแขยงเคียดแต้นและไม่เต็มใจ
ความรู้สึกอิจฉาริษยาก็มาครอบงำพันเกี่ยวราวกับเถาวัลย์ แทรกแซงไปทุกที่ภายในจิตใจ
เธอกำมือแน่น มองไปยังห้องนอน
ถ้าคิดจะกำจัดเจียงสื้อสื้อ นี่ก็เป็นโอกาสที่เหมาะที่สุดแล้ว!
หลังจากผ่านไปสักพัก เธอก็ตัดสินใจ โทรศัพท์ออกไปยังสายสายหนึ่ง
“พาเธอกลับประเทศมา อย่าให้ถูกใครรู้ใครเห็นล่ะ”
เธอพูดสั่งคนในสายอยู่สองสามประโยค แล้วก็วางสายลง
ทางฝั่งนั้น เจียงนวลนวลถูกพาไปยังสนามบินในคืนนั้นทันที
หลังจากที่รู้ว่าจื่อเฟิงให้คนมาพาเธอกลับประเทศ เจียงนวลนวลก็สีหน้าแปลกใจอย่างช่วยไม่ได้
ในใจรู้สึกกระวนกระวายไม่น้อย ในขณะเดียวกันก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้าง
ในตอนที่ลงจากเครื่อง พอคิดถึงพ่อแม้ ก็เริ่มรู้สึกอัดอั้นอยู่ตรงจมูกอยู่ไม่น้อย
ยังไม่ทันได้รู้สึกซาบซึ้ง เธอก็ถูกลูกน้องของจื่อเฟิงส่งไปคุ้มกันที่อพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง
พอตกกลางคืน ก็ได้รับข้อความจากลูกน้อง
จื่อเฟิงไปยังที่ที่ซ่อนเจียงนวลนวลเอาไว้ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป
หันไปส่งสายตาให้กับลูกน้อง ให้พวกเขาออกไปก่อน
เจียงนวลนวลพอเห็นจื่อเฟิง ก็รู้สึกกลัวไม่น้อย ตัวสั่นด้วยสัญชาตญาณ
จื่อเฟิงเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่อบอุ่น เดินเข้าไปตบๆที่ไหล่ของเจียงนวลนวล
“อย่ากลัวเลย ลืมแล้วเหรอ ตอนนี้พวกเราอยู่ในสมัยภูมิรบเดียวกันแล้วนะ”
เจียงนวลนวลพยักหน้าอย่างอึดอัด
“ทำไมจู่ๆคุณถึงให้ฉันกลับประเทศ?”
เธอถามคำถามที่อยากถามมาโดยตลอดออกไปทันที อย่างไม่มีการยับยั้งชั่งใจ
จื่อเฟิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่น“ฉันเคยบอกไปแล้ว ว่าจะแก้แค้นให้กับคุณ ตอนนี้โอกาสของคุณมาแล้ว จิ้นเฟิงเฉินออกประเทศไปแล้ว ตอนนี้เจียงสื้อสื้ออยู่ตัวคนเดียว คุณมีโอกาสที่จะไปจัดการกับเธอแล้วนะ”
คำพูดแค่ไม่กี่ประโยคก็สามารถฉุดกระชากอารมณ์ความรู้สึกของเจียงนวลนวลได้
พอได้ยินแบบนั้นสายตาของเจียงนวลนวลก็แฝงไปด้วยความโกรธเกลียดเคียดแค้น กำหมัดแน่น เธอมองไปยังจื่อเฟิง พูดขึ้นอย่างบ้าคลั่งเล็กน้อย“ถ้าอย่างนั้นก็ดีจริงๆ!คุณอยากให้ฉันทำอะไร ก็รีบสั่งมาเถอะ ขอแค่ทำให้เจียงสื้อสื้อตาย ถึงจะต้องตายไปทั้งสองฝ่ายฉันก็ยอม!”
พอคิดว่าแม่ตัวเองถูกจำคุกเพราะว่าเจียงสื้อสื้อ ความโกรธแค้นของเจียงนวลนวลก็เดือดดาลไปทั่วร่างกาย
เธอแทบจะอยากให้เจียงสื้อสื้อตายไปให้รู้แล้วรู้รอด!
จื่อเฟิงเห็นสีหน้าอารมณ์ของเจียงนวลนวล เธอแอบยิ้มๆอย่างไม่เปิดเผยให้เห็น
พูดโน้มน้าว“คุณอย่างเพิ่งผลีผลามเกินไป แม้ว่าโอกาสในครั้งนี้จะไม่ได้มาง่ายๆ แต่การที่คุณคิดจะเข้าใกล้ตัวของเจียงสื้อสื้อมันไม่ง่ายหรอกนะ”
แผนการในครั้งนี้ของจื่อเฟิงคือใช้คนอื่นในการลงมือ ไม่ให้ทิ้งเบาะแสที่สาวมาถึงตัวเองอะไรไว้แม้แต่นิดเดียว
ต้องอย่าให้จิ้นเฟิงเฉินสงสัยมาถึงตัวเธอเป็นอันขาด
เจียงนวลนวลพูดถามขึ้นอย่างรีบร้อน“แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไง?”
“มานี่ ฉันจะบอกคุณเอง”
จื่อเฟิงกวักมือ ให้เจียงนวลนวลมาหา ทั้งสองพูดคุยอธิบายแผนลับกันทันที
เธอพูดเสียงเบา ที่หูของเจียงนวลนวล“ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อของคุณกับเจียงสื้อสื้อค่อนข้างจะอบอุ่น ถ้าคุณคิดที่จะเข้าใกล้เจียงสื้อสื้อล่ะก็ อันดับแรกต้องไปหาพ่อของคุณ ให้พวกเขาไว้วางใจคุณก่อน คุณทำแบบนี้……”