ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 586 ขอโทษนะเสี่ยวเป่า
บทที่ 586 ขอโทษนะเสี่ยวเป่า
ความฝันนี้ทั้งเหมือนจริงแล้วก็ไม่ เจียงสื้อสื้อไม่อยากที่จะตื่นมาจากฝัน
“หม่ามี๊ เถียนเถียนหิวแล้วค่ะ”
เสียงของเถียนเถียนได้ทำให้เจียงสื้อสื้อตื่น เจียงสื้อสื้อไม่เต็มใจที่จะลืมตา เห็นว่าเถียนเถียนได้สวมเสื้อของตัวเองเรียบร้อย
เจียงสื้อสื้อลุกขึ้น พูดชมว่า “เถียนเถียนเป็นเด็กดีจัง วันนี้ใส่เสื้อเองด้วย เดี๋ยวหม่ามี๊ให้เค้กชิ้นหนึ่งเป็นรางวัล”
ได้ยินว่าได้เค้กเป็นรางวัล เถียนเถียนก็ได้พูดอย่างดีใจว่า “ดีค่ะ งั้นหม่ามี๊ก็รีบไปเก็บของ พาเถียนเถียนไปทานข้าว”
พูดจบก็ได้กระโดดลงจากเตียง พอดีเสียงออดห้องก็ได้ดังขึ้น
เจียงสื้อสื้อคิดว่าเป็นฝู้จิงเหวิน ก็ได้พูดกับเถียนเถียน “เถียนเถียนไปเป็นประตูหน่อยค่ะ ให้คุณพ่อเข้ามา”
เถียนเถียนได้รับคำสั่ง ก็ได้วิ่งกระโดดโลดเต้นไปหน้าประตู
ดีที่โรงแรมที่อยู่คราวนี้สามารถที่จะให้เด็กเป็นประตูได้ เถียนเถียนก็ได้กดปุ่มที่อยู่ข้างล่าง ประตูห้องก็ถูกเปิดออก
เห็นคนที่อยู่นอกประตู เถียนเถียนก็ได้กระโจมเข้าไปด้วยความดีใจ
“พี่ชาย!”
เห็นว่าเถียนเถียนที่มีท่าทางดีใจ อารมณ์ของเสี่ยวเป่าก็ได้ดีใจตามไปด้วย
เขาได้อุ้มเถียนเถียนขึ้นมาจากพื้น แล้วก็พูดเข้าไปข้างในว่า “หม่ามี๊ ผมเข้าไปข้างในได้ไหมครับ?”
ได้ยินเสียงของเสี่ยวเป่า มือที่กำลังล้างหน้าล้างตาของเจียงสื้อสื้อก็ได้หยุดลง
เธอคิดไม่ถึงว่าเสี่ยวเป่าจะมาหาเช้าขนาดนี้ ลังเลไปสักพักก็ได้พูดว่า “ผมเข้ามาเลยครับ”
ได้รับอนุญาตจากเจียงสื้อสื้อ เสี่ยวเป่าก็ได้เดินเข้าไปในห้อง
เวลานี้ฝู้จิงเหวินก็ได้เดินมาพอดี เห็นประตูห้องได้แง้มอยู่ ก็ได้ถามด้วยความสงสัย “สื้อสื้อ?”
ตอนที่เขาเห็นว่าในห้องมีเสี่ยวเป่าอยู่ ก็ได้ขมวดคิ้วขึ้น
เสี่ยวเป่าเห็นว่าฝู้จิงเหวินเป็นคนเดินเข้ามา ก็ได้พูดออกไปอย่างสุภาพว่า “สวัสดีครับคุณอา วันนี้ผมอยากจะพาหม่ามี๊กับเถียนเถียนไปเที่ยวด้วยกัน เรื่องเมื่อวานแดดดี๊ของผมรู้สึกผิดมากๆ ขอให้คุณอาให้อภัยด้วย”
เรื่องที่ผู้ใหญ่ได้ทำผิดไว้ แต่กลับให้เด็กคนหนึ่งมาขอโทษ ฝู้จิงเหวินรู้สึกประหลาดมากๆ
แต่มองสายตาที่ใสซื่อของเสี่ยวเป่าเขาก็ไม่ตามตื้อต่อ
“คำขอโทษของหนูอารู้แล้ว แต่ว่าวันนี้พวกเรายังมีธุระ……”
เดิมฝู้จิงเหวินอยากจะปฏิเสธคำขอของเสี่ยวเป่า แต่ว่ายังไม่ทันพูดคำปฏิเสธออกไป ก็เห็นว่าสาวน้อยก็ได้ตอบไปก่อนแล้ว
“ดีเลย! ในที่สุดเถียนเถียนสามารถที่จะไปเล่นกับพี่ชายแล้ว!”
เห็นท่าทางที่ดีใจแบบนั้นของสาวน้อย ฝู้จิงเหวินก็ทำได้แค่กลืนคำนั้นเข้าไป
เวลานี้เจียงสื้อสื้อก็ได้ทำอะไรเสร็จเรียบร้อย เดินออกมาจากห้องน้ำ
เสี่ยวเป่าก็ได้ส่งสายตาที่เหมือนมีคำถามไปให้เธอ เจียงสื้อสื้อพยักหน้าแล้วพูดว่า “งั้นวันนี้รบกวนผมด้วยนะครับ”
ได้ยินแบบนั้นเสี่ยวเป่าก็ได้ดีใจออกมา ก็ได้รีบพูดว่า “หม่ามี๊ไม่ต้องเกรงใจครับ สามารถที่จะพาพวกคุณไปเที่ยวได้ เสี่ยวเป่าดีใจมากๆ!”
เสี่ยวเป่าดีใจในใจ เป็นไปอย่างที่แดดดี๊พูดจริงด้วย หม่ามี๊ยังแคร์เขาอยู่
เห็นว่าเขาดีใจ ในใจลึกๆ ของเจียงสื้อสื้อก็ได้ดีใจมากตาม
เก็บของง่ายๆ พวกเขาก็ได้ขึ้นรถ
เจียงสื้อสื้อมองเสี่ยวเป่า ก็ได้ถามออกไปว่า “ผมรู้อดีตของฉันจริงๆ เหรอ? มันเป็นยังไงกันแน่? อีกอย่างผมชื่ออะไร?”
รู้สึกได้ถึงความห่านเหินจากคำพูดของเจียงสื้อสื้อ ในใจของเสี่ยวเป่าก็ได้เศร้า
แต่คิดว่าหม่ามี๊เป็นเพราะได้รับบาดเจ็บถึงเป็นแบบนี้ ก็ได้ปล่อยวาง
“หม่ามี๊ ผมชื่อจิ้นเป่ยเฉิน หม่ามี๊เรียบผมว่าเสี่ยวเป่าก็พอ วันนี้ผมพาหม่ามี๊ไปที่ที่เคยอยู่ดีไหมครับ? ดีไม่ดีอาจจะเรียกความทรงจำกลับมาได้”
ได้ยินว่าเสี่ยวเป่าก็พาตัวเองกลับไปยังอดีต เจียงสื้อสื้อก็เห็นด้วยทันที
จากการกระแทกหลายครั้ง คนพวกนี้ก็ได้มาถึงบ้านเช่าที่เจียงสื้อสื้อเคยเช่าเมื่อก่อน
ในนั้นได้ร้างหลายปี แต่ว่าจิ้นเฟิงเฉินได้สั่งให้คนมาทำความสะอาดบ่อยๆ
ถึงบอกว่าตรงนี้ได้เก่าไปบ้าง แต่ก็ยังสะอาดอยู่
เพราะว่าได้เจอเรื่องใหม่ๆ เถียนเถียนพอมาถึงที่นี่ ก็แสดงออกมาว่าดีใจมากๆ
ฝู้จิงเหวินได้เดินตามหลังเธอตลอด ระวังว่าเธอจะไปกระแทกตรงไหน
เห็นการจัดวางของห้องนี้ เจียงสื้อสื้อก็ได้ถามออกไปอย่างไม่น่าเชื่อว่า “ที่นี่เป็นที่ที่ฉันอยู่มาก่อนเหรอ?”
เธอยากที่จะคิด ว่าเมื่อก่อนตัวเองอยู่ในบ้านแบบนี้
เสี่ยวเป่าพยักหน้า อธิบายไปว่า “ที่นี่เป็นบ้านที่หม่ามี๊ทำงานแล้วอยู่ ผมกับแดดดี๊มาหาหม่ามี๊ตลอด เพราะว่าหม่ามี๊มีครอบครัวที่ไม่ดีนัก
หม่ามี๊ยังมีน้องสาวที่น่ารำคาญคนหนึ่ง บวกกับคุณยายสุขภาพไม่ดี เพราะงั้นหม่ามี๊ต้องหาเงินมาเยอะๆ มารักษาคุณยาย การใช้ชีวิตก็เลยลำบากไปหน่อย”
ได้ยินว่าตัวเองยังมีแม่ เจียงสื้อสื้อก็ได้ตื่นเต้นขึ้นมา ก็ได้รีบจับมือของเสี่ยวเป่าแล้วถามว่า “แล้วแม่ล่ะ ตอนนี้ยังอยู่ไหม? ร่างกายเป็นยังไงบ้าง?”
ได้ยินแบบนั้นเสี่ยวเป่าก็ได้หดหู่เล็กน้อย ก็ได้ค่อยๆ พูดออกไปว่า “คุณยายยังอยู่ครับ แต่ว่าไม่ได้อยู่ในเมืองเป่ยแล้ว สามปีก่อนหม่ามี๊หายตัว
คุณยายทำใจไม่ได้ ร่างกายยิ่งอยู่ยิ่งไม่ดี เพื่อที่จะให้คุณยายรับการรักษา แดดดี๊ได้ส่งเธอไปรักษาที่ต่างประเทศ แต่ว่าถ้าเกิดคุณยายรู้ว่าหม่ามี๊กลับมาแล้ว ต้องดีใจมากแน่ๆ”
พูดจบ ตาของเสี่ยวเป่าก็ได้เป็นประกายเล็กน้อย
เขาหวังว่าที่แห่งนี้จะมีผลกับความทรงจำของเจียงสื้อสื้อ แล้วก็จำพวกเขาได้ทั้งหมด
มองสายตาที่รอคอยของเสี่ยวเป่า เจียงสื้อสื้อก็ได้ก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด
ได้ยินว่าคุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกว่าโชคดีมากๆ แต่เวลาเดียวกันก็รู้สึกผิด
ถ้าไม่เป็นเพราะเธอ อาการของคุณแม่ก็คงไม่แย่ลงไป
เธอได้เดินไปรอบห้องอีกสองรอบ แต่ก็ไม่รู้สึกอะไร
ในหัวของเธอ ก็ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับที่นี่
“ขอโทษนะเสี่ยวเป่า ฉันก็ยังคิดไม่ออก” เจียงสื้อสื้อก็ได้พูดอย่างรู้สึกผิด
สายตาของเสี่ยวเป่าก็ได้หม่องลง แต่เพื่อไม่ให้กระทบต่อความอ่อนไหวของเจียงสื้อสื้อ เขาก็ทำได้แค่ปลอบ “ไม่เป็นไรครับ หม่ามี๊ พวกเราค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป”
เห็นว่าเจียงสื้อสื้อได้หดหู่เล็กน้อย เถียนเถียนก็ได้กระตุกชายเสื้อของเจียงสื้อสื้อ แล้วก็ได้พูดเสียงใสว่า “หม่ามี๊ไม่ต้องกลัวนะคะ เถียนเถียนอยู่ข้างๆ หม่ามี๊ตลอด”
เห็นเถียนเถียนที่ฉลาดแบบนี้ เจียงสื้อสื้อก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ได้อุ้มเธอขึ้นมา
เห็นว่าไม่มีอะไรให้ดูแล้ว ฝู้จิงเหวินก็ได้พาพวกเขาออกไป
ระหว่างทางเดิน เถียนเถียนก็เอาหน้าถูหน้าเจียงสื้อสื้อแล้วพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “หม่ามี๊ พวกเราไปกินเค้กเถอะ รางวัลวันนี้หม่ามี๊ยังไม่ได้ให้เลย”
เจียงสื้อสื้อได้ยินก็ได้ถูจมูกน้อยๆ ของเถียนเถียน “มีอันนี้แหละที่หนูไม่ลืม”
“เปล่าสักหน่อย หม่ามี๊คิดดูพี่พาเราเที่ยงตั้งนาน หม่ามี๊ยังไม่ได้พาพี่ไปทานอะไรเลยนะคะ หนูคิดว่า พี่ต้องหิวแล้วแน่ๆ จริงไหมคะ?”
พูดจบ เถียนเถียนก็ได้มองไปที่เสี่ยวเป่า รอคำตอบของเธอ
เสี่ยวเป่าเห็นสายตาที่อยากจะกินเค้กของเถียนเถียน ก็ได้พยักหน้าไป
“หม่ามี๊ดูพี่ตกลงแล้ว หม่ามี๊พาหนูไปกินเค้ก”
เถียนเถียนพูดไปก็ได้ดิ้นรนที่จะลงมา ไปข้างๆ เสี่ยวเป่า
“ก็ได้ค่ะ ยัยผีน้อย” เจียงสื้อสื้อก็ได้ตอบไปอย่างช่วยไม่ได้