ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 646 ไสหัวไป
บทที่ 646 ไสหัวไป
นานมาแล้ว ที่นอกจากเจียงสื้อสื้อ ก็ไม่มีสิ่งใดในโทรศัพท์เขาอีก
“มันยากมากที่จะเฝ้ารอคุณกลับมา แต่คุณกลับไม่รู้จักผม และจะไปแต่งงานกับคนอื่น สื้อสื้อคุณโหดร้ายกับผมเหลือเกิน”
เขาเคยเห็นภาพเหล่านี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ใบหน้าที่สดใสของเจียงสื้อสื้อสลักลงในห้วงความคิดเขา
แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ เขาต้องการคนนี้
จิ้นเฟิงเฉินดื่มเสร็จในรวดเดียว ก่อนจะโยนขวดออกไป
เขานอนหงาย ใบหน้าหล่อราวกับเทพเจ้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
นอนพิงแบบนี้ ไม่นานเขาก็หลับไปโดยไม่รู้ตัว
ในความมึนงง ดูเหมือนว่าเจียงสื้อสื้อจะมาปรากฏตัวต่อหน้าเขา
จิ้นเฟิงเฉินดีใจมาก เขารู้ว่าหลังจากดื่มเหล้าแล้วสื้อสื้อจะมาปรากฏตัว เขาสัมผัสรู้ถึงกฎเกณฑ์นี้
แม้ว่าสื้อสื้อจะไม่ชอบให้เขาดื่ม แต่เพื่อที่จะได้เจอเธอ เขาเพียงเสี่ยงทำให้เธอโกรธและพอถึงคราวค่อยขอโทษเธอ
จื่อเฟิงเข้ามา เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะเตะอะไรบางอย่างที่อยู่บนพื้น เมื่อตั้งใจดูจึงเห็นเป็นขวดเหล้าเปล่า
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาดื่มอีกแล้ว ภายในห้องทำงานคลุ้งไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์
ผู้หญิงคนนั้นมีดีอะไร คุ้มค่าอะไรที่ประธานจิ้นที่แสนดีจะเมาแล้วเมาอีกเพื่อเธอ
จื่อเฟิงไม่เต็มใจที่จะทำ ทุกครั้งเธอทำได้แค่เพียงกัดฟันกล้ำกลืน
ยังไม่ถึงเวลา เธอใจร้อนตอนนี้ไม่ได้
เมื่อเห็นสถานการณ์ในห้องทำงานอย่างชัดเจน จื่อเฟิงรู้สึกเป็นทุกข์
จิ้นเฟิงเฉินนอนหลับไปบนเก้าอี้ทั้งอย่างนั้น
ในตอนกลางวันจะเป็นประธานจิ้นที่สง่างามหนักแน่น แต่ในตอนนี้ผมของเขายุ่งเหยิง ปกเสื้อผ้าหลุดออกจากกัน
เขาดูไม่มีชีวิตชีวา ในมือยังกำโทรศัพท์ไว้แน่น และหน้าจอโทรศัพท์ยังคงค้างอยู่ในอัลบั้มรูป
เจียงสื้อสื้อยิ้มหวานให้เธอที่อยู่ข้างนอกเหมือนยั่วยุ
แม้ว่าฉันจะจากไป แต่เธอก็ยังไม่สามารถอยู่ในตำแหน่งของฉันได้
ทันใดนั้นหัวใจของจื่อเฟิงก็ลุกเป็นไฟ
แทบอดไม่ได้ที่จะเข้าไปขว้างโทรศัพท์ให้แตก แต่เมื่อพิจารณาถึงผลที่จะตามมา เธอก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อควบคุมอารมณ์
จากนั้นเธอก็เคียดแค้นจิ้นเฟิงเฉินขึ้นมา
ดื่มแล้วกลายเป็นแบบนี้ กลางค่ำกลางคืนไม่กลับไปนอน ก็เพราะผู้หญิงคนนี้
เธอจ้องมองไปยังจิ้นเฟิงเฉินที่ถึงแม้จะหลับไปแล้วแต่ยังคงขมวดคิ้ว คิดอยากจะเข้าไปคลายปมระหว่างคิ้วของเขาให้เรียบสนิท
มือเอื้อมไปได้ครึ่งหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆคลายออก ช่างมันเถอะ เธออยู่ในตำแหน่งอะไร
จื่อเฟิงยืนอยู่ตรงหน้าจิ้นเฟิงเฉิน เธอจ้องมองเขาเงียบๆ เป็นเวลานาน
ความหลงใหลในดวงตาไม่ถูกปิดบังอีกต่อไป ดวงตามองอย่างไม่เกรงใจไปยังใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับเทพเจ้าของจิ้นเฟิงเฉินอย่างอ้อยอิ่ง
เธอรักผู้ชายคนนี้มาหลายปีแล้ว แต่เขาไม่เคยหันมามองเธอ
เจียงสื้อสื้อมีดีตรงไหน แม้จะหลายปีแล้วแต่เขาก็ไม่ลืมเสียที
หัวใจของจื่อเฟิงทั้งโศกเศร้าและอิจฉา
แต่อย่างไรก็ตาม เธอจะไม่ยอมปล่อยมือ สักวันหนึ่ง ผู้ชายคนนี้จะเป็นของเธอ เขาจะมองเห็นข้อดีของเธอ หลังจากนั้นจะตอบแทนเธอ
จื่อเฟิงกำหมัดแน่น เมื่อเห็นจิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้วและขยับตัว เธอก็ถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว
รอให้จิ้นเฟิงเฉินเงียบลง เธอก็จ้องมองไปยังใบหน้าของเขาอีกครั้ง
ตอนกลางวันเธอไม่กล้ามองใบหน้าของจิ้นเฟิงเฉินอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้
ส่วนใหญ่เธอเดินตามเขา เห็นได้เพียงแผ่นหลังกว้างของเขาเท่านั้น
เมื่อจิ้นเฟิงเฉินหันกลับมา เธอจะควบคุมสายตาของตัวเอง
ในที่สุดตอนนี้ก็มีโอกาส
จิ้นเฟิงเฉินตัวสูงมาก เขานอนบนเก้าอี้แบบนี้คงจะอึดอัด
จื่อเฟิงเดินเข้าไปอย่างเงียบเชียบ อยากจะย้ายเขาเข้าไปพักผ่อนด้านใน
เธอบอกตัวเองว่าทั้งหมดก็เพื่อประธานจิ้น เธอไม่ได้มีเจตนาอื่นใด แต่หัวใจของเธอกลับเต้นรัวเร็ว
แต่เธอเพิ่งจะแตะจิ้นเฟิงเฉิน ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
จื่อเฟิงตกใจ ถอยหลังกลับไปโดยไม่รู้ตัว
จิ้นเฟิงเฉินไม่ค่อยชอบให้คนเข้ามาใกล้เกินไป เมื่อเขามีสติเธอไม่เคยกล้าที่จะทำให้เขาขุ่นเคือง
ใจของเธอเกิดความโกลาหล กลัวว่าจิ้นเฟิงเฉินจะโกรธ
“สื้อสื้อ… …” ดวงตาของจิ้นเฟิงเฉินพร่ามัว เขามองคนตรงหน้าอย่างลุ่มหลง
เพราะเพิ่งตื่น สายตาของเขาเลยไม่ค่อยชัดนัก
ยิ่งกว่านั้นเมื่อกี้เพิ่งเห็นเจียงสื้อสื้อไปอีกครั้ง ดังนั้นเมื่อตื่นขึ้นมา เขาคิดว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือคนที่เขาคิดถึงทั้งวันทั้งคืน ในใจมีความยินดีอย่างมาก
แต่ ทำไมสื้อสื้อของเขาถึงได้อยู่ห่างกันนัก?
จื่อเฟิงตื่นเต้น ฝีเท้าที่ถอยห่างหยุดชะงักลงอย่างรวดเร็ว
เธอมองไปที่จิ้นเฟิงเฉินด้วยความตกใจ เขาจำผิดคน เห็นตัวเธอเองเป็นเจียงสื้อสื้อ
เธอน่าจะโกรธ แต่ไม่รู้ว่าทำไม ในใจเธอกลับยินดีอย่างลับๆ
หลังจากสองวินาทีของการยุ่งไปกันใหญ่ จื่อเฟิง ตัดสินใจที่จะทำในสิ่งที่ผิดพลาด
อย่างไรประธานจิ้นก็จำผิดเอง เธอไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นเธอไม่ผิด
อีกทั้งยัง ถูกคนที่ชอบใช้สายตาแบบนี้มองมา เธอไม่มีทางแก้
บางที เธอมีแค่โอกาสนี้ที่จะได้เข้าใกล้เขา
หัวใจที่มีความสุขของจื่อเฟิงสั่นระรัว
“สื้อสื้อ!”
จิ้นเฟิงเฉินจับมือของจื่อเฟิง อุณหภูมิจากฝ่ามือของชายหนุ่มส่งผ่านไปยังผิวหนังสู่หัวใจ แม้แต่จิตวิญญาณของจื่อเฟิงยังสั่นสะท้าน
แม้ว่าตอนนี้เธอจะเป็นเจียงสื้อสื้อคนที่เธอเกลียดมากที่สุด เธอก็ยอม
จื่อเฟิงเดินเข้ามาหาจิ้นเฟิงเฉินทีละก้าว ริมฝีปากสั่นระริก ในสมองคิดแต่ว่า เขาจะทำอะไร
“เฟิงเฉิน… …”
จิ้นเฟิงเฉินยกมุมปากยิ้มขึ้น วันนี้ทำไมสื้อสื้อเชื่อฟังแบบนี้ เรียกให้มาเธอก็มา เป็นเด็กดีมาก
ในใจมีความสุข สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินก็ยิ่งดูอ่อนโยนมากขึ้น
จื่อเฟิงมองอย่างตกตะลึง เดินไปหาจิ้นเฟิงเฉินอย่างงุนงง
ทั้งสองเข้าใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ จิ้นเฟิงเฉินยื่นมืออีกข้างออกไปโอบรอบเอวของจื่อเฟิง
จื่อเฟิงทั้งตกใจระคนดีใจ ดวงตาที่มองไปยังจิ้นเฟิงเฉินแลดูเขินอาย
“เฟิงเฉิน คุณเมาแล้ว พวกเราไปพักผ่อนกันเถอะ”
จื่อเฟิงใช้เสียงเบาชักจูงหยอกล้อ พยายามที่จะเลียนเสียงพูดปกติของเจียงสื้อสื้อ
จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว กลิ่นนี้ ไม่ใช่สื้อสื้อ
จื่อเฟิงยังคงต้องการที่จะพิงร่างกายจิ้นเฟิงเฉิน ทว่าต่อมา ดวงตาของจิ้นเฟิงเฉินกลับชัดขึ้นทันใด
เขาสะบัดมือของจื่อเฟิง ก่อนจะใช้แรงผลักเธอออกไป
ดวงตาที่ดุดันพุ่งเข้ามาที่เธอราวกับลูกศร โกรธแต่ก็ยังวางมาด “นี่คุณทำอะไร!?”
จื่อเฟิงตื่นขึ้นมาจากฝัน
เธออดทนต่อความผิดหวังครั้งใหญ่ ก่อนรีบร้อนพูด “ประธานจิ้น ดิฉัน… …”
จิ้นเฟิงเฉินพูดขัดจังหวะเธอด้วยน้ำเสียงรังเกียจ “ใครให้คุณเข้ามา ออกไป!”
จื่อเฟิงกำลังจะระเบิดด้วยความรู้สึกอับอาย
เมื่อกี้เธอทั้งเพิ่งสับสนและหลงใหล เธอได้ใกล้ชิดกับจิ้นเฟิงเฉิน กระทั่งได้กลิ่นเหล้าที่มีเอกลักษณ์ผสมกับกลิ่นของเขา เธอระทวยไปหมดทั้งตัว
คำพูดของจิ้นเฟิงเฉินนั้น ราวกับทำให้เธอจากสวรรค์ตกลงมาสู่นรก
“ฉัน ดิฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ ท่านประธานเมามาก ดิฉันกลัวว่าจะหนาว ดังนั้นก็เลยกะว่าจะประคองท่านไปนอนที่โซฟา” จื่อเฟิงรีบร้อนอธิบาย
สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินยังคงไม่เปลี่ยน ผู้หญิงคนนี้กล้าที่จะเข้าใกล้เขาถึงขนาดนี้
เขาพูดอย่างไม่อ่อนโยน “ครั้งหน้าอย่าเข้ามาตามอำเภอใจอีก ออกไปได้แล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นท่าน… …” จื่อเฟิงไม่เต็มใจที่จะออกไปแบบนี้
ใบหน้าของจิ้นเฟิงเฉินย่ำแย่ เขาโบกมือ พลางมองไปที่จื่อเฟิงด้วยความรังเกียจ “ไม่ต้องสนใจ ออกไป”
จื่อเฟิงไม่กล้าพูดอะไรอีก หมุนกายซวนเซออกไป
จากหางตาเธอเหลือบไปเห็นสายตาของจิ้นเฟิงเฉินที่จ้องมองไปยังหน้าจอโทรศัพท์ด้วยสายตาอ่อนโยนยิ่ง ไม่เหมือนกับตอนที่เผชิญหน้ากับเธอ
เธอกัดฟันจนแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ