ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 534 อยู่ที่นี่รู้สึกยังไงบ้างล่ะ?
บทที่ 534 อยู่ที่นี่รู้สึกยังไงบ้างล่ะ?
เจียงสื้อสื้อตอบสนองกลับมาอย่างรวดเร็วว่านี่มันคืออะไร คิดที่จะกลั้นหายใจเอาไว้ แต่ก็ไม่ทันแล้ว
เธอสูดเข้าไปเยอะแล้ว
ข้างหลังของเธอ เจียงนวลนวลยืนอยู่เบื้องหลัง มือข้างหนึ่งกดมือของเจียงสื้อสื้อเอาไว้ มืออีกข้างกดปากและจมูกของเธออย่างแรง
ที่ผ้าผืนนี้ ถูกเธอใส่ยาสลบที่เหลือจากของเจียงเจิ้นเอาไว้
ท่าทางการกระทำที่ขัดขืนของเจียงสื้อสื้อค่อยๆอ่อนแรงลงเรื่อยๆ
เธอพยายามที่จะพยุงสติตัวเองเอาไว้ แต่สติก็ค่อยๆเลือนหายไป ร่างกายก็เริ่มจะหมดเรี่ยวแรง
หลับตาลงสักพัก ความหวาดกลัวของเธอก็ค่อยๆเพิ่มมากขึ้น
ใบหน้าของจิ้นเฟิงเฉินผุดขึ้นมาในหัว เธอคิดที่จะร้องตะโกนออกมา แต่กลับส่งเสียงอะไรไม่ออกมา
สุดท้ายแขนของเธอก็หมดเรี่ยวแรงร่วงตกลง คนที่จับเธอเอาไว้ปล่อยเธอลงไป เธอก็ล้มลงไปบนพื้นทันที
ในขณะนี้เอง จื่อเฟิงเดินเข้าไป
หลังจากผ่านไปสิบนาที บอดี้การ์ดประคองตัวเจียงสื้อสื้อออกมาจากข้างใน เจียงนวลนวลตามมาอยู่ข้างหลัง
พวกมันมุ่งตรงไปยังรถที่กำลังจอดอยู่ข้างนอก
จื่อเฟิงพุ่งโซซัดโซเซมายังประตู พร้อมกับตะโกนพูดขึ้น“พวกคุณไปไม่ได้ หยุดนะ……”
มือขวาของเธอประกบที่บาดแผลเอาไว้ เลือดสดๆไหลออกมา หยดลงบนพื้นไม่หยุด
เจียงนวลนวลหยุดชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็ไม่ได้สงสัยอะไร สั่งให้บอดี้การ์ดพาเจียงสื้อสื้อขึ้นไปบนรถ
ต่อมา รถก็แล่นออกไป
……
เจียงสื้อสื้อตื่นขึ้นมา ปวดหัวสุดๆ รู้สึกไม่สบายไปทั่วตัว
ไม่นานเธอก็รู้สึกไม่ชอบมาพากลทันที
เนื่องจากหน้าของเธอ กำลังนาบอยู่บนพื้น
หรือพูดได้ว่า ทั้งตัวเธอกำลังนอนอยู่บนพื้น ที่จมูกได้กลิ่นเค็มๆอยู่ไม่น้อย
เจียงสื้อสื้อคิดที่จะลุกขึ้นมานั่ง แต่เพิ่งพบว่ามือเท้าของตัวเองถูกมัดเชือกเอาไว้
ใจของเธอก็เต้นขึ้นมา รีบมองสำรวจไปรอบๆอย่างรวดเร็ว
ที่นี่เนื้อที่ไม่กว้างใหญ่ รอบๆมืดมิด
ตรงข้างบนฝั่งขวามีหน้าต่างเล็กๆหนึ่งบาน ล้อมรอบไปด้วยสินค้าที่วางซ้อนทับกันเป็นกองๆ
ลมที่พัดผ่านมาก็พัดพาเอากลิ่นเค็มๆมาด้วย ราวกับว่ากำลังอยู่บนเรือ
ความคิดในหัวของเจียงสื้อสื้อก็จ่างแจ้งขึ้นมาทันที เธอถูกลักพาตัวแล้ว
ในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสับสนวุ่นวาย มือเท้าเริ่มเย็น เธอกัดริมฝีปาก ให้ตัวเองสงบจิตใจลง
จะตื่นตกใจไม่ได้ ตอนนี้ยังไม่รู้สถานการณ์แน่ชัด เธอต้องนิ่งสงบ
เจียงสื้อสื้อพยายามที่จะลุกขึ้นมานั่ง ค่อยๆดันไปที่กำแพง หลังพิงกำแพงเอาไว้ ในใจของเธอสงบลงเยอะ
จากนั้นก็พยายามบิดสองมือ สุดท้ายก็คลายเชือกออกได้นิดนึง แต่ก็ได้แค่เท่านั้น
เชือกถูกมัดไว้อย่างช่ำชองเป็นพิเศษ ถ้าไม่มีคนที่สามมาช่วย ก็ไม่มีทางแก้ออกได้แน่นอน
เจียงสื้อสื้อสูดหายใจเข้า นั่งพักพิงกำแพงก่อนสักหน่อย
ในนี้ไม่มีคน ประตูก็ถูกปิดอยู่ ข้างนอกจะต้องมีคนคอยเฝ้าอยู่แน่นอน
สถานการณ์ในตอนนี้ไม่ชัดเจน เจียงสื้อสื้อไม่อยากดึงดูดความสนใจของคนข้างนอก
เธอใช้สมองครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว
คนที่ลักพาตัวอยู่ในบ้านของพ่อ แม้ไม่รู้ว่าเจียงเจิ้นได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี่หรือไม่ แต่ตอนนี้เจียงสื้อสื้อรู้สึกผิดหวังกับเขาอย่างมาก
ในตอนนั้นอีกฝั่งลงมือเร็วมาก เธอยังไม่ทันได้เห็นอะไร
ทำให้เห็นว่าคนคนนั้นมีการเตรียมการมาอย่างดี ถ้าจะโทษก็โทษแค่เธอที่ไม่ระมัดระวังมากพอ ติดกับของพวกมัน
มาพูดแบบนี้ในตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว
เจียงสื้อสื้อพยายามครุ่นคิดถึงคนร้ายที่ลักพาตัวเธอมาในครั้งนี้
มีอยู่สองแบบ แบบแรกคือเจียงเจิ้นมีส่วนรู้เห็น หรือมีส่วนสมคบคิด อันนี้อย่างเพิ่งไปคิดพิจารณาก่อน
แบบที่สองคือเจียงจิ้นไม่มีส่วนรู้เห็น มีคนใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ของพวกเขา
ถ้าอย่างนั้นคนคนนั้นก็น่าจะรู้สถานะของเธอ แต่เธอแทบไม่เคยไปทำอะไรให้ใครเลย ที่ตัวก็ไม่มีอะไรที่ล่อตาล่อใจให้ต้องลักพาตัวด้วย
แต่เธอมีหนึ่งตำแหน่งที่ทำให้คนอิจฉาริษยาอยู่ เธอเป็นภรรยาของจิ้นเฟิงเฉิน
จิ้นเฟิงเฉินเท่ากับแหล่งเงินแหล่งทอง แถมผู้คนมากมายก็รู้ทั้งนั้น ว่าเขารักภรรยาของเขามาก
ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็ พวกเขาจะต้องติดต่อไปที่จิ้นเฟิงเฉินแน่ๆ ต้องการให้เขานำเงินมาแลกเปลี่ยน
ทางฝั่งของจิ้นเฟิงเฉินไม่มีทางเชื่อ จะต้องขอฟังเสียงเธอพูดก่อนแน่นอน
แต่ถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครมายุ่งอะไรกับเธอ ทำให้เห็นแล้วว่าความเป็นไปได้มันต่ำเกินไป
แต่อีกฝั่งหนึ่งคนลักพาตัวอาจจะเป็นศัตรูของจิ้นเฟิงเฉิน
ถึงยังไงธุรกิจของเขายิ่งใหญ่ขนาดนั้น จะมีศัตรูอยู่บ้างก็ไม่แปลกอะไร
แผนการในครั้งนี้ส่วนใหญ่แล้วก็เพื่อให้จิ้นเฟิงเฉินยอมถอยไป แถมเกลียดแค้นเขา ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็ ชีวิตของเธอก็ตกอยู่ในอันตรายแล้ว
เจียงสื้อสื้อหัวใจเต้นตึกตักขึ้นมาทันที
แต่เธอก็เชื่อว่าจิ้นเฟิงเฉินจะมาช่วยเธอ เขาจะต้องหาเธอเจอแน่นอน
ความเชื่อแบบนี้ จะต้องผ่านการรู้จักและคบกันมานานจนรู้ใจกันแล้วกันเท่านั้น
เพียงแต่ เขาจะหาเธอเจอตอนไหนเท่านั้นเอง?
เจียงสื้อสื้อไถลลงพื้นตรงมุมกำแพง ในใจไม่ได้รู้สึกกลัวขนาดนั้นแล้ว
เธอจ้องประตูที่ปิดสนิท จู่ๆก็ตะโกนพูดขึ้น“ข้างนอกมีคนไหม?”
ไม่มีใครตอบ เงียบสนิท
เจียงสื้อสื้อกัดริมฝีปาก ไม่ท้อแท้ที่จะตะโกนต่อไป“พวกแกอยากได้เงินใช่ไหม? ปล่อยฉันไปแล้ว ฉันจะให้เงินพวกแก สองเท่าก็ยังได้เลย”
“ใครก็ได้ ฉันเป็นภรรยาของจิ้นเฟิงเฉิน เขารวยมาก จะต้องให้ในสิ่งที่พวกแกต้องการได้แน่นอน”
“มีใครไหม ถ้าพวกแกปล่อยฉันไป มีประโยชน์กว่าการที่พวกแกจับฉันไว้แบบนี้เยอะเลยนะ”
เจียงสื้อสื้อตะโกนจนคอแทบจะแตก ก็ยังคงไม่มีใครสนใจเธอ
ข้างในเงียบสงัดเหมือนกับข้างนอก ราวกับว่ามีแค่เธอคนเดียวเท่านั้น
แสงในตาของเจียงสื้อสื้อมืดลงทันที ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงแล้ว รู้สึกจนตรอก
เธอรู้สึกหมดหวังสุดๆ ทำได้แค่หมอบลงอยู่ที่พื้นด้วยจิตใจที่อยู่ไม่สุข
ส่วนในขณะนี้เอง เจียงนวลนวลที่อยู่ข้างนอกกำลังยืนซ่อนอยู่ที่มุมมืด มองภาพภาพนี้ สีหน้าเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มที่สะอกสะใจ
เธอไม่เพียงแต่อยากจะเอาชีวิตของเจียงสื้อสื้อ แต่ก่อนหน้านั้น เธออยากที่จะทำให้เจียงสื้อสื้อรู้สึกหวาดกลัวกระวนกระวายใจสุดๆก่อนสักหน่อย
เป็นอย่างที่คิดไว้ เนื่องจากเจียงสื้อสื้อไม่รู้ เธอก็ไม่สามารถสงบจิตใจลงได้
ความกังวลที่มีมากเกินไปบวกเข้ากับความหวาดกลัว ทำให้เธอสลบไปอีกหนึ่งรอบ
ก่อนที่จะเป็นลมไป เธอกุมท้องเอาไว้ ในใจพูดพึมพำ ขอโทษนะลูก แม่ทำให้ลูกตกใจจนได้
ผ่านไปสักพัก เธอลืมตาขึ้นอย่างมึนงง พบว่าตัวเองยังอยู่ในที่แคบๆนั่นอยู่
นี่ไม่ใช่กำลังฝันไป เธอถูกลักพาตัวมาจริงๆ
เจียงสื้อสื้อทั้งกระหายทั้งหิว ทั้งเหนื่อยทั้งกลัว สถานการณ์ในตอนนี้ดูย่ำแย่มากๆ
ตอนที่เธอกำลังคิดว่าคนร้ายที่ลักพาตัวเธอจะโผล่มาเมื่อไร จู่ๆข้างนอกก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมา
เจียงสื้อสื้อสะดุ้ง รีบนั่งหลังตรง หลังพิงกำแพง จ้องประตูอย่างระแวดระวัง
“มันเป็นยังไงบ้าง?”
“เป็นลมไปอีกแล้ว”
มีเสียงที่พูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยามดังขึ้นมา“จุ๊ๆ ช่างไร้ค่าจริงๆ”
เจียงสื้อสื้อรู้สึกว่าน้ำเสียงนี้มันคุ้นๆอย่างบอกไม่ถูก แต่เนื่องจากถูกบานประตูกั้นไว้อยู่ จึงทำให้ฟังไม่ค่อยชัดเจนมากนัก
เธอตกใจขึ้นมา คนที่จับเธอมาเป็นผู้หญิง?
“เปิดประตูออก”เสียงผู้หญิงพูดสั่งขึ้นมา
ต่อมา ประตูโกดังก็ถูกเปิดออก แสงอาทิตย์สอดส่องเข้ามา
เจียงสื้อสื้อปิดตาลงตามสัญชาตญาณ จากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ
เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา คนที่เป็นหัวหน้าจ้องมองเธอพร้อมกับยิ้มๆ ทักทายเธออย่างอารมณ์ดี
“เป็นยังไงบ้าง ความรู้สึกที่อยู่ที่นี่เป็นยังไง?”
รู้สึกตกใจขึ้นมา เจียงสื้อสื้อเงยหน้ามองคนที่เดินเข้ามา ตาก็ถลึงโตขึ้นมาทันที
“เธอเองเหรอ!”
คิดไม่ถึงว่าคนคนนี้จะเป็นเจียงนวลนวล!
เจียงนวลนวลดูเหมือนจะผอมกว่าเมื่อก่อนลงไปเล็กน้อย ผิวพรรณที่หน้าก็ดูหยาบกร้านไปเยอะเหมือนกัน แทบจะเทียบไม่ได้กับสมัยที่อยู่ที่ตระกูลเจียง